ไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมพืชสวนโลก 2569 ที่อุดรธานี
8 มีนาคม 2565 เวลา 16:48 น.
8 มี.ค.65 -ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก 2569 (International Horticultural Expo 2026) โดยจะจัดขึ้น ณ จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 ถึง 14 มีนาคม 2570 ทั้งนี้ มหกรรมพืชสวนโลก 2569 ที่อุดรธานี จะเป็นงานแลนด์มาร์คอีเว้นต์ครั้งแรกในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ตอกย้ำความพร้อมของจังหวัดในการจัดงานไมซ์ระดับโลก ภายใต้แนวคิด Diversity of Life: People, Water and Plants วิถีชีวิต สายน้ำ และพืชพรรณ ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของพื้นที่ ความเชื่อมโยงของสายน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติ และผู้คนในท้องถิ่น ผนวกแนวคิดโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG) และนโยบายการเกษตรและอาหาร “3S” สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs)
ในการประชุมสามัญประจำปี 2565 ของสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (The International Association of Horticultural Producers หรือ AIPH) ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ประชุม AIHP มีมติตกลงตามข้อเสนอของประเทศไทย ในการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี พ.ศ. 2569 (Udon Thani International Horticultural Expo 2026) ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 ถึง 14 มีนาคม 2570 ภายใต้แนวคิด “Diversity of Life: Connecting Water, Plants, and People for sustainable living หรือ ความหลากหลายแห่งสรรพชีวิต: สายสัมพันธ์แห่งน้ำ พืชพรรณ และผู้คนสู่การดำรงชีวิตที่ยั่งยืน” อันสะท้อนถึงเอกลักษณ์ความเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำของจังหวัดอุดรธานี ที่สร้างความเชื่อมโยงระหว่างสายน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติ และผู้คนในท้องถิ่นเข้าไว้ด้วยกัน
ทั้งนี้ ในพิธีการส่งมอบการเป็นเจ้าภาพจัดงาน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้กล่าวแสดงความขอบคุณในนามของรัฐบาลไทยต่อสมาชิก AIPH สำหรับความไว้วางใจและการสนับสนุนที่มอบให้แก่ประเทศไทย โดยความสำเร็จครั้งนี้ เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน นำโดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยต่อการมีส่วนร่วมด้านความมั่นคงทางอาหารโลกตามนโยบายเกษตรและอาหาร “3S” ที่เน้นด้านความปลอดภัยทางอาหาร (Safety) ความมั่นคงทางอาหาร (Security) และ ความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและนิเวศการเกษตร (Sustainability) โดยเป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals หรือ SDGs) และยึดมั่นต่อเจตจำนงด้านสภาพภูมิอากาศตามความตกลงปารีส (Paris Agreement) อีกด้วย ซึ่งความมุ่งมั่นในเรื่องนี้สามารถผนวกใช้เป็นพื้นฐานของแนวคิดและการนำเสนอสาระของงาน และหวังว่าจะช่วยขับเคลื่อนประเด็นความยั่งยืนได้ชัดเจนขึ้น จนเป็นแรงผลักดันให้มีการขับเคลื่อนมาตรการแนวปฏิบัติที่ทำได้จริงในระดับสากลเพื่อความยั่งยืนที่ลดทอนผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ต่อไป
ทางด้านนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ได้กล่าวย้ำถึงความพร้อมของทางจังหวัดฯ ในการสร้างความมั่นใจต่อความสำเร็จของการจัดงานที่จะเกิดขึ้น โดยงานพืชสวนโลกที่อุดรธานี จะเป็นงานมหกรรมพืชสวนโลกครั้งแรกที่จัดขึ้นในพื้นที่ชุ่มน้ำ นอกจากนี้ ด้วยสถานะความเป็นประตูสู่อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง รวมถึงศูนย์กลางด้านการคมนาคมและเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคฯ ของทางจังหวัดอุดรธานี ทำให้มั่นใจได้ว่าการจัดงานครั้งนี้จะสามารถสะท้อนภาพแห่งความหลากหลายทางวัฒนธรรมตลอดถึงพันธุ์ไม้นานาชนิดซึ่งเป็นไปตามแนวคิดของการจัดงานอีกด้วย
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการทีเส็บ ในฐานะตัวแทนประเทศไทยในการยื่นประมูลสิทธิ์ครั้งนี้ ได้กล่าวแสดงความมั่นใจต่อความสำเร็จของการจัดงานที่ถือเป็นงานแลนด์มาร์คระดับโลก ซึ่งประเทศไทยเคยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลกมาแล้วถึง 2 ครั้ง ที่จังหวัดเชียงใหม่ และยังได้เน้นย้ำถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศของรัฐบาล และวาระแห่งชาติในการส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ BCG (Bio-Circular-Green Economy Model) เศรษกิจทฤษฎีใหม่ที่ผสมผสานการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อพัฒนาสังคมเศรษฐกิจ ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยมุ่งลดและพลิกฟื้นผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวนี้ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดงานที่จะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2569
นายทิม ไบรเออร์คลิฟฟ์ (Mr. Tim Briercliffe) เลขาธิการสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (Secretary General of AIPH) กล่าวปิดท้ายในนามของสมาคมฯ ว่า ทาง AIPH มีความมุ่งหวังจะเห็นการจัดงานที่สามารถตอบโจทย์วาระการพัฒนาโลกในด้านต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงโดยรวม
สำหรับการจัดงานอุดรธานีเอ็กซ์โปในครั้งนี้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 2,500 ล้านบาท และสามารถดึงดูดผู้เข้าชมงานจำนวน 3.6 ล้านคน ตลอดการจัดงานทั้ง 134 วัน
https://www.thaipost.net/tac/travel-news/99899/
'บิ๊กตู่' ปลื้มไทยได้เป็นเจ้าภาพพืชสวนโลกปี 2569
นายกฯ ยินดีไทยได้รับคัดเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี ปี 2569 ลุ้นโควิดจบนักท่องเที่ยวเยือนกว่า 3 ล้านคน สร้างงานท้องถิ่นกว่า 8 หมื่นอัตรา
09 มี.ค.2565 - น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับทราบผลการประชุมสมาคมพืชสวนโลก (International Association of Horticultural Producers : AIPH) เมื่อวันที่ 8 มี.ค. และยินดีที่ไทยได้รับคัดเลือกอย่างเป็นทางการให้เป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 โดยนายกฯ มีความเชื่อมั่นในความพร้อมของประเทศไทยในการทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดงาน และขอให้ใช้โอกาสนี้ในการนำเสนอนวัตกรรมและเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านพืชสวน และการดำรงอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุล งานดังกล่าวถือเป็นพื้นที่ในการแสดงผลงานในการผลักดันนโยบาย BCG ของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงเป็นการสร้างความร่วมมือทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติในการสร้างความมั่นคงทางอาหารในโลกอีกด้วย
น.ส.รัชดากล่าวว่า นายกฯ ยังได้ขอบคุณ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย และพี่น้องชาวจังหวัดอุดรธานีที่มีส่วนสำคัญในการขับเลื่อนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในนามประเทศไทย โดยงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด Diversity of Life: Connecting people, water and plants for sustainable living (วิถีชีวิตสายน้ำและพืชพรรณ) ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 – 14 มีนาคม 2570 บริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี บนเนื้อที่ 1,030 ไร่ แบ่งเป็น พื้นน้ำ 400 ไร่ และพื้นดิน 630 ไร่ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 3 ล้านคน สร้างงานได้กว่า 8หมื่นอัตราให้แก่คนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง และสร้างรายได้แก่ประเทศหลักหมื่นล้านบาท ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในการเป็นเจ้าภาพการจัดงานระดับโลก
น.ส.รัชดา กล่าวว่า การได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกของไทย นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในด้านการพัฒนาพืชสวนแล้ว ยังจะเป็นการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ในด้านการเกษตร ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งยังเป็นโอกาสที่ดีในการเผยแพร่พระราชดำริด้านการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนสู่ประชาคมโลกอีกด้วย โดยการจัดงานในครั้งนี้ยังจะสามารถสร้างงาน กระจายรายได้ให้กับคนในพื้นที่และจังหวัดข้างเคียง ส่งเสริมองค์ความรู้ด้านพืชสวนและการเกษตรให้กับท้องถิ่น รวมไปถึงสามารถแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมและเป็นแหล่งผลิตอาหารที่มีคุณภาพ สามารถผลิตอาหารที่มีความปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล
https://www.thaipost.net/x-cite-news/100209/
ประเทศไทยได้จัดงานใหญ่ๆอีกครั้งแล้วค่ะ
ได้รับความไว้วางใจให้ทำงานระดับโลก
ซึ่งจะมีผลดีต่อประเทศไทยด้วย
แบบนี้ก็ต้องปลื้มกันล่ะค่ะ
💚มาลาริน/นายกฯลุงตู่ปลื้ม...ไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมพืชสวนโลก 2569 ที่อุดรธานี
8 มีนาคม 2565 เวลา 16:48 น.
8 มี.ค.65 -ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก 2569 (International Horticultural Expo 2026) โดยจะจัดขึ้น ณ จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 ถึง 14 มีนาคม 2570 ทั้งนี้ มหกรรมพืชสวนโลก 2569 ที่อุดรธานี จะเป็นงานแลนด์มาร์คอีเว้นต์ครั้งแรกในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ตอกย้ำความพร้อมของจังหวัดในการจัดงานไมซ์ระดับโลก ภายใต้แนวคิด Diversity of Life: People, Water and Plants วิถีชีวิต สายน้ำ และพืชพรรณ ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของพื้นที่ ความเชื่อมโยงของสายน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติ และผู้คนในท้องถิ่น ผนวกแนวคิดโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG) และนโยบายการเกษตรและอาหาร “3S” สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs)
ในการประชุมสามัญประจำปี 2565 ของสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (The International Association of Horticultural Producers หรือ AIPH) ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ประชุม AIHP มีมติตกลงตามข้อเสนอของประเทศไทย ในการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี พ.ศ. 2569 (Udon Thani International Horticultural Expo 2026) ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 ถึง 14 มีนาคม 2570 ภายใต้แนวคิด “Diversity of Life: Connecting Water, Plants, and People for sustainable living หรือ ความหลากหลายแห่งสรรพชีวิต: สายสัมพันธ์แห่งน้ำ พืชพรรณ และผู้คนสู่การดำรงชีวิตที่ยั่งยืน” อันสะท้อนถึงเอกลักษณ์ความเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำของจังหวัดอุดรธานี ที่สร้างความเชื่อมโยงระหว่างสายน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติ และผู้คนในท้องถิ่นเข้าไว้ด้วยกัน
ทั้งนี้ ในพิธีการส่งมอบการเป็นเจ้าภาพจัดงาน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้กล่าวแสดงความขอบคุณในนามของรัฐบาลไทยต่อสมาชิก AIPH สำหรับความไว้วางใจและการสนับสนุนที่มอบให้แก่ประเทศไทย โดยความสำเร็จครั้งนี้ เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน นำโดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยต่อการมีส่วนร่วมด้านความมั่นคงทางอาหารโลกตามนโยบายเกษตรและอาหาร “3S” ที่เน้นด้านความปลอดภัยทางอาหาร (Safety) ความมั่นคงทางอาหาร (Security) และ ความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและนิเวศการเกษตร (Sustainability) โดยเป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals หรือ SDGs) และยึดมั่นต่อเจตจำนงด้านสภาพภูมิอากาศตามความตกลงปารีส (Paris Agreement) อีกด้วย ซึ่งความมุ่งมั่นในเรื่องนี้สามารถผนวกใช้เป็นพื้นฐานของแนวคิดและการนำเสนอสาระของงาน และหวังว่าจะช่วยขับเคลื่อนประเด็นความยั่งยืนได้ชัดเจนขึ้น จนเป็นแรงผลักดันให้มีการขับเคลื่อนมาตรการแนวปฏิบัติที่ทำได้จริงในระดับสากลเพื่อความยั่งยืนที่ลดทอนผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ต่อไป
ทางด้านนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ได้กล่าวย้ำถึงความพร้อมของทางจังหวัดฯ ในการสร้างความมั่นใจต่อความสำเร็จของการจัดงานที่จะเกิดขึ้น โดยงานพืชสวนโลกที่อุดรธานี จะเป็นงานมหกรรมพืชสวนโลกครั้งแรกที่จัดขึ้นในพื้นที่ชุ่มน้ำ นอกจากนี้ ด้วยสถานะความเป็นประตูสู่อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง รวมถึงศูนย์กลางด้านการคมนาคมและเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคฯ ของทางจังหวัดอุดรธานี ทำให้มั่นใจได้ว่าการจัดงานครั้งนี้จะสามารถสะท้อนภาพแห่งความหลากหลายทางวัฒนธรรมตลอดถึงพันธุ์ไม้นานาชนิดซึ่งเป็นไปตามแนวคิดของการจัดงานอีกด้วย
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการทีเส็บ ในฐานะตัวแทนประเทศไทยในการยื่นประมูลสิทธิ์ครั้งนี้ ได้กล่าวแสดงความมั่นใจต่อความสำเร็จของการจัดงานที่ถือเป็นงานแลนด์มาร์คระดับโลก ซึ่งประเทศไทยเคยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลกมาแล้วถึง 2 ครั้ง ที่จังหวัดเชียงใหม่ และยังได้เน้นย้ำถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศของรัฐบาล และวาระแห่งชาติในการส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ BCG (Bio-Circular-Green Economy Model) เศรษกิจทฤษฎีใหม่ที่ผสมผสานการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อพัฒนาสังคมเศรษฐกิจ ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยมุ่งลดและพลิกฟื้นผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวนี้ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดงานที่จะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2569
นายทิม ไบรเออร์คลิฟฟ์ (Mr. Tim Briercliffe) เลขาธิการสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (Secretary General of AIPH) กล่าวปิดท้ายในนามของสมาคมฯ ว่า ทาง AIPH มีความมุ่งหวังจะเห็นการจัดงานที่สามารถตอบโจทย์วาระการพัฒนาโลกในด้านต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงโดยรวม
สำหรับการจัดงานอุดรธานีเอ็กซ์โปในครั้งนี้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 2,500 ล้านบาท และสามารถดึงดูดผู้เข้าชมงานจำนวน 3.6 ล้านคน ตลอดการจัดงานทั้ง 134 วัน
https://www.thaipost.net/tac/travel-news/99899/
'บิ๊กตู่' ปลื้มไทยได้เป็นเจ้าภาพพืชสวนโลกปี 2569
นายกฯ ยินดีไทยได้รับคัดเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี ปี 2569 ลุ้นโควิดจบนักท่องเที่ยวเยือนกว่า 3 ล้านคน สร้างงานท้องถิ่นกว่า 8 หมื่นอัตรา
09 มี.ค.2565 - น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับทราบผลการประชุมสมาคมพืชสวนโลก (International Association of Horticultural Producers : AIPH) เมื่อวันที่ 8 มี.ค. และยินดีที่ไทยได้รับคัดเลือกอย่างเป็นทางการให้เป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 โดยนายกฯ มีความเชื่อมั่นในความพร้อมของประเทศไทยในการทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดงาน และขอให้ใช้โอกาสนี้ในการนำเสนอนวัตกรรมและเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านพืชสวน และการดำรงอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุล งานดังกล่าวถือเป็นพื้นที่ในการแสดงผลงานในการผลักดันนโยบาย BCG ของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงเป็นการสร้างความร่วมมือทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติในการสร้างความมั่นคงทางอาหารในโลกอีกด้วย
น.ส.รัชดากล่าวว่า นายกฯ ยังได้ขอบคุณ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย และพี่น้องชาวจังหวัดอุดรธานีที่มีส่วนสำคัญในการขับเลื่อนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในนามประเทศไทย โดยงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด Diversity of Life: Connecting people, water and plants for sustainable living (วิถีชีวิตสายน้ำและพืชพรรณ) ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 – 14 มีนาคม 2570 บริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี บนเนื้อที่ 1,030 ไร่ แบ่งเป็น พื้นน้ำ 400 ไร่ และพื้นดิน 630 ไร่ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 3 ล้านคน สร้างงานได้กว่า 8หมื่นอัตราให้แก่คนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง และสร้างรายได้แก่ประเทศหลักหมื่นล้านบาท ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในการเป็นเจ้าภาพการจัดงานระดับโลก
น.ส.รัชดา กล่าวว่า การได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกของไทย นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในด้านการพัฒนาพืชสวนแล้ว ยังจะเป็นการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ในด้านการเกษตร ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งยังเป็นโอกาสที่ดีในการเผยแพร่พระราชดำริด้านการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนสู่ประชาคมโลกอีกด้วย โดยการจัดงานในครั้งนี้ยังจะสามารถสร้างงาน กระจายรายได้ให้กับคนในพื้นที่และจังหวัดข้างเคียง ส่งเสริมองค์ความรู้ด้านพืชสวนและการเกษตรให้กับท้องถิ่น รวมไปถึงสามารถแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมและเป็นแหล่งผลิตอาหารที่มีคุณภาพ สามารถผลิตอาหารที่มีความปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล
https://www.thaipost.net/x-cite-news/100209/
ประเทศไทยได้จัดงานใหญ่ๆอีกครั้งแล้วค่ะ
ได้รับความไว้วางใจให้ทำงานระดับโลก
ซึ่งจะมีผลดีต่อประเทศไทยด้วย
แบบนี้ก็ต้องปลื้มกันล่ะค่ะ