ใครเจอปัญหาความเอาเปรียบของบริษัทประกันบ้างครับ ผมขอเริ่มเล่ารายละเอียดการพักรักษาตัวครั้งนี้คร่าวๆนะครับ
ผมติดโควิดรู้ตัวเมื่อวันที่ 21 ก.พ. จากผลตรวจ atk อาการวันแรก มีไข้ ไอ มีน้ำมูก ไม่ได้กลิ่น
วันที่ 22 ก.พ. ผมเลยเข้าไปตรวจ pt-pcr ที่ รพ.วิชัยยุทธ ผลออกมาว่าเป็นบวกผมก็ต้องการแอดมิทพักรักษาตัวเนื่องจากที่บ้านไม่มีที่กักตัวแยกกลัวคนอื่นในครอบครัวจะติดเพิ่ม แต่ทาง รพ.วิชัยยุทธ ไม่มีห้องให้เลยให้กลับบ้านไปก่อนเพื่อรอห้อง
วันที่ 23 ก.พ.ผมเลยติดต่อ รพ.ปิยะเวท เพื่อหาห้องพัก ที่ปิยะเวทผมก็เล่าอาการเจ็บหน้าอกจุกตรงลิ้นปี่เวลาไอกับเวลาลุกเมื่อวานไปตรวจ pt-pcr ที่วิชัยยุทธ มีไข้ 37.7(กินยาลดไข้มาแล้ว) เมื่อคืนก็ไอจนนอนไม่ได้ แล้วก็ความจำเป็นต้องแยกกักตัวบอกว่ามี hospitel ของ โรงแรมสุโกศล แต่มีค่ามัดจำห้อง 3 หมื่นบาทค่าห้องพิเศษผมก็เลยเอาไปเพราะยิ่งอยู่บ้านยิ่งเสี่ยงคนอื่น แต่เค้าบอกว่าถ้าเบิกประกันได้ก็จะได้คืนส่วนตรงนี้ ซึ่งผมก็คิดว่ามันน่าจะเบิกเครมได้อยู่แล้ว เพราะถามนายหน้าประกันแล้วว่าถ้าเข้าพักที่ hospitel สามารถเบิกประกันได้ตามปกติใช่มั้ยตัวแทนว่าได้ผมเลยเข้าพักจ่ายมัดจำ 3 หมื่นไป แล้วเข้าพักรักษาตัวช่วง 1 ทุ่มกับ รพ.ปิยะเวท
พักรักษาตัว 23ก.พ.-05มี.ค.65
หลังจากเข้าพักรักษาตัวก็แพ้ยาต้านผิ่นขึ้น หมอก็ให้กินยาแก้แพ้กับให้ยาทา แล้วอาการไอเข็บหน้าอกหมอบอกว่าน่าจะเกิดจากไอรุนแรงเกิดกล้ามเนื้ออักเสบเพราะ x-ray ปอดดูแล้วเชื้อไม่ได้ลงปอด
แต่อาการแพ้ยาก็เริ่มดีขึ้นหลังกินยาต้านครบ 5 วันก็ไม่มีผื่นขึ้นแต่ยังไอหนักอยู่จนวันออก หมอยังบอกปกติคนป่วยบางคนไอต่ออีกเป็นเดือนและบางคนออกจาก รพ.ตรวจ atk ก็อาจจะยังขึ้น 2 ขีดอยู่แต่ไม่สามารถแผร่เชื้อได้แล้ว แล้วทาง รพ.ก็ให้ออกตอน10โมงเช้าวันที่ 5 มี.ค 65 แล้วให้ไปรอผลเบิกประกันที่บ้าน
ตอนเย็นวันที่ 5 มี.ค. มี sms แจ้งว่าขอสงวนสิทธิ์รักษาทั้ง แอกซ่าและอลิอันซ์ ผมก็ได้โทรไปถามว่าทำไมปฏิเสธไม่จ่ายการเคลม เค้าว่าเค้ายึดปฏิบัติจาก คปภ ฉบับวันที่ 15 ก.พ.65
ดังนั้นผู้ที่จะได้รับเคลมค่ารักษาพยาบาลระยะต่อไป จะต้องมีอาการตามที่สาธารณสุขกำหนด ได้แก่
1.มีอาการไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส นานกว่า 24 ชั่วโมง
2.ผู้ใหญ่หายใจเร็วกว่า 25 ครั้งต่อนาที
3.มีความเข้มขนของออกซิเจนในเลือดน้อยกว่า 94%
4.มีโรคประจำตัวที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือจำเป็นต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิดตามดุลยพินิจของแพทย์ 
5.สำหรับในเด็กหากมีอาการหายใจลำบาก ซึมลง ดื่มนมหรือทานอาหารน้อยลง จึงจะมีสิทธิได้รับการเคลมค่ารักษา หรือค่าชดเชย 
ผมก็เอ้าทำไมเป็นงั้นก็ คปภ ประกาศใหม่ 1 มี.ค. ระบุว่าหลักการถ้ารักษาในโรงพยาบาล สถานพยาบาล Hospitel โรงพยาบาลสนามเป็นผู้ป่วยในให้จ่ายทุกกรณี ทางบริษัทประกันก็บอกว่าเค้ายังยึดประกาศของวันที่ 15 ก.พ. อยู่ต้องเข้าข่ายในห้าข้อที่ประกาศ ทางประกันแอกซ่าก็แจ้งว่าให้ติดต่อไปที่ รพ.ปิยะเวท เพื่อยื่นแถลงอาการรักเพิ่มแล้วจะพิจารณาเบิกเคลมให้ใหม่ ตอนนี้ก็ยื่นเรื่องอยู่ รพ.ก็โยนไปโยนมาติดต่อก็ยากมันทั้งหมดก็ แต่แน่นอนอะนะครับ รพ.ไม่คิดจะช่วยผู้ป่วยอยู่แล้วเลยเก็บเงินมัดจำตั้งแต่แรกอาจจะคิดในแง่ร้ายแต่ให้ติดต่อวนไปวนมา 3 วันแล้วมันก็น่าคิดนะครับ 
สรุปผลเป็นยังไงยังไม่รู้ว่าจะจบยังไง มายึดประกาศ 15 ก.พ 65 ของ คปภ ในการเบิกเคลม แล้วประกาศของวันที่ 1 มี.ค. 65 จะไม่มีผลอะไรเลยแล้วจะประกาศเอาหน้าหรอครับ คปภ https://www.oic.or.th/th/consumer/news/releases/92718 นี้คือประกาศวันที่ 1 มี.ค. 65
แล้วแบบนี้ร้องเรียนอะไรได้บ้างใครกำลังเจอปัญหานี้อยู่คิดเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ 
 ทำประกันมาก็หวังอยากใช้เนอะเวลาเจ็บป่วย แอกซ่า ทำแบบเหมาจ่ายทุกโรคทำแบบจ่ายทิ้งปีต่อปีด้วย ป่วยมาจริงมาอ้าง คปภ ประกาศ ผู้ป่วยสีเขียวสามารถพักรักษาตัวอยู่บ้านได้ ถามหน่อยบริษัทประกันทุกบริษัท ต่อให้พักรักษาตัวอยู่บ้านก็ขาดรายได้อยู่ดีหรือเปล่านี้ผมพักรักษาตัวอยู่ในสถานพยาบาลแท้ๆ 10 วัน ชดเชยรายวันต้องได้หรือเปล่า(เพราะงี้ไงคนถึงออกไปทำงานกันแล้วก็ไปติดต่อๆกัน) แต่นั้นล่ะทำแบบได้ไงเอาเปรียบผู้บริโภคนิแบบนี้  สรุปผมทำประกันกับใคร คปภ หรือ แอกซ่า กับ อลิอันซ์ 
แล้วจะโทรไปร้องเรียน คปภ ก็โทรทั้งวัน 1186 สายด่วนอะไรโทรมา 2 วันแล้วมีเรื่องอะไรคงตายก่อนละมั้งคุ่สายเต็มตลอด
เพื่อนๆคนไหนที่เจอปัญหาเดียวกันแล้วเบิกเคลมได้ ขอวิธีหน่อยครับ ขอบคุณมากๆล่วงหน้าเลยครับ