สวัสดีค่ะ วันนี้อยากมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น คำว่า ถ้าไม่มีหนี้ ก็จะไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง กับเศรษฐกิจแบบนี้ คิดเห็นอย่างไรบ้างคะ
พอดีในสังคมที่ทำงานตอนนี้กลุ่มเพื่อน มีการถกเถียงปัญหาเรื่องนี้ค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่าทางครอบครัวเพื่อน ขอแบ่งเป็นปัญหา 3 กลุ่มนะคะ
1.ในกลุ่มครอบครัวเพื่อนที่ทำงาน คนแรกเงินเดือนรวมกันกับทางสามี ประมาณเดือนละ 9 หมื่น - 1 แสนนิดๆ (สามีเป็นด้านวิศวะค่ะ)
ทางตัวเพื่อนตอนนี้มีการกู้บ้านหลังละ 6 ล้าน รถยนต์ 3 คัน (ผ่อนอยู่ 1 คัน) มีลูกสามคน ส่งเรียนโรงเรียนเอกชนชื่อดัง
มุมมองของเพื่อนคือว่า ต้องการให้ลูกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีบ้านหลังใหญ่ ดันทุกทางให้ลูก ขอให้ลูกเรียนโรงเรียนดีๆก่อนค่ะ
แต่ตัวเพื่อนเองไม่ค่อยใส่ใจลูกเท่าที่ควร ดูจากเวลาไปหาแล้วคือทุกครั้งที่ไปคือไปนั่งสอนการบ้านลูกเพื่อน (เราจบครูมาค่ะ)
งานค้างโดนอาจารย์ไลน์ทวงมาทีไร ลูกเพื่อนติดไม่ส่งงานตลอดค่ะแล้วจากการที่รู้มาเพื่อนจะมาบ่นเสมอว่าเงินไม่พอใช้
เนื่องจากค่าเทอมลูกเพื่อนรูดบัตร แล้วยังมีหนี้ที่ไปกู้ยืมมาในช่วงที่ทำบ้าน
..เคยถามเพื่อนว่าแล้วทำไมถึงกล้าซื้อบ้านราคานี้ เพื่อนบอกว่า ตอนนี้มีแรงก็ทำก่อนค่ะ เพราะสุดท้ายคงต้องให้ลูกโตมาจบช่วยผ่อน
บ้านหลังนี้น่าจะผ่อนยาวยันลูกโต ตอนนี้ขอแค่ให้ลูกเรียนโรงเรียนดังๆดีๆก่อน สังคมดีเดี๋ยวเด็กก็ดีเอง ..
2.คนที่สองในกลุ่มที่ทำงานเรานั้น เงินเดือนรวมกับสามีประมาณ 3.5 - 4 หมื่นค่ะ ทำงานบริษัททั้งคู่ พึ่งคลอดลูกเล็กคนนึงตอนนี้ให้ทางแม่เลี้ยงที่ใต้
ตัวเพื่อนและสามีกำลังทำกู้บ้านในราคา 3 ล้านบาท มีภาระผ่อนรถยนต์ปีนี้หมด กับบัตรเครดิตประมาณ 5 หมื่น (ผ่อนอยู่เดือนละ 3-4 พัน) มี กยศ.ที่ยังไม่จ่าย
ตัวเพื่อนมองว่า ตอนนี้มีกำลังให้รีบเอาอะไรเป็นของตัวเอง แก่ขึ้นจะไม่ไหว บ้านคงไม่ผ่อนถึง 30 ปี ส่วนเรื่องลูกนั้นคงให้เรียนที่ ตจว.จะเรียนไหนก็ได้ มันขึ้นอยู่กับตัวเด็กจะไม่บังคับลูก แต่ที่คุยๆส่วนมากคือต้องการบ้านไว้ก่อน อะไรยังไงช่างก่อน เนื่องจากเพื่อนโดนคนแรกพูดทุกวันเลยอยากมีค่ะ
3.คนที่สามในกลุ่มคือสไตล์ชิล เงินเดือนรวมกับสามี 4 หมื่น ตัวเพื่อนมีที่ดิน เพื่อนมองว่าจะไม่ซื้อบ้านอยู่กรุงเทพ เพราะบั้นปลายไม่อยากอยู่
มีลุกแล้วนะคะลูกอยู่อยุธยาอายุกับทางบ้านของเพื่อน ตัวเพื่อนคนนี้คือเวลาคุยกัน เพื่อนจะบอกไม่เอาอ่ะไม่ซื้อ ถ้าจะทำก็สร้างบ้านในที่ดินเอาเอง
ไม่กู้ด้วย มีก็ค่อยๆทำ มีเท่าไหร่ก็ค่อยๆทำไป ตัวเพื่อนตอนนี้เช่าคอนโดอยู่เดือนละ 9 พัน ในกลุ่มก็จะประมาณว่าไม่เสียดายเงินที่เช่าหรอ
เพื่อนบอกว่ามันได้ความสะดวก ไม่ต้องตื่นเช้า ไม่เสียเวลา ไม่อยากเป็นหนี้แล้วเหนื่อยกับการเป็นหนี้ อยากอยู่แบบสบายๆ เก็บเงินทำบ้านแล้วส่งลูกเรียนเท่าที่ไหวให้เรียนที่โอเคๆไปเลย แก่มาจะได้ไม่เป็นภาระหาหนี้ให้ลูก แต่คนนี้ยอมรับเรื่องลูกเรียนเก่งค่ะ สบายเรื่องลูกไปแล้ว
..คติของเพื่อนคนนี้คือ จะไม่ทิ้งภาระให้ลูก คือเหมือนว่าถ้าตัวเองเกิดตายไป ลูกจะได้ไม่มีหนี้สิน พยายามทำหลายๆอย่างให้แบบลูกสบายที่สุด
เรื่องบ้านเพื่อนมองว่าไม่จำเป็นต้องซื้อในกรุงเทพ อยู่ไหนก็ได้ ถ้าลูกอยากมาเรียนเทพก็เช่าห้องอยู่เอา จะเรียนไหนก็แล้วแต่ลูก หนี้ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่เอา บ้านอยู่ที่ไหนแบบไหนมันก็มีที่ซุกหัวนอน..
ตอนนี้ก็เลยเป็นปัญหาที่แบบแอบนินทากันในกลุ่มแหละค่ะ คนแรกก็มองว่าสังคมสภาพแวดล้อมต้องดีมีบ้านหลังใหญ่ ,
คนที่สองก็มองว่าต้องรีบสร้างไว้ก่อนมีกำลัง เรื่องอื่นว่ากัน ,มาคนที่สามก็ประมาณว่าจะหาหนี้ทำไมเยอะแยะ เศรษฐกิจแบบนี้อีก
แล้วสุดท้ายเวลาคุยกันหรือแบบคุยแบบนินทา ก็จะมีบอกประมาณว่า
ถ้าไม่มีหนี้ก็จะไม่มีอะไรเป็นของตัวเองตอนนี้มีแรงก็ต้องรีบทำ
อยากฟังความคิดเห็นเพื่อนๆค่ะ ว่าโดยเราคนกลางเราควรยังไง คือตัวเรานั้นบ้านมีกรุงเทพอยู่แล้วค่ะไม่มีลูก เลยไม่ได้เป็นประเด็น 5555
ป.ล. พวกเราอายุไม่ถึง 30 เลยค่ะสักคน
ขอความคิดเห็นกับคำว่า ถ้าไม่มีหนี้ ก็จะไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง กับเศรษฐกิจแบบนี้หน่อยค่ะ
พอดีในสังคมที่ทำงานตอนนี้กลุ่มเพื่อน มีการถกเถียงปัญหาเรื่องนี้ค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่าทางครอบครัวเพื่อน ขอแบ่งเป็นปัญหา 3 กลุ่มนะคะ
1.ในกลุ่มครอบครัวเพื่อนที่ทำงาน คนแรกเงินเดือนรวมกันกับทางสามี ประมาณเดือนละ 9 หมื่น - 1 แสนนิดๆ (สามีเป็นด้านวิศวะค่ะ)
ทางตัวเพื่อนตอนนี้มีการกู้บ้านหลังละ 6 ล้าน รถยนต์ 3 คัน (ผ่อนอยู่ 1 คัน) มีลูกสามคน ส่งเรียนโรงเรียนเอกชนชื่อดัง
มุมมองของเพื่อนคือว่า ต้องการให้ลูกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีบ้านหลังใหญ่ ดันทุกทางให้ลูก ขอให้ลูกเรียนโรงเรียนดีๆก่อนค่ะ
แต่ตัวเพื่อนเองไม่ค่อยใส่ใจลูกเท่าที่ควร ดูจากเวลาไปหาแล้วคือทุกครั้งที่ไปคือไปนั่งสอนการบ้านลูกเพื่อน (เราจบครูมาค่ะ)
งานค้างโดนอาจารย์ไลน์ทวงมาทีไร ลูกเพื่อนติดไม่ส่งงานตลอดค่ะแล้วจากการที่รู้มาเพื่อนจะมาบ่นเสมอว่าเงินไม่พอใช้
เนื่องจากค่าเทอมลูกเพื่อนรูดบัตร แล้วยังมีหนี้ที่ไปกู้ยืมมาในช่วงที่ทำบ้าน
..เคยถามเพื่อนว่าแล้วทำไมถึงกล้าซื้อบ้านราคานี้ เพื่อนบอกว่า ตอนนี้มีแรงก็ทำก่อนค่ะ เพราะสุดท้ายคงต้องให้ลูกโตมาจบช่วยผ่อน
บ้านหลังนี้น่าจะผ่อนยาวยันลูกโต ตอนนี้ขอแค่ให้ลูกเรียนโรงเรียนดังๆดีๆก่อน สังคมดีเดี๋ยวเด็กก็ดีเอง ..
2.คนที่สองในกลุ่มที่ทำงานเรานั้น เงินเดือนรวมกับสามีประมาณ 3.5 - 4 หมื่นค่ะ ทำงานบริษัททั้งคู่ พึ่งคลอดลูกเล็กคนนึงตอนนี้ให้ทางแม่เลี้ยงที่ใต้
ตัวเพื่อนและสามีกำลังทำกู้บ้านในราคา 3 ล้านบาท มีภาระผ่อนรถยนต์ปีนี้หมด กับบัตรเครดิตประมาณ 5 หมื่น (ผ่อนอยู่เดือนละ 3-4 พัน) มี กยศ.ที่ยังไม่จ่าย
ตัวเพื่อนมองว่า ตอนนี้มีกำลังให้รีบเอาอะไรเป็นของตัวเอง แก่ขึ้นจะไม่ไหว บ้านคงไม่ผ่อนถึง 30 ปี ส่วนเรื่องลูกนั้นคงให้เรียนที่ ตจว.จะเรียนไหนก็ได้ มันขึ้นอยู่กับตัวเด็กจะไม่บังคับลูก แต่ที่คุยๆส่วนมากคือต้องการบ้านไว้ก่อน อะไรยังไงช่างก่อน เนื่องจากเพื่อนโดนคนแรกพูดทุกวันเลยอยากมีค่ะ
3.คนที่สามในกลุ่มคือสไตล์ชิล เงินเดือนรวมกับสามี 4 หมื่น ตัวเพื่อนมีที่ดิน เพื่อนมองว่าจะไม่ซื้อบ้านอยู่กรุงเทพ เพราะบั้นปลายไม่อยากอยู่
มีลุกแล้วนะคะลูกอยู่อยุธยาอายุกับทางบ้านของเพื่อน ตัวเพื่อนคนนี้คือเวลาคุยกัน เพื่อนจะบอกไม่เอาอ่ะไม่ซื้อ ถ้าจะทำก็สร้างบ้านในที่ดินเอาเอง
ไม่กู้ด้วย มีก็ค่อยๆทำ มีเท่าไหร่ก็ค่อยๆทำไป ตัวเพื่อนตอนนี้เช่าคอนโดอยู่เดือนละ 9 พัน ในกลุ่มก็จะประมาณว่าไม่เสียดายเงินที่เช่าหรอ
เพื่อนบอกว่ามันได้ความสะดวก ไม่ต้องตื่นเช้า ไม่เสียเวลา ไม่อยากเป็นหนี้แล้วเหนื่อยกับการเป็นหนี้ อยากอยู่แบบสบายๆ เก็บเงินทำบ้านแล้วส่งลูกเรียนเท่าที่ไหวให้เรียนที่โอเคๆไปเลย แก่มาจะได้ไม่เป็นภาระหาหนี้ให้ลูก แต่คนนี้ยอมรับเรื่องลูกเรียนเก่งค่ะ สบายเรื่องลูกไปแล้ว
..คติของเพื่อนคนนี้คือ จะไม่ทิ้งภาระให้ลูก คือเหมือนว่าถ้าตัวเองเกิดตายไป ลูกจะได้ไม่มีหนี้สิน พยายามทำหลายๆอย่างให้แบบลูกสบายที่สุด
เรื่องบ้านเพื่อนมองว่าไม่จำเป็นต้องซื้อในกรุงเทพ อยู่ไหนก็ได้ ถ้าลูกอยากมาเรียนเทพก็เช่าห้องอยู่เอา จะเรียนไหนก็แล้วแต่ลูก หนี้ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่เอา บ้านอยู่ที่ไหนแบบไหนมันก็มีที่ซุกหัวนอน..
ตอนนี้ก็เลยเป็นปัญหาที่แบบแอบนินทากันในกลุ่มแหละค่ะ คนแรกก็มองว่าสังคมสภาพแวดล้อมต้องดีมีบ้านหลังใหญ่ ,
คนที่สองก็มองว่าต้องรีบสร้างไว้ก่อนมีกำลัง เรื่องอื่นว่ากัน ,มาคนที่สามก็ประมาณว่าจะหาหนี้ทำไมเยอะแยะ เศรษฐกิจแบบนี้อีก
แล้วสุดท้ายเวลาคุยกันหรือแบบคุยแบบนินทา ก็จะมีบอกประมาณว่า
ถ้าไม่มีหนี้ก็จะไม่มีอะไรเป็นของตัวเองตอนนี้มีแรงก็ต้องรีบทำ
อยากฟังความคิดเห็นเพื่อนๆค่ะ ว่าโดยเราคนกลางเราควรยังไง คือตัวเรานั้นบ้านมีกรุงเทพอยู่แล้วค่ะไม่มีลูก เลยไม่ได้เป็นประเด็น 5555
ป.ล. พวกเราอายุไม่ถึง 30 เลยค่ะสักคน