สวัสดีค่ะ หลังจากที่ได้ทำเลสิกไป เปลี่ยนจากโลกมัวๆเป็นโลกคมชัด3D อยากจะมารีวิวเพื่อช่วยให้คนที่กำลังสนใจ หรือยังไม่แน่ใจในการทำ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นคะ ^ ^
ทำไมถึงตัดสินใจทำเลสิก : จริงๆแล้วเราก็ไม่เคยคิดว่าจะทำเลย กลัวอีกต่างหาก เราสายตาสั้นช่วงม.3 เริ่มมองโปเจคเตอร์และกระดานไม่เห็น ก็เลยรู้ว่าตัวเองสายตาสั้นตั้งแต่นั้นมา สายตาเราก็สั้นประมาณ100มาตลอด จนช่วงโควิดที่เราต้องอยู่บ้านเราใช้คอมใช้โทรศัพท์มากขึ้น รู้สึกว่าสายตาแย่ลงมากๆ พอไปตรวจสายตาขึ้นมาเกือบ 200 มันเริ่มเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต และตัวเองก็เป็นคนไม่ชอบใส่แว่นเท่าไหร่ คอนแทคเลนส์ก็ไม่ชอบ ใส่เมื่อมองไม่เห็นจริงๆ นั่นเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่เราเลยคิดอยากที่จะทำเลสิก คิดอยู่หลายเดือนจนสุดท้ายตัดสินใจทำในที่สุด
เราเลือกทำเลสิกแบบ femto lasik ซึ่งเป็นการทำเลสิกแบบไร้ใบมีด ที่โรงพยาบาลเวชธานี กับคุณหมอเปา สุจินตนา เราจ่ายในราคา 55,000 บาท ซึ่งสำหรับเราคือราคาดีมากๆ แถมยังได้โปรอีก (คุณหมอมีโปรลดเกือบหมื่นจากปกติราคา 67,000 ตอนนี้ก็ยังมีนะคะ) แต่ที่สำคัญคือเราก็เชื่อใจในตัวคุณหมอ คุณหมอน่ารักเป็นกันเองมากๆ อธิบายทุกอย่างอย่างละเอียด ดูแลอย่างดีตั้งแต่ต้นจนจบ
สาเหตุที่เลือก femto lasik ก็เพราะ femto แก้สายตาได้แม่นยำ ทั้งสั้น ทั้งเอียง ใช้เวลารักษาเร็วกว่า เคืองตาน้อยกว่า ด้วยความที่เราก็ต้องทำงาน การทำแบบ femto จึงตอบโจทย์ เพราะเราสามารถใช้ชีวิตปกติให้เร็วขึ้น และเราก็ไม่อยากเจ็บตัวนาน 555
มาเริ่มกันค่ะ!!
**เรานัดทำทุกอย่างวันเดียวกันเลย เช้าตรวจ บ่ายทำเลย**
ก่อนทำ
• ก่อนไปหาหมอตามนัด เราต้องอาบน้ำ สระผม ให้เรียบร้อย และที่สำคัญคือ ใส่เสื้อผ้าที่ถอดง่าย ห้ามทาครีม ฉีดน้ำหอม แต่งหน้า เพื่อสะดวกต่อการทำเลสิก เพราะว่าเรานัดทำวันเดียวกัน ก็ต้องชวนใครก็ได้มาสักคนเพื่อที่จะพาเรากลับบ้านหลังทำเลสิกเสร็จ
• นัดคุณหมอเพื่อเข้าไปตรวจ ดูค่าสายตา ทาง รพ. จะตรวจโดยใช้เครื่องเพื่อประเมินตาเรา แล้วก็จะได้ตรวจค่าสายตากับเจ้าหน้าที่และคุณหมออีกทีหนึ่งเพื่อความแม่นยำ คุณหมอตรวจได้ละเอียดมากๆ โดยระหว่างขั้นตอนนี้คุณหมอจะทำการหยอดยาชาเพื่อให้ดูการขยายของม่านตาด้วย เราต้องตรวจเพื่อหาค่าที่คมชัดที่สุดสำหรับตาเรา
เอาบรรยากาศที่โรงพยาบาลมาฝากค่ะ
เข้าไปในโรงพยาบาลขึ้นไปศูนย์โรคตา อยู่ชั้น 2 คะ
ตามป้ายเลยจ้า
และนี่คือศูนย์ตา เดินตรงไปก็ไปแจ้งพยาบาลได้เลย แล้วรอสักพัก เราก็จะได้คุยกับคุณหมอและตรวจตา
ข้างในห้องนี้ก็มีเครื่องตรวจอยู่คะ
• หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย เราก็จะได้ไปจ่ายเงินและรับยาเพื่อดูแลตาหลังทำเลสิก
นี่คือที่ที่เราไปจ่ายเงินและรับยาจ้า
และนี่คือถุงยาเล็กๆน่ารักที่เราได้รับ ด้านในก็จะเป็นประมาณนี้
1. น้ำตาเทียม
2. ยาหยอดตาฆ่าเชื้อ
3. ไม้สำลี ใช้คู่กับน้ำเกลือ
4. น้ำเกลือ เอาไว้เช็ดทำความสะอาดรอบดวงตา
5. ไทลีนอล
• ช่วงบ่ายก่อนเข้าห้องผ่าตัด คุณหมอจะมาอธิบายการใช้ยาที่ได้รับ และการดูแลตาหลังทำ
• หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่จะเรียกเราเข้าไปเตรียมตัวตามคิว การเตรียมตัวไม่มีอะไรยาก แค่เราเข้าไปใส่ชุดคลุม รองเท้า และหมวกคลุมผมที่ รพ. จัดให้ หลังจากนั้นก็ไปล้างหน้า ล้างมือให้สะอาด แล้วก็ไปนั่งรอ
• ช่วงบ่าย ระหว่างรอ ทางเจ้าหน้าที่ให้เรากินยาพารา และก็หยอดยาฆ่าเชื้อสลับกับยาชาที่ตาทั้งสองข้าง ตาก็จะตึงๆ
ห้องผ่าตัด
• พอถึงคิวเจ้าหน้าที่จะเรียกเราเข้าห้องผ่าตัด ตอนเข้าไปก็จะตื่นเต้นหน่อยๆ
• เราก็แค่ไปนอนที่เตียง แล้วเจ้าหน้าก็จะให้ที่บีบมือมากำ
• พยาบาลก็จะทำความสะอาดบริเวณตาเพื่อฆ่าเชื้ออีกรอบ ก่อนที่จะทำเลสิก
• คุณหมอก็จะใส่เครื่องมือเพื่อเปิดตาเรา อาจจะฟังดูน่ากลัว แต่จริงๆก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หมอพูดเสมอว่า ถ้าเราไม่เกร็งก็จะไม่เจ็บ
• คุณหมอก็อธิบายจุดด้านบนที่เราต้องมองเวลาหมอใช้เลเซอร์
• คุณหมอใช้เครื่องมือเลเซอร์เพื่อเปิดกระจกตาด้านบนออกทั้งสองข้าง แล้วใช้เครื่องมือเพื่อเปิดมันออกก่อนจะใช้เลเซอร์อีกตัวนึง ทริคง่ายๆในขั้นตอนนี้คือตาเราต้องนิ่งอยู่กับที่ให้ได้ในขณะที่เลเซอร์ทำงาน
• แล้วหมอจะใช้เลเซอร์ปรับค่าสายตาทั้งสองข้างของเราตามที่วัดมา
• ก่อนที่คุณหมอจะปิดกระจกตาเราให้เรียบเนียน
• ใช้เวลาไม่นานมากก็เสร็จเรียบร้อยเราก็ได้ออกจากห้องผ่าตัดได้
หลังทำ
• คุณหมอจะใช้กล้องส่องตาเราทั้งสองข้างว่าเรียบร้อยดีในห้องตรวจอีกที
• แล้วเจ้าหน้าที่ รพ. จะทำการครอบตาทั้งสองข้าง เราจะต้องหลับตาให้ได้มากที่สุดเพื่อให้แผลปิดสนิท คุณหมอบอกว่า ถ้าเราหลับตาได้เยอะ แผลก็จะสมานเร็วขึ้น และห้ามน้ำเข้าตาเลยเพราะอาจจะติดเชื้อได้ ฉะนั้นกลับบ้านก็ห้ามล้างหน้า ให้เช็ดเอาแทน เวลากินข้าวก็หรี่ตาแอบมองเอา
นี่คือสภาพเราหลังทำตาเสร็จก่อนกลับบ้าน
• แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย ทางรพ. จะมีรถเข็นมารอรับเราเพื่อพาไปที่รถ
• พอเรากลับบ้านก็กินอะไรง่ายๆรองท้องและก็นอนเลย เพราะตาเราช้ำมากๆ มันทั้งเหนื่อย ทั้งล้า
พอตื่นมาตอนเช้าลืมตาขึ้นมา ภาพตรงหน้าคือชัดมากกกกกก แล้วอาการเจ็บคือน้อยมาก อาจจะลืมตายากหน่อยก่อนล้างตา แต่เราตกใจมากที่อาการดีขึ้นทันตาเห็นมาก
หลังจากนั้นเราก็เตรียมตัวไปตรวจเช็คกับคุณหมอตอนเช้าอีกรอบ อันนี้สำหรับคนทำ femto เท่านั้นนะคะ ตอนไปตรวจคุณหมอก็ดูความเรียบร้อย ซึ่งทุกอย่างผ่านไปด้วยดี แต่เราก็ควรที่จะต้องหลับตาให้มากๆเพื่อให้แผลหายเร็ว และก็ยังต้องหยอดยา..ให้ตรงเวลา ดูแลตา อย่าให้ติดเชื้อ หรือน้ำเข้าตา หรือเอามือขยี้ตา คุณหมอแนะนำให้ใส่แว่น (แว่นอะไรก็ได้) เพื่อไม่ให้เราสัมผัสตาโดยตรง ผมก็ห้ามสระเองแต่ยังไปร้านสระได้ นี่ก็คือสิ่งที่ต้องทำภายใน 7 วัน ก่อนที่จะมาตรวจกับคุณหมออีกที คุณหมอก็จะนัดอีกครั้งหลังหนึ่งเดือนด้วยคะเพื่อเช็คอีกครั้ง
ตอนนี้เราก็ทำมาสักพักแล้ว เรียกได้ว่า ดีมากกกก มองชัดมากกกก ชีวิตคือแฮปปี้
มองโลกอย่างชัดแจ่มแจ้ง ไม่ต้องเล็งหรือพึ่งแว่นอีก เราไม่มีปัญหาอะไรเลยหลังทำ เรารู้สึกดีใจมากที่ได้ตัดสินใจทำเลสิก เพราะความสะดวกสบายคือที่หนึ่ง ไม่ต้องคอยพกแว่น จะไปไหนทำอะไรคือเต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่าจะมองไม่เห็น เสริมบุคลิกภาพเราอีกด้วย วันที่เดินเข้า kfc หลังทำมาสักพัก แล้วเห็นป้ายด้านบนเคาเตอร์ คือดีใจมากกก 555 (ปกติคือยืนดูนานมากเพราะมองไม่เห็น55) ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขอบคุณคุณหมอเปาและเจ้าหน้าที่ทุกคนมากๆ ทุกคนน่ารักและดูแลดีมากจริงๆตั้งแต่ต้นจนจบ
ถ้าถามเราว่าจะทำดีไหม ก็ทำไปเลยสิคะ! จะรออะไร ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย แปปๆ ทำเสร็จตื่นมาเป็นคนใหม่ ทุกอย่างคือดีจริงๆ
ใครสนใจทำกับคุณหมอลองไปสอบถามคุณหมอใน Facebook : เลสิคหมอเปา - หมอสุจินตนา www.facebook.com/drpaolasik
หรือแอดไลน์ @drpaolasik ก็ได้นะ คุณหมอดีจริงๆ
ใครสงสัยอะไรก็ถามมาได้เลยนะ ^ ^ จะตอบให้ตามประสบการณ์คะ
[CR] Femto Lasik เพราะดีจึงอยากบอกต่อ!! REVIEW (เลสิก) โรงพยาบาลเวชธานี
ทำไมถึงตัดสินใจทำเลสิก : จริงๆแล้วเราก็ไม่เคยคิดว่าจะทำเลย กลัวอีกต่างหาก เราสายตาสั้นช่วงม.3 เริ่มมองโปเจคเตอร์และกระดานไม่เห็น ก็เลยรู้ว่าตัวเองสายตาสั้นตั้งแต่นั้นมา สายตาเราก็สั้นประมาณ100มาตลอด จนช่วงโควิดที่เราต้องอยู่บ้านเราใช้คอมใช้โทรศัพท์มากขึ้น รู้สึกว่าสายตาแย่ลงมากๆ พอไปตรวจสายตาขึ้นมาเกือบ 200 มันเริ่มเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต และตัวเองก็เป็นคนไม่ชอบใส่แว่นเท่าไหร่ คอนแทคเลนส์ก็ไม่ชอบ ใส่เมื่อมองไม่เห็นจริงๆ นั่นเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่เราเลยคิดอยากที่จะทำเลสิก คิดอยู่หลายเดือนจนสุดท้ายตัดสินใจทำในที่สุด
เราเลือกทำเลสิกแบบ femto lasik ซึ่งเป็นการทำเลสิกแบบไร้ใบมีด ที่โรงพยาบาลเวชธานี กับคุณหมอเปา สุจินตนา เราจ่ายในราคา 55,000 บาท ซึ่งสำหรับเราคือราคาดีมากๆ แถมยังได้โปรอีก (คุณหมอมีโปรลดเกือบหมื่นจากปกติราคา 67,000 ตอนนี้ก็ยังมีนะคะ) แต่ที่สำคัญคือเราก็เชื่อใจในตัวคุณหมอ คุณหมอน่ารักเป็นกันเองมากๆ อธิบายทุกอย่างอย่างละเอียด ดูแลอย่างดีตั้งแต่ต้นจนจบ
สาเหตุที่เลือก femto lasik ก็เพราะ femto แก้สายตาได้แม่นยำ ทั้งสั้น ทั้งเอียง ใช้เวลารักษาเร็วกว่า เคืองตาน้อยกว่า ด้วยความที่เราก็ต้องทำงาน การทำแบบ femto จึงตอบโจทย์ เพราะเราสามารถใช้ชีวิตปกติให้เร็วขึ้น และเราก็ไม่อยากเจ็บตัวนาน 555
มาเริ่มกันค่ะ!!
**เรานัดทำทุกอย่างวันเดียวกันเลย เช้าตรวจ บ่ายทำเลย**
ก่อนทำ
• ก่อนไปหาหมอตามนัด เราต้องอาบน้ำ สระผม ให้เรียบร้อย และที่สำคัญคือ ใส่เสื้อผ้าที่ถอดง่าย ห้ามทาครีม ฉีดน้ำหอม แต่งหน้า เพื่อสะดวกต่อการทำเลสิก เพราะว่าเรานัดทำวันเดียวกัน ก็ต้องชวนใครก็ได้มาสักคนเพื่อที่จะพาเรากลับบ้านหลังทำเลสิกเสร็จ
• นัดคุณหมอเพื่อเข้าไปตรวจ ดูค่าสายตา ทาง รพ. จะตรวจโดยใช้เครื่องเพื่อประเมินตาเรา แล้วก็จะได้ตรวจค่าสายตากับเจ้าหน้าที่และคุณหมออีกทีหนึ่งเพื่อความแม่นยำ คุณหมอตรวจได้ละเอียดมากๆ โดยระหว่างขั้นตอนนี้คุณหมอจะทำการหยอดยาชาเพื่อให้ดูการขยายของม่านตาด้วย เราต้องตรวจเพื่อหาค่าที่คมชัดที่สุดสำหรับตาเรา
เอาบรรยากาศที่โรงพยาบาลมาฝากค่ะ
เข้าไปในโรงพยาบาลขึ้นไปศูนย์โรคตา อยู่ชั้น 2 คะ
ตามป้ายเลยจ้า
และนี่คือศูนย์ตา เดินตรงไปก็ไปแจ้งพยาบาลได้เลย แล้วรอสักพัก เราก็จะได้คุยกับคุณหมอและตรวจตา
ข้างในห้องนี้ก็มีเครื่องตรวจอยู่คะ
• หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย เราก็จะได้ไปจ่ายเงินและรับยาเพื่อดูแลตาหลังทำเลสิก
นี่คือที่ที่เราไปจ่ายเงินและรับยาจ้า
และนี่คือถุงยาเล็กๆน่ารักที่เราได้รับ ด้านในก็จะเป็นประมาณนี้
1. น้ำตาเทียม
2. ยาหยอดตาฆ่าเชื้อ
3. ไม้สำลี ใช้คู่กับน้ำเกลือ
4. น้ำเกลือ เอาไว้เช็ดทำความสะอาดรอบดวงตา
5. ไทลีนอล
• ช่วงบ่ายก่อนเข้าห้องผ่าตัด คุณหมอจะมาอธิบายการใช้ยาที่ได้รับ และการดูแลตาหลังทำ
• หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่จะเรียกเราเข้าไปเตรียมตัวตามคิว การเตรียมตัวไม่มีอะไรยาก แค่เราเข้าไปใส่ชุดคลุม รองเท้า และหมวกคลุมผมที่ รพ. จัดให้ หลังจากนั้นก็ไปล้างหน้า ล้างมือให้สะอาด แล้วก็ไปนั่งรอ
• ช่วงบ่าย ระหว่างรอ ทางเจ้าหน้าที่ให้เรากินยาพารา และก็หยอดยาฆ่าเชื้อสลับกับยาชาที่ตาทั้งสองข้าง ตาก็จะตึงๆ
ห้องผ่าตัด
• พอถึงคิวเจ้าหน้าที่จะเรียกเราเข้าห้องผ่าตัด ตอนเข้าไปก็จะตื่นเต้นหน่อยๆ
• เราก็แค่ไปนอนที่เตียง แล้วเจ้าหน้าก็จะให้ที่บีบมือมากำ
• พยาบาลก็จะทำความสะอาดบริเวณตาเพื่อฆ่าเชื้ออีกรอบ ก่อนที่จะทำเลสิก
• คุณหมอก็จะใส่เครื่องมือเพื่อเปิดตาเรา อาจจะฟังดูน่ากลัว แต่จริงๆก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หมอพูดเสมอว่า ถ้าเราไม่เกร็งก็จะไม่เจ็บ
• คุณหมอก็อธิบายจุดด้านบนที่เราต้องมองเวลาหมอใช้เลเซอร์
• คุณหมอใช้เครื่องมือเลเซอร์เพื่อเปิดกระจกตาด้านบนออกทั้งสองข้าง แล้วใช้เครื่องมือเพื่อเปิดมันออกก่อนจะใช้เลเซอร์อีกตัวนึง ทริคง่ายๆในขั้นตอนนี้คือตาเราต้องนิ่งอยู่กับที่ให้ได้ในขณะที่เลเซอร์ทำงาน
• แล้วหมอจะใช้เลเซอร์ปรับค่าสายตาทั้งสองข้างของเราตามที่วัดมา
• ก่อนที่คุณหมอจะปิดกระจกตาเราให้เรียบเนียน
• ใช้เวลาไม่นานมากก็เสร็จเรียบร้อยเราก็ได้ออกจากห้องผ่าตัดได้
หลังทำ
• คุณหมอจะใช้กล้องส่องตาเราทั้งสองข้างว่าเรียบร้อยดีในห้องตรวจอีกที
• แล้วเจ้าหน้าที่ รพ. จะทำการครอบตาทั้งสองข้าง เราจะต้องหลับตาให้ได้มากที่สุดเพื่อให้แผลปิดสนิท คุณหมอบอกว่า ถ้าเราหลับตาได้เยอะ แผลก็จะสมานเร็วขึ้น และห้ามน้ำเข้าตาเลยเพราะอาจจะติดเชื้อได้ ฉะนั้นกลับบ้านก็ห้ามล้างหน้า ให้เช็ดเอาแทน เวลากินข้าวก็หรี่ตาแอบมองเอา
นี่คือสภาพเราหลังทำตาเสร็จก่อนกลับบ้าน
• แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย ทางรพ. จะมีรถเข็นมารอรับเราเพื่อพาไปที่รถ
• พอเรากลับบ้านก็กินอะไรง่ายๆรองท้องและก็นอนเลย เพราะตาเราช้ำมากๆ มันทั้งเหนื่อย ทั้งล้า
พอตื่นมาตอนเช้าลืมตาขึ้นมา ภาพตรงหน้าคือชัดมากกกกกก แล้วอาการเจ็บคือน้อยมาก อาจจะลืมตายากหน่อยก่อนล้างตา แต่เราตกใจมากที่อาการดีขึ้นทันตาเห็นมาก
หลังจากนั้นเราก็เตรียมตัวไปตรวจเช็คกับคุณหมอตอนเช้าอีกรอบ อันนี้สำหรับคนทำ femto เท่านั้นนะคะ ตอนไปตรวจคุณหมอก็ดูความเรียบร้อย ซึ่งทุกอย่างผ่านไปด้วยดี แต่เราก็ควรที่จะต้องหลับตาให้มากๆเพื่อให้แผลหายเร็ว และก็ยังต้องหยอดยา..ให้ตรงเวลา ดูแลตา อย่าให้ติดเชื้อ หรือน้ำเข้าตา หรือเอามือขยี้ตา คุณหมอแนะนำให้ใส่แว่น (แว่นอะไรก็ได้) เพื่อไม่ให้เราสัมผัสตาโดยตรง ผมก็ห้ามสระเองแต่ยังไปร้านสระได้ นี่ก็คือสิ่งที่ต้องทำภายใน 7 วัน ก่อนที่จะมาตรวจกับคุณหมออีกที คุณหมอก็จะนัดอีกครั้งหลังหนึ่งเดือนด้วยคะเพื่อเช็คอีกครั้ง
ตอนนี้เราก็ทำมาสักพักแล้ว เรียกได้ว่า ดีมากกกก มองชัดมากกกก ชีวิตคือแฮปปี้ มองโลกอย่างชัดแจ่มแจ้ง ไม่ต้องเล็งหรือพึ่งแว่นอีก เราไม่มีปัญหาอะไรเลยหลังทำ เรารู้สึกดีใจมากที่ได้ตัดสินใจทำเลสิก เพราะความสะดวกสบายคือที่หนึ่ง ไม่ต้องคอยพกแว่น จะไปไหนทำอะไรคือเต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่าจะมองไม่เห็น เสริมบุคลิกภาพเราอีกด้วย วันที่เดินเข้า kfc หลังทำมาสักพัก แล้วเห็นป้ายด้านบนเคาเตอร์ คือดีใจมากกก 555 (ปกติคือยืนดูนานมากเพราะมองไม่เห็น55) ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขอบคุณคุณหมอเปาและเจ้าหน้าที่ทุกคนมากๆ ทุกคนน่ารักและดูแลดีมากจริงๆตั้งแต่ต้นจนจบ
ถ้าถามเราว่าจะทำดีไหม ก็ทำไปเลยสิคะ! จะรออะไร ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย แปปๆ ทำเสร็จตื่นมาเป็นคนใหม่ ทุกอย่างคือดีจริงๆ
ใครสนใจทำกับคุณหมอลองไปสอบถามคุณหมอใน Facebook : เลสิคหมอเปา - หมอสุจินตนา www.facebook.com/drpaolasik
หรือแอดไลน์ @drpaolasik ก็ได้นะ คุณหมอดีจริงๆ
ใครสงสัยอะไรก็ถามมาได้เลยนะ ^ ^ จะตอบให้ตามประสบการณ์คะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้