เหตุผลที่ทำเลสิก
.. เราสายตาสั้น ใส่แว่นตั้งแต่ป.6 ตอนนี้เราอายุ26 ตอนนี้สายตาเราสั้น300 กว่า ทั้ง2ข้าง เอียงก็300 กว่าทั้ง2ข้างเหมือนกัน เหตุผลที่เราทำเลสิกไม่ต่างจากคนอื่นคือ ไม่ชอบใส่แว่น อยากมองเห็นทุกอย่างชัดปกติโดยที่ไม่ต้องมีตัวช่วยใดๆ ตื่นมาไม่ต้องมองหาแว่นก่อนเป็นอย่างแรก และที่สำคัญสามารถทำกิจกรรม adventure ใดๆได้สะดวกยิ่งขึ้น วิ่ง ดำน้ำ
ข้อดีข้อเสีย
.. แน่นอนการทำเลสิกมีทั้งข้อดีข้อเสีย ข้อดี คือเรามองเห็นชัดโดยไม่ต้องใส่แว่น สะดวกต่อการใช้ชีวิต และถ้าเทียบค่าใช้จ่ายในระยะยาวระหว่างตัดแว่นใส่ไปเรื่อยๆ หรือใส่คอนแทคเลนส์ สำหรับคนที่ตัดแว่นราคาเกือบหมื่นแล้ว การทำเลสิกคุ้มกว่าในระยะยาว เราทำตอนอายุ26 จุดคุ้มทุนเราจะอยู่ช่วงอายุ 40 กว่าๆ แต่ในความเป็นจริงหลังอายุ40 เราก็ต้องใส่แว่นอยู่ หรืออาจต้องตัดแพงขึ้นเพราะมีสายตายาวเพิ่มขึ้นอีกด้วยซ้ำ
ข้อเสีย ทุกคนต้องเข้าใจว่า การแก้ไขสายตาเลสิกไม่ได้ทำให้ค่าสายตากลับมาเป็นศูนย์ ยิ่งต้นทุนเราสั้นหรือเอียงมากเท่าไร เราอาจมีค่าสายตาสั้นหรือเอียงหลงเหลืออยู่ได้มากกว่าคนอื่นที่สั้นหริอเอียงไม่เยอะ แต่ว่า ความสามารถของการมองเห็นหลังทำเลสิกเราสามารถใช้ชีวิตได้แฮปปี้แน่นอน เพราะในความเป็นจริง เราก็มีสายตาสั้นโดยที่เราไม่รู้ตัวกันอยู่แล้ว และตอนที่เราใส่แว่น เลนส์แว่นก็ไม่ได้ทดแทนค่าสายตาเราทั้งหมดขนาดนั้น ความเป็นจริงขณะที่เราใส่แว่นเราก็เหมือนใช้สายตาที่สั้นหรือเอียงประมาณเกือบๆร้อย อย่างตอนที่เราไปทำ ก่อนทำจะวัดสายตา เทียบกับแว่นเดิมที่เราใส่ แว่นอันเดิมค่าสายตาเราน้อยกว่าค่าจริง ทั้งสั้นและเอียง 100 น่าจะได้ นั้นหมายความว่าที่ผ่านมาที่เราใส่แว่นเราใช้สายตาที่สั้นและเอียง 100 มาตลอด ซึ่งเราไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติใดๆ ใช้ชีวิตได้มาโดยตลอด และยิ่งหลายคนที่รู้ตัวว่าสายตาสั้นแต่ไม่ใส่แว่น ใช้ชีวิตด้วยความชินกับสายตาแบบนั้น เรายิ่งไม่ต้องกังวลเลยว่าหลังทำเลสิกดมันจะแก้ไขค่าสายตาเราได้แค่ไหน เราจะมองเห็นชัดไ-หม หมอที่เราไปทำ ( หมอเปา) บอกว่าให้โฟกัสที่ฟังก์ชั่นการใช้งานมากกว่า การคาดหวังมันก็ดี แต่ไม่ควรกังวลจนใช้ชีวิตไม่แฮปปี้ ให้จำไว้ว่าเราทำเลสิกเพื่ออะไร และถ้ามันตอบโจทย์เราก็พอ
ทั้งนี้ข้อดีของการทำเลสิกไม่มีอะไรมากเลย ก็แค่มองเห็นชัดโดยไม่ต้องใส่แว่น แต่เรื่องการไม่ต้องใส่แว่นนี้แหละ คือข้อดีของใครหลายๆคน เพราะข้อเสียของการใส่แว่นมันเยอะ สำหรับสาวหรือหนุ่มแว่นที่ใส่มาตั้งแต่เด็กรู้ดีเลยว่ามันสร้างปัญหาให้เรายังไง สำหรับคนที่ไม่ชอบใส่แว่น การทำเลสิกถึงเป็นตัวเลือกของเขา ส่วนคนที่ชอบลุคใส่แว่น ชินกับการใส่แว่น รู้สึกว่าชีวิตไม่ได้มีปัญหาอะไรกับแว่น เขาอาจไม่เลือกเลสิก ที่ต้องมาเจอผลข้างเคียง และค่าใช้จ่ายที่เขามองว่าแพง
แต่เรื่องค่าใช้จ่าย บอกเลยว่า มันก็เฉือนพอๆกับที่เราต้องตัดแว่นราคาอันนึงเกือบหมื่นเรื่อยๆในระยะยาว เพียงแต่เลสิกมันจ่ายเป็นก้อน จ่ายเจ็บทีเดียวจุกๆไปเลยจ้า)
ผลข้างเคียงอื่นๆ หลักๆมีแค่2อย่าง ตาแห้ง แสงกระจายตอนกลางคืน แต่แล้วแต่คน และจะดีขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนตัว เรื่องตาแห้งไม่ค่อยมีปัญหา คือจะรู้สึกชัดเจนว่าตาแห้งหลังตื่นนอน หรือเล่นคอม มือถือนานๆ แต่จะมีอีกอาการหนึ่งที่ให้เราคิดไว้เลยว่าน่าจะเป็นเพราะตาแห้งคือ ภาพมันจะเบลอ อยู่ดีๆก็มองไม่ชัด ซึ่งเราไม่รับรู้หรอกว่าตาแห้ง แต่พอหยดน้ำตาเทียมแล้วมันก็ดีขึ้น ภาพจะค่อยๆกลับมาชัด ปกติ7วันแรกจะให้หยดน้ำตาเทียม 4เวลาต่อวัน แต่โดยส่วนคัวเราหยดบ่อยมากกว่า4 เวลา คือหลังเล่นคอม มือถือ ดูซีรีย์ ( เราเป็นคนติดซีรีย์ 7 วันแรกเราก็ดูแล้วจ้า แต่จะไม่ยิงยาว พักสายตาบ้าง) พอช่วงหลังๆ วันที่5 ที่6 เราก็ไม่ค่อยมีเรื่องตาแห้งแล้ว อาการอยู่ดีๆภาพเบลอก็เป็นลดลง แต่ก็ยังหยดน้ำตาเทียมตามเวลาอยู่
แสงกระจายตอนกลางคืน 55 point ของเราคืออันนี้เลย ทุกรีวิวที่เราเคยหามาก่อนมาทำจริง ต้องมีอันนี้ เป็นศัตรูกับคนทำเลสิกมาก แต่อันนี้ที่หมอบอกการเกิดมากน้อย เป็นปัจจัยภายในของแต่ละคน เรื่องรูม่านตา หรืออะไรทำนองนี้แหละ เราทำอะไรกับมันไม่ได้ คนส่วนใหญ่จะเห็นอาการนี้ชัดตอนขับรถกลางคืน มันจะเกิดขึ้นเมื่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวมืดมิด และมีแสงจากสิ่งของต่างๆ เช่น แสงไฟจากรถที่สวนมา แสงไฟป้ายข้างทาง แสงไฟจากเสาไฟข้างทาง เราจะมองเห็นแสงพวกนี้ในลักษณะที่รัศมี มันจะแตกกระจายมากกว่าปกติ สำหรับเราความรู้สึกเหมือน ฉันมองทุกอย่างชัด แต่ภาพที่ฉันมองแสงไฟจากรถคันหน้ายังเหมือนใช้สายตาคนที่สั้นมองอยู่ คือถ้าฉันมองป้ายข้างทาง ตัวหนังสือ หน้าคน สัตว์ ฉันมองเห็นปกติ แต่ถ้ามองรถข้างหน้า ฉันจะเห็นแสงไฟไม่ชัด คือมันไม่โฟกัส ถามว่าเราจะเริ่มรู้สึก มีผลกระทบกับการใช้ชีวิตมันจะเกิดตอนไหน ตอนขับรถกลางคืนที่มีรถเยอะๆ แสงไฟจากรถหลายๆคัน เนื่องจากมันไม่โฟกัส รัศมีมันจะแตกออกมาจากกึ่งกลางมากกว่าเดิม อย่างเช่น ถ้าในตัวเมือง กรุงเทพ รถติดจอดหลายๆคันเยอะๆ หรือช่วงที่จราจรหนาแน่น รถวิ่งเยอะๆ คือทุกอย่างรอบตัวมันมืด มันมีแสงไฟแค่จากรถพวกนั้น ... แต่ ถ้าขับรถชนบทเช่นบ้านเราที่รถไม่เยอะ แสงไฟมันไม่เยอะ มันก็ไม่ค่อยมีปัญหา คือเราเริ่มขับรถตอนกลางคืนไปกลับบ้านที่ทำงาน ตั้งแต่ วันที่4หลังทำ ก็ขับได้ ไม่ได้มีปัญหา แต่รับรู้ว่าเกิดอาการนี้
ประเภทการทำเลสิก
... เรียงจากระยะเวลาฟื้นตัว มากไปน้อย prk lasik ใช้ใบมีดร่วมกับเลเซอร์เหมือนกัน แต่ lasik จะใช้ใบมีดที่ขนาดเล็กกกว่า แยกชั้นกระจกตา แต่PRK จะลอกเยื่อบุผิวกระจกตาด้านนอกออกเลย ( สรุปคือ PRK ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่านั้นแหละ ) Femto lasik ใช้เลเซอร์ทั้งหมด ทั้งเปิดกระจกตาและ ปรับแต่งความโค้งของกระจกตา พักฟื้นน้อยสุด และพอเป็นเลเซอร์ดวงตามันก้ได้รับการบาดเจ็บน้อยสุด และผลข้างเคียงน้อยสุด แต่ขณะเดียวกันก็แพงสุด 55
ความประทับใจเลสิกหมอเปา รพ.เวชธานี
เราเจอเพจหมอเปาในเฟสบุค และไปดูรีวิวในพันทิป หลังจากนั้นเราก็ติดต่อไปในในเพจ เราไม่แน่ใจว่าหมอคนอื่นเป็นยังไง แต่สำหรับเรา เราประทับใจทั้งหมอเปา และตัวทีมงานมาก กาให้ข้อมูล คำแนะนำ และเรามีคำถามอะไร สามารถติดต่อสอบถามได้ตลอด เรารู้สึกว่าหมอเปาให้ความสำคัญกับความสบายใจของเรามาก หากเรามีความกังวล คำถามใดๆ หรือติดขัดตรงไหนสามารถถามได้ตลอดแทบจะตลอด 24 ชม.เลยก็ว่าได้ ส่วนเรื่องโปรโมชั่น ราคา ถ้าหากมีโปรโมชั่นอะไร เขาก็จะแนะนำเรา และไม่ได้โน้มน้าวว่าให้เราต้องทำตัว Femto หรือราคาที่แพงที่สุด แต่ว่า เลือกที่เหมาะกับเรา และราคาที่เราเอื้อมไหว แบบไหนที่คิดว่าคุ้มกับเรามากที่สุด
เลสิก ไปคนเดียวได้ไหม
... หลายที่ที่เราหาข้อมูลมาส่วนใหญ่จะบอกว่าให้มีเพื่อนไปด้วย ซึ่งความจริงแล้ว ถ้ามีมันก็ดี แต่ถามว่าถ้าไปคนเดียวได้ไหม บอกเลยว่าได้ จุดสำคัญที่ต้องมีเพื่อนไปด้วยคือ หลังจากทำเลสิกที่เขาจะใส่ที่ครอบตาเรา และสายตาเราจะยังมองเห็นไม่ค่อยชัด ที่สำคัญคือเราควรหลับตาไว้หลังทำเลสิก ประเด็นคือมันแค่ต้องมีคนขับรถพาเรากลับบ้าน ส่วนเรื่องการช่วยเหลือตัวเอง อาบน้ำ กินข้าว เราไม่ได้มองไม่เห็นขนาดที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย หลักๆแค่อาบน้ำ กินข้าว หลังจากนั้นก็กินยาแก้ปวด และนอนยาวๆเลย
เลสิก รพ.เวชธานี มีที่พักให้นะ
.. สิ่งหนึ่งที่เราประทับใจนอกจากตัวหมอเปา และทีมงานคือ รพ.เวชธานี ทีนี้มีที่พักในตัวรพ. เราไม่แน่ใจปกติคืนละเท่าไร แต่เราได้คืนละ 800 พัก 2 คน ห้องสะอาด สะดวกสบาย หลังจากทำเลสิกออกจากห้องผ่าตัดที่นี้จะมีเจ้าหน้าที่เข็นรถพาเรามาที่ห้องเลย และเราสามารถสั่งข้าวขึ้นมาส่งที่ห้องได้ สรุปคือ ถ้าอยู่ต่างจังหวัดและต้องมาทำเลสิก เราแนะนำที่รพ.เวชธานีเลย ทุกอย่างจบครบ มีห้องพักในตัว ราคาไม่แพง สำหรับเรา ที่ไปทำ เราพาเพื่อนไปด้วย เผื่อไว้ แต่เอาจริงๆเราว่า ถ้าให้เราไปคนเดียว ไปได้สบายๆเลย พอวันรุ่งขึ้น ตรวจตาเสร็จ เราก็ขึ้นรถตู้กลับบ้านได้ปกติ เราทำ femto พักฟื้นเร็วมาก เช้ามาก็แทบปกติแล้ว
ขั้นตอนการทำ คร่าวๆ
.. เรามาตั้งแต่เช้าประมาณ10โมง ได้เข้าห้องทำเลสิกจริงๆประมาณช่วงบ่าย ขั้นตอนในห้องใช้เวลาไม่มาก ส่วนใหญ่ในภาคเช้าจะเป็นการตรวจตา ตรวจความดันลูกตา ให้คำแนะนำการปฎิบัติตัวหลังทำ การเช็ดตา การหยอดตา และซักถามข้อสงสัย สำหรับก่อนเข้าห้องก็มีตื่นเต้นอยู่ ถามว่าน่ากลัวไหม ไม่เชิง ตื่นเต้นมากกว่า เราเป็นคนหน่งที่ไม่ได้ดูวืธีการทำเลสิกในห้องว่าเขาทำอะไรกับลูกตาเราบ้าง พอเข้าไปในห้อง เขาก็จะปิดตา อธิบายว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และแต่ละขั้นตอน เราต้องให้ความร่วมมือทำอะไรบ้าง สรุปคือ เราจะบอกว่าไม่ต้องตื่นเต้นเลย มันไม่มีอะไรเลย ทำแปปเดียว
หลังทำ
.. ที่บอกว่าทำวันนี้ ตื่นมาพรุ่งนี้มองโลกเป็น HD เลย เราว่าอันนั้นเว่อไป แต่มันชัดแหละ รู้สึกว้าวเหมือนกัน แต่วันแรกตื่นมา ยังมีเป็นหมอก ฝ้าๆอยู่ เคืองตา เหมือนฝุ่นเข้าตานิดๆ ปวดตุบๆบ้าง ถอดที่ครอบตาออก เช้ดตา หยอดน้ำตาเทียม หยอดยาฆ่าเชื้อ ใส่แว่นกันเราเอามอไปขยี้ หรือบางคนที่อาจแสบตา มีอาการแสงจ้าก็ใส่แว่นกันแดดไป พอมาช่วงเที่ยงๆบ่ายๆ ก็เริ่มคงที่ปกติแล้ว สามารถเดินห้างได้ตามสบาย
สรุป
.. เราเป็นคนนึงที่ไม่ชอบใส่แว่น เพราะงั้นการเสียเงินไม่ถึง 60000 กับการได้ส่ายตาปกติโดยไม่ต้องใส่แว่น คือคุ้ม ถึงแม้มีอาการข้างเคียงบ้าง ณ ตอนนี้เรารีวิวตอน 2 อาทิตย์หลังทำ ทุกอย่างแฮปปี้ เราจะเริ่มมองเห็นชัดคงที่ปกติเลย ประมาณ 1 อาทิตย์ผ่านไป ปัญหาตาแห้งไม่มี เหลือแค่แสงกระจายตอนกลางคืน มากน้อนแล้วแต่บางช่วง แต่อันนี้เป็นอาการช้างเคียงที่ต้องใช้เวลาสักพัก เราก็จะดูต่อไป แต่คิดว่ามันจะดีขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเลสิกหมดอเปา ที่รพ.เวชธานี อันนี้เราแนะนำเลย แล้วจะไม่ผิดหวัง หลังทำเลสิกแล้ว เราก็ยังสามารถติดต่อ ถามคำถามใดๆได้ การดูแลหลังการขายเราว่าดีเลย
จบ.. ใครมีคำถามอะไรสามารถมาถามเราได้ ยินดีตอบเลย สุดท้ายหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ คือพิมไปพิมมา เป็นรีวิวที่ยาวมาก แต่ต้องการอธิบายให้เห็นภาพที่สุด ..
ปล. เราไม่ได้ยืนยัน account ด้วยบัตรประชาชน จึงไม่สามารถโพสต์กระทู้แบบสนทนาได้ แต่อยากมารีวิว เลย ตั้งแบบกระทู้คำถามแทน
รีวิวการ femto lasik หมอเปา รพ.เวชธานี เหตุผลที่ทำเลสิก
.. เราสายตาสั้น ใส่แว่นตั้งแต่ป.6 ตอนนี้เราอายุ26 ตอนนี้สายตาเราสั้น300 กว่า ทั้ง2ข้าง เอียงก็300 กว่าทั้ง2ข้างเหมือนกัน เหตุผลที่เราทำเลสิกไม่ต่างจากคนอื่นคือ ไม่ชอบใส่แว่น อยากมองเห็นทุกอย่างชัดปกติโดยที่ไม่ต้องมีตัวช่วยใดๆ ตื่นมาไม่ต้องมองหาแว่นก่อนเป็นอย่างแรก และที่สำคัญสามารถทำกิจกรรม adventure ใดๆได้สะดวกยิ่งขึ้น วิ่ง ดำน้ำ
ข้อดีข้อเสีย
.. แน่นอนการทำเลสิกมีทั้งข้อดีข้อเสีย ข้อดี คือเรามองเห็นชัดโดยไม่ต้องใส่แว่น สะดวกต่อการใช้ชีวิต และถ้าเทียบค่าใช้จ่ายในระยะยาวระหว่างตัดแว่นใส่ไปเรื่อยๆ หรือใส่คอนแทคเลนส์ สำหรับคนที่ตัดแว่นราคาเกือบหมื่นแล้ว การทำเลสิกคุ้มกว่าในระยะยาว เราทำตอนอายุ26 จุดคุ้มทุนเราจะอยู่ช่วงอายุ 40 กว่าๆ แต่ในความเป็นจริงหลังอายุ40 เราก็ต้องใส่แว่นอยู่ หรืออาจต้องตัดแพงขึ้นเพราะมีสายตายาวเพิ่มขึ้นอีกด้วยซ้ำ
ข้อเสีย ทุกคนต้องเข้าใจว่า การแก้ไขสายตาเลสิกไม่ได้ทำให้ค่าสายตากลับมาเป็นศูนย์ ยิ่งต้นทุนเราสั้นหรือเอียงมากเท่าไร เราอาจมีค่าสายตาสั้นหรือเอียงหลงเหลืออยู่ได้มากกว่าคนอื่นที่สั้นหริอเอียงไม่เยอะ แต่ว่า ความสามารถของการมองเห็นหลังทำเลสิกเราสามารถใช้ชีวิตได้แฮปปี้แน่นอน เพราะในความเป็นจริง เราก็มีสายตาสั้นโดยที่เราไม่รู้ตัวกันอยู่แล้ว และตอนที่เราใส่แว่น เลนส์แว่นก็ไม่ได้ทดแทนค่าสายตาเราทั้งหมดขนาดนั้น ความเป็นจริงขณะที่เราใส่แว่นเราก็เหมือนใช้สายตาที่สั้นหรือเอียงประมาณเกือบๆร้อย อย่างตอนที่เราไปทำ ก่อนทำจะวัดสายตา เทียบกับแว่นเดิมที่เราใส่ แว่นอันเดิมค่าสายตาเราน้อยกว่าค่าจริง ทั้งสั้นและเอียง 100 น่าจะได้ นั้นหมายความว่าที่ผ่านมาที่เราใส่แว่นเราใช้สายตาที่สั้นและเอียง 100 มาตลอด ซึ่งเราไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติใดๆ ใช้ชีวิตได้มาโดยตลอด และยิ่งหลายคนที่รู้ตัวว่าสายตาสั้นแต่ไม่ใส่แว่น ใช้ชีวิตด้วยความชินกับสายตาแบบนั้น เรายิ่งไม่ต้องกังวลเลยว่าหลังทำเลสิกดมันจะแก้ไขค่าสายตาเราได้แค่ไหน เราจะมองเห็นชัดไ-หม หมอที่เราไปทำ ( หมอเปา) บอกว่าให้โฟกัสที่ฟังก์ชั่นการใช้งานมากกว่า การคาดหวังมันก็ดี แต่ไม่ควรกังวลจนใช้ชีวิตไม่แฮปปี้ ให้จำไว้ว่าเราทำเลสิกเพื่ออะไร และถ้ามันตอบโจทย์เราก็พอ
ทั้งนี้ข้อดีของการทำเลสิกไม่มีอะไรมากเลย ก็แค่มองเห็นชัดโดยไม่ต้องใส่แว่น แต่เรื่องการไม่ต้องใส่แว่นนี้แหละ คือข้อดีของใครหลายๆคน เพราะข้อเสียของการใส่แว่นมันเยอะ สำหรับสาวหรือหนุ่มแว่นที่ใส่มาตั้งแต่เด็กรู้ดีเลยว่ามันสร้างปัญหาให้เรายังไง สำหรับคนที่ไม่ชอบใส่แว่น การทำเลสิกถึงเป็นตัวเลือกของเขา ส่วนคนที่ชอบลุคใส่แว่น ชินกับการใส่แว่น รู้สึกว่าชีวิตไม่ได้มีปัญหาอะไรกับแว่น เขาอาจไม่เลือกเลสิก ที่ต้องมาเจอผลข้างเคียง และค่าใช้จ่ายที่เขามองว่าแพง
แต่เรื่องค่าใช้จ่าย บอกเลยว่า มันก็เฉือนพอๆกับที่เราต้องตัดแว่นราคาอันนึงเกือบหมื่นเรื่อยๆในระยะยาว เพียงแต่เลสิกมันจ่ายเป็นก้อน จ่ายเจ็บทีเดียวจุกๆไปเลยจ้า)
ผลข้างเคียงอื่นๆ หลักๆมีแค่2อย่าง ตาแห้ง แสงกระจายตอนกลางคืน แต่แล้วแต่คน และจะดีขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนตัว เรื่องตาแห้งไม่ค่อยมีปัญหา คือจะรู้สึกชัดเจนว่าตาแห้งหลังตื่นนอน หรือเล่นคอม มือถือนานๆ แต่จะมีอีกอาการหนึ่งที่ให้เราคิดไว้เลยว่าน่าจะเป็นเพราะตาแห้งคือ ภาพมันจะเบลอ อยู่ดีๆก็มองไม่ชัด ซึ่งเราไม่รับรู้หรอกว่าตาแห้ง แต่พอหยดน้ำตาเทียมแล้วมันก็ดีขึ้น ภาพจะค่อยๆกลับมาชัด ปกติ7วันแรกจะให้หยดน้ำตาเทียม 4เวลาต่อวัน แต่โดยส่วนคัวเราหยดบ่อยมากกว่า4 เวลา คือหลังเล่นคอม มือถือ ดูซีรีย์ ( เราเป็นคนติดซีรีย์ 7 วันแรกเราก็ดูแล้วจ้า แต่จะไม่ยิงยาว พักสายตาบ้าง) พอช่วงหลังๆ วันที่5 ที่6 เราก็ไม่ค่อยมีเรื่องตาแห้งแล้ว อาการอยู่ดีๆภาพเบลอก็เป็นลดลง แต่ก็ยังหยดน้ำตาเทียมตามเวลาอยู่
แสงกระจายตอนกลางคืน 55 point ของเราคืออันนี้เลย ทุกรีวิวที่เราเคยหามาก่อนมาทำจริง ต้องมีอันนี้ เป็นศัตรูกับคนทำเลสิกมาก แต่อันนี้ที่หมอบอกการเกิดมากน้อย เป็นปัจจัยภายในของแต่ละคน เรื่องรูม่านตา หรืออะไรทำนองนี้แหละ เราทำอะไรกับมันไม่ได้ คนส่วนใหญ่จะเห็นอาการนี้ชัดตอนขับรถกลางคืน มันจะเกิดขึ้นเมื่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวมืดมิด และมีแสงจากสิ่งของต่างๆ เช่น แสงไฟจากรถที่สวนมา แสงไฟป้ายข้างทาง แสงไฟจากเสาไฟข้างทาง เราจะมองเห็นแสงพวกนี้ในลักษณะที่รัศมี มันจะแตกกระจายมากกว่าปกติ สำหรับเราความรู้สึกเหมือน ฉันมองทุกอย่างชัด แต่ภาพที่ฉันมองแสงไฟจากรถคันหน้ายังเหมือนใช้สายตาคนที่สั้นมองอยู่ คือถ้าฉันมองป้ายข้างทาง ตัวหนังสือ หน้าคน สัตว์ ฉันมองเห็นปกติ แต่ถ้ามองรถข้างหน้า ฉันจะเห็นแสงไฟไม่ชัด คือมันไม่โฟกัส ถามว่าเราจะเริ่มรู้สึก มีผลกระทบกับการใช้ชีวิตมันจะเกิดตอนไหน ตอนขับรถกลางคืนที่มีรถเยอะๆ แสงไฟจากรถหลายๆคัน เนื่องจากมันไม่โฟกัส รัศมีมันจะแตกออกมาจากกึ่งกลางมากกว่าเดิม อย่างเช่น ถ้าในตัวเมือง กรุงเทพ รถติดจอดหลายๆคันเยอะๆ หรือช่วงที่จราจรหนาแน่น รถวิ่งเยอะๆ คือทุกอย่างรอบตัวมันมืด มันมีแสงไฟแค่จากรถพวกนั้น ... แต่ ถ้าขับรถชนบทเช่นบ้านเราที่รถไม่เยอะ แสงไฟมันไม่เยอะ มันก็ไม่ค่อยมีปัญหา คือเราเริ่มขับรถตอนกลางคืนไปกลับบ้านที่ทำงาน ตั้งแต่ วันที่4หลังทำ ก็ขับได้ ไม่ได้มีปัญหา แต่รับรู้ว่าเกิดอาการนี้
ประเภทการทำเลสิก
... เรียงจากระยะเวลาฟื้นตัว มากไปน้อย prk lasik ใช้ใบมีดร่วมกับเลเซอร์เหมือนกัน แต่ lasik จะใช้ใบมีดที่ขนาดเล็กกกว่า แยกชั้นกระจกตา แต่PRK จะลอกเยื่อบุผิวกระจกตาด้านนอกออกเลย ( สรุปคือ PRK ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่านั้นแหละ ) Femto lasik ใช้เลเซอร์ทั้งหมด ทั้งเปิดกระจกตาและ ปรับแต่งความโค้งของกระจกตา พักฟื้นน้อยสุด และพอเป็นเลเซอร์ดวงตามันก้ได้รับการบาดเจ็บน้อยสุด และผลข้างเคียงน้อยสุด แต่ขณะเดียวกันก็แพงสุด 55
ความประทับใจเลสิกหมอเปา รพ.เวชธานี
เราเจอเพจหมอเปาในเฟสบุค และไปดูรีวิวในพันทิป หลังจากนั้นเราก็ติดต่อไปในในเพจ เราไม่แน่ใจว่าหมอคนอื่นเป็นยังไง แต่สำหรับเรา เราประทับใจทั้งหมอเปา และตัวทีมงานมาก กาให้ข้อมูล คำแนะนำ และเรามีคำถามอะไร สามารถติดต่อสอบถามได้ตลอด เรารู้สึกว่าหมอเปาให้ความสำคัญกับความสบายใจของเรามาก หากเรามีความกังวล คำถามใดๆ หรือติดขัดตรงไหนสามารถถามได้ตลอดแทบจะตลอด 24 ชม.เลยก็ว่าได้ ส่วนเรื่องโปรโมชั่น ราคา ถ้าหากมีโปรโมชั่นอะไร เขาก็จะแนะนำเรา และไม่ได้โน้มน้าวว่าให้เราต้องทำตัว Femto หรือราคาที่แพงที่สุด แต่ว่า เลือกที่เหมาะกับเรา และราคาที่เราเอื้อมไหว แบบไหนที่คิดว่าคุ้มกับเรามากที่สุด
เลสิก ไปคนเดียวได้ไหม
... หลายที่ที่เราหาข้อมูลมาส่วนใหญ่จะบอกว่าให้มีเพื่อนไปด้วย ซึ่งความจริงแล้ว ถ้ามีมันก็ดี แต่ถามว่าถ้าไปคนเดียวได้ไหม บอกเลยว่าได้ จุดสำคัญที่ต้องมีเพื่อนไปด้วยคือ หลังจากทำเลสิกที่เขาจะใส่ที่ครอบตาเรา และสายตาเราจะยังมองเห็นไม่ค่อยชัด ที่สำคัญคือเราควรหลับตาไว้หลังทำเลสิก ประเด็นคือมันแค่ต้องมีคนขับรถพาเรากลับบ้าน ส่วนเรื่องการช่วยเหลือตัวเอง อาบน้ำ กินข้าว เราไม่ได้มองไม่เห็นขนาดที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย หลักๆแค่อาบน้ำ กินข้าว หลังจากนั้นก็กินยาแก้ปวด และนอนยาวๆเลย
เลสิก รพ.เวชธานี มีที่พักให้นะ
.. สิ่งหนึ่งที่เราประทับใจนอกจากตัวหมอเปา และทีมงานคือ รพ.เวชธานี ทีนี้มีที่พักในตัวรพ. เราไม่แน่ใจปกติคืนละเท่าไร แต่เราได้คืนละ 800 พัก 2 คน ห้องสะอาด สะดวกสบาย หลังจากทำเลสิกออกจากห้องผ่าตัดที่นี้จะมีเจ้าหน้าที่เข็นรถพาเรามาที่ห้องเลย และเราสามารถสั่งข้าวขึ้นมาส่งที่ห้องได้ สรุปคือ ถ้าอยู่ต่างจังหวัดและต้องมาทำเลสิก เราแนะนำที่รพ.เวชธานีเลย ทุกอย่างจบครบ มีห้องพักในตัว ราคาไม่แพง สำหรับเรา ที่ไปทำ เราพาเพื่อนไปด้วย เผื่อไว้ แต่เอาจริงๆเราว่า ถ้าให้เราไปคนเดียว ไปได้สบายๆเลย พอวันรุ่งขึ้น ตรวจตาเสร็จ เราก็ขึ้นรถตู้กลับบ้านได้ปกติ เราทำ femto พักฟื้นเร็วมาก เช้ามาก็แทบปกติแล้ว
ขั้นตอนการทำ คร่าวๆ
.. เรามาตั้งแต่เช้าประมาณ10โมง ได้เข้าห้องทำเลสิกจริงๆประมาณช่วงบ่าย ขั้นตอนในห้องใช้เวลาไม่มาก ส่วนใหญ่ในภาคเช้าจะเป็นการตรวจตา ตรวจความดันลูกตา ให้คำแนะนำการปฎิบัติตัวหลังทำ การเช็ดตา การหยอดตา และซักถามข้อสงสัย สำหรับก่อนเข้าห้องก็มีตื่นเต้นอยู่ ถามว่าน่ากลัวไหม ไม่เชิง ตื่นเต้นมากกว่า เราเป็นคนหน่งที่ไม่ได้ดูวืธีการทำเลสิกในห้องว่าเขาทำอะไรกับลูกตาเราบ้าง พอเข้าไปในห้อง เขาก็จะปิดตา อธิบายว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และแต่ละขั้นตอน เราต้องให้ความร่วมมือทำอะไรบ้าง สรุปคือ เราจะบอกว่าไม่ต้องตื่นเต้นเลย มันไม่มีอะไรเลย ทำแปปเดียว
หลังทำ
.. ที่บอกว่าทำวันนี้ ตื่นมาพรุ่งนี้มองโลกเป็น HD เลย เราว่าอันนั้นเว่อไป แต่มันชัดแหละ รู้สึกว้าวเหมือนกัน แต่วันแรกตื่นมา ยังมีเป็นหมอก ฝ้าๆอยู่ เคืองตา เหมือนฝุ่นเข้าตานิดๆ ปวดตุบๆบ้าง ถอดที่ครอบตาออก เช้ดตา หยอดน้ำตาเทียม หยอดยาฆ่าเชื้อ ใส่แว่นกันเราเอามอไปขยี้ หรือบางคนที่อาจแสบตา มีอาการแสงจ้าก็ใส่แว่นกันแดดไป พอมาช่วงเที่ยงๆบ่ายๆ ก็เริ่มคงที่ปกติแล้ว สามารถเดินห้างได้ตามสบาย
สรุป
.. เราเป็นคนนึงที่ไม่ชอบใส่แว่น เพราะงั้นการเสียเงินไม่ถึง 60000 กับการได้ส่ายตาปกติโดยไม่ต้องใส่แว่น คือคุ้ม ถึงแม้มีอาการข้างเคียงบ้าง ณ ตอนนี้เรารีวิวตอน 2 อาทิตย์หลังทำ ทุกอย่างแฮปปี้ เราจะเริ่มมองเห็นชัดคงที่ปกติเลย ประมาณ 1 อาทิตย์ผ่านไป ปัญหาตาแห้งไม่มี เหลือแค่แสงกระจายตอนกลางคืน มากน้อนแล้วแต่บางช่วง แต่อันนี้เป็นอาการช้างเคียงที่ต้องใช้เวลาสักพัก เราก็จะดูต่อไป แต่คิดว่ามันจะดีขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเลสิกหมดอเปา ที่รพ.เวชธานี อันนี้เราแนะนำเลย แล้วจะไม่ผิดหวัง หลังทำเลสิกแล้ว เราก็ยังสามารถติดต่อ ถามคำถามใดๆได้ การดูแลหลังการขายเราว่าดีเลย
จบ.. ใครมีคำถามอะไรสามารถมาถามเราได้ ยินดีตอบเลย สุดท้ายหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ คือพิมไปพิมมา เป็นรีวิวที่ยาวมาก แต่ต้องการอธิบายให้เห็นภาพที่สุด ..
ปล. เราไม่ได้ยืนยัน account ด้วยบัตรประชาชน จึงไม่สามารถโพสต์กระทู้แบบสนทนาได้ แต่อยากมารีวิว เลย ตั้งแบบกระทู้คำถามแทน