เปิดข้อมูลสถิติ หมู-ไข่-ไก่ ราคาพุ่ง แพงสุดในรอบ 8 ปี 
https://www.khaosod.co.th/economics/news_6928457
 
 
เปิดข้อมูลสถิติ หมู-ไข่-ไก่ ราคาพุ่ง แพงสุดในรอบ 8 ปี เผยสาเหตุสำคัญ เนื่องจากวัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาแพง มากกว่า 10%
 
วันที่ 8 มี.ค.65 รายงานข่าวจากผู้ประกอบการปศุสัตว์ ว่า จากการพิจารณาข้อมูลสถิติราคาสินค้าเกษตร ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบว่า ระหว่างปี 2558-2565 สินค้าเกษตร 3 รายการสำคัญคือ ไข่ไก่ หมู และไก่ มีการปรับราคาปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเดือน มี.ค.2565 สินค้าทั้ง 3 รายการทำสถิติราคาสูงสุดในรอบ 8 ปี
 
ดังนี้ ราคาไข่ไก่สดหน้าฟาร์ม (2558-2565) ราคาอยู่ที่ฟองละ 2.69 บาท , 2.95 บาท , 2.65 บาท , 2.68 บาท 2.79 บาท , 2.82 บาท , 2.83 บาท และราคาเฉลี่ย ม.ค.-มี.ค. 2565 ขึ้นมาอยู่ที่ฟองละ 3.00 บาท
 
ส่วนราคาสุกรมีชีวิต น้ำหนัก 100 ก.ก.ขึ้นไป ราคาอยู่ที่ ก.ก. ละ 66.08 บาท , 66.96บาท , 59.01 บาท , 55.68 บาท , 66.52 บาท , 71.87 บาท , 73.14 บาท และ ราคาเฉลี่ย ม.ค.-มี.ค. 2565 ขึ้นมาอยู่ที่ 96.70 บาท
 
และไก่เนื้อมีชีวิต ราคาอยู่ที่ ก.ก.ละ 38.34 บาท, 37.34 บาท , 37.28 บาท, 34.40บาท, 36.85 บาท , 35.44 บาท, 34.8 7บาท และราคาเฉลี่ย ม.ค.-มี.ค. 2565 ขึ้นมาอยู่ที่ 40.48 บาท
 
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นเนื่องจากวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาแพง โดยจากข้อมูลสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์พบว่าราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวสาลีนำเข้า และ กากถั่วเหลืองจากเมล็ด นำเข้าในเดือน มี.ค.2565 ปรับราคาเพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค.2564
  
โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปรับจาก ก.ก.ละ 10.5 บาท เป็น 11.45 บาท เพิ่มขึ้น 13.93% ข้าวสาลีนำเข้าปรับจาก ก.ก. ละ 8.91 บาท เป็น 12.75 บาท เพิ่มขึ้น 43.10% และกากถั่วเหลืองนำเข้าปรับจากก.ก.ละ 19.50 บาท เป็น 22.50 บาท เพิ่มขึ้น 15.38%
 

---

 
มะนาวแพง ปชช.เดือดร้อนถ้วนหน้า แม่ค้าขายของยาก ร้านส้มตำหนีไปใช้น้ำมะนาวขวด
https://www.matichon.co.th/region/news_3221340
 
มะนาวแพง แม่ค้าโอดยอดขายตก ส้มตำหนีไปใช้น้ำมะนาวขวด
 
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ราคา มะนาว ที่ปรับตัวสูงขึ้น จำหน่ายกิโลกรัมละกว่า100 บาท โดยที่ตลาดสดทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เขตเทศบาลนครนครปฐม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าตลาดบน ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ร้านขายมะนาวแป้นบ้านแพ้ว หรือมะนาวแป้นรำไพ รายหนึ่งถึงกับโอดครวญถึงราคามะนาวที่มีราคาแพงถึงกิโลกรัมละ 110-120 บาท ทำให้ลูกค้าประจำทั้งร้านอาหาร ร้านส้มตำ ลดยอดซื้อลง แต่ก็ยังดีกว่าปลายสัปดาห์ที่แล้ว ที่จำหน่ายกิโลกรัมละ 180 บาท ซึ่งช่วงนั้นขายไม่ได้เลย ชาวบ้านที่ซื้อไปทำอาหารซื้อปลีก 20 บาท ได้ 3ลูก บ่นว่าแพง เพราะต้มยำสักหม้อต้องใช้มะนาว 40 บาท ส่วนร้านส้มตำก็ซื้อแค่ไม่กี่ลูก หันไปใช้น้ำมะนาวขวดแทน
 
“ปัจจัยที่ทำให้มะนาวแพงช่วงนี้เกิดจากเข้าฤดูแล้ง และเกษตรกรบางรายโค่นต้นทิ้ง เนื่องจากเวลามะนาวราคาต่ำ หรือต่ำมากจนไม่มีราคา ค่าคนงานแพงกว่าค่ามะนาว ทำให้ช่วงนี้มะนาวแพงขึ้น อีกอย่างปัจจุบันตามบ้านเรือนส่วนใหญ่จะปลูกมะนาวไว้ เพราะมะนาวเป็นพืชยืนต้น ปลูกง่าย ตามหัวไร่ ปลายสวน หรือใส่กระถางปลูกได้ ไม่ต้องซื้อมะนาวกิน” แม่ค้าระบุ
 
ด้านแม่ค้าส้มตำรายหนึ่งที่มีออเดอร์ออนไลน์มากที่สุดในย่านเมืองนครปฐมกล่าวว่า ได้รับผลกระทบจากราคามะนาวแพง เพราะที่ร้านใช้มะนาวสด ไม่ใช้มะนาวขวด ทำให้ต้นทุนต่อครกเพิ่มขึ้นครกละ 10 บาท เฉพาะมะนาว แต่ขายราคาเดิม ทุกวันนี้ใช้มะนาววันละ 10 กิโลกรัม ราคาวันนี้กิโลกรัมละ 110 บาท เท่ากับว่าต้องจ่ายค่ามะนาว 1,100 บาท มากกว่าค่าวัตถุดิบอื่น แต่ก็ต้องทน
 
“หากเปลี่ยนไปไม่ใช้มะนาวสดลูกค้ากินรู้ เสียลูกค้าไม่ได้ คู่แข่งการตลาดเยอะ เสียเงินเพิ่มดีกว่า กำไรน้อยหน่อยช่วงนี้” แม่ค้าส้มตำกล่าว

ขณะที่ส้มตำซาเล้งกล่าวว่า ช่วงนี้ต้องหันมาพึ่งน้ำมะนาวขวดแทนมะนาวสด เพราะราคาแพงมาก เฉลี่ยลูกละ 6-7 บาท รับไม่ไหว ขายส้มตำครกละ 30 บาท เจอค่ามะนาวไปครกละกว่า 10 บาท ขาดทุนแน่นอน แต่เราปรุงให้กลมกล่อม ฝานมะนาวสดลงไปปนในครกให้มีกลิ่นเปลือกมะนาวแทน ช่วยได้ แต่ลูกค้าก็รู้อยู่ดี เพราะรสชาติเพี้ยน 
 
“เศรษฐกิจก็ไม่ดี ราคาสินค้าก็ขึ้นเอาขึ้นเอา น้ำมันก็ขึ้น ขึ่ซาเล้งขายส้มตำก็ต้องเสียค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มอีก มันลำบากจริงๆ ช่วงนี้” แม่ค้าส้มตำซาเล้งกล่าว

---

   

คอทองแดงจ๊าก เหล้า - เบียร์ พาเหรดขึ้นราคา แม้พาณิชย์สั่งเบรก
https://www.nationtv.tv/news/378865956
 
คอทองแดงจ๊าก! เหล้า - เบียร์ พาเหรดขึ้นราคา แม้ที่กระทรวงพาณิชย์สั่งเบรกไว้ ขณะที่ร้านค้ายันถึงแพงก็ต้องขาย เชื่อยังมีสินค้าอีกหลายตัวที่จะปรับขึ้นราคาอีก
 
     ถือเป็นข่าวร้ายต่อเนื่องสำหรับผู้บริโภค ที่ช่วงนี้สินค้าหลายชนิดมีการปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยต่าง ๆ ทำให้ผู้ค้าและผู้ผลิตไม่สามารถอั้นการขึ้นราคาไว้ได้ 
 
     หนึ่งในกลุ่มผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบคือ "สาวกคอทองแดง" ที่ก่อนหน้านี้ ทางเอเย่นต์น้ำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ประกาศขึ้นราคาทั้ง "เบียร์" และ "สุราขาว" ไว้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา
 
     จากก่อนหน้านี้ "สุราขาว" ได้ปรับขึ้นไปแล้วครั้งหนึ่งในช่วงต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา เช่น สุราขาว “รวงข้าว” 40 ดีกรีขวดใหญ่ จากเดิมราคา 110 บาท ปรับขึ้นเป็น 115 บาท ขณะที่ 30 ดีกรี ปรับขึ้นราคาจาก 70 บาท เป็น 75 บาท
 
     ทั้งนี้กรมสรรพสามิตจะยืนยันว่า ไม่มีการแจ้งปรับขึ้นภาษีจนเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการต้องปรับขึ้นราคารวมถึงกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้สั่งห้ามการปรับสินค้าขึ้นราคาทุกชนิด เพราะเป็นซ้ำเติมผู้บริโภคในภาวะค่าครองชีพสูง

     แต่จากการสำรวจร้านค้าส่งรายใหญ่ใน กทม. วันนี้ (7 มี.ค.) พบว่า เบียร์ทุกยี่ห้อมีการปรับราคาขายใหม่
 
โดย เบียร์ช้าง ราคา 585 บาทต่อลัง (12 ขวด) ปรับราคาขึ้นเป็น 605 บาทต่อลัง (12 ขวด) ทำให้ราคาขายปลีกจากขวดละ 55 บาท เพิ่มขึ้นเป็นขวดละ 58 บาท
 
เบียร์ลีโอ ราคา 608 บาทต่อลัง (12 ขวด) ปรับราคาขึ้นเป็น 633 บาทต่อลัง (12 ขวด) ทำให้ราคาขายปลีกจากขวดละ 58 บาท ปรับขึ้นเป็นขวดละ 61 บาท
 
เบียร์สิงห์ ปรับขึ้นราคาจากแพ็ค 6 กระป๋องราคา 199 บาท เป็น 223 บาท ทำให้ราคาขายปลีกกระป๋องละ  33 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 38 บาท
 
ขณะที่ราคาสุราขาว ปรับขึ้นเฉลี่ยขวดละ 10-25 บาท 
 
รวงข้าว 40 ดีกรี ขวดใหญ่จากเดิมราคา 120 บาท ปรับขึ้นเป็น  130 บาท  ขวดเล็ก 60 บาท ปรับขึ้นเป็น 70 บาท
 
พญาเสือ 40 ดีกรี ขวดใหญ่ 160 บาท เป็น 170 บาท ขวดเล็ก 80 บาท เป็น 90 บาท  
  
ส่วนสุราสี ยังไม่การปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด
 
หงส์ทอง ราคา 2,895 บาทต่อลัง (12 ขวด) ราคาขายปลีก ขวดละ 260 บาท  
 
เบลนด์ 285 ราคา 3,055 บาทต่อลัง (12 ขวด) ราคาขายปลีกขวดละ 275 บาท 
 
แสงโสม ราคา 3,355 บาทต่อลัง (12 ขวด) ราคาขายปลีกขวดละ 290 บาท
 
“โซดา” ปรับขึ้นราคา 10-20 บาทต่อลัง (24 ขวด) ขณะที่น้ำอัดลม ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด
 
     ผู้ค้ายืนยันว่า “แม้เหล้า เบียร์ จะปรับราคาแพงขึ้น แต่คนซื้อก็ยังซื้ออยู่ เราคนขายก็ต้องสั่งมาขาย เชื่อว่ายังมีสินค้าอีกหลายตัวที่จะปรับขึ้นราคาอีก”