หน้าร้อนปี 65 ผักแพงอีกแล้ว มะนาว ผักชี ต้นหอม ขึ้นฉ่าย ขึ้นยกแผง
https://www.thairath.co.th/business/economics/2335262
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์สินค้าหลายรายการได้ปรับขึ้นหลายรายการ โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ในเดือน ก.พ. 65 มีสินค้าที่ราคาสูงขึ้น 260 รายการ เช่น ค่ากระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง เนื้อสุกร ข้าวราดแกง กับข้าวสำเร็จรูป น้ำมันพืช น้ำประปา ไข่ไก่ กระดูกซี่โครงหมู
ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง 105 รายการ เช่น ข้าวสารเหนียว ข้าวสารเจ้า ส้มเขียวหวาน ขิง พริกสด ค่าธรรมเนียมการศึกษา กล้วยน้ำว้า ค่าเช่าบ้าน และค่าส่งพัสดุไปรษณีย์
จากการสำรวจข้อมูลราคาผักที่มักปรับขึ้นในช่วงฤดูแล้ง หรือหน้าร้อน ณ วันที่ 07/03/65 อ้างอิงจากกระทรวงพาณิชย์ พบว่า
มะนาว เบอร์ 1-2 ราคาเฉลี่ย 5.75 บาทต่อผล หากย้อนกลับไปเดือน ก.พ. ราคาขายราคาเฉลี่ย 4.25 บาทต่อผล
มะนาว เบอร์ 3-4 ราคาเฉลี่ย 4.75 บาทต่อผล หากย้อนกลับไปเดือน ก.พ. ราคาขายราคาเฉลี่ย 3.25 บาทต่อผล
ขึ้นฉ่าย คละ ราคาเฉลี่ย 85 บาทต่อกิโลกรัม หากย้อนกลับไปเดือน ก.พ. ราคาขายราคาเฉลี่ย 55 บาทต่อกิโลกรัม
ขึ้นฉ่าย คัด ราคาเฉลี่ย 105 บาทต่อกิโลกรัม หากย้อนกลับไปเดือน ก.พ. ราคาขายราคาเฉลี่ย 75 บาทต่อกิโลกรัมต้นหอม คละ ราคาเฉลี่ย 67.50 บาทต่อกิโลกรัม หากย้อนกลับไปเดือน ก.พ. ราคาขายราคาเฉลี่ย 42.5 บาทต่อกิโลกรัม
ต้นหอม คัด ราคาเฉลี่ย 80 บาทต่อกิโลกรัม หากย้อนกลับไปเดือน ก.พ. ราคาขายราคาเฉลี่ย 55 บาทต่อกิโลกรัม
ผักชี คัด ราคาเฉลี่ย 195 บาทต่อกิโลกรัม ก่อนปรับลงมาอยู่ที่ 105 บาท หากย้อนกลับไปเดือน ก.พ. ราคาขายราคาเฉลี่ย 115 บาทต่อกิโลกรัม
ผักชี คละ ราคาเฉลี่ย 175 บาทต่อกิโลกรัม ก่อนปรับลงมาอยู่ที่ 85 บาท หากย้อนกลับไปเดือน ก.พ. ราคาขายราคาเฉลี่ย 95 บาทต่อกิโลกรัม
อย่างไรก็ตามคาดว่า จะมีราคาผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ที่กำลังจะปรับราคาขึ้นอีก เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้นทั้งขนส่ง น้ำท่วมในหลายจังหวัดในภาคใต้ รวมถึงต้นทุนอาหารสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย.
หลังสงกรานต์วัสดุก่อสร้างขยับราคาขึ้น 5%
https://www.nationtv.tv/news/378865900
สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน เป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้ต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้วัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะเหล็กปรับขึ้นราคาต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น 3-5%
นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน
วรวุฒิ กาญจนกูล ระบุ ปัจจัยสำคัญที่ทั่วโลกจับตาจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน คือราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งกระทบต้นทุนการผลิตและค่าขนส่ง หรือวัสดุอุปกรณ์บางชนิดที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น เหล็ก และวัสดุต่างๆ คาดว่าผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างอาจปรับขึ้นราคาอีกครั้ง หากสถานการณ์ยืดเยื้อ โดยหลังเดือนเมษายนนี้ ราคาวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างอาจปรับขึ้นราคาอย่างน้อย 5%
สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน เป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้ต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้วัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะเหล็กปรับขึ้นราคาต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น 3-5% แต่ด้วยข้อจำกัดด้านกำลังซื้อและบรรยากาศในการซื้อทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าขยับราคา แต่ปีนี้คงต้องปรับราคาตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
ด้านนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย
มีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ ระบุ ขณะนี้สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนยังไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯโดยตรง แม้ที่ผ่านมาลูกค้าชาวรัสเซียจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยสูงเป็นอันดับ 2 รองจากจีน แต่มีสัดส่วนน้อยกว่ามาก และหลังเกิดการระบาดของโควิด 19 ลูกค้ากลุ่มนี้หายไป แต่สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ถือเป็นปัจจัยลบที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด และประเมินผลกระทบในเชิงจิตวิทยาของลูกค้าทั่วไปที่อาจเกิดความไม่มั่นใจช่วงระยะสั้นในการซื้อที่อยู่อาศัย
รัสเซียขู่คุมส่งพลังงานให้ยุโรป ตอบโต้มาตรการคว่ำบาตร
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3221101
รัสเซียขู่คุมส่งพลังงานให้ยุโรป ตอบโต้มาตรการคว่ำบาตร
รัสเซียออกมาเตือนว่าอาจงัดมาตรการควบคุมการส่งออกพลังงานให้กับยุโรป เพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกต่อรัสเซีย โดยนาย
อเล็กซานเดอร์ โนวัก รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียมีสิทธิทุกประการที่จะดำเนินการใดๆ กับก๊าซธรรมชาติที่ส่งให้ยุโรปผ่านท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 1
นาย
โนวัคกล่าวว่า ขณะนี้รัสเซียยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว แต่มาตรการที่รัสเซียดำเนินการจะเป็นไปในสัดส่วนที่เหมาะสมกับข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลต่อรัสเซีย เกี่ยวกับวิกฤตด้านพลังงานในยุโรปและการระงับท่อส่งก๊าซธรรมชาตินอร์ด สตรีม 2
ทั้งนี้ ผู้นำชาติตะวันตกประกาศว่ายุโรปจะเดินหน้าลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียยุโรป แต่โนวัคมองว่าการดำเนินการดังกล่าวต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปี
รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียเตือนด้วยว่า การสั่งห้ามนำเข้าพลังงานจากรัสเซียอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จะทำให้เกิดหายนะอย่างใหญ่หลวงตามมาต่อตลาดโลก และอาจทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงทะลุ 300 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งมากกว่าราคาน้ำมันในปัจจุบันถึงกว่า 2 เท่า
JJNY : ผักแพงอีกแล้ว│หลังสงกรานต์วัสดุก่อสร้างขึ้น5%│รัสเซียขู่คุมส่งพลังงานให้ยุโรป│ส.ส.ก้าวไกล ร้องเพิ่มวันลาคลอด
https://www.thairath.co.th/business/economics/2335262
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์สินค้าหลายรายการได้ปรับขึ้นหลายรายการ โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ในเดือน ก.พ. 65 มีสินค้าที่ราคาสูงขึ้น 260 รายการ เช่น ค่ากระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง เนื้อสุกร ข้าวราดแกง กับข้าวสำเร็จรูป น้ำมันพืช น้ำประปา ไข่ไก่ กระดูกซี่โครงหมู
ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง 105 รายการ เช่น ข้าวสารเหนียว ข้าวสารเจ้า ส้มเขียวหวาน ขิง พริกสด ค่าธรรมเนียมการศึกษา กล้วยน้ำว้า ค่าเช่าบ้าน และค่าส่งพัสดุไปรษณีย์
จากการสำรวจข้อมูลราคาผักที่มักปรับขึ้นในช่วงฤดูแล้ง หรือหน้าร้อน ณ วันที่ 07/03/65 อ้างอิงจากกระทรวงพาณิชย์ พบว่า
มะนาว เบอร์ 1-2 ราคาเฉลี่ย 5.75 บาทต่อผล หากย้อนกลับไปเดือน ก.พ. ราคาขายราคาเฉลี่ย 4.25 บาทต่อผล
มะนาว เบอร์ 3-4 ราคาเฉลี่ย 4.75 บาทต่อผล หากย้อนกลับไปเดือน ก.พ. ราคาขายราคาเฉลี่ย 3.25 บาทต่อผล
ขึ้นฉ่าย คละ ราคาเฉลี่ย 85 บาทต่อกิโลกรัม หากย้อนกลับไปเดือน ก.พ. ราคาขายราคาเฉลี่ย 55 บาทต่อกิโลกรัม
ขึ้นฉ่าย คัด ราคาเฉลี่ย 105 บาทต่อกิโลกรัม หากย้อนกลับไปเดือน ก.พ. ราคาขายราคาเฉลี่ย 75 บาทต่อกิโลกรัมต้นหอม คละ ราคาเฉลี่ย 67.50 บาทต่อกิโลกรัม หากย้อนกลับไปเดือน ก.พ. ราคาขายราคาเฉลี่ย 42.5 บาทต่อกิโลกรัม
ต้นหอม คัด ราคาเฉลี่ย 80 บาทต่อกิโลกรัม หากย้อนกลับไปเดือน ก.พ. ราคาขายราคาเฉลี่ย 55 บาทต่อกิโลกรัม
ผักชี คัด ราคาเฉลี่ย 195 บาทต่อกิโลกรัม ก่อนปรับลงมาอยู่ที่ 105 บาท หากย้อนกลับไปเดือน ก.พ. ราคาขายราคาเฉลี่ย 115 บาทต่อกิโลกรัม
ผักชี คละ ราคาเฉลี่ย 175 บาทต่อกิโลกรัม ก่อนปรับลงมาอยู่ที่ 85 บาท หากย้อนกลับไปเดือน ก.พ. ราคาขายราคาเฉลี่ย 95 บาทต่อกิโลกรัม
อย่างไรก็ตามคาดว่า จะมีราคาผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ที่กำลังจะปรับราคาขึ้นอีก เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้นทั้งขนส่ง น้ำท่วมในหลายจังหวัดในภาคใต้ รวมถึงต้นทุนอาหารสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย.
หลังสงกรานต์วัสดุก่อสร้างขยับราคาขึ้น 5%
https://www.nationtv.tv/news/378865900
สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน เป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้ต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้วัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะเหล็กปรับขึ้นราคาต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น 3-5%
นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน วรวุฒิ กาญจนกูล ระบุ ปัจจัยสำคัญที่ทั่วโลกจับตาจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน คือราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งกระทบต้นทุนการผลิตและค่าขนส่ง หรือวัสดุอุปกรณ์บางชนิดที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น เหล็ก และวัสดุต่างๆ คาดว่าผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างอาจปรับขึ้นราคาอีกครั้ง หากสถานการณ์ยืดเยื้อ โดยหลังเดือนเมษายนนี้ ราคาวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างอาจปรับขึ้นราคาอย่างน้อย 5%
สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน เป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้ต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้วัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะเหล็กปรับขึ้นราคาต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น 3-5% แต่ด้วยข้อจำกัดด้านกำลังซื้อและบรรยากาศในการซื้อทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าขยับราคา แต่ปีนี้คงต้องปรับราคาตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
ด้านนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย มีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ ระบุ ขณะนี้สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนยังไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯโดยตรง แม้ที่ผ่านมาลูกค้าชาวรัสเซียจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยสูงเป็นอันดับ 2 รองจากจีน แต่มีสัดส่วนน้อยกว่ามาก และหลังเกิดการระบาดของโควิด 19 ลูกค้ากลุ่มนี้หายไป แต่สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ถือเป็นปัจจัยลบที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด และประเมินผลกระทบในเชิงจิตวิทยาของลูกค้าทั่วไปที่อาจเกิดความไม่มั่นใจช่วงระยะสั้นในการซื้อที่อยู่อาศัย
รัสเซียขู่คุมส่งพลังงานให้ยุโรป ตอบโต้มาตรการคว่ำบาตร
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3221101
รัสเซียขู่คุมส่งพลังงานให้ยุโรป ตอบโต้มาตรการคว่ำบาตร
รัสเซียออกมาเตือนว่าอาจงัดมาตรการควบคุมการส่งออกพลังงานให้กับยุโรป เพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกต่อรัสเซีย โดยนายอเล็กซานเดอร์ โนวัก รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียมีสิทธิทุกประการที่จะดำเนินการใดๆ กับก๊าซธรรมชาติที่ส่งให้ยุโรปผ่านท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 1
นายโนวัคกล่าวว่า ขณะนี้รัสเซียยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว แต่มาตรการที่รัสเซียดำเนินการจะเป็นไปในสัดส่วนที่เหมาะสมกับข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลต่อรัสเซีย เกี่ยวกับวิกฤตด้านพลังงานในยุโรปและการระงับท่อส่งก๊าซธรรมชาตินอร์ด สตรีม 2
ทั้งนี้ ผู้นำชาติตะวันตกประกาศว่ายุโรปจะเดินหน้าลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียยุโรป แต่โนวัคมองว่าการดำเนินการดังกล่าวต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปี
รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียเตือนด้วยว่า การสั่งห้ามนำเข้าพลังงานจากรัสเซียอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จะทำให้เกิดหายนะอย่างใหญ่หลวงตามมาต่อตลาดโลก และอาจทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงทะลุ 300 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งมากกว่าราคาน้ำมันในปัจจุบันถึงกว่า 2 เท่า