รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่ 51 เจ้าหญิงน้อยของพ่อ

รับคำท้าฯ
ตอนที่ 51
 
ปริมานิ่งไปชั่วขณะ มองบิดากำลังเดินมาอย่างช้า ๆ แล้วมองกลับมาที่เด็กน้อยสองคน  ตอนนี้เธอหมดข้อสงสัยแล้ว ทำไมเด็กชายถึงหน้าตาเหมือนพี่ชายของเธอตอนยังเด็กขนาดนี้  หมอใหญ่ย่อตัวลงรับเด็กน้อยสองคนเข้าไปในอ้อมแขน  ภาพตอนเธอยังเด็กปรากฏขึ้นมาในสมอง  ตอนเย็นพ่อจะเป็นคนไปรับเธอที่โรงเรียนเป็นประจำ  พ่อจะย่อตัวลงแบบนี้พร้อมกับอ้าแขนรอเธอวิ่งเข้าไปกอดเสมอ  หรือถ้าเธอทำผิดถูกแม่ดุหรือถูกตี พ่อจะเป็นคนเข้ามาปลอบเธอทุกครั้ง

“ธุจ้า...พี่ปริมสิลูก”  นายแพทย์ใหญ่บอกเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนให้หันไปทักทายลูกสาวคนโตของเขา

 “สวัสดีคับ...พี่ปริม”  เด็กชายหันไปยกมือไหว้พี่สาวเสียงใสแจ๋ว  

“พี่สวยจังเลยคับ”  พ่อหนุ่มน้อยปากหวานอีกต่างหาก

“สวัสดีค่ะพี่ปริม”  เด็กหญิงรีบทักทายตามอย่างพี่ชายบ้าง  

“พี่น่ารักเหมือนหนูเลยนะคะ”  

ทุกคนพากันหัวเราะความไร้เดียงสาของเด็กน้อย  ปริมามองน้อง ๆ ต่างมารดาอย่างเอ็นดู  เธอโกรธเกลียดความบริสุทธิ์ของเด็กไม่ลงจริง ๆ

“ยังไม่บอกเลย พี่กับคนนี้ ใครสวยกว่ากันคะ”  ปริมาถามแม่หนูน้อยตุ๊กตาญี่ปุ่น  พลางหันไปยิ้มเยาะใส่หนุ่มหน้าหวาน

หนุ่มผมยาวหันมาขมวดคิ้วย่นใส่ยัยตัวแสบที่เธอยังไม่เลิกรากับคำถามกวนโอ๊ยเสียที

หนูปั๊บมองทั้งคู่ด้วยความงุนงง ก่อนจะตอบว่า
“สวยเท่ากันค่ะ”

เพื่อน ๆ ต่างพากันหัวเราะเอ็นดูกับคำตอบของแม่หนูน้อย

ปฏิการถึงกับยกมือกุมขมับเลยเมื่อได้ยินคำตอบนั้น ที่แม่หนูน้อยแยกไม่ออกระหว่างความสวยกับความหล่อของเขา หันไปมองสาวบัญชีที่ดูพอใจกับคำตอบนั้นเสียเหลือเกิน  ถ้าไม่ติดว่า อยู่ต่อหน้าพ่อของเธอ  เขาต้องจัดการกับเธอแน่นอน  ฝากไว้ก่อนเหอะ! ยัยตัวแสบ!

“ปริมพวกเราเข้าไปเยี่ยมปรามก่อนนะ”  ปรีเปรมเดินเข้ามาบอกเพื่อนสาว แล้วพาเพื่อน ๆ เข้าไปเยี่ยมคนป่วย

ปริมาหันมาพยักหน้ารับ

“ปริม…ให้พ่อได้ดูแลปรามจนหายดีนะ”  หมอหนุ่มใหญ่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าบุตรสาว

ปริมานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง  มองหน้าผู้ให้กำเนิดที่อยู่ตรงหน้า  น้ำตารื้นขึ้นมาคลออยู่ในดวงตาสวยคู่นั้น เธอตัดสินใจเข้าไปกราบลงกับอกของผู้ให้กำเนิด  
“ค่ะ พ่อ...ขอบ...คุณ...นะคะ” 

หมอใหญ่สวมกอดบุตรสาวไว้ด้วยความคิดถึงเหลือเกิน  เกือบสิบปีที่ลูกไม่ยอมพูดกับเขา ไม่ยอมพบหน้า ไม่ยอมรับความช่วยเหลือใด ๆ จากเขาเลย มันยิ่งทำให้รู้สึกผิดและเสียใจมากมาตลอด  เฝ้ารอวันที่ลูกจะอภัยให้ ตอนนั้นปรามอายุ 17 ปี  ปริมาเพิ่งอายุ 12 ปี  เมื่อภรรยาตัดสินใจขอหย่ากับเขา และลูก ๆ ขออยู่กับแม่ ทั้งยังย้ายไปอยู่บ้านสวนที่ห่างไกลกันคนละจังหวัด  เขาจึงไม่มีโอกาสได้ดูแลลูกทั้งสองคนอย่างที่ควรจะเป็น

“พ่อขอโทษนะ”

“ปริม...ขอโทษ... ที่...ทำตัว...ไม่ดี...กับพ่อ....นะคะ”  เธอพูดคลอด้วยเสียงอันสั่นเครือ และขาดห้วงเป็นระยะปนกับเสียงสะอื้นไห้  น้ำตาหลั่งไหลอาบแก้มไม่ขาดสาย ไม่ว่าเธอจะทำตัวแย่กับพ่อแค่ไหน  แต่พ่อก็ไม่เคยโกรธลูกคนนี้เลย ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน  แต่ทุกวันเกิดของเธอพ่อไม่เคยลืมเอาของขวัญมาให้และแวะมาเยี่ยมเสมอ  ไม่เคยมีคำพูดที่ทำให้เธอเสียใจแม้แต่น้อย ทำไมเธอถึงโกรธพ่อได้นานขนาดนี้  

“ไม่เป็นไร เจ้าหญิงน้อยของพ่อหายโกรธ  พ่อก็ดีใจมากแล้ว”  ปริวัตน์ยกมือลูบหลังลูกสาวเบา ๆ อย่างปลอบโยน  ลูกสาวตัวน้อยของเขาโตขึ้นมาก 

ปริมากอดพ่อไว้แน่นกว่าเดิม  ยิ่งร้องไห้หนักมาก ตอนยังเด็ก พ่อเรียกเธอว่า เจ้าหญิงน้อยของพ่อ ไม่ได้ยินคำนี้นานมากแล้ว

นายแพทย์ใหญ่มองเห็นรอยยิ้มของหนุ่มหน้าหวาน ที่ยืนอยู่ด้านหลังของบุตรสาว  หนุ่มคนนี้รึเปล่า? ที่เปลี่ยนใจคนเจ้าทิฐิหัวแข็งอย่างลูกสาวของเขาได้  พ่อหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาเลย

ปฏิการได้แต่ยืนมองด้วยรอยยิ้ม  ความรักความเข้าใจกันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น  ณ  ที่ใด  ที่นั่นก็เต็มไปด้วยความสุข  ความอบอุ่นและงดงามเสมอ…

“ไหนให้พ่อมองหน้าเจ้าหญิงน้อยชัด ๆ หน่อย”  เขาคลายวงแขนออกจากตัวของลูกสาว

หญิงสาวขยับตัวถอยออกมา เงยหน้ามองคนเป็นพ่อ ส่งยิ้มให้เขา พลางยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาข้างแก้ม

“เจ้าหญิงน้อยของพ่อโตขึ้นมาก”  เขาไม่ได้เห็นเธอยิ้มให้เขานานมากเหลือเกิน  รอยยิ้มสวยสดใสเหมือนดอกไม้กำลังผลิบาน  

“พ่อคะ ทำไมพี่ปรามยังไม่ฟื้นอีกละคะ”  น้ำเสียงนั้นถามด้วยความเป็นห่วงพี่ชายเหลือเกิน

หมอใหญ่มองหน้าบุตรสาวที่เต็มไปด้วยความกังวลใจ

“พ่อเชื่อว่า ปรามจะต้องฟื้นแน่นอน  ปริมไม่ต้องเป็นห่วงนะ พ่อดูแลอยู่ทั้งคน”

หญิงสาวพยักหน้ารับ  แม้ว่าพ่อจะยืนยันแบบนั้น แต่ทว่ามันบรรเทาความเป็นห่วงพี่ชายคนเดียวได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“ถ้าปริมพอมีเวลาว่าง ไปสอนปุ๊บกับปั๊บทำขนมบ้างได้ไหม  พ่ออยากให้เขาเก่งเหมือนปริม” 

“ได้ค่ะ”  เธอตอบพลางหันไปมองเด็กชายที่ยื่นมือเล็ก ๆ มาจับมือของเธอไว้

“พี่ปริมทานขนมคับ”  พ่อหนุ่มน้อยหยิบขนมออกจากกระเป๋าเป้มายื่นส่งให้

 พี่สาวมองขนมในมือของน้องชาย  มันคือขนมครองแครงกรอบที่เธอทำขายอยู่นั่นเอง

 “อร่อยมากเลยคับ ผมให้พี่นะ”  เด็กชายบอกอย่างน่าเอ็นดู

 คนเป็นพี่ค่อย ๆ ยิ้มออก  แล้วหันไปมองพ่อ

 “ปริมทำขนมอร่อยที่สุดเลย”  คนเป็นพ่อยืนยัน ที่บ้านของเขาจะมีขนมของลูกสาวคนเก่งติดบ้านไว้เสมอ

“จริงครับ”  ปฏิการยื่นหน้ามายืนยันอีกหนึ่งเสียง  เวลาเขาไม่ได้เห็นหน้าแม่ครัวตัวแสบ จะต้องหยิบขนมของเธอออกมากินให้หายคิดถึง
 
 “ไว้พี่จะไปสอนทำขนม เอามั้ย?”  สาวชาวสวนถามเด็กน้อยที่จับมือของเธอไว้อยู่

 เด็กหญิงผมเปียรีบเข้าไปจับมืออีกข้างของปริมา

 “หนูชอบทำขนมค่ะ  สอนหนูด้วยนะคะ”

 “ได้จ้า...”  

ปริมาสะกิดหนุ่มหน้าหวานให้ส่งถุงใส่น้ำสมุนไพรมาให้เธอซึ่งเหลืออยู่สองขวดพอดีเลย  แล้วหยิบขวดน้ำกระเจี๊ยบผสมพุทธาจีนและดอกอัญชันเย็นเฉียบออกมาให้เด็กน้อยทั้งสองคน

“พี่ให้นะ”  

หนูน้อยทั้งสองคนยกมือไหว้ขอบคุณเธอ มองขวดน้ำสีม่วงในมือก่อนจะเปิดขึ้นยกดื่ม

“อร่อยมั้ย”  เธอถามน้อง ๆ ด้วยรอยยิ้ม

เด็กน้อยสองคนต่างพยักหน้ารับดื่มน้ำอย่างเอร็ดอร่อยเชียว ถูกใจกับรสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี
 

กระเจี๊ยบแดงมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) และสารโพลีฟีนอล ซึ่งได้แก่ Protocatechuic Acid ที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยชะลอความแก่ และช่วยให้เส้นเลือดอ่อนนิ่มได้  กระเจี๊ยบแดงใช้ทำเป็นน้ำดื่มที่ช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น เนื่องจากมีกรดซิตริกอยู่ด้วย และน้ำกระเจี๊ยบแดงช่วยทำให้ความเหนียวข้นของเลือดลดลง, ช่วยแก้อาการร้อนใน, ช่วยลดไข้, ช่วยป้องกันโรคต่อมลูกหมากโต, ช่วยรักษาและป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน, ช่วยแก้อาการขัดเบา

กระเจี๊ยบแดงใช้ทำเป็นอาหาร ใบอ่อนของกระเจี๊ยบใช้รับประทานเป็นผักได้ หรือจะนำมาใช้ทำแกงส้มก็ได้ ให้รสเปรี้ยวกำลังดี และยังมีวิตามินเอสูง (12,583 I.U. ต่อ 100 กรัม) ที่ช่วยบำรุงสายตาอีกด้วย อีกทั้งดอกกระเจี๊ยบแดงยังสามารถนำมาทำได้หลายเมนู เช่น แกงส้มดอกกระเจี๊ยบ ยำดอกกระเจี๊ยบ แยมดอกกระเจี๊ยบ ดอกกระเจี๊ยบแช่อิ่ม กระเจี๊ยบกวน ชากระเจี๊ยบแดง เป็นต้น

น้ำต้มของดอกแห้งจะมีกรดผลไม้ หรือ AHA อยู่หลายชนิดในปริมาณสูง จึงมีการนำมาผลิตเป็นเครื่องสำอางประเภทครีมหน้าใส ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยป้องกันหวัด เนื่องจากกระเจี๊ยบแดงมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นสารสีแดงในกลุ่มเดียวกับที่พบในผลไม้อย่างบลูเบอร์รี แต่กระเจี๊ยบแดงจะมีสารชนิดนี้มากกว่าบลูเบอร์รีถึง 50%

พุทราจีน มีสรรพคุณ รสหวานมันและฝาดในผลพุทรานั้นช่วยบำรุงร่างกาย  สำหรับผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ ไม่ค่อยมีแรง ผลพุทรานั้นช่วยบำรุงร่างกาย เมื่อรับประทานโดยพาะผู้ตั้งครรภ์ที่รู้สึกอ่อนแรงล้า  พุทราจีนอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย ช่วยบำรุงประสาทและสมองช่วยลดความเครียด ทำให้สมองปลอดโปร่ง รวมไปถึงสามารถช่วยแก้โรคนอนไม่หลับ ช่วยบำรุงตับและม้ามให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ ผลช่วยบำรุงโลหิต และช่วยรักษาโรคโลหิตจาง ช่วยบำรุงสายตา ลดอาการตาฟาง และป้องกันโรคตาบอดในที่มืด ช่วยขับปัสสาวะได้ดี ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ช่วยบำรุงผิวพรรณกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวให้ซ่อมแซมตัวเอง และมีอนุมูลอิสระช่วยชะลอวัย สร้างภูมิคุ้มกันโรค ช่วยป้องกันเส้นเลือดแข็งตัว เส้นเลือดหัวใจตีบ และเส้นเลือดในสมองแตกได้

อัญชัน ดอกไม้สวยสีน้ำเงินม่วง ที่เรารู้จักกันดีอย่าง “อัญชัน” เป็นสมุนไพรที่มีการนำมาใช้มาแต่โบราณ ทั้งราก ใบ และดอก ล้วนมีประโยชน์ทั้งสิ้น มีสรรพคุณโดดเด่นในเรื่องการบำรุงเส้นผมให้เงางาม เพิ่มความดกดำให้คิ้ว ช่วยบำรุงสายตา บำรุงประสาท ลดความเครียด ต้านอนุมูลอิสระ รักษาอาการอาหารเป็นพิษ  รวมถึง ลดอาการฟกช้ำ นอกจากนั้น ยังมีการนำดอกอัญชันมาคั้นน้ำ ใช้เป็นส่วนผสมเพิ่มสีสันให้กับอาหารต่างๆ ทั้งคาวหวานอีกด้วย
 
               
                
                ************************
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่