ขอเล่าเหตุการณ์ก่อนนะคะ พ่อของเราเป็นผู้ป่วยติดเตียงเนื่องจากเลือดออกในสมอง ไม่ได้ล้มหรืออะไร พ่อเราทำงานหนักวันนั้นฝนตกด้วยขับมอไซร์กับบ้านตากฝนด้วยบ้านไกลและรถไม่มีไฟ และฟ้าไกล้จะมืดแล้ว พอถึงบ้านพ่อปวดฉี่มาก ฉี่เส้ดเดินเข้าบ้านพ่อบอกแม่ว่าหนาวและช้าไปครึ่งนึง และแม่ค่อยๆเอาพ่อนั่งลง สักพักพ่อเริ่มมีอาการชักเกรงและหมดสติ ระหว่างพาพ่อส่งโรงบาล แปปเดียวพ่อตื่นมีสติขึ้นมาเอง สังเกตได้ว่าขาและเเขนข้างซ้ายอ่อนแรง ลิ้นจุปาก ปากเริ่มเบี้ยว ทำการสแกนสมอง หมอบอกเลือดออกในสมอง พักอยุ่โรงบาล2เดือน ทำการเจาะคอ และได้กับมาพักอยุ่บ้าน กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง (พ่อมีโรคประจำตัวคือความดัน กินเหล้าสูบบุหรี่มาตั่งแต่เราจำความได้ จนเราอายุ21ปี)
พ่อเรามีลูก2คน มีพี่ชายคนโตอายุ24เราลูกคนเล็ก แต่พี่ชายอยุ่ร้อยเอ็ด ส่งเงินมาอย่างเดียว เรากับแม่ที่ดูแลพ่อ ส่วนมากแม่จะเป็นคนดูแลเพราะเราก็ทำงาน งานไม่ค่อยมั่นคงเพราะพ่อเข้าโรงบาลบ่อยเราก็ต้องหยุดบ่อย เลิกงานมาจะเป็นเวลาของเราที่ดูแลพ่อ เรื่องอาหารการกินเราจะเป็นคนทำำ พ่อเข้าโรงบาลเรื่องปอดติดเชื้อบ่อยมา จนล่าสุด เป็นหลายอย่าง ปอดติดเชื้อเกลือแร่และน้ำตาลในร่างกายต่ำำ สมองขาดเลือดเป็นวงกว้าง เบื้องต้นคือหลับเหมือนคนปกติแต่ปลุกไม่ตื่น หายใจ8ครั่งต่อนาที (แต่เป็นแบบนี้มา2ครั่งแล้ว) ครั่งนี้เราไม่อยากทรมานพ่ออีกแล้ว เราปรึกษากับครอบครัวแล้วว่าไม่ใส่เครื่องช่วยหายใจ ให้แต่อ๊อกซิเจน ถ้าท่านไม่ใหวก็ให้ฉีดมอร์ฟีนได้เลย เราเป็นคนลงมือเซ็นเอกสารทุกอย่าง ต่อมาหมอให้น้ำตาลในเลือดให้ยาฆ่าเชื้อยากระตุ้นความดันพ่อก็ไม่ตื่น หมอแจ้งว่าจะได้กับบ้านเขาจะเป็นเจ้าชายนิทานนอนเป็นผักอยุ่แบบนี้จนกว่าเขาจะไม่หายใจไปเอง เลยอยากไห้กับมาสิ้นใจอยุ่กับครอบครัวมากกว่า ไม่นานหมอโทรมาแจ้งอีกว่าท่านไม่ใหวแล้วหายใจเหนื่อยหอบอีกแล้ว หมอคุยเรื่องยามอฟีนกับเรา เราเลยอนุญาตให้หมอใช้ยาตัวนี้ให้เขาหลับไปอย่างไม่เจ็บไม่ปวด
หลังจากฉีดมอฟีนไม่ถึง2วันพ่อเราก็จากไปค่ะ (ทางโรงบาลไม่อนุญาตไห้ใครเฝ้านะคะ) และวันที่เราไปรับศพคือพ่อตาไม่หลับและอ้าปากกว้างมาก (เคยเห็นแต่ในหนังนะคะที่ตายตาไม่หลับ) ถึงวัดเราก็พูดไม่ไห้เขามีห่วงอะไรและลูบตาเขาก็ไม่หลับ เอานิ้วนวดที่ตาแล้วลูบอีกนึ่งครั่งก็ไม่หลับค่ะแต่มีน้ำตาติดนิ้วเรา จนพี่ชายเรามาจากร้อยเอ็ด มาจุดธูปบอกแล้ว จนถึงวันเผา สัปเหร่อเปิดโลงอีกครั่งเห็นว่าตาปิดแล้ว
(สิ่งที่เรารู้สึกผิดคือเราเป็นคนลงมือเซ็นที่ไม่ยื้อชีวิตเขา เราเป็นคนไห้หมอฉีดมอฟีนไห้เขาหลับไปโดยไม่รุ้สึกอะไร แต่ถ้าเขาอาจจะยังไม่อยากตายเหมือนเราเป็นคนฆ่าเขาเลยค่ะ)
รู้สึกผิดกับพ่อที่ตายไปแล้วเหมือนเป็นคนฆ่าเขาไห้ตาย
พ่อเรามีลูก2คน มีพี่ชายคนโตอายุ24เราลูกคนเล็ก แต่พี่ชายอยุ่ร้อยเอ็ด ส่งเงินมาอย่างเดียว เรากับแม่ที่ดูแลพ่อ ส่วนมากแม่จะเป็นคนดูแลเพราะเราก็ทำงาน งานไม่ค่อยมั่นคงเพราะพ่อเข้าโรงบาลบ่อยเราก็ต้องหยุดบ่อย เลิกงานมาจะเป็นเวลาของเราที่ดูแลพ่อ เรื่องอาหารการกินเราจะเป็นคนทำำ พ่อเข้าโรงบาลเรื่องปอดติดเชื้อบ่อยมา จนล่าสุด เป็นหลายอย่าง ปอดติดเชื้อเกลือแร่และน้ำตาลในร่างกายต่ำำ สมองขาดเลือดเป็นวงกว้าง เบื้องต้นคือหลับเหมือนคนปกติแต่ปลุกไม่ตื่น หายใจ8ครั่งต่อนาที (แต่เป็นแบบนี้มา2ครั่งแล้ว) ครั่งนี้เราไม่อยากทรมานพ่ออีกแล้ว เราปรึกษากับครอบครัวแล้วว่าไม่ใส่เครื่องช่วยหายใจ ให้แต่อ๊อกซิเจน ถ้าท่านไม่ใหวก็ให้ฉีดมอร์ฟีนได้เลย เราเป็นคนลงมือเซ็นเอกสารทุกอย่าง ต่อมาหมอให้น้ำตาลในเลือดให้ยาฆ่าเชื้อยากระตุ้นความดันพ่อก็ไม่ตื่น หมอแจ้งว่าจะได้กับบ้านเขาจะเป็นเจ้าชายนิทานนอนเป็นผักอยุ่แบบนี้จนกว่าเขาจะไม่หายใจไปเอง เลยอยากไห้กับมาสิ้นใจอยุ่กับครอบครัวมากกว่า ไม่นานหมอโทรมาแจ้งอีกว่าท่านไม่ใหวแล้วหายใจเหนื่อยหอบอีกแล้ว หมอคุยเรื่องยามอฟีนกับเรา เราเลยอนุญาตให้หมอใช้ยาตัวนี้ให้เขาหลับไปอย่างไม่เจ็บไม่ปวด
หลังจากฉีดมอฟีนไม่ถึง2วันพ่อเราก็จากไปค่ะ (ทางโรงบาลไม่อนุญาตไห้ใครเฝ้านะคะ) และวันที่เราไปรับศพคือพ่อตาไม่หลับและอ้าปากกว้างมาก (เคยเห็นแต่ในหนังนะคะที่ตายตาไม่หลับ) ถึงวัดเราก็พูดไม่ไห้เขามีห่วงอะไรและลูบตาเขาก็ไม่หลับ เอานิ้วนวดที่ตาแล้วลูบอีกนึ่งครั่งก็ไม่หลับค่ะแต่มีน้ำตาติดนิ้วเรา จนพี่ชายเรามาจากร้อยเอ็ด มาจุดธูปบอกแล้ว จนถึงวันเผา สัปเหร่อเปิดโลงอีกครั่งเห็นว่าตาปิดแล้ว
(สิ่งที่เรารู้สึกผิดคือเราเป็นคนลงมือเซ็นที่ไม่ยื้อชีวิตเขา เราเป็นคนไห้หมอฉีดมอฟีนไห้เขาหลับไปโดยไม่รุ้สึกอะไร แต่ถ้าเขาอาจจะยังไม่อยากตายเหมือนเราเป็นคนฆ่าเขาเลยค่ะ)