"คดีแตงโม" พิรุธอีก พบรอยแผลบนตัว “จ๊อบ” - “ปอ” สั่งนักข่าวให้ลบภาพทิ้ง

พิธีกรดังแฉอีก ประเด็นข้อพิรุธใหม่ “คดีแตงโม” พบรอยแผลและรอยขีดข่วนบนตัว “จ๊อบ” ขณะ “ปอ” สั่งนักข่าวให้ลบคลิปอ้างไม่อยากให้เกิดประเด็นใหม่
ความคืบหน้ากรณีนักแสดงชื่อดัง “แตงโม นิดา” พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต และเกิดประเด็นข้อสงสัยกลุ่มเพื่อนที่ไปด้วยกันวันเกิดเหตุที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีข้อพิรุธหลายประการ ทั้งกรณีการนั่งปัสสาวะขณะที่สวมชุดบอดี้สูท , กรณีเวลาการแจ้งกู้ภัย และคำให้การที่ขัดแย้งกันของคนในกลุ่ม

โดยหลังจากพูดคุยกับผู้สื่อข่าวแล้ว “จ๊อบ” ได้เดินไปบอก “ปอ ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์"  ว่านักข่าวเห็นรอยแผล  ทำให้มากดดันให้ลบคลิปดังกล่าว โดยอ้างว่าไม่อยากให้เกิดประเด็นขึ้นมาใหม่

ทำให้เกิดการตั้งคำถามในข้อพิรุธนี้เพิ่มอีก โดยส่วนใหญ่มองว่าหากไม่มีความผิดไม่จำเป็นที่จะต้องกดดันให้ทีมงานลบภาพรอยแผลดังกล่าว

ขอขอบพระคุณ
https://www.nationtv.tv/news/378865224
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ความรู้สึกตอนนี้คือ...

หลายคนในโลกโซเชียลเก่งยิ่งกว่าตำรวจ เก่งยิ่งกว่านักสืบโคนัน รู้ลึกรู้จริงอย่างกับไปอยู่บนเรือและเห็นตอนตกเรืออย่างชัดเจน วิเคราะห์เรื่องราวได้เป็นฉากๆ ราวกับอ่านบทหนังอยู่ เรื่องมันต้องเป็นแบบนี้แบบนั้นแน่ๆ ถึงคนบนเรือจะพูดบอกเล่าอะไรก็ไม่มีทางเชื่อ โกหกแน่ๆ เรื่องนี้มันต้องเป็นอย่างที่ชั้นคิดอย่างแน่นอน

ถ้าศาลไทยท่านมโนเก่ง ปานนี้คงมีคนติดคุกบานเลย หลักฐานในที่เกิดเหตุ คำบอกเล่าจากปากของพยานในที่เกิดเหตุ แทบไม่มีความสำคัญในโลกโซเชียล ทุกอย่างถูกทำให้กลายเป็นเรื่องดราม่า จากนักข่าว จากคนหิวแสง จากพวกอยากโหน จนเรื่องราวเพี้ยนไปจนหมด

ที่พิมพ์มาคืออยากให้ตั้งสติกันก่อนดีไหม คอยรับฟังสรุปจากตำรวจ จากแพทย์นิติเวช และควรรับฟังคนที่อยู่บนเรือให้มากกว่านี้ ไม่ใช่เขาพูดอะไรก็เถียง ด่า วิจารณ์ คำพูดเขาทุกคำ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าเราอยู่ตรงจุดนั้น เพื่อนตกน้ำไปกลางแม่น้ำเจ้าพระยากลางดึก เห็นว่าตกแล้วก็หายไป บอกคนในเรือว่าเพื่อนตก แล้วก็ช่วยกันขับวนหาอยู่สักพักก็ไม่เห็น จะให้เขาทำอย่างไร หลายคอมเม้นท์บอกว่า ทำไมไม่ช่วยเพื่อน คนตกน้ำต้องลอยตะเกียกตะกายอยู่สักพัก คือ...พูดเหมือนอยู่ตรงนั้น ในเวลานั้นเลย เก่งชะมัด ถ้าเป็นคุณจะกระโดดลงไปทันทีเลยไหม อยากรู้เหมือนกัน ผมฟังหลายเรื่องที่เขาตอบ อาจจะใช้คำพูดห้วนๆ กวนๆ แต่ก็พยายามเข้าใจนะ ว่าในเวลานั้นจะให้ทำอะไรก็คงทำให้ถูกใจทุกคนไม่ได้ เพราะประสบการณ์ชีวิตและการคิดแก้ปัญหา สถานการณ์เฉพาะหน้าของแต่ละคนต่างกัน พูดง่ายๆ คือเมื่อเวลาผ่านมาแล้ว จะให้ย้อนกลับไปแก้อย่างไร ตอนนี้ถึงเขาไม่ออกมาพูดอะไร แค่หายใจยังผิดเลย

ผมไม่ได้มาเถียงแทนคนบนเรือ หรือรู้จักกับคนบนเรือ แค่งงว่าทำไมหลายคอมเม้นท์ถึงวิเคราะห์เรื่องนี้ อย่างกับหนังฆาตกรรม พอเขาชี้แจงว่า เขาจะทำแบบนั้นทำไม เพราะเท่ากับทุบหม้อข้าวตัวเอง ก็ว่าเขาเห็นแก่เงิน ไม่โทรตามแม่เพราะเขาไม่สนิท ก็ว่าเขา เรื่องไปทำธุระที่ท้ายเรือ ก็มาแสดงท่าทางจำลองกันจนกลายเป็นเรื่องตลก เหมือนกับว่ารู้จริงๆ มันทำไม่ได้แน่ๆ เขาต้องอาย เขาไม่ทำแบบนั้นหรอก คือคิดแทนคนอื่นได้เลยเหรอ

ที่พิมพ์มาทั้งหมดคือแค่อยากให้ลองคิดในอีกมุมดูว่า ถ้าคนที่ตกลงไปในแม่น้ำเป็นอีกคน วันรุ่งขึ้นมีข่าว ผจก.ดาราตกน้ำหายไป ในขณะที่มีดาราอยู่บนเรือ เรื่องราวมันจะเปลี่ยนไปในทางไหน ประชาชนชาวโซเชียลจะสงสารใครมากกว่ากัน ระหว่างดาราหรือ ผจก. จะตำหนิดาราไหมว่าทำไมไม่ลงไปช่วย ไม่รอ ไม่โทรบอกแม่เขา แล้วรีบกลับบ้านทำไม โทรหาทนายทำไม เพราะใครๆก็คงกลัวที่จะเป็นส่วนหนึ่งในเหตุการณ์ที่ไม่ปกติแบบนี้ แน่นอนว่าเมื่อมีผู้เสียชีวิต ทุกคนบนเรือก็ต้องกลายเป็นผู้สงสัย ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้อาจจะพูดคุยกันอยู่ดีๆ อย่าลืมว่า แต่ละคนมีประสบการณ์ชีวิตและการตัดสินใจแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน!!

สุดท้ายคือแค่อยากบอกว่ากระแสโลกโซเชียล มันรุนแรงจริงๆ ชี้นำความคิดให้เป็นไปตามทิศทางไหนก็ได้ ใครขวางคือ ไปตายซะ แล้วสังคมมันจะดีขึ้นได้อย่างไร ถ้าความคิดต่างไม่มีที่ยืน
ความคิดเห็นที่ 14
คนที่แซะชาวเน็ตว่าคิดเป็นตุเป็นตะ ทำไมไม่มองอีกมุมนึงหละ ว่าเพราะอะไรทำไมชาวเน็ตถึงคิดแบบนั้น ทั้งที่คนที่ทำตัวให้น่าสงสัย ให้ดูมีพิรุธที่สุด คือ 5 คนที่อยู่บนเรือนั่นตางหาก ชาวเน็ตที่วิเคราะห์กันไม่มีใครรู้ดีเท่า 5 คนนั้นก็จริง แต่คุณมั่นใจได้ยังไง ว่าคนในเรือนั่นพูดความจริง ถ้าตามดูพฤติกรรมของพวกนั้น ตั้งแต่วันแรกจนถึงตอนนี้แล้วคุณบอกว่าไม่มีพิรุธอะไรเลย ก็ไม่ต่างอะไรกับการโกหกตัวเองหรอก เพราะทุกคำตอบที่ตอบออกมา แทบไม่เหมือนกันเลยสักวัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่