ฮิปโป เพื่อนสนิท-ผู้จัดการอีกคนของแตงโม แจงความจริง หลังมีคลิปกล้องวงจรปิดไปพบ กระติก ที่อู่เรือ เจอสงสัยสมรู้ร่วมคิด ยินดีให้ตร.สอบ

หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่อู่เรือ ซึ่งปรากฏภาพของ โบ สุรัตนาวี สุวิพร หรือ โบ TK (Triumphs Kingdom) นักร้องสาวยุค 90 และ ฮิปโป ฉันท์ชนะ ยิ้มสาย เพื่อนสนิทและผู้จัดการอีกคนของ แตงโม นิดา ไปพบกับ กระติก และกลุ่มเพื่อนในช่วงเวลา ตี 1 กว่าๆ วันที่ 25 ก.พ. หลังจากแตงโมตกน้ำได้ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งพนักงานสอบสวนเผยจะต้องเชิญตัวทั้งคู่มาสอบปากคำโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ ฮิปโป เพื่อนสนิทแตงโม ได้เปิดใจกับ ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ชี้แจงถึงประเด็นที่เป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในคลิปกล้องวงจรปิดที่อู่เรือ คนสงสัยว่าไปสมรู้ร่วมคิด รู้เห็นเป็นใจอะไรไหม อยากชี้แจงประเด็นนี้อย่างไร

ฮิปโป กล่าวว่า หลังจากที่ตนทราบข่าวตอน 5 ทุ่ม ตอนแรกคิดว่าเป็นเรื่องตลก เป็นเฟกนิวส์ เพราะดาราชอบโดนเฟกนิวส์บ่อยๆ ต่อมาได้รับสายจากพี่แอนนา โทรมาบอกข่าว แอนนาได้โทรหากระติกตอนช่วงห้าทุ่มครึ่ง กระติกบอกว่าโมตกน้ำจริง หลังจากที่ตนทราบก็รีบไปสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งตนออกจากบ้านตอน 23.40 น. ไปถึงสะพานพระราม 7 เกือบๆ เที่ยงคืนแต่ไม่ชัวร์เรื่องเวลา ตอนนั้นคนที่ไปถึงพร้อมกับตนคือ โม อมีนา และกลุ่มเพื่อนหลายๆ คนอยู่ด้วยกัน ก็ดูไลฟ์สดเห็นอยู่ที่โป๊ะพิบูลสงคราม1 ก็เลยตรงไปที่นั่น

พอไปถึงเราเดินหากระติกก่อนเลย เพราะเข้าใจว่าเขาน่าจะร้อนรน ต้องร้องไห้แน่ๆ เพราะเหตุการณ์ช็อก แต่ไม่เจอ จนกระทั่งน้องช่างแต่งหน้าประจำเดินมาบอกตน ว่าเงียบๆ นะ ไม่อยากให้ใครไปเยอะ ตอนนี้พี่เบิร์ดอยู่ที่อีกโป๊ะหนึ่งซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ไม่แน่ใจว่าชื่อโป๊ะอะไร แต่อยู่คนละที่กับโป๊ะอู่เรือ แล้วไปเจอพี่เบิร์ดอยู่ที่โป๊ะนั้น แต่ไม่มีพี่กระติก ก็ถามว่าพี่กระติกอยู่ไหน ตอนนั้นเบิร์ดกำลังร้องไห้อยู่บอกว่าไม่เห็นพี่กระติกเลย อยู่ไหนก็ไม่รู้

ช่วงที่ตนจะไปหาเบิร์ด ได้ส่งไลน์เข้ากรุ๊ปเพื่อจะให้ทุกคนมาโป๊ะที่พี่เบิร์ดอยู่ แล้วช่วงตี 1 กว่าๆ กระติกตอบมาว่า ตรงนั้นไม่ใช่ที่จม แล้วตนก็ถามกระติกไปว่า ตอนนี้อยู่ที่ไหน เขาตอบว่าให้กลับไปเจอกันที่บ้าน เราก็บอกจะกลับไปที่บ้านทำไม ตอนนี้อยู่กับเบิร์ด แฟนแตงโมแล้ว กระติกก็เลยโทรมาหาตน ก็ถามไปว่าเขาอยู่ไหน เขาก็ส่งโลเกชั่นมาให้อยู่ที่โป๊ะข้างๆ ก็เลยไปหาเขาที่นั่น

พอไปถึงเจอแก๊งนี้ประมาณ 4-5 คน ก็เลยถามว่าพี่กระติกอยู่ไหน สิ่งที่เขาตอบคือ คุณเป็นใคร ตนก็ตอบว่าเป็นผู้จัดการแตงโม แล้วกระติกอยู่ไหน พอเจอกระติกก็รีบวิ่งไปคุยประมาณ 5-10 นาทีก็เลยเดินออกมา เพราะไม่ได้คำตอบชัดเจนนอกจากบอกว่าโมไปฉี่ท้ายเรือแล้วพลัดตกเรือไป ตนก็ถามว่าเห็นไหมว่าตกไปยังไง เขาบอกไม่เห็นเพราะนั่งอยู่หน้าเรือ ไม่เห็นว่าเหตุการณ์มันเกิดอะไรขึ้น แต่รู้ว่าโมไปฉี่แล้วตกท้ายเรือ

ถามว่าเชื่อไหม มันก็น่าสงสัย ถามว่าดูแลกันยังไง เขาตอบว่าไม่รู้ เขาพูดแค่นี้ ตนรู้สึกเหวอ ทำยังไงดี ก็เลยเดินออกมา ตามที่เห็นในคลิป ตอนนั้นยืนงงๆ และมีข่าวเฟกนิวส์ว่าเจอแตงโมแล้ว ก็จะรีบไปดูเพราะตอนนั้นเบิร์ดไปดูที่เกิดเหตุแล้วทันที

ตนอยู่ตรงอู่ประมาณ 5-10 นาทีเอง ไม่เกิน 15 นาทีที่อยู่ตรงนั้น และไม่ได้คำตอบอะไรจากเขาเลย

ทำไมไม่พูดประเด็นไปเจอกระติกที่อู่เรือตั้งแต่แรก ฮิปโป แย้งว่า ตนพูดแล้ว ให้สัมภาษณ์กับสื่อที่ท่าเรือวัดเขมาฯ บอกว่าตอนตี1 กว่าๆ ไปเจอพี่กระติก ตนบอกกับสื่อไปแล้ว ส่วนในคลิปที่มีพี่โบ TK ตนไม่ได้เจอ ไม่รู้ว่าสวนกันไหม เพราะตนรีบไปโป๊ะพระราม 5 ต่อ

พอมีคลิปออกมา คนสงสัยทำไมตนไปอยู่กับกลุ่มคนบนเรือที่ท่าเรือ ตนยืนยันว่าได้พูดประเด็นนี้กับนักข่าวไปแล้วก่อนที่จะมีคลิปออกมา กล้องวงจรปิดมันมี ตนก็เห็นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร ไม่กังวลใจเลยว่าคนจะเข้าใจผิดว่าตนมีสมรู้ร่วมคิด สิ่งที่เกิดขึ้นตนไปหาความจริงว่า มันเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลานั้น เพราะตนต้องรู้ข้อมูลว่าโมตกน้ำยังไงตรงไหน เพราะ ณ ตอนนั้นอาจจะช่วยเหลือทัน มันคือวันแรก หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้ติดต่อกระติกอีกเลย โทรไปเขาก็ไม่รับสายเลย

ส่วนเรื่องที่ตำรวจจ่อเรียกสอบตนนั้น เรียกสอบได้เลย เพราะรอบแรกได้ให้ข้อมูลกับตำรวจแล้ว การทำงานของเราเป็นยังไง ไปให้ปากคำเรื่องเกิดเหตุยังไง เล่าไปหมดแล้ว ข้อเท็จจริงออกจากบ้านกี่โมง มาเจอกระติกตอนกี่โมง เพราะเขาบอกเองว่าอยู่ตรงนั้นที่อู่เรือ หลังจากนั้นที่เขากลับบ้านไป มารู้จากคนที่ติดต่อกระติกได้ว่าเขาอยู่บ้านแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่ได้สนใจกระติกแล้ว เพราะตนโฟกัสไปที่โมต้องหาโมให้เจอเพราะตอนตี 3 คนโทรมาบอกว่าให้ทำใจ ตนจะทำใจได้ยังไง ตนเพิ่งคุยกับโมตอน 20.27 น. คุยเรื่องงาน โมยังรับสายตนอยู่เลย วันนั้นตนรู้อยู่แล้วว่าเขาลงเรือไปกับกระติก ไปกินข้าว ในความเข้าใจตนคิดว่าไปลงเรือสำราญ ไม่คิดว่าจะเป็นเรือสปีดโบ้ต

ตนงงมากที่คนพูดว่า โมไปรับงานเอ็น ตนไม่ทราบประเด็นทั้งหมด เพราะกระติกเป็นคนถือคิวงานทั้งหมด กระติกคือ MD คนถือคิว คุยเรื่องเงิน AE คือแอนนา คือคนหางาน ส่วนตนคือ AR คนดูแลศิลปิน ดังนั้นตนต้องรับคิวจาก MD ในกรุ๊ปไลน์ ไทม์ไลน์ของโมวันนั้น โมกับกระติกจะต้องไปลงเรือกินข้าว ในเมื่อมีกระติก ตนก็ไม่จำเป็นต้องไป แบ่งหน้าที่ชัดเจนในการดูแลรายละเอียดบางอย่าง เช่นการไปกินข้าวกับเพื่อน มันคือเรื่องส่วนตัว ตนไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของโม ถ้าโมไม่สบายใจที่จะเล่าให้ฟัง ตนดูแลเรื่องงาน กับเรื่องที่โมอยากให้ตนรู้ เพราะตนเข้ามาทำงานกับโมเมื่อประมาณ ธ.ค. ปีที่แล้ว ที่เริ่มมาดูแลเขาจริงจัง แต่เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว เรื่องไปกินข้าวมันไม่ได้อยู่ในคิวงาน รู้แค่ว่าวันพฤหัสฯ โมไปกินข้าวกับกระติกแค่นั้นเอง

ขอขอบพระคุณข่าวสด