สวัสดีค่า 

สำหรับกระทู้นี้จะมารีวิวการไปเที่ยวเชียงใหม่ คนเดียวสำหรับปี 2022
ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่า เราไปเชียงใหม่มา 10 ครั้งแล้วค่ะ แต่หลังจากโควิดมา 
ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเยอะเลย 
บวกกับ เราไม่ได้เที่ยวตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021 ทริปนั้นไปภูเก็ต คนเดียว
และก็ไม่ได้นั่งเครื่องบินไปเที่ยวไหนอีกเลย เนื่องจากล็อคดาวน์และเรายังไม่ได้ฉีดวัคซีน
เพิ่งฉีดครบไปเมื่อเดือนธันวานี่เอง

พอดีเห็นโปรของบางกอกแอร์เวย์  มือก็เลยลั่นกดจองไป จึงเป็นที่มาของทริปนี้ค่ะ

สำหรับการเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ มาได้หลายแบบ
ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถทัวร์  รถไฟ เครื่องบิน
เราอยากลองรถไฟนอน แต่ไม่อยากอยู่ในพื้นที่ปิดหลายๆชั่วโมง 
ก็เลยตัดสินใจนั่งเครื่องบินมาดีกว่า บวกกับมีโปร ก็เลยกดจองไป

เริ่มออกเดินทางกันเลยค่า 

#DAY1

สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมินะคะ

สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ  สามารถดูรีวิวเราได้นะคะ เป็นแนวทาง
>> พามือใหม่ ขึ้นเครื่องบิน @สุวรรณภูมิ ภายใน 3 นาที https://www.youtube.com/watch?v=_-9Qn7u4BXs

เครื่องออกเที่ยงครึ่ง มาถึงสนามบินประมาณ 10 โมงค่ะ 
เคาท์เตอร์เช็คอินโล่งมาก



ได้บอร์ดดิ้งพาสแล้ว เข้าในเกทกันค่ะ 
ผู้โดยสารของสายการบินนี้สามารถเข้าไปใช้บริการห้องรับรอง (เลาจน์) ได้ฟรี
เพียงแค่แสดงบอร์ดดิ้งพาสกับเจ้าหน้าที่
ด้านในมีขนม เครื่องดื่ม wi-fi บริการค่ะ 

ของว่างของเรา เป็นข้าวต้มมัดกับน้ำส้มค่ะ


นั่งชาร์จแบต ทานขนมเสร็จก็ไปที่เกทขึ้นเครื่องค่ะ 
ตอนนี้อยู่บนเครื่องแล้ว  ไม่ได้นั่งเครื่องบินเกือบปีแน่ะ 
บ๊ายบาย กทม.


 
นั่งมาประมาณ ชั่วโมงนึง ก็มาถึง เชียงใหม่แล้วค่า 
ตอนลงจากเครื่อง ทางลูกเรือจะแจกเป็น snack bag ให้นะคะ
มีน้ำดื่มขวดเล็ก ขนมปัง 2 ชิ้นแล้วก็ทิชชู่ค่ะ 


เดินลงมา ถึงตรงที่รับกระเป๋า ก็สแกนQR code ลงทะเบียน 
กรอกเสร็จก็จะขึ้นหน้าจอแบบนี้


จากนั้นเดินออกมา ประตูฝั่งซ้ายมือ จะมีบริการรถเข้าเมืองค่ะ 
ที่พักของเราอยู่ ถนน นิมมานเหมินทร์ ซอย 9
เราก็แจ้งพนักงาน แล้วก็จะมีคนขับรถไปเอารถมารับเราค่ะ 
ยืนรอตรงนี้ได้เลย 
ค่ารถ 150 บาท ค่ะ จ่ายกับคนขับตอนลงจากรถค่ะ



นั่งมา 10 นาทีก็มาถึงพี่พักค่ะ 
เราพักที่ Norn Nee Nor  จองผ่านเว็บ booking.com ค่ะ
พัก 4 คืน  จ่ายโดยตัดบัตรเครดิต  ราคาอยู่ที่ 3146.40 บาท ค่ะ

ปกติไปเที่ยวเราก็พักโฮสเทล เพราะประหยัดดี 
แต่เนื่องจากโควิด การพักห้องรวมกับคนอื่น อาจจะเสี่ยงอยู่
เพื่อความสบายใจก็เลยพักห้องเดี่ยว ดีกว่าค่ะ

มาเช็คอิน เจ้าของที่พักน่ารักมาก ช่วยเหลือดี 
ห้องพักเราอยู่ชั้น 2 ค่ะ ที่นี่ไม่มีลิฟต์นะคะ และก็ไม่มีอาหารเช้าให้ 
ห้องของเราอยู่ด้านในสุด ได้ห้องฝั่งที่มองเห็นวิวภูเขา 

ห้องกว้างมาก โปร่งมากค่ะ ชอบค่ะ
อุปกรณ์ครบค่ะ มีสลิปเปอร์ แชมพู สบู่เหลว ไดร์เป่าผม ผ้าเช็ดตัว
ตู้เย็น ไม้แขวน โต๊ะนั่งทำงาน 



ที่นี่ไม่มีอาหารเช้า แต่จะมีชา กาแฟ ขนมปัง บริการ มาหยิบทานได้เลยค่ะ





เนื่องจากเราตื่นเช้า และเพลียจากการเดินทาง เลยงีบหลับไปค่ะ
ตื่นมาอีกที ห้าโมงกว่าๆ ก็เลยเดินออกไปข้างนอก

ถนน นิมมานเหมินทร์ เป็นอีกย่านนึงที่น่าสนใจ
มีคาเฟ่ ร้านอาหาร และก็ที่พักมากมายค่ะ ต้นซอยก็จะมีห้างสรรพสินค้า
ถ้าใครคิดไม่ออก ว่ามาเชียงใหม่พักแถวไหนดี 
ก็ลองให้ นิมมาน เป็นอีกตัวเลือกนึงนะคะ  เราชอบทำเลที่นี่ค่ะ สะดวกดี

เดินจาก นิมมานซอย9 มาที่ซอย 1 ตรงนี้เป็นที่ตั้งของ One Nimman ค่ะ 

เดินเลยมาจนถึงสี่แยก ก็จะเจอห้าง MAYA อยู่ตรงสี่แยกพอดี



เริ่มมืดแล้ว เราเดินขึ้นไปชั้น 5 ของห้าง ไปดูวิวค่ะ 
ด้านล่างคือ กาดรินคำ ค่ะ มีขายอาหาร เสื้อผ้า ของที่ระลึกต่างๆ 
มาช่วงเดือนนี้  ตอนค่ำๆ อากาศก็ยังเย็นๆอยู่นะคะ 


เริ่มหิวแล้ว เราก็ไปซื้อข้าวและเดินกลับที่พักค่ะ 
แวะ One Nimman ซะหน่อย วันนี้มีของขายด้วย 

 

#DAY2

วันนี้เราตื่นสายค่ะ ก็อาบน้ำและออกมาข้างนอก เราเอาโน๊ตบุคมาด้วย
ก็เลยไปกินข้าวที่ฟู้ดคอร์ท ของห้างMAYA  เรากินก๋วยเตี๋ยวค่ะ ชามละ 50 บาท
แล้วก็ขึ้นมาชั้น 5 จะมีร้าน CAMP ของ AIS 
เป็นที่ที่ให้คนมานั่งอ่านหนังสือ  มานั่งทำงานได้ มีเครื่องดื่ม และอาหารขายด้วยค่ะ 
มองจากข้างนอกดูเหมือนข้างในคนจะเยอะและเสียงดัง

แต่เข้าไปแล้วคือเงียบมาก เหมาะแก่การนั่งทำงานและอ่านหนังสือ 
เราไม่อยากนั่งในห้องแอร์นานๆ ก็เลยเลือกมานั่งข้างนอกค่ะ 

สั่งเครื่องดื่มมาด้วย ทางร้านจะให้รหัส wi-fi มาด้วยค่ะ 
ตอนนี้บ่ายสอง แต่ข้างนอกคือไม่ร้อนเลย  และวิวดีมากค่า



ทำงานเสร็จก็เดินกลับที่พักค่ะ  พักผ่อนอยู่ที่ห้อง 
แพลนวันต่อไปคือแว๊นมอเตอร์ไซค์ขึ้นดอยสุเทพ 
ก็เลยตัดสินใจไปเช่ามอเตอร์ไซค์ เย็นนี้

ร้านที่เราไปเช่าชื่อร้าน Bikky ค่ะ เดินจากที่พักไปประมาณ 500 เมตร ก็จะเจอตัวร้าน
ของเราเช่าเป็น Honda Click ค่ะ ทางร้านแนะนำว่า ขึ้นดอยได้ 

ราคา 350 บาทต่อวัน ไม่มีมัดจำ แต่ทางร้านจะขอเก็บบัตรประชาชน หรือใบขับขี่ ของเราไว้ แล้วแต่ว่าเราสะดวกให้บัตรไหน
ตอนจ่ายตังค์คุยไป คุยมา เหลือวันละ 300 เฉย  เย่ๆ
เช่าไปเวลาไหนก็คืนเวลานั้นของวันถัดไป 

เช่น มาเช่าวันนี้ 17.00 น. ก็เอารถมาคืน 17.00 น.ของวันถัดไปค่ะ
ถ้าคืนช้า อาจโดนปรับ

(เมื่อก่อน เวลามาเชียงใหม่ เราเช่าวันละ 200 บาท พอเจอ 350 แอบตกใจ 555+
แต่ก็เข้าใจว่าอะไรๆก็ไม่เหมือนเดิม )

ได้รถแล้วไปแว๊นกัน
เนื่องจากเย็นแล้ว ไปไหนได้ไม่ไกล เลยขับรถไปเดินเล่นที่ อ่างแก้ว ในมช.ค่ะ



ต้นไม้มี สแกนคิวอาร์โค้ดให้ความรู้ด้วย 



พอมืดแล้ว ก็กลับซื้อข้าวแล้วก็กลับที่พักค่ะ 

#DAY3

เมื่อคืนนอนดึก วันนี้ตื่นเกือบเที่ยง 555+
วันนี้วันพระด้วยค่ะ เหมาะแก่การไปทำบุญ วันนี้เราจะแว๊นขึ้นดอยสุเทพค่ะ 
อาบน้ำแต่งตัวออกมาบ่ายกว่าๆ 

แวะทานข้าวก่อนขึ้นดอย เรามาทานข้าวที่ ร้านห้องแถว ค่ะ 
อยู่ตรงข้าม นิมมานซอย 1

ข้าวกับไก่ผัดเม็ดมะม่วงและน้ำอัดลม  ทั้งหมดนี้ 130 บาทค่า

รีบกินรีบไปค่ะ บ่ายสองแล้ว 555+
ทางขึ้นดอยก็ ออกจากนิมมาน เลี้ยวซ้าย ตรงมาเรื่อยๆเลยค่ะ 

ตรงไปเรื่อยๆจนผ่านหน้า มช. แล้วก็ผ่านหน้าสวนสัตว์เชียงใหม่ 
ตรงจุดนี้จะมีคิวรถแดง ขึ้นดอยสุเทพด้วยนะคะ 


ขับตรงขึ้นมาตามทางเลยค่ะ  ยิ่งสูงยิ่งหนาวค่ะ
พอขึ้นมาเรื่อยๆ อากาศเย็น สดชื่นมากๆเลยค่ะ 

ขับมาเรื่อยๆจะเจอจุดพักชมวิว  
อ่ะ! พักดูวิวซะหน่อย 

มีของขายด้วย




วิวจากจุดชมวิวค่ะ  ตอนเรามาถึงมีฝรั่ง 3 คน 
แล้วเค้าก็ไปที่อื่นต่อค่ะ ตอนนี้มีเราที่เป็นนักท่องเที่ยว ชมวิวอยู่คนเดียว



ชมวิวเสร็จแล้วไปกันต่อค่ะ  จะบ่ายสามแล้ว
เรายังไม่ถึงวัดเลยค่ะ คุณผู้โช้มมมม 5555+

ไปต่อค่า !!



จากจุดชมวิว ขึ้นมาบนดอยใช้เวลาไม่นานค่ะ
ทางคดเคี้ยว  ขับระมัดระวังด้วยนะคะ

เราไม่ได้ขับมอเตอร์ไซค์มาเป็นปี  ก็ยังพอขับได้อยู่ค่ะ
การมาเชียงใหม่และเช่ามอเตอร์ไซค์ขับ  เราว่าสะดวกดีค่ะ

ขับมาถึงแล้วค่า
จอดรถไว้ตรงนี้ 


แล้วเราก็เดินขึ้นไปด้านบนกันค่ะ 
เราเดินได้ 20 ขั้นก็หอบแล้วค่ะ 555+

ค่อยๆเดินขึ้นไปค่ะ เหนื่อยก็พัก 



วันนี้วันพระ นึกว่าคนจะเยอะ แต่ไม่เยอะเลยค่ะ
หรืออาจจะมากันตั้งแต่เช้าแล้วก็เป็นได้ 

พระธาตุดอยสุเทพค่ะ 



ทำบุญขอพรเสร็จ ก็มาดูวิวด้านหลัง 
ไม่มีคนเลยค่ะ มีแค่เราคนเดียว  อากาศเย็นสบาย ชิวมากๆเลยค่ะ 
จากจุดนี้ จะมองเห็นรันเวย์ของสนามบินเชียงใหม่ และ อ่างแก้ว มช. ค่ะ



จากนั้นก็ขับรถกลับลงมาค่ะ ยังไม่อยากกลับที่พัก  เลยมานั่งเล่นที่อ่างแก้วค่ะ 
จริงๆแล้วเราอยากไปวัดดอยคำด้วย แต่ตื่นสายทำให้วันนี้เก็บไม่ครบ
ก็เลยตัดสินใจ เช่ามอเตอร์ไซค์ต่อ อีก 1 วันค่ะ

ร้านปิด 18.00 รีบกลับไปที่ร้านไปจ่ายตังค์เช่ารถเพิ่ม อีก 1 วันค่ะ (300 บาท)
ตอนเย็นก็ซื้อข้าวกลับไปกินที่ห้องค่ะ 



#DAY4 

วันนี้รีบตื่น จะได้ออกไปวัดพระธาตุดอยคำ เนื่องจากวัดนี้เราไม่เคยไปเลย 
ก็เลยไม่รู้ทาง  ก่อนออกจากห้อง พยายามดู google map แล้ว 
จากแยกสนามบินเชียงใหม่ ให้ขับตรงไป

แต่ไม่รู้อะไรดลใจเราให้เรา "เลี้ยวซ้าย" 5555+ (เลี้ยวเพื่อ!!)
ก็คือ เราออกนอกเมืองไปอีกฝั่งนึง  เรารู้สึกแปลกๆ (น่าจะหลงแล้วแหละ555)
ก็เลยจอดมอเตอร์ไซค์ถามทาง 

คนเชียงใหม่ น่ารักมาก ใจดี บอกทางละเอียดมาก

"น้องมาผิดทาง" เค้าพูดว่างี้ 5555 

ก็เลยได้ไปวนรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำปิง  รถเยอะมาก และถนนกว้างมากกก
เราต้องรอด!! 

สุดท้ายขับมาเจอแยกสนามบินอีกทีนึง แล้วก็เลี้ยวซ้ายตรงไปเรื่อยๆ 
เราเห็นโลตัสอยู่ไกลๆ เลยไม่ชัวร์ 

จอดรถถามอีก ฮ่าๆๆ โอย จะถึงมั้ยเนี่ย 
ดูจากในกูเกิ้ล คือตัววัดห่างจากในเมืองแค่ 10 กม.เอง แต่เรามัวหลงทางอยู่

ไปถามแล้วได้ความว่า เจอไฟแดงตรงโลตัสอย่าเพิ่งเลี้ยว
ให้ตรงไปอีกจะเจอบิ๊กซี  ให้เลี้ยวขวาตรงแยกบิ๊กซี

เราก็ขับมาตามที่เค้าบอก  พอเลี้ยวขวามาแล้ว ขับตรงมาเรื่อยๆ
เราเห็นวัดอยู่ไกลๆบนเขาแล้ว 
แต่ไม่รู้ไปทางไหน เพราะข้างหน้าเป็นสามแยก

ก็เลยจอดรถอีก ถามทางคุณลุงขายน้ำ
คุณลุงใจดี บอกให้เลี้ยวซ้าย ตรงไปเรื่อยๆจะเจอยูเทิร์น 
จะมีป้ายบอกทางไปวัด  ให้ขับตามป้ายไป

เราก็เชื่อคุณลุง ขับตามที่คุณลุงบอก 
ไม่ผิดหวัง มีป้ายบอกทางไปวัดตลอดทางค่ะ คุณผู้ชม 

เจอวัดแล้วค่ะ ใกล้ถึงแล้ว 



ขับมาตามทางก็จะเจอป้าย


แต่ทางขึ้นค่อนข้างชันมาก และคดเคี้ยว (ดูจากรีวิวทางขึ้น ในยูทูป) เราก็กลัวรถล้ม 555
แต่ให้เดินขึ้นบันไดไป น่าจะเหนื่อย
ก็เลยตัดสินใจขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปค่ะ (เลี้ยวซ้ายตามทางไปเลยค่า)

สำหรับคนที่จะเดิน บันไดทางขึ้นอยู่ตรงนี้นะคะ