[CR] ขึ้นดอยไปหาดอกพญาเสือโคร่ง ขึ้นม่อนไปหาทะเลหมอก

เริ่มปีมาได้เข้าเดือนที่ 3 ของปีกันแล้ว เพื่อนชาวพันทิป ได้เดินทางเที่ยวที่ไหนกันแล้วบ้างน้า ส่วนเราได้ไปไกลๆ ที่เดียว ที่เหลืออยู่รอบ กรุงเทพ และ ยังคงทำงานที่บ้านอย่างดุเดือด วันนี้เราจะพาไปชมดอกพญาเสือโคร่ง ขุนช่างเคี่ยน กับ ไปชมทะเลหมอกที่ม่อนแจ่มกันค่ะ 

ทริปนี้เราขับรถจาก ปทุมธานี ยิงยาว เช้ายันเย็น ไปจังหวัดเชียงใหม่ เราเดินทางช่วงกลางเดือนมกราคม และอากาศเย็นพอสมควรค่ะ พักบ้านคุณแม่สามีก่อนเลยคืนแรก ที่อำเภอสารภี

เช้าวันใหม่ทริปเราก็เริ่มค่ะ ออกจากอำเภอสารภี ประมาณ 7 โมงกว่าๆ แล้วไปแบบใจเย็นๆ เพื่อนำรถไปจอดบนดอยสุเทพ อากาศค่อนข้างเย็นไม่ถึง 20 องศาอันนี้คืออากาศตีนบนดอยสุเทพนะคะ ไปจอดลานจอดรถ ก็จะมีคนขับรถสองแถวมาถามแหละว่าจะไปไหน เราก็บอกจะไป ขุนช่างเคี่ยน ต่อรองราคากันได้ ไปกลับคนละ 300 บาท (3 คน 900 บาท ชำระหลังจากลงมาถึงที่จอดอย่างปลอดภัย) จากการหาข้อมูลจริงๆ เราขับรถไปเองได้นะคะ ทางไม่ชันมาก แต่...ทางดิน และ แคบมากก วันที่เราจะไปคือ คืนก่อนหน้าฝนเท กระหน่ำด้วย และเราไม่อยากเสี่ยงเอารถไปเอง เลยตัดสินใจไปรถสองแถว ที่เค้าชำนาญการขับดีกว่า 
ไปค่ะ ออกเดินทางกันน  ปีนขึ้นหลังรถสองแถวก็วิ่งฉิวไปเลย รถจะวิ่งขึ้นดอยไปเรื่อยๆ ผ่าน พระตำหนักภูพิงค์ และบ้านม้งดอยปุย และ ปลายทางคือ ขุนช่างเคี่ยน จริงๆ เราจะขอให้พี่พลขับ จอดแวะเที่ยวตามจุดได้นะคะ ตามจุด แต่เราเคยไปมาแล้วทั้งสองที่เราเลยขอผ่าน ยิงยาวไปหาดอกไม้ของเรากันดีกว่าเพราะ ตอนนี้ก็ 10 โมงแล้วเริ่มสาย และเรากลัวจะอากาศไม่หนาว ใช้เวลาเดินทางจาก ลานจอดดอยสุเทพไปถึงขุนช่างเคี่ยน ประมาณ 25-45 นาทีได้ค่ะ แล้วแต่ว่าจะเจอรถสวน หลบรถ หรือ เจออุบัติเหตุระหว่างไหม ถามว่าเราเจอไหม เราเจอครบเลยจ้า 

เส้นทางจากดอยสุเทพไป พระตำหนักภูพิงค์ และบ้านม้งดอย ราดยางสบายๆ และเล็กลงเรื่อยๆ ตามความสูงที่เราขึ้นไปค่ะ เช่นกันอากาศหนาวขึ้นเรื่อยๆ น่าจะ 10 กลางๆ แต่เมื่อผ่าน ดอยปุยไปแล้วจะกลายเป็นถนนดิน และที่เราได้บอกไปแล้วว่าคืนก่อนหน้าที่เรามาฝนเทกระหน่ำมาก ตามคาดคือถนนเละ และ ลื่นมาก มีรถตกข้างทางเพราะมีการขุดเพื่อทำอะไรซักอย่าง (ฝั่งติดเขา) ทำให้รถสวนกันค่อนข้างลำบาก และถนนบางจุดคือแคบมากๆๆ ต้องจอดให้รถอีกฝั่งไปก่อน การเดินไปทาง ถ้าขับไปเองรถเล็ดสะดวกมาค่ะ เครื่อง 1200 ก็ไปได้ และ คนขับควรมีน้ำใจ หลบให้กันค่ะ และ ฝั่งนั่งควรเปิดหน้าต่าง ช่วยคนขับดูด้วยนะคะ เพราะริมทางพลาดมาตกคู ตกเขากันเลย แต่คนขับรถเราชิวๆ เส้นทางก็ประมาณนี้  

บางจุดก็ชัน และ ลื่นก็จะ ก็จะเจอรถที่ไต่ขึ้นไม่ได้ ไหลลง เช่นกะบะที่ใส่ยางบางๆ มา ทริกก็คือนั่งให้หนักๆ เข้าไว้ค่ะ (คนขับสองแถวบอกมา) แต่เราเห็นรถเก๋งแจ๊สขึ้นได้สบายเลย ระหว่างที่รอรถไต่ขึ้นมาไม่ได้ เราต้องรอเพื่อสวนทางลงไป คนขับเราก็ลงไปช่วยแนะนำรถคันนั้นอยู่ และบอกให้เราเดินไปถ่ายรูปเล่นเพราะตรงนี้เป็นอุโมงค์ดอกไม้ของดอกพญาเสือโคร่ง ใครมีโอกาสมา ให้คนขับจอดและลงมาเดินถ่ายก็สวยและได้อีกบรรยากาศค่ะ ส่วนคนขับเรานั้นก็ไปเก็บดอกแคร์แถวๆ นั้นรอเรา บอกจะเอาไปแกงกิน ชิวๆ แหละ นี้คือตรงที่เราลงไปถ่ายรูป 

และหลังจากผ่านพ้นอุปสรรค์มากมายเราก็มาถึงแล้ว คนขับก็ปล่อยเราเดินตามสบายค่ะ จะนานแค่ไหนก็แล้วแต่เรา เค้าก็ไปหาที่จอดรอ และนี้คือบรรยากาศบนขุนช่างเคี่ยน อากาศหนาวมากค่ะ ขนาดเรามาถึงจะ 11 โมงแล้ว ประมาณ 10 ต้นๆ เราใส่ขาสั้นมาเรียกว่าตอนนั่งรถคือหนาวตัวสั่นเลยทีเดียว

มีของขาย น้ำมันก็มีนะ ถ้าใครน้ำมันหมด ใครขับมอไซค์แข็งๆ การใช้มอไซค์ขึ้นมาเป็นสิ่งที่สะดวกมากอยู่ ระยะทางไม่ไกลมาก

หลังจากเราชมดอกไม้จนหนำใจ ช้อปปิ้งจนเงินหมดแล้ว และก็เที่ยงแล้วด้วยเราก็เริ่มหิว และ อากาศก็ยังเย็นมากอยู่ค่ะ ก็เดินไปหาพี่สองแถว บอกว่าไปจอดหน้าวัดเพราะ เรากะจะไปไหว้พระธาตุก่อน ไปม่อนแจ่มกันค่ะ ขาลงไว๊ไว แต่ก็รอจอดรถสวนหลายรอบ อาจจะเพราะจะบ่ายแล้ว รถขึ้นมาจึงลดลง มีแต่รถกลับลงไปเป็นส่วนใหญ่ค่ะ เลยทำให้ขากลับมาไวมากก (อาจจะคิดไปเอง) 
และแล้วเราก็ลงมาถึงอย่างปลอดภัย เราก็เลยจ่ายค่ารถให้พี่พลขับของเราไป 1,000 บาท แบบไม่ต้องทอน เพราะเส้นทางเราว่าโหดจริง และ ราคานี้ก็คือไม่แพงแล้วให้เราไปเองเราคงน้ำตาไหลเพราะเครียด ไปค่ะ หาอะไรกิน แล้วไปไหว้พระ เดินชมบรรยากาศตัวเมืองเชียงใหม่กันค่ะ 

หลังจากไหว้พระเรียบร้อย ก็ออกเดินาทงไปม่อนแจ่มกัน เราพักที่ ม่อนเหนือโฮมสเตย์ ที่พักให้เข้า check in ได้ตอนบ่ายสาม เรามาถึงบ่ายสามพอดี มาเป็นคันแรกๆ เลย ตอนแรกกะไว้ว่าจะมา check in แล้วค่อยออกไปสวนดอกไม้ แต่ปรากฎว่า พอลงมาที่พัก (ทางลงมาที่พัก) ทำให้เราไม่อยากออกไปไหนละ เพราะทางค่อนข้างชัน 
ตอนแรกเราจองแบบโดมไว้ค่ะ และเพิ่มคนพักจาก 2 เป็น 3 แต่พอเราเข้าที่พักโดม กลิ่นน้ำหอมปรับอากาศแรงมา คาดว่าคงฉีดเพื่อลดกลิ่นอับ (เพราะไม่มีแอร์) ไม่ต้องมีก็ได้อากาศหนาวมากอยู่ค่ะ เราเลยไปขอเปลี่ยน โชคดีที่วันที่เราไปพักคือวันจันทร์ ยังมีห้องว่างเป็นแบบเป็นบ้านเป็นหลัง เราเลยเพิ่มเงินและขอย้าย เปลี่ยนห้องได้เรียบร้อย ก็ไปเดินดูบรรยากาศรอบที่พักและนี้คือบรรยากาศช่วงบ่ายๆ คล้อยเย็นๆ และฝนตกปลอยๆ จ้า หนาวเลยทีเดียว

เราสั่งหมูกะทะกับทางที่พักไว้ ราคา 490 ช่วงหมูแพงมากพอดี แต่ก่อนเข้ามาที่พักเราซื้อไส้กรอก เต้าหูปลา และ อื่น ใน 7-11 มาเตรียมไว้แล้ว รวมทั้งขนมปัง และ ผลไม้จากขุนช่างเคี่ยนก่อนหน้านี้ และนี้คือหน้าตาหมูกะทะของเรา กินเสร็จก็ไปเดินย่อยอีกรอบ กลับมาอาบน้ำ พักผ่อน

เช้าวันใหม่แล้วเราลุ้นว่าจะเจอทะเลหมอกตอนเช้าเพราะเมื่อวานฝนตก และใช่เราเจอค่ะ นี้คือบรรยากาศทะเลหมด 1 ชม. ทุกคนที่ตื่นทันก็วิ่งลงมาถ่ายรูปกันค่ะ หลังจากเก็บบรรยากาศแล้ว เราเดินไปรับอาหารเช้าที่หน้า lobby แล้วเอามากลับมากินที่ห้องค่ะ (แค่ช่วง covid) ปกติจะมีที่ให้นั่งกิน มีข้าวต้มปลา ขนมปัง กาแฟ ไมโล 


กินอิ่ม เก็บของเสร็จ ออกจากที่พักประมาณ 9 โมง คนแรกๆ เลย เพื่อไปสวนส้มไร่ยอดดอย ตอนไปถึงยังไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ ซักพักก็ทยอยกันมาค่ะ ค่าเข้าคนละ 60 บาท เก็บส้มกิโลละ 80 บาท แต่เราไปซื้อจากที่เค้าเก็บไว้แล้วค่ะ กิโลละ 40 บาท หลังจากเดินชมพักนึง ก็กลับกันค่ะ แวะสวนสตอเบอร์รี่ซื้อของฝากกันนิดหน่อย ปิดทริปด้วยสวนสตอเบอร์รี่ม่อนแจ่มค่ะ 

ใครไปเที่ยวไหนก็มาแบ่งปันกันนะคะ
ชื่อสินค้า:   ขุนช่างเคี่ยน, ม่อนแจ่ม, ดอกพญาเสือโคร่ง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่