ที่บ้านคือเซฟโซนจริงๆหรอ

เมื่อก่อนเราคิดว่าบ้านคือเซฟโซนของเรา อยู่ที่บ้านเเล้วรู้สึกสบายใจ รู้สึกปลอดภัย เเต่มีครั้งนึงเพื่อนในกลุ่มคุยกันว่าถ้าขึ้นมหาลัยจะอยู่หอกันอยากออกจากบ้าน เเล้วเพื่อนก็ถามเราว่าจะอยู่หอไหม เราก็บอกว่าเราอยากเข้ามหาลัยเเถวบ้านจะได้ไปกลับได้ เพื่อนดูเเปลกใจกลับคำตอบของเราเเล้วถามเราว่าที่บ้านคือเซฟโซนที่ดีจริงๆหรอตอนนั้นเราก็บอกว่าอยู่ที่บ้านสบายใจกว่า

พอเวลาผ่านไปเราก็กลับมาคิดกับตัวเอง ว่าจริงๆเเล้วที่เราคิดว่าบ้านคือเซฟโซนที่ดีเราอาจจะคิดไปเองก็ได้ เวลาอยู่ที่บ้านเราค่อนข้างเป็นคนพูดเก่งเราชอบพูดคุยกับพ่อ เเต่ว่าเวลาพ่อเราทำอะไรผิดเขามักไม่ขอโทษ เเถมยังด่าเราซ้ำว่าเราเป็นคนผิด

เราจะเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เราพอนึกได้

      เหตุการณ์เเรกเกิดขึ้นเมื่อกี้เลยเรานั่งกินหมูย่างกับที่บ้านอยู่ พ่อก็จะเป็นคนที่ให้คนอื่นกินให้อิ่มก่อน เเล้วตัวเองกินทีหลัง เราเห็นเราเลยอยากให้พ่อกินบ้างเราเลยบอกเขาว่าไม่เป็นไรไม่ต้องครีบให้เรา เรายังไม่หิวกินก่อนเลยเราก็เลยเอาจานตัวเองมาไว้ที่ขาเเต่พ่อก็ครีบหมูมาให้ เเล้วทำหลุดมือใส่ขาเราก่อนจะถึงจาน เรารีบปัดออกเพราะมันร้อนมากขาเราเเดงขึ้นเพราะมันร้อน เราเลยรีบเอาเเก้วน้ำที่มีน้ำเเข็งมาประคบ เเต่พ่อเรากลับโมโหเเล้วขึ้นเสียงใส่เราว่าเราเรื่องมากให้กินก็ไม่ยอมกิน เเล้วก็ด่าเราใหญ่เลยว่าเราก้าวร้าว ตอนนั้นเรางงมากว่าเราก้าวร้าวยังไงเราเเค่เป็นห่วงอยากให้พ่อกินบ้าง เเต่ตอนนั้นเราก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะเรารู้ว่าพ่อเป็นคนที่ถ้าเรายิ่งอธิบายเหตุผลของเราเขาจะหาว่าเราเถียงเราเลยเลือกที่จะเงียบ ตอนนั้นเราไม่ได้คาดหวังให้เขาขอโทษหรืออะไร เเค่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องด่าเรา ยอมรับเลยว่าตอนนั้นน้ำตาคลอเเต่เราพยายามฮึบไว้เพราะเราไม่อยากให้เขาเห็นว่าเราอ่อนเเอ เลยออกมาจากตรงนั้นกลับมาร้องที่ห้อง คือเราไม่ได้อยากร้องให้นะ เเต่มันออกมาเอง

        เหตุการณ์ที่2ตอนนั้นเรานั่งเรียนออนไลน์อยู่ ตอนนั้นครูกำลังบอกเเนวข้อสอบเราเลยตั้งใจจดตามครูมาก ตอนนั้นพ่อทำน้ำพริกน้ำปลาเเล้วเอามาอวดเรา ตอนเเรกเอาไว้เเถวจมูกเราเเล้วก็คนๆเราก็ไม่อะไร สักพักเขาเลื่อนขึ้นมาที่เเถวๆตาเราให้เรามองเเล้วคนๆเหมือนเดิมเเต่ครั้งนี้มันกระเด็นเข้าตาเรา เราเเสบมาก เพราะทั้งพริกทั้งมะนาวเลยเราเลยบอกพ่อว่าเข้าตาเราเเล้วขอชิทชู่หน่อย อยู่ๆเขาก็โมโหเเล้วก็ขึ้นเสียงด่าว่าเราสำออย ทำไรไม่ได้เรื่องเลยเเล้วเขาก็เดินกลับเข้าไปในครัวทิ่งเราไว้ตรงนั้นเราเลยต้องคลำๆกำเเพงเดินไปล้างตาที่ห้องน้ำเอง ตอนนั้นสงสารตัวเองมากเเละยังงงว่าทำอะไรผิด

        เหตุการ์ณต่อมาบางคนอาจจะสงสัยว่างั้นถ้าเป็นเเม่หละ กับเเม่เราไม่ค่อยสนิทเพราะเวลาไม่ค่อยตรงกันเราไม่ค่อยได้คุยกันเเต่ก็มีเหตุการณ์อยู่ ตอนนั้นเราทะเลาะกับพ่อเรื่องอะไรไม่รู้ ไม่ใช่สิน่าจะใช้คำว่าทะเลาะไม่ได้เพราะปกติถ้าพ่อด่าเราเลยก็จะเงียบทันทีเพราะไม่อยากทะเลาะกับพ่อ ต้องเป็นพ่อโมโหอะไรเราไม่รู้ เเล้วตอนนั้นเราซักผ้าอยู่หลังบ้านกับเเม่ พ่อด่าๆเราเเล้วก็ออกนอกบ้านไป
ตอนนั้นเราฮึบไม่ไหวจริงๆน้ำตาเลยไหลตรงนั้นต่อหน้าเเม่เลย (เราเป็นพวกร้องไห้เงียบ ถ้ามีเสียงก็จะมีเเค่เสียงซู้ดน้ำมูก)เอาจริงๆเราไม่ได้ต้องการให้เขาโอ๋เราเลยนะเราเเค่ฮึบไม่ไหวเลยปล่อยตรงนั้น เเต่เเม่ก็พูดขึ้นมาว่าน่ารำคาญไปร้องไกลๆเลย ได้ยินเเล้วหงุดหงิด เรานี่ยืนสตั้นไปเลย....

      เเละจะขอเล่าเหตุการ์นี้เป็นเหตุการณ์สุดท้าย ตอนนั้นเราขี่รถไปทำงานพิเศษเเล้วเราเกิดล้ม ตอนล้มภาพในหัวเราเเวบขึ้นมาเลยว่าโดนด่าเเน่ เเต่ตอนนั้นมันก็มึนๆหัวเพราะหัวกระเเทก เเต่เราห่วงรถมากเลยรีบมาดูรถก่อนเลยว่าเป็นไรไหม คนที่มาช่วยตอนนั้นตกใจมากที่เรารีบลุก เขาบอกให้เรานั่งลง ตอนนั้นไม่ได้หาวงตัวเองเลย ห่วงเเต่รถเราเลยเข็นรถไปหลบข้างทาง เเล้วล็อกคอเรียบร้อย เพราะกลัวรถหาย เขาให้เราโทรหาพ่อเเม่เเต่ว่าไม่มีใครรับโทรศัพท์เลย คนที่มาช่วยเขาก็บอกว่าจะไปส่งโรงบาลให้เเต่ว่าตอนนั้นเราลืมดูสภาพตัวเองเราเลยบอกว่าไม่เป็นไรจะกับบ้านจะไปบอกพ่อกับเเม่ว่ารถจอดอยู่ไหนเ55555น่าขำไหมห่วงรถก่อนห่วงตัวเองอีกเรา พอกลับถึงบ้านเจอหน้ากับปุ๊บพ่อเราด่าเปิงเลย จนคนที่มาช่วยหน้าเสีย( เราจำหน้าน้าที่มาช่วยไม่ได้เเละยังไม่ทันได้ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆนะคะที่ช่วยหนู เเละต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้น้าต้องมาเจอสถานการณ์เเบบนี้ )พอเราเข้าบ้านมา พ่อกับเเม่ก็ด่าเราว่าไม่ระวังเเละอีกเยอะเเยะมากมายเเละคำถามเเรกที่ได้มาจากพ่อกับเเม่คือรถอยู่ไหน เขาขอกุญเเจจากเราเเล้วออกจากบ้านไปเลย ตอนนั้นเราก็นั่งคิดกลับตัวเองไปพักนึงเเล้วรู้สึกเจ็บที่เเผลเลยก้มมองตัวเอง ตอนนั้นสภาพเรามันไม่ไหวจริงๆนะ (ตอนพิมพ์คือน้ำตาไหลอีกเเล้ว)สภาพเราตอนนั้นคือเสื้อเราเปื้อนเลือดตามขากางเกงเเขนเสื้อ มีเลือดหยดจากข้อเท้าเราเป็นทางตั้งเเต่หน้าบ้านยันโซฟาที่เรานั่ง เเขนขาเราถลอกหมด ปากเราเเตกฟันเราบิ่นเพราะขูดกับถนน(เราใส่หมวกคกันน็อคเเบบมีกระจกครึ่งใบ)ตอนนั้นก็คิดไว้ก่อนเเล้ใเเหละว่าเรข่เป็นห่วงรถ เเต่ไม่คิดว่าสภาพเราเป็นขนาดนี้เขายังไม่ถามเราสักคำว่าเราเจ็บไหม

ขอจบไว้เเค่นี้ก่อนตอนนี้หมอนเปียกไปหมดเเล้ว เราขอพท.นี้เป็นที่ระบาย เเละขอบคุณจากใจจริงๆที่มาอ่านขอคุณที่ให้เรามาระบายครส.นะ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่