ถามว่า เราควรเข้าไปยุ่งไหม? แล้วจะเป็นเพื่อนกันต่อได้ไหม?

สวัสดีค่ะ  เราอยากจะมาถามหน่อยค่ะ ว่าควรไปยุ่งไหม? แล้วจะเป็นเพื่อนกับทั้งสองคนนี้ต่อไปดีไหม? 

ก่อนหน้านี้อ่ะ เรามีแฟนเก่าอยู่คนหนึ่ง ตอนนั้นเรารักคนนี้มาก แต่ตอนนี้ตัดใจได้แล้ว เป็นแค่เพื่อนกันค่ะ เรียกว่า เพราะทำงานอยู่ที่เดียวกัน เลยเลี่ยงกันไม่ค่อยได้ ตัดสินใจจะเป็นเพื่อนกันน่ะค่ะ ตอนเป็นแฟนกันก็เลื่อนจากเพื่อนร่วมงานมาเป็นแฟน แล้วตอนนี้เรายังไม่มีแฟน หรือใครที่กุ๊กกิ๊กกันอยู่เลย แต่เขาอ่ะ มีแฟนแล้ว แล้วกำลังจะแต่งงานด้วย

เรื่องมันมีอยู่ว่า เขาก็แจกการ์ดงานแต่งให้เพื่อนๆในบริษัท เราก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย หลังจากนั้นเราก็ไปตามมารยาทของคนที่ได้รับการ์ดเชิญอ่ะค่ะ หลังจากพิธีเสร็จแล้วก็กินเลี้ยงกันปกติ เจ้าบ่าว-เจ้าสาวก็เดินไปตามโต๊ะต่างๆ พูดคุยกับแขก จนมาถึงโต๊ะที่เรานั่งอยู่ เราก็พูดคุยกันปกติ พูดคำยินดีกับเขา คือคิดว่าเจ้าสาวเขาคงก็ไม่รู้ว่าเราเป็นแฟนเก่าเจ้าบ่าวของเขา ก็เลยพูดกับเราขึ้นว่า "คุณคงเป็นเพื่อนกับสามีฉันมานานแล้วใช่มั้ยคะ เห็นมีรูปอยู่ที่บ้านด้วย ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ฝากตัวด้วยค่ะ"  อะไรทำนองนี้(บทไม่ได้เป๊ะนะคะ)  จากคำนั้นอ่ะ ด้วยความที่เพื่อนที่อยู่ร่วมโต๊ะก็มาจากบริษัทด้วย ทุกคนก็รู้เรื่องที่เราเป็นแฟนเก่ากับเจ้าบ่าวของเขาอ่ะค่ะ ก็เลยแบบ เหมือนจะนั่งเงียบกันไปหมดเลย แล้วก็ช่วยพากันเปลี่ยนเรื่องคุย วันถัดมา เพราะโควิดแฟนเก่าเราเลยมาทำงานปกติ ไม่มีฮันนีมูนหลังจากนั้นอ่ะค่ะ คนในบริษัทเขาก็รู้เรื่องที่แฟนเก่าเรามีรูปเราในบ้าน ก็พากันซุบซิบกัน ว่ายังกุ๊กกิ๊กกันอยู่ยังไม่เลิกกันจริงๆ พวกเราก็ไม่ได้ใส่ใจ แล้วก็ทำตัวปกติค่ะ เหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น ส่วนนึงเพื่อให้คนอื่นรู้ว่าไม่ใช่เรื่องจริงด้วย

หลังจากงานแต่ง ก็มีงานขึ้นบ้านใหม่ ในตอนนั้นอ่ะค่ะ เราก็ได้ไปเหมือนกัน แล้วเหมือนว่าภรรยาแฟนเก่าเขาจะรู้ความสัมพันธ์ของเรากับสามีเขาแล้ว วันนั้นก็เอาแต่จ้องเรา ไม่คุย เอาแต่จ้อง เราอึดอัดทนไม่ไหว เลยออกมาจากงาน แล้วกลับบ้านเลย

หลังจากนั้นอ่ะ เหมือนว่าภรรยาแฟนเก่าเราจะมารับมาส่งตลอด เห็นเราก็เอาแต่จ้อง เหมือนกลัวเราจะแย่งสามีเขาอ่ะค่ะ คือเราอึดอัดมาก เขาทำแบบนี้มาได้ครึ่งเดือนแล้วอ่ะค่ะ เราเลยหลบหน้าแฟนเก่าเรา นอกจากเรื่องงานที่จำเป็นจริงๆก็จะไม่ไปยุ่งเลย เหมือนเขาจะสังเกตด้วย ก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วก็เข้าหาเราแค่เรื่องงานเหมือนที่เราทำ เหมือนจะรู้ด้วยว่าเราอึดอัด เลยพูดกับเราว่า "ภรรยาผมไม่ได้คิดอะไรหรอก เขาคงอยากจะเป็นเพื่อนกับคุณ" เราก็สบายใจขึ้น แต่ก็งงว่าภรรยาเขาจะใจกว้างขนาดที่อยากเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าสามีได้จริงๆหรอ แต่เราก็พยายามคิดในแง่ดีว่าก็คงจะใช่ตามที่เขาพูดแหละ มาวันนึง เราไปเจอภรรยาเขาโดยบังเอิญอ่ะค่ะ ภรรยาเขาก็เดินมาชวนเราคุยอะไรตามปกติ หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้อึดอัดกันแล้ว เป็นเพื่อนกันได้จริงๆค่ะ

หลังจากเป็นเพื่อนกัน ช่วงหลังๆเขาก็พยายามถามอ่ะค่ะ ว่าสามีเขาจะชอบแบบนั้น แบบนี้รึเปล่า เราเจอถามเรื่องแบบแฟนเก่าเราชอบนั้นชอบนี้แบบนี้บ่อยๆ จนเราก็บอกเขาไปว่าไม่ชอบ ตอบกลับเขาว่าเขาเป็นสามีเธอทำไมเธอถึงไม่ตัดสิ้นใจเอง เขาก็เงียบแล้วก็ไม่คุยกับเราอีกหลังจากตอนนั้น
เราบังเอิญเจอเขาอีกครั้งในอีกสัปดาห์ เราก็ไปทักเขา แล้วขอโทษ เขาก็ตอบมาว่าจะขอโทษทำไม เป็นเขาก็คงไม่ชอบถ้าถามเรื่องของแฟนเก่า เราก็คิดว่าน่าจะเคลียร์กันได้แล้ว เราเลยขอตัวไปทำงาน แล้วเขาก็ไม่มีเรื่องคุยกับเราอีกนอกจากว่ามีปัญหาเรื่องความรักอะไรจะปรึกษาเรา

วันนึงเราได้เจอคนที่เราชอบ แล้วคนนี้ดันมีชื่อเล่น ชื่อจริงเหมือนกับแฟนเก่าเรา แล้วเรามารู้ที่หลัง ก็คิดว่าเหมือนกันแค่ชื่อเล่น จริงๆก็ไม่ได้ติดขัดอะไร แต่มีครั้งนึงเราคุยโทรศัพท์กับเขา เรียกชื่อเขาตอนอยู่ที่บริษัท มีคนมาได้ยินเอาไปซุบซิบกัน ภรรยาแฟนเก่าเราก็มารับแฟนเก่าเราปกติ แล้วเผลอไปได้ยินเข้า นึกว่าเรากลับมาคุยกับสามีเขา คือสามีเขาก็บอกแล้วว่าไม่ใช่ เราก็ยืนยันว่าไม่ใช่ด้วย ปรับความเข้าใจกัน เราเล่าเรื่องนี้ให้ฟังว่าแฟนเราแค่ชื่อเหมือนสามีเธอ ไรงี้ เขาไม่เชื่อใจเรา และเพราะครั้งนั้นทำให้ บ้านของแฟนเก่าเราทะเลาะกันหนักมาก โดยมีต้นเหตุมาจากเรื่องที่แฟนเราชื่อเหมือนแฟนเก่า โยงต่อไปในหลายๆเรื่อง เอาเรื่องอื่นขุดมาทะเลาะกันเองอ่ะค่ะ


นั้นแหละค่ะ ย้อนคำถามเลยว่าเราควรเข้าไปยุ่งกับพวกเขาที่ทะเลาะกันไหม เพราะเราก็คิดว่าต้นเหตุมันมาจากเรา และเรื่องอื่นๆที่ขุดมาทะเลาะก็มีเรื่องของเราด้วย เช่นเรื่องที่เป็นเพื่อนกับแฟนเก่า เรื่องที่เก็บรูปแฟนเก่าไว้ในบ้าน  แล้วเราจะเป็นเพื่อนกับสามี-ภรรยาคู่นี้ดีไหม ในมุมของทุกคนคิดว่าเป็นยังไงคะ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่