มาทำความรู้จัก LDNN กับ Biet Hai หน่วยรบพิเศษแห่งกองทัพเรือเวียดนามใต้แบบง่ายๆคร่าวๆกันเต๊อะ

กระทู้สนทนา
หากใครที่ศึกษาด้านการทหารในช่วงสมัยสงครามเวียดนาม (Vietnam War) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อคือสงครามอินโดจีนครั้งที่ 2 (Second Indochina War) ในส่วนของกองทัพบกสาธารณรัฐเวียดนาม (Army of the Republic of Vietnam : ARVN) หรือกองทัพบกเวียดนามใต้ หลายๆคนมักจะคุ้นกับชื่อหน่วยรบชั้นยอดของพวกเขาไม่ว่าจะเป็น ARVN Special Forces (LLDB ชื่อตัวย่อในภาษาเวียดนาม) กับ ARVN Rangers (Biệt Động Quân ชื่อในภาษาเวียดนาม) แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่ากองทัพเรือสาธารณรัฐเวียดนาม (Republic of Vietnam Navy : RVNN) หรือกองทัพเรือเวียดนามใต้มีหน่วยรบพิเศษเป็นของตัวเองไม่ต่างจากกองทัพบก แม้ว่าหลายๆปฏิบัติการจะไม่ค่อยประสบผลสำเร็จมากนัก แต่ก็สร้างความก่อกวนและความเสียหายให้กับทางฝ่ายเวียดนามเหนือกับเวียดกงไปมากพอควร และหน่วยรบพิเศษกองทัพเรือเวียดนามใต้ที่ว่านี้เปรียบได้ดังหน่วยซีลเลยก็ว่าได้

1.การจัดตั้ง Lien Doi Nguoi Nhai (LDNN)?
ในปีค.ศ.1960 (พ.ศ.2503) กองทัพเรือเวียดนามใต้ได้มีแผนการก่อตั้งหน่วยนักทำลายใต้น้ำ (Underwater Demolition Team : UDT) ขึ้นมาเพื่อเพื่อใช้ในการป้องกันดูแลเรือ สะพาน ท่อส่งต่างๆ และอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับด้านยุทธศาสตร์ทางทะเล ซึ่งในเวลาต่อมาทางกองทัพเรือเวียดนามใต้ก็ได้จัดส่งทหารเรือจำนวน 8 นาย อันประกอบไปด้วย นายทหารชั้นสัญญาบัตร 1 นาย กับ นายทหารชั้นประทวน 7 นาย เดินทางไปฝึกหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำที่สาธารณรัฐจีน (Republic of China : ROC) หรือไต้หวันนั่นเอง หลังจากที่นายทหารเรือทั้ง 8 นาย ฝึกจบสำเร็จหลักสูตรแล้วกลับมานั้น ทางกองทัพเรือก็ได้ให้ทำการฝึกให้กับสมาชิกกองทัพเรืออีกจำนวนหนึ่งให้พร้อมสำหรับการใช้ในการปฏิบัติการทางทหาร และในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1961 (พ.ศ.2504) ทางกองทัพเรือได้ทำการก่อตั้งหน่วย Lien Doi Nguoi Nhai (LDNN) หรือเรียกกันว่าหน่วยมนุษย์กบ (Frogman unit) ขึ้นมาโดยมีจำนวนสมาชิกด้วยกันทั้งหมด 48 นาย รับผิดชอบ 4 ภารกิจ อันประกอบด้วย 
-การกู้เรือ (Ship Salvage)
-การรื้อถอนทำลายสิ่งกีดขวางทางน้ำ (Underwater demolition)
-ต่อต้านการก่อวินาศกรรม (Counter-sabotage) ให้กับท่อส่งทรัพยากรต่างๆทางน้ำ
-ปฏิบัติการพิเศษสะเทินน้ำสะเทินบก (Amphibious Special Operation)

2.การจัดตั้ง Biet Hai?
ในปีเดียวกันนั้นเองเป็นระยะเวลาไม่นานนักหลังการก่อตั้ง LDNN ทางกองทัพเรือก็ได้มีการก่อตั้งหน่วยที่สองขึ้นมาเพื่อให้ครอบคลุมปฏิบัติการมากขึ้น ซึ่งหน่วยที่ว่านี้ก็คือ Biet Hai หรือถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะเขียนออกมาได้ว่า Special Sea Force (SSF) แปลเป็นไทยได้ว่า หน่วยรบพิเศษทางทะเล โดยหน่วยรบพิเศษนี้มิใช่มีสถานะเป็นทหาร แต่มีสถานะเป็นกองกำลังกึ่งทหาร (Paramilitary) รับผิดชอบภารกิจปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบกในพื้นที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม (Democratic Republic of Vietnam : DRV) หรือที่คุ้นกันในชื่อเวียดนามเหนือ

ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1962 (พ.ศ.2505) หน่วยซีลของกองทัพเรือสหรัฐ (United States Navy SEALs) อันประกอบด้วยซีลทีม 1 (SEAL Team 1) กับ ซีลทีม 2 (SEAL Team 2) ได้เข้ามาสู่เวียดนามใต้ ในช่วงนั้นมีสมาชิกหน่วยซีล 5 นาย ได้เสนอโครงการจัดทีมฝึกอบรมเคลื่อนที่ (Mobile Training Team : MTT) เพื่อฝึกให้กับกำลังพลทัพเรือเวียดนามใต้ ซึ่งพวกเขาได้จัดตั้งหลักสูตร 6 เดือนขึ้นมาเองสำหรับฝึก Biet Hai รุ่นแรก ตัวหลักสูตรที่ทาง MTT จัดให้มานั้นประกอบไปด้วย
-การส่งทางอากาศ (Airborne)
-การลาดตระเวน (Reconnaissance) รูปแบบต่างๆที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการทางบกกับทางน้ำ
-สงครามกองโจร (Guerrilla warfare)
ซึ่งตัวของ Biet Hai ไม่เคยได้รับการฝึกเช่นนี้มาก่อนเลย และในเดือนตุลาคมปีเดียวกันก็มีผู้ผ่านการฝึกหลักสูตรได้ทั้งสิ้น 62 นาย

3.การมาอยู่ด้วยกันของ 2 หน่วยรบพิเศษ?
ในปีค.ศ.1964 (พ.ศ.2507) หน่วย LDNN ประสบความสำเร็จในการก่อวินาศกรรมทางน้ำให้กับเวียดกง โดยการจมเรือสำเภาไป 6 ลำ และได้เข้าร่วมปฏิบัติการ34A (Operation 34A หรือชื่อเต็มๆคือ Operational Plan 34A (OPLAN 34-Alpha)) อันเป็นปฏิบัติการลับร่วมกับทางสหรัฐ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายกดดันทางฝ่ายเวียดนามเหนือด้วยวิธีการ 2 อย่างด้วยกันคือ
-การลาดตระเวนทางอากาศ (Aerial reconnaissance)
-ปฏิบัติการก่อวินาศกรรมทางทะเล (Naval sabotage operations)

ทว่าตัวของ LDNN ก็ประสบความล้มเหลวอยู่หลายครั้ง นอกจากนี้ก็ยังมีการยกเลิกภารกิจทำลายสะพานถึง 2 ครั้งด้วยกัน ทำให้ในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน ทางกองทัพเรือเวียดนามใต้จึงตัดสินใจให้โอน LDNN ไปอยู่กับ Biet Hai ที่ดานัง (Da Nang) เพื่อให้สองหน่วยนี้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในกรณีนี้คล้ายคลึงกับของทางสหรัฐที่เคยมี UDT ทำงานร่วมกับ Navy SEALs (ในช่วงสงครามเวียดนามหน่วย UDT ของสหรัฐยังไม่ถูกยุบ) และแล้วผลงานของ LDNN กับ Biet Hai ก็เริ่มปรากฏในปีนั้น
-วันที่ 27 พฤษภาคม สามารถยึดเรือสำเภาข้าศึกได้
-วันที่ 30 มิถุนายน สามารถแทรกซึมเข้าสู่หาดชายฝั่งของเวียดนามเหนือ และสามารถทำลายโรงปั๊มน้ำได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยชีวิตของ LDNN 2 นาย ปืนไร้แรงสะท้อน 57 มม.ถูกยึด ขณะที่ฝ่ายเวียดนามเหนือเสียไป 22 นาย

4.ยกระดับเป็น Navy SEALs และการรวมสายบังคับบัญชา?
แต่เดิมนั้น LDNN เปรียบได้ดัง UDT ส่วน Biet Hai เปรียบได้ดัง Navy SEALs หลังการก่อตั้งมาในปีค.ศ.1961 ในที่สุดช่วงค.ศ.1965 (พ.ศ.2508) หน่วย LDNN ก็ถูกยกระดับขึ้นให้กลายเป็น Navy SEALs แห่งกองทัพเรือสาธารณรัฐเวียดนาม แน่นอนว่าย่อมมีสมาชิกรุ่นใหม่เข้ามา ซึ่งสมาชิกรุ่นใหม่นี้มีจำนวน 60 นาย ที่อาสาเข้ามาฝึก แต่ผ่านหลักสูตรไม่ถึงครึ่งของจำนวนที่เข้ามา แล้วพวกรุ่นที่ 2 นี้เองก็ได้รับการฝึกหลักสูตรปรับปรุงใหม่เข้มข้นขึ้นเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 4 เดือน ในห้วงของการฝึกนี้มีช่วงสัปดาห์นรก (Hell week) ด้วย พวกเขาต้องเผชิญกับบททดสอบทรหด อันประกอบไปด้วย
-แบกเรือยาง 34 กิโลเมตร
-พายเรือยาง 184 กิโลเมตร
-วิ่ง 120 กิโลเมตร
-ว่ายน้ำ 16 กิโลเมตร
ในช่วงการฝึกหลักสูตรนักเรียนจะได้รับการฝึกฝนในเรื่องของการกู้ยานยกพลขึ้นบกที่จม, อากาศยานที่จม อีกด้วย

หลังจากที่ LDNN ถูกยกระดับให้เป็น Navy SEALs แล้ว พวกเขาก็ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจปฏิบัติการพิเศษสะเทินน้ำสะเทินบกในเขตเวียดนามใต้กับปฏิบัติการต่อต้านเวียดนามเหนือ+เวียดกงทางน้ำ

ต่อมาทางกองทัพเรือได้ให้ LDNN, Biet Hai และ Hai Tuan (หน่วยเรือสนับสนุน) รวมกันขึ้นสายการบังคับบัญชาของหน่วยรักษาความมั่นคงชายฝั่ง Coastal Security Service (CSS) (ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ.1964 (พ.ศ.2507) กองบัญชาการตั้งอยู่ที่ดานัง) หรือที่รู้จักกันในชื่อ CS5 โดยหย่วยนี้มีผลงานขึ้นชื่อในเรื่องของการก่อวินาศกรรมทางน้ำและปฏิบัติการพิเศษ

5.หน่วยแยกย่อยของ LDNN?
LDNN นั้นถือว่าเป็นหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือเวียดนามใต้ที่มีผลงานค่อนข้างเยอะ จึงเป็นที่ต้องการของหลายๆฝ่าย ซึ่งตัวของ LDNN ก็ตอบสนองด้วยการส่งทีมไปให้กับหน่วยงานที่ต้องการ อันประกอบไปด้วย
-ทีมที่ไปอยู่กับกองทัพบกใช้โค้ดเนมว่า Nimbus
-ทีมที่ไปอยู่กับกองทัพเรือใช้โค้ดเนมว่า Vega
-ทีมที่ไปอยู่กับหน่วยรักษาความมั่นคงชายฝั่งใช้โค้ดเนมว่า Cumulus
ทุกปฏิบัติการนั้นจะมีสมาชิก MTT คอยเป็นที่ปรึกษาให้เสมอ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ยุทธวิธีตามรูปแบบหน่วยซีลสหรัฐตามที่ฝึกกันมาทุกกระเบียดนิ้ว และในช่วงปลายปีค.ศ.1966 (พ.ศ.2509) ก็ได้มีการส่งสมาชิก LDNN ขึ้นมาเพิ่มเติม โดยทำการส่งไปฝึกที่ประเทศฟิลิปปินส์โดยหน่วยซีลของทางสหรัฐ

ในปีค.ศ.1967 (พ.ศ.2510) ก็มีการเปิดหลักสูตรสำหรับรุ่นที่ 3 มีอาสาสมัครเข้ารับการคัดเลือกถึง 400 นาย ในหลักสูตรสำหรับรุ่นที่ 3 นี้ ถือว่าเป็นการใช้หลักสูตรใหม่ที่กินระยะเวลายาวนานถึง 1 ปีเต็ม และมีคนสำเร็จจบหลักสูตรเพียงแค่ 24 นาย และได้มีการคัดเลือกแยกเป็นทีมซีลขึ้นมาใหม่เรียกว่า Hai Kich หรือถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะเขียนออกมาได้ว่า Special Sea Unit (SSU) แล้วให้ประจำการอยู่ใน LDNN อีกทีหนึ่ง

สรุปหน่วยซีลของ LDNN มีทั้งหมดอยู่ด้วยกัน 4 ทีม ได้แก่
-Nimbus อยู่กับทบ.เวียดนามใต้
-Vega อยู่กับทร.เวียดนามใต้
-Cumulus อยู่กับหน่วยรักษาความมั่นคงชายฝั่งเวียดนามใต้
-Hai Kich อยู่กับ LDNN

6.การขยายของตัวหน่วยและการปิดฉาก LDNN?
ในปีค.ศ.1971 (พ.ศ.2514) โครงสร้างของ LDNN เรียกได้ว่ามีครบครันทั้ง
-หน่วยทำลายใต้น้ำ
-หน่วยซีล
-หน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด
-หน่วยเรือสนับสนุน
จำนวนหน่วยซีลของ LDNN มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 12 หมวด แต่ละหมวดมี 18 นาย เป็นทีมปฏิบัติการ ในปลายปีค.ศ.1972 (พ.ศ.2515) MTT ได้ถอนตัวออกไปจากเวียดนามใต้ ตอนนั้นมีซีลของ LDNN อยู่ 200 นาย ในจำนวน 200 นายนี้มีอยู่ 21 นายที่ถูกส่งไปเรียนหลักสูตรส่งทางอากาศ (Airborne Course) ที่สหรัฐ

ในปีค.ศ.1973 (พ.ศ.2516) มีการทำข้อตกลงสันติภาพปารีส (Paris Peace Accords) กันขึ้น ทำให้หน่วย CSS ถูกยุบไป ส่วน LDNN ก็ย้ายไปฐานทัพใหม่ที่ไซง่อน จนกระทั่งในปีค.ศ.1974 (พ.ศ.2517) ได้เกิดยุทธการหมู่เกาะพาราเซล (Battle of the Paracel Islands) ในวันที่ 17 มกราคม ทางฝ่ายสาธารณรัฐประชาชนจีน (People's Republic of China : PRC) ได้ส่งนาวิกโยธิน (People's Liberation Army Marine Corps : PLAMC) กับ ทหารอาสาทางทะเล (People's Armed Forces Maritime Militia : PAFMM) เข้ามาในพื้นที่หมู่เกาะ ทำให้ทางเวียดนามใต้ต้องส่งหน่วยซีล 30 นายแทรกซึมขึ้นเกาะเพื่อปฏิบัติการผลักดันกองทัพจีนออกไป ทว่าเมื่อไปแล้วกลับไม่พบกองกำลังใดๆของทางฝ่ายจีน เนื่องจากพวกเขาได้ถอนกองกำลังออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว แต่แล้วในอีก 2 วันต่อมาในวันที่ 19 มกราคม กองทัพเรือจีนก็ได้ส่งกำลังเรือปืนและนาวิกโยธินเข้าโจมตีบนเกาะส่งให้หน่วยซีลเสียชีวิต 2 นาย อีก 28 นายถูกจับเป็นเชลย และได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง

ในปีค.ศ.1975 (พ.ศ.2518) อันเป็นปีแห่งการปิดฉากม่านสงครามเวียดนาม หน่วยซีลจำนวน 50 นาย ถูกส่งไปที่แนวรบลอง อัน (Long An front) เข้าร่วมรวมกำลังกับกองพลทหาราบที่ 22 (22nd Division (South Vietnam)) เพื่อป้องกันการรุกเข้ามาของทางฝ่ายเวียดนามเหนือ ส่วนสมาชิก LDNN ที่ไม่ได้ถูกส่งออกไปรบก็ได้ทำการรวบรวมสมาชิกทั้งหมดที่ยังเหลืออยู่ในหน่วย รวมไปถึงนักเรียนที่เข้ารับการฝึกพาขึ้นเรือหนีออกจากไซ่ง่อนในวันที่ 29 เมษายน เพียงแค่ก่อนวันเดียวที่ไซ่ง่อนจะถูกตีแตก และได้รับการช่วยเหลือจากกองเรือที่ 7 ของสหรัฐ (United States Seventh Fleet) ในน่านน้ำสากล เป็นการปิดฉากหน่วยซีลแห่งเวียดนามใต้

หากใครที่ยังสับสนหรือกำลังศึกษาเกี่ยวกับ LDNN กับ Biet Hai เราหวังว่าการสรุปข้อมูลแบบคร่าวๆไม่ลงรายละเอียดเจาะลึกมากนี้จะทำให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น และสุดท้ายนี้หากผิดพลาดข้อมูลประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

แหล่งอ้างอิง
-TOP GUN Military Magazine May 2013 ฉบับที่ 180
-หนังสือเนวี่ ซีล นักรบสามมิติ น้ำ ฟ้า ฝั่ง โดย TOP GUN TEAM สำนักพิมพ์ Animate Group
-หนังสือปฏิบัติการลับหน่วยซีลในสงครามเวียดนาม โดย OLD SOLDIERS NEVER DIES สำนักพิมพ์ Animate Group
-https://sogsite.com/coastal-security-service/
-https://www.globalsecurity.org/military/world/vietnam/rvn-css.htm
-https://en.wikipedia.org/wiki/Operation_34A
-https://en.wikipedia.org/wiki/Paris_Peace_Accords
-https://en.wikipedia.org/wiki/Battle_of_the_Paracel_Islands
-https://en.wikipedia.org/wiki/People%27s_Armed_Forces_Maritime_Militia
-https://en.wikipedia.org/wiki/Fall_of_Saigon
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่