สืบเนื่องมาจากเราทำงาน Freelance รับเขียนโปรแกรมผ่าน web freelance แห่งหนึ่ง
ส่วนมากถ้าเป็นบริษัทมาจ้าง ก็จะจ่ายโดยหัก ณ ที่จ่าย 3% มีบางที่ส่งใบเสร็จมาให้ บางที่ไม่ส่ง
เพราะในเว็บจะเช็คเงินเข้าออกได้อยู่แล้ว ก็ไม่ได้ขอไว้ทุกบริษัท
โดยโปรแกรมที่รับทำ จะเป็นโปรแกรมเกี่ยวกับการจัดการร้านค้า โกดัง รถรับส่งหรือบริษัทต่างๆ
เช่นโปรแกรมจัดการสินค้าคงคลัง โปรแกรมจัดการเกี่ยวกับโลจิสติคส์ โปรแกรมควบคุมวางแผนการผลิต
โปรแกรมบัญชี โปรแกรมจ่ายเงินเดือนพนักงาน เป็นต้น
ต่อมาเราได้เปิดบริษัททำเกี่ยวกับเครื่องจักรอัตโนมัติต่างๆ
โดยมีรับทำโปรแกรมที่เกี่ยวกับเครื่องจักรนั้นๆ อีกด้วย
เช่น โปรแกรม PLC โปรแกรมควบคุมกล้องตรวจจับชิ้นงาน
โปรแกรมควบคุมเซนเซอร์ต่างๆ โปรแกรมหุ่นยนต์ เป็นต้น
ที่ผ่านมาก็มีรายได้สองทางแบบนี้
ในส่วนของบริษัทเองได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้เรียบร้อย
แต่งานของบริษัทเพิ่งเริ่มต้น รายได้ต่อปีไม่ถึงล้าน
โดยในปีนี้มีการขอภาษีมูลค่าเพิ่มคืน 200 กว่าบาท
ที่ผ่านมาจ้างบริษัททำบัญชี สำหรับดูแลเรื่องจ่ายภาษีอยู่แล้ว
แต่ปีนี้สรรพากร สอบถามเพิ่มเติม
โดยอ้างว่ารายได้ของบริษัทและรายได้บุคคลของเรามาจากคนว่าจ้างคนเดียวกัน
แต่ไม่บอกว่าเป็นบริษัทอะไร หรือจากใคร
โดยบริษัททำบัญชีของเรา บอกว่าเราไม่มีสิทธิ์ของข้อมูลเพิ่มจากสรรพากรได้
ได้มาแต่ตัวเลข และให้เราไปหาหลักฐานที่มาว่ารับมาจากใคร
เราก็เช็คให้ได้ในส่วนของรายได้บริษัท
ซึ่งมีหลักฐานทุกอย่าง
แต่ในส่วนของรายได้บุคคล เรามีหลักฐานหัก ณ ที่จ่าย 3% ไม่ครบ
เราก็ยืนยันไปว่า เราไม่เคยรับรายได้โดยที่จากบริษัทเดียวกัน มีรับทั้งแบบเสีย Vat และไม่เสีย Vat
โดยรายการที่เสีย Vat ทั้งหมด เราส่งไปให้แล้ว
ยังคงเหลือรายการที่ไม่เสีย Vat ซึ่งเป็นงานในส่วนของ Freelance
ซึ่งเรามีหลักฐานไม่ครบ
อยากสอบถามว่า
1) สรรพากรแจ้งเรามาแบบนี้ เราไม่มีสิทธิ์ขอข้อมูลเพิ่มเติมจากสรรพากรเหรอคะ
เพราะเค้าแจ้งผ่านทางบัญชีมาเป็น จำนวนรายรับเป็นเดือน (ส่วนบุคคล)
บางรายการเราก็จำไม่ได้
2) สรรพากรจะปรับเราเป็นเงิน 12000 บาท สามารถทำได้หรือไม่
เรามีรายได้บริษัทต่อปีไม่ถึง 1.8 ล้าน และค่าปรับส่วนนี้มันดูมากเกินไปมั๊ยคะ
กับเงินที่เราขอคืน 200 กว่าบาท
3) เมื่อเปิดบริษัทแล้ว เราทำงานมีรายรับสองทางไม่ได้เหรอคะ งานที่เคยทำ Freelance
ก็ต้องมารับค่าจ้างเป็นในนามบริษัทด้วยเหรอคะ ทั้งๆ ที่มันงานคนละแบบกัน
ขอบคุณค่ะ
สรรพากร สงสัยว่าบริษัทเราต้องการหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถทำอย่างไรได้บ้างคะ
ส่วนมากถ้าเป็นบริษัทมาจ้าง ก็จะจ่ายโดยหัก ณ ที่จ่าย 3% มีบางที่ส่งใบเสร็จมาให้ บางที่ไม่ส่ง
เพราะในเว็บจะเช็คเงินเข้าออกได้อยู่แล้ว ก็ไม่ได้ขอไว้ทุกบริษัท
โดยโปรแกรมที่รับทำ จะเป็นโปรแกรมเกี่ยวกับการจัดการร้านค้า โกดัง รถรับส่งหรือบริษัทต่างๆ
เช่นโปรแกรมจัดการสินค้าคงคลัง โปรแกรมจัดการเกี่ยวกับโลจิสติคส์ โปรแกรมควบคุมวางแผนการผลิต
โปรแกรมบัญชี โปรแกรมจ่ายเงินเดือนพนักงาน เป็นต้น
ต่อมาเราได้เปิดบริษัททำเกี่ยวกับเครื่องจักรอัตโนมัติต่างๆ
โดยมีรับทำโปรแกรมที่เกี่ยวกับเครื่องจักรนั้นๆ อีกด้วย
เช่น โปรแกรม PLC โปรแกรมควบคุมกล้องตรวจจับชิ้นงาน
โปรแกรมควบคุมเซนเซอร์ต่างๆ โปรแกรมหุ่นยนต์ เป็นต้น
ที่ผ่านมาก็มีรายได้สองทางแบบนี้
ในส่วนของบริษัทเองได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้เรียบร้อย
แต่งานของบริษัทเพิ่งเริ่มต้น รายได้ต่อปีไม่ถึงล้าน
โดยในปีนี้มีการขอภาษีมูลค่าเพิ่มคืน 200 กว่าบาท
ที่ผ่านมาจ้างบริษัททำบัญชี สำหรับดูแลเรื่องจ่ายภาษีอยู่แล้ว
แต่ปีนี้สรรพากร สอบถามเพิ่มเติม
โดยอ้างว่ารายได้ของบริษัทและรายได้บุคคลของเรามาจากคนว่าจ้างคนเดียวกัน
แต่ไม่บอกว่าเป็นบริษัทอะไร หรือจากใคร
โดยบริษัททำบัญชีของเรา บอกว่าเราไม่มีสิทธิ์ของข้อมูลเพิ่มจากสรรพากรได้
ได้มาแต่ตัวเลข และให้เราไปหาหลักฐานที่มาว่ารับมาจากใคร
เราก็เช็คให้ได้ในส่วนของรายได้บริษัท
ซึ่งมีหลักฐานทุกอย่าง
แต่ในส่วนของรายได้บุคคล เรามีหลักฐานหัก ณ ที่จ่าย 3% ไม่ครบ
เราก็ยืนยันไปว่า เราไม่เคยรับรายได้โดยที่จากบริษัทเดียวกัน มีรับทั้งแบบเสีย Vat และไม่เสีย Vat
โดยรายการที่เสีย Vat ทั้งหมด เราส่งไปให้แล้ว
ยังคงเหลือรายการที่ไม่เสีย Vat ซึ่งเป็นงานในส่วนของ Freelance
ซึ่งเรามีหลักฐานไม่ครบ
อยากสอบถามว่า
1) สรรพากรแจ้งเรามาแบบนี้ เราไม่มีสิทธิ์ขอข้อมูลเพิ่มเติมจากสรรพากรเหรอคะ
เพราะเค้าแจ้งผ่านทางบัญชีมาเป็น จำนวนรายรับเป็นเดือน (ส่วนบุคคล)
บางรายการเราก็จำไม่ได้
2) สรรพากรจะปรับเราเป็นเงิน 12000 บาท สามารถทำได้หรือไม่
เรามีรายได้บริษัทต่อปีไม่ถึง 1.8 ล้าน และค่าปรับส่วนนี้มันดูมากเกินไปมั๊ยคะ
กับเงินที่เราขอคืน 200 กว่าบาท
3) เมื่อเปิดบริษัทแล้ว เราทำงานมีรายรับสองทางไม่ได้เหรอคะ งานที่เคยทำ Freelance
ก็ต้องมารับค่าจ้างเป็นในนามบริษัทด้วยเหรอคะ ทั้งๆ ที่มันงานคนละแบบกัน
ขอบคุณค่ะ