ค.ศ.1882
สมาคมวิจัยพลังจิต ม.เคมบริดจ์ อังกฤษ
ก่อตั้ง โดยนักวิชาการเคมบริดจ์กลุ่มหนึ่ง เพื่อศึกษาและเข้าใจ สิ่งเหนือธรรมชาติอย่างมีเหตุผล เช่น
มารี กูว์รี และปิแอร์ กูว์รี
ชาร์ลส์ ริเชต์
เซอร์อาเธอร์ โคนัน ดอยล์
มาร์ค ทเวน
วิลเลี่ยม เจมส์
คนเหล่านี้สนใจพลังจิตเป็นพิเศษ การปรากฏตัวของภูติผี การสื่อสารผ่านคนทรง และพยายามทดลองตามหลักการวิทยศาสตร์ เพื่อหาขั้นตอนและผลลัพท์ ตามสมุติฐานว่า
จิตสำนึกยังมีขีวิตอยู่ทั้งที่ร่างกายตายไปแล้ว
นี้คือสมมุติฐานตั้งต้นที่ฝรั่งทำวิจัยบันทึกข้อมูลต่อเนื่องกว่าร้อยปีจนถึงปัจจุบัน
ด้วยความร่วมมือจากคนทรง เป็นสื่อกลางในการทดลอง
เพื่อต้องการนำพลังจิต วิญญาณมาแปลงเป็นพลังงาน ในรูปวัตถุ
ค.ศ.1920
สถาบันอภิปรัชญาระหว่างประเทศ ปารีส ฝรั่งเศส (international institute of metaphysics)
ทดลองแม่พิมพ์มือเด็ก จากร่างวิญญาณสำเร็จ โดยคนทรง ฟราเนค คลูสกี(franek kluski)หรือ มือของครูส ซึ่งเป็นคนทรงชื่อดังแห่งยุค ทำการทดลองโดย นักวิทย์ รางวัลโนเบล และคนดัง
ชาร์ลส์ ริเชต์
กุสตาฟ เจอเลย์ ผอ.สถาบันอภิปรัชญา
คามีล ฟลามายอง
เคานต์ เดอ กรามงต์
ของจริงจะกลวงใน ที่เหลือตัน จึงยังมีข้อถกเถียงในการทดลองครั้งนั้น ว่าอาจมีตุกติก
พิมพ์มือเด็กยังเก็บรักษาที่สถาบันจนถึงปัจจุบัน
mit school of science journalism ร่วมทดลองคนทรงกับสมาคมวิจัยพลังจิตเคมบริดจ์
ค.ศ.1980
มหาวิทยาลัย เวอร์จิเนีย
ดร.เอียน สตีเวนสัน ผู้ก่อตั้ง แผนกการศึกษาการรับรู้ เพื่อศึกษาเรื่องเหนือธรรมชาติ การกลับชาติมาเกิด พบตัวอย่างมากแถบอินเดีย เอเชียใต้
สถานอบรมคนทรง ฮอลแลนด์
โรงเรียนสอนคนทรง หรือคนที่มีสัมผัสพิเศษ ให้สามารถพัฒนาความสามารถที่มีอยู่เพิ่มขึ้นได้อีก และได้พบปะคนมีสัมผัสเหมือนกัน จนไม่รู้สึกแปลกแยกเป็นตัวประหลาด ในสังคมเข้ารีต
ประเภทคนทรง แบ่งได้สองชนิด
คนทรงรับรู้ด้วยประสาทสัมผัส
พบมากที่สุด มีความน่าเชื่อถือมากสุด จากการทดลองซ้ำไปมากับกลุ่มตัวอย่างจำนวนมาก
คนทรงจะเป็นล่ามให้ผี แล้วแปลให้คนฟัง ไม่สามารถให้ผีมาเข้าทรง สิงสู่ได้
หากมีการเขียนอักษร วาดภาพ คนทรงจะไม่เข้าใจความหมาย มีเพียงคนฟังที่จะรู้คำตอบในภายหลัง
คนทรงชนิดนี้มีข้อจำกัดในการสื่อสารกับผี และแปลสู่คน ถ้ารู้ไปหมดแบบบอกบทคงจะปลอม
คนทรงปล่อยพลังได้ เช่น ปล่อยของ(เอสโตปลาสซึม) ยกวัตถุให้ลอยขึ้น ทำผีให้เป็นกายหยาบ จนสัมผัสวัตถุได้
ส่วนใหญ่ปลอมทั้งสิ้น จับไต๋ได้ขณะทดลองตามเงื่อนไขที่กำหนด
มีน้อยคนมากที่ผ่านการทดลอง หนึ่งในนั้นคือคนทรงฟลาเนส ครูสกี ที่สถาบันอภิปรัญาระหว่างประเทศ ฝรั่งเศส จึงสรุปได้ว่า การนำวิญญาณมาแปลงเป็นพลังงานโดยผ่านคนทรง เป็นเรื่องยุ่งยาก มีข้อจำกัดมาก และพลังงานที่ได้ไม่แน่นอน
ฝรั่งทำการเก็บข้อมูลต่อเนื่อง และตามหาคนทรงที่น่าเชื่อถือ แล้วนำมาทดลอง ยังไม่ปรากฏคนทรงที่มีคุณภาพมากกว่าที่คนทรงทดลองเมื่อร้อยปีก่อน
และคนธรรมดาที่ไม่มีประสาทสัมผัสพิเศษ ยากจะฝึกฝนให้สัมผัสได้
คยทรงไม่ต้องสั่นเป็นเจ้าเข้า ลุยไฟ แทงของมีคม ตัดลิ้น ไต่บันไดมีด ก็สื่อสารกับผีได้ทันที และไม่สามารถต่อรอง แก้กรรมใดๆ
เพราะคนที่มาหาคนทรงต้องการให้ติดต่อกับคนในครอบครัวที่ตายไป ซึ่งยังวนเวียนอยู่กับคนในครอบครัวไม่ไปผุดไปเกิด
แฟ้มข้อมูลการทดลองเก็บรักษาอย่างดีในหอสมุด แม้ไม่สรุปว่ามีจริง แต่ไม่ปฏิเสธการมีอยู่
การกลับชาติมาเกิด
ดร.เอียน สตีเวนสัน ได้เก็บข้อมูลต่อเนื่องมากว่า30ปี และส่งต่องานให้นักวิจัยท่านอื่นทำวิจัยต่อไป
ดร.เอียนตั้งสมมุติฐานการวิจัยเช่นเดียวกับ สมาคมวิจัยพลังจิต เคมบริดจ์ ว่า
จิตสำนึกบางส่วนยังมีชีวิตอยู่ แม้ร่างกายตายไปแล้ว
กลุ่มตัวอย่างคนระลึกชาติ ที่เก็บข้อมูลด้วยเงื่อนไขที่ตั้งขึ้น สามารถพิสูจน์ความเชื่อมโยงกับอดีตชาติได้ เพราะผู้ตายในชาติก่อนช่วงปี1940 ยังหาข้อมูลได้ในปี2020
สารคดีนำเสนอข้อมูลต่อยอดจาก การค้นคว้าทดลองในยุคก่อน มาเรียบเรียงให้เข้าใจง่ายสำหรับสังคมที่เชื่อว่าตายแล้วสูญ
ระบบโลกหลังความตายในสารคดีสอดคล้องกับความเชื่อทางตะวันออกก่อนพ.ศ.1000 ที่พุทธศาสนา และฮินดูยังไม่เข้ามาเผยแพร่ เช่น
เจตภูติ ขวัญ ปราณ คือสิ่งเดียวกัน ประกอบด้วยธาตุสี่ หรือห้าธาตุ เมื่อคนตายไปจะคงอยู่ในร่าง แต่ถ้าเสียไปบางส่วนจะทำให้คนนั้นป่วยไข้ ต้องทำพิธีเรียกขวัญ เจตภูติ หากออกจากร่างหมด ร่างจะตาย
ศพจะมีเจตภูติ ขวัญ ปราณ บางส่วนอยู่ จึงนิยมฝังทำสุสาน เพื่อให้ลูกหลานพึ่งพาพลังที่เหลืออยู่ เช่น
สุสานจักรพรรดิ์นโปเลียน
สุสานเลนิน กำแพงวังเครมลิน
สุสานประธานเหมา จตุรัสเทียนอันเหมิน
สุสานเจ้าเสือก่าฟ้า ราชวงศ์(ไท)อาหม
สุสานต้นตระกูลต่างๆมาตั้งรกราก
ถ้าเผาศพพลังจะคงอยู่ในอัตฐิ เถ้า นำไปฝังในโกฐ เจดีย์ เพื่อบูชา
กรณีไม่เก็บไว้ให้ลอยอังคาร
กายแบ่งเป็นสองส่วน
กายหยาบ ร่างเนื้อ เป็นภาชนะให้จิต วิญญาณ อาศัย
ในอัฟริกามีความเชื่อว่า หมอผีสามารถสลับจิต
ชายสิงร่างหญิง คนสิงร่างสัตว์ได้
กายทิพย์หรือกายละเอียด เรียก จิต วิญญาณ มีความทรงจำแต่อดีตชาติ นำพาไปสิงสู่ร่างต่างๆ
คนตาย ตายแล้วไม่ได้ไปเกิดทันทีทุกคน หลายคนยังเป็นกายทิพย์วนเวียนอยู่กับคนในครอบครัว
คนในครอบครัวไปหาคนทรง เพื่อเป็นสื่อกลางพูดคุยกับคนตายให้หายคาใจ
ทำบุญอุทิศให้ถึงคนตาย
ไม่ว่าจะเซ่นไหว้ หรือให้ทานแก่คนอื่น เชื่อว่าผลบุญส่งถึงคนตายเหมือนกัน
ภายหลังลัทธิอื่นเข้ามาเผยแพร่ ทำให้ความเชื่อข้างต้นที่สืบทอดมายาวนานนี้ ถูกปฏิเสธ จนถึงขั้นกลายเป็นเรื่องเหลวไหลไปเลยก็มี ไม่ว่าใช้กำลังบังคับหรือดูดกลืน
50ปีของงานวิจัยโลกหลังความตายของดร.เอียนสตีเวนสัน
สัมภาษณ์นพ.oliver lazar ชาวเยอรมัน ทำวิจัยอดีตชาติผ่านคนทรง เริ่มจากประสบการณ์ของหมอเอง
สารคดีเล่าเรื่องต่อยอดจากงานวิจัยทั้งสองนี้ ถ่ายทอดเป็นภาพเคลื่อนไหวให้เข้าใจง่าย มีสมมุติฐาน หลักฐานยืนยัน
ไม่ต่างจากวงการโหราศาสตร์ ที่กอร์คิวลิน พิสูจน์ เรื่อง mars effect ได้ถูกต้อง แต่คณะกรรมการสอบสวนเรื่องเหนือธรรมชาติของเบลเยี่ยม ไม่ยอมรับ
การดูดวงโดยใช้ตารางสิบสองช่องแบบกรีกของปโตเลมี ไทยรับต่อจากอินเดีย
สมมุติฐานกอร์คิวลิน คือ
ดาว จันทร์ ศุกร์ อังคาร พฤหัส เสาร์ มีผลต่อบุคลิกภาพและอาชีพของบุคคลที่มีชื่อเสียง
เช่น จันทร์เด่นในดวงนักการเมืองและนักเขียน
เสาร์เด่นในดวงแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ ฯลฯ
แต่ที่โดดเด่นสุดคือ อิทธิพลอังคารในดวงนักกีฬา
กอว์คิวลินวิเคราะห์ตำแหน่งอังคารในดวงนักกีฬาฝรั่งเศสระดับแชมป์ 570 คน เขาพบว่า
355 คน (62%) มีอังคารเด่นในดวง คือใกล้ (และอยู่ข้างหลัง) ลัคน์และทศมลัคน์ ข้อสรุปนี้เรียกกันว่า Mars Effect
การโต้แย้งลามถึงอเมริกา Marvin Zelen ศาสตราจารย์ด้านสถิติของฮาร์วาร์ด และสมาชิกคณะกรรมการสอบสวนทางวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ (CSICOP) ทดสอบ Mars Effect ซ้ำอีกครั้ง
โดยใช้ Control Group ของเด็กที่เกิดวันเดียวกัน แต่ต่างสถานที่ กับแชมป์นักกีฬา เพื่อพิสูจน์ว่ามันไม่ใช่ผลของดาว แต่เป็นกับเด็กทุกคนที่เกิดวันนั้น
ผลทดสอบที่ได้ไม่เพียงยืนยันความถูกต้องของกอว์คิวลิน ทั้งยังขจัดประเด็น Demographic Error อีกด้วย
แต่ CSICOP ไม่ต้องการเผยแพร่ผลที่สนับสนุนโหราศาสตร์ จึงเปลี่ยนกฎและทดสอบซ้ำต่อ
ขณะที่ Dennis Rawlins นักดาราศาสตร์หนึ่งเดียวยืนยันว่า
งานวิจัยของกอว์คิวลินเชื่อถือได้ แต่การทดสอบของ Zelen เบี่ยงประเด็นและลดทอน Mars Effect ในหมู่นักกีฬา
เมื่อ CSICOP ไม่ยอมรับกอว์คิวลิน แต่ก็ไม่ชี้จุดผิดพลาด Suitbert Ertel ศาตราจารย์จิตวิทยาแห่ง ม. Gottingen จึงทดสอบซ้ำ
ผลคือยิ่งนักกีฬาโดดเด่น Mars Effect ยิ่งชัดเจน เขายังขจัดข้อสงสัยเรื่อง Selection bias ของกอว์คิวลิน และยืนยันความถูกต้องของ Mars Effect
ท้ายนี้ผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ทีนี้ขอบคุณครับ
อ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/636041
https://hmong.in.th/wiki/Ectoplasm_(paranormal)
https://www.spr.ac.uk/cambridge-archives
https://psi-encyclopedia.spr.ac.uk/articles/institut-m%C3%A9tapsychique-international
https://www.astrosoftware.com/Reassessment%20of%20the%20Mars%20Effect.htm
https://newalchemypress.com/gauquelin/research2.php
ชีวิตหลังตาย(surviving death) สารคดีต่อยอดจากจากงานวิจัย50ปีของดร.เอียน สตีเวนสัน และ100ปีสมาคมวิจัยพลังจิต เคมบริดจ์
ค.ศ.1882 สมาคมวิจัยพลังจิต ม.เคมบริดจ์ อังกฤษ
ก่อตั้ง โดยนักวิชาการเคมบริดจ์กลุ่มหนึ่ง เพื่อศึกษาและเข้าใจ สิ่งเหนือธรรมชาติอย่างมีเหตุผล เช่น
มารี กูว์รี และปิแอร์ กูว์รี
ชาร์ลส์ ริเชต์
เซอร์อาเธอร์ โคนัน ดอยล์
มาร์ค ทเวน
วิลเลี่ยม เจมส์
คนเหล่านี้สนใจพลังจิตเป็นพิเศษ การปรากฏตัวของภูติผี การสื่อสารผ่านคนทรง และพยายามทดลองตามหลักการวิทยศาสตร์ เพื่อหาขั้นตอนและผลลัพท์ ตามสมุติฐานว่า
จิตสำนึกยังมีขีวิตอยู่ทั้งที่ร่างกายตายไปแล้ว
นี้คือสมมุติฐานตั้งต้นที่ฝรั่งทำวิจัยบันทึกข้อมูลต่อเนื่องกว่าร้อยปีจนถึงปัจจุบัน
ด้วยความร่วมมือจากคนทรง เป็นสื่อกลางในการทดลอง
เพื่อต้องการนำพลังจิต วิญญาณมาแปลงเป็นพลังงาน ในรูปวัตถุ
ค.ศ.1920 สถาบันอภิปรัชญาระหว่างประเทศ ปารีส ฝรั่งเศส (international institute of metaphysics)
ทดลองแม่พิมพ์มือเด็ก จากร่างวิญญาณสำเร็จ โดยคนทรง ฟราเนค คลูสกี(franek kluski)หรือ มือของครูส ซึ่งเป็นคนทรงชื่อดังแห่งยุค ทำการทดลองโดย นักวิทย์ รางวัลโนเบล และคนดัง
ชาร์ลส์ ริเชต์
กุสตาฟ เจอเลย์ ผอ.สถาบันอภิปรัชญา
คามีล ฟลามายอง
เคานต์ เดอ กรามงต์
ของจริงจะกลวงใน ที่เหลือตัน จึงยังมีข้อถกเถียงในการทดลองครั้งนั้น ว่าอาจมีตุกติก
พิมพ์มือเด็กยังเก็บรักษาที่สถาบันจนถึงปัจจุบัน
mit school of science journalism ร่วมทดลองคนทรงกับสมาคมวิจัยพลังจิตเคมบริดจ์
ค.ศ.1980 มหาวิทยาลัย เวอร์จิเนีย
ดร.เอียน สตีเวนสัน ผู้ก่อตั้ง แผนกการศึกษาการรับรู้ เพื่อศึกษาเรื่องเหนือธรรมชาติ การกลับชาติมาเกิด พบตัวอย่างมากแถบอินเดีย เอเชียใต้
สถานอบรมคนทรง ฮอลแลนด์
โรงเรียนสอนคนทรง หรือคนที่มีสัมผัสพิเศษ ให้สามารถพัฒนาความสามารถที่มีอยู่เพิ่มขึ้นได้อีก และได้พบปะคนมีสัมผัสเหมือนกัน จนไม่รู้สึกแปลกแยกเป็นตัวประหลาด ในสังคมเข้ารีต
ประเภทคนทรง แบ่งได้สองชนิด
คนทรงรับรู้ด้วยประสาทสัมผัส
พบมากที่สุด มีความน่าเชื่อถือมากสุด จากการทดลองซ้ำไปมากับกลุ่มตัวอย่างจำนวนมาก
คนทรงจะเป็นล่ามให้ผี แล้วแปลให้คนฟัง ไม่สามารถให้ผีมาเข้าทรง สิงสู่ได้
หากมีการเขียนอักษร วาดภาพ คนทรงจะไม่เข้าใจความหมาย มีเพียงคนฟังที่จะรู้คำตอบในภายหลัง
คนทรงชนิดนี้มีข้อจำกัดในการสื่อสารกับผี และแปลสู่คน ถ้ารู้ไปหมดแบบบอกบทคงจะปลอม
คนทรงปล่อยพลังได้ เช่น ปล่อยของ(เอสโตปลาสซึม) ยกวัตถุให้ลอยขึ้น ทำผีให้เป็นกายหยาบ จนสัมผัสวัตถุได้
ส่วนใหญ่ปลอมทั้งสิ้น จับไต๋ได้ขณะทดลองตามเงื่อนไขที่กำหนด
มีน้อยคนมากที่ผ่านการทดลอง หนึ่งในนั้นคือคนทรงฟลาเนส ครูสกี ที่สถาบันอภิปรัญาระหว่างประเทศ ฝรั่งเศส จึงสรุปได้ว่า การนำวิญญาณมาแปลงเป็นพลังงานโดยผ่านคนทรง เป็นเรื่องยุ่งยาก มีข้อจำกัดมาก และพลังงานที่ได้ไม่แน่นอน
ฝรั่งทำการเก็บข้อมูลต่อเนื่อง และตามหาคนทรงที่น่าเชื่อถือ แล้วนำมาทดลอง ยังไม่ปรากฏคนทรงที่มีคุณภาพมากกว่าที่คนทรงทดลองเมื่อร้อยปีก่อน
และคนธรรมดาที่ไม่มีประสาทสัมผัสพิเศษ ยากจะฝึกฝนให้สัมผัสได้
คยทรงไม่ต้องสั่นเป็นเจ้าเข้า ลุยไฟ แทงของมีคม ตัดลิ้น ไต่บันไดมีด ก็สื่อสารกับผีได้ทันที และไม่สามารถต่อรอง แก้กรรมใดๆ
เพราะคนที่มาหาคนทรงต้องการให้ติดต่อกับคนในครอบครัวที่ตายไป ซึ่งยังวนเวียนอยู่กับคนในครอบครัวไม่ไปผุดไปเกิด
แฟ้มข้อมูลการทดลองเก็บรักษาอย่างดีในหอสมุด แม้ไม่สรุปว่ามีจริง แต่ไม่ปฏิเสธการมีอยู่
การกลับชาติมาเกิด
ดร.เอียน สตีเวนสัน ได้เก็บข้อมูลต่อเนื่องมากว่า30ปี และส่งต่องานให้นักวิจัยท่านอื่นทำวิจัยต่อไป
ดร.เอียนตั้งสมมุติฐานการวิจัยเช่นเดียวกับ สมาคมวิจัยพลังจิต เคมบริดจ์ ว่า
จิตสำนึกบางส่วนยังมีชีวิตอยู่ แม้ร่างกายตายไปแล้ว
กลุ่มตัวอย่างคนระลึกชาติ ที่เก็บข้อมูลด้วยเงื่อนไขที่ตั้งขึ้น สามารถพิสูจน์ความเชื่อมโยงกับอดีตชาติได้ เพราะผู้ตายในชาติก่อนช่วงปี1940 ยังหาข้อมูลได้ในปี2020
สารคดีนำเสนอข้อมูลต่อยอดจาก การค้นคว้าทดลองในยุคก่อน มาเรียบเรียงให้เข้าใจง่ายสำหรับสังคมที่เชื่อว่าตายแล้วสูญ
ระบบโลกหลังความตายในสารคดีสอดคล้องกับความเชื่อทางตะวันออกก่อนพ.ศ.1000 ที่พุทธศาสนา และฮินดูยังไม่เข้ามาเผยแพร่ เช่น
เจตภูติ ขวัญ ปราณ คือสิ่งเดียวกัน ประกอบด้วยธาตุสี่ หรือห้าธาตุ เมื่อคนตายไปจะคงอยู่ในร่าง แต่ถ้าเสียไปบางส่วนจะทำให้คนนั้นป่วยไข้ ต้องทำพิธีเรียกขวัญ เจตภูติ หากออกจากร่างหมด ร่างจะตาย
ศพจะมีเจตภูติ ขวัญ ปราณ บางส่วนอยู่ จึงนิยมฝังทำสุสาน เพื่อให้ลูกหลานพึ่งพาพลังที่เหลืออยู่ เช่น
สุสานจักรพรรดิ์นโปเลียน
สุสานเลนิน กำแพงวังเครมลิน
สุสานประธานเหมา จตุรัสเทียนอันเหมิน
สุสานเจ้าเสือก่าฟ้า ราชวงศ์(ไท)อาหม
สุสานต้นตระกูลต่างๆมาตั้งรกราก
ถ้าเผาศพพลังจะคงอยู่ในอัตฐิ เถ้า นำไปฝังในโกฐ เจดีย์ เพื่อบูชา
กรณีไม่เก็บไว้ให้ลอยอังคาร
กายแบ่งเป็นสองส่วน
กายหยาบ ร่างเนื้อ เป็นภาชนะให้จิต วิญญาณ อาศัย
ในอัฟริกามีความเชื่อว่า หมอผีสามารถสลับจิต
ชายสิงร่างหญิง คนสิงร่างสัตว์ได้
กายทิพย์หรือกายละเอียด เรียก จิต วิญญาณ มีความทรงจำแต่อดีตชาติ นำพาไปสิงสู่ร่างต่างๆ
คนตาย ตายแล้วไม่ได้ไปเกิดทันทีทุกคน หลายคนยังเป็นกายทิพย์วนเวียนอยู่กับคนในครอบครัว
คนในครอบครัวไปหาคนทรง เพื่อเป็นสื่อกลางพูดคุยกับคนตายให้หายคาใจ
ทำบุญอุทิศให้ถึงคนตาย
ไม่ว่าจะเซ่นไหว้ หรือให้ทานแก่คนอื่น เชื่อว่าผลบุญส่งถึงคนตายเหมือนกัน
ภายหลังลัทธิอื่นเข้ามาเผยแพร่ ทำให้ความเชื่อข้างต้นที่สืบทอดมายาวนานนี้ ถูกปฏิเสธ จนถึงขั้นกลายเป็นเรื่องเหลวไหลไปเลยก็มี ไม่ว่าใช้กำลังบังคับหรือดูดกลืน
50ปีของงานวิจัยโลกหลังความตายของดร.เอียนสตีเวนสัน
สัมภาษณ์นพ.oliver lazar ชาวเยอรมัน ทำวิจัยอดีตชาติผ่านคนทรง เริ่มจากประสบการณ์ของหมอเอง
สารคดีเล่าเรื่องต่อยอดจากงานวิจัยทั้งสองนี้ ถ่ายทอดเป็นภาพเคลื่อนไหวให้เข้าใจง่าย มีสมมุติฐาน หลักฐานยืนยัน
ไม่ต่างจากวงการโหราศาสตร์ ที่กอร์คิวลิน พิสูจน์ เรื่อง mars effect ได้ถูกต้อง แต่คณะกรรมการสอบสวนเรื่องเหนือธรรมชาติของเบลเยี่ยม ไม่ยอมรับ
การดูดวงโดยใช้ตารางสิบสองช่องแบบกรีกของปโตเลมี ไทยรับต่อจากอินเดีย
สมมุติฐานกอร์คิวลิน คือ
ดาว จันทร์ ศุกร์ อังคาร พฤหัส เสาร์ มีผลต่อบุคลิกภาพและอาชีพของบุคคลที่มีชื่อเสียง
เช่น จันทร์เด่นในดวงนักการเมืองและนักเขียน
เสาร์เด่นในดวงแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ ฯลฯ
แต่ที่โดดเด่นสุดคือ อิทธิพลอังคารในดวงนักกีฬา
กอว์คิวลินวิเคราะห์ตำแหน่งอังคารในดวงนักกีฬาฝรั่งเศสระดับแชมป์ 570 คน เขาพบว่า
355 คน (62%) มีอังคารเด่นในดวง คือใกล้ (และอยู่ข้างหลัง) ลัคน์และทศมลัคน์ ข้อสรุปนี้เรียกกันว่า Mars Effect
การโต้แย้งลามถึงอเมริกา Marvin Zelen ศาสตราจารย์ด้านสถิติของฮาร์วาร์ด และสมาชิกคณะกรรมการสอบสวนทางวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ (CSICOP) ทดสอบ Mars Effect ซ้ำอีกครั้ง
โดยใช้ Control Group ของเด็กที่เกิดวันเดียวกัน แต่ต่างสถานที่ กับแชมป์นักกีฬา เพื่อพิสูจน์ว่ามันไม่ใช่ผลของดาว แต่เป็นกับเด็กทุกคนที่เกิดวันนั้น
ผลทดสอบที่ได้ไม่เพียงยืนยันความถูกต้องของกอว์คิวลิน ทั้งยังขจัดประเด็น Demographic Error อีกด้วย
แต่ CSICOP ไม่ต้องการเผยแพร่ผลที่สนับสนุนโหราศาสตร์ จึงเปลี่ยนกฎและทดสอบซ้ำต่อ
ขณะที่ Dennis Rawlins นักดาราศาสตร์หนึ่งเดียวยืนยันว่า
งานวิจัยของกอว์คิวลินเชื่อถือได้ แต่การทดสอบของ Zelen เบี่ยงประเด็นและลดทอน Mars Effect ในหมู่นักกีฬา
เมื่อ CSICOP ไม่ยอมรับกอว์คิวลิน แต่ก็ไม่ชี้จุดผิดพลาด Suitbert Ertel ศาตราจารย์จิตวิทยาแห่ง ม. Gottingen จึงทดสอบซ้ำ
ผลคือยิ่งนักกีฬาโดดเด่น Mars Effect ยิ่งชัดเจน เขายังขจัดข้อสงสัยเรื่อง Selection bias ของกอว์คิวลิน และยืนยันความถูกต้องของ Mars Effect
ท้ายนี้ผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ทีนี้ขอบคุณครับ
อ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้