ทำความรู้จัก เนื้องอกต่อมใต้สมอง… เนื้องอกที่เกิดตรงส่วนเล็กๆ ของสมอง แต่กลับต้องใช้แพทย์ทีมใหญ่ในการรักษา
หลายคนเคยมีอาการแบบนี้ ...
“ขณะนั่งทำงานอยู่ จู่ๆ ก็ปวดหัวจี๊ดขึ้นมา เคยปวดอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่หนักขนาดนี้ ลองทานยาแก้ปวดแบบทุกทีเวลาปวดแต่ทำไมคราวนี้ไม่หายปวด เลิกงานแล้วเลยตรงไปหาหมอได้รับการตรวจแล้ว ก็ไม่เจออะไรผิดปกติได้ยามาทานเพิ่มก็ไม่หายแล้วนี่เราอะไรกันแน่! หรือเป็นโรคประสาท..”
นพ. นภสินธุ์ เถกิงเดช ประสาทศัลยแพทย์ รพ.รามคำแหงอธิบายให้ฟังว่า...
อันนี้คือสิ่งที่คนไข้หลายๆคนเล่าให้ผมฟัง ซึ่งจากประวัติค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นการปวดศีรษะที่ไม่ธรรมดา เพราะทานยาแล้วก็ไม่หาย ไม่ดีขึ้น แต่ก็ไม่ง่ายนักในการที่จะบอกว่าสาเหตุของอาการปวดศีรษะนั้นเป็นจากเนื้องอกต่อมใต้สมองแตก
แต่ถ้าปวดศีรษะแบบรุนแรงทันทีทันใด คลื่นไส้อาเจียน ร่วมกับมีอาการตาพร่า ตามัวมองไม่ชัด เห็นภาพซ้อน อันนี้ค่อนข้างจะไม่ยากในการที่จะสงสัยว่าคนไข้มีภาวะเลือดออกที่เนื้องอกต่อมใต้สมอง หรือที่เรียกว่า พิทูอิตารี อะโพเพ็คซี (Pituitary apoplexy)
จริงๆ แล้วภาวะเลือดออกในเนื้องอกต่อมใต้สมองนั้นเป็นภาวะที่ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก คือเราพบภาวะนี้ได้แค่ประมาณ 1-10 % ขึ้นกับขนาดของเนื้องอก ถ้าขนาดใหญ่จะมีโอกาสเจอได้มากกว่า ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่อาการหลักที่พบบ่อยจากเนื้องงอกต่อมใต้สมอง แต่ก็เป็นภาวะที่ทำให้คนไข้ต้องทรมานจากการปวดศีรษะมาก และมีอันตรายถึงชีวิตได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
ต่อมใต้สมองอยู่ตรงไหน ?
ทางการแพทย์เราใช้คำว่า ต่อมพิทูอิตารี ซึ่งแปลไทยว่า ต่อมใต้สมอง โดยที่พิทูอิตารี มาจากละติน แปลว่าเมือก เพราะในสมัยนั้นเรานึกว่าต่อมนี้สร้างเมือกให้ไหลลงทางจมูก เมื่อถามถึงหน้าตาของต่อมนี้ ผมอยากให้ลองนึกภาพของเมล็ดถั่วแดง ที่วางอยู่ในแนวลึกสุดของจมูก ตรงกลางระหว่างลูกตา 2 ข้าง กลางของศีรษะ บริเวณฐานกระโหลกครับ และที่สำคัญในบริเวณเล็กๆ นั้นเอง จะมีอวัยวะที่สำคัญอยู่โดยรอบ เช่น เส้นประสาทจอตา เส้นเลือดแดงใหญ่ที่มาเลี้ยงสมอง เส้นประสาทสมองคู่ที่ 3,4,5,6 โดยอวัยวะเหล่านี้จะเป็นเหมือนเป็นกำแพงบ้าน ล้อมรอบต่อมใต้สมอง โดยที่ต่อมใต้สมองมีหน้าที่ในการผลิตฮอร์โมนหลายชนิด เช่น ACTH, Growth hormone, Thyroid hormone, sex hormone ซึ่งหน้าที่สำคัญของฮอร์โมนเหล่านี้คือ ปรับสมดุลในร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง และถ้าเกิดการขาดฮอร์โมนเหล่านี้ จะทำให้เกิดอาการ เช่น อ่อนเพลีย ไม่มีแรง คลื่นไส้อาเจียน ผอมหรืออ้วนผิดปกติปกติ รวมไปถึงปัญหาด้านการสืบพันธุ์ได้
เกิดอะไรขึ้นเมื่อต่อมใต้สมอง กลายร่างกลายเป็นเนื้องอกต่อมใต้สมอง?
เนื้องอกต่อมใต้สมอง ก็คือการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติของเซลล์ต่อมใต้สมองทำให้เกิดเป็นเนื้องอกมีขนาดใหญ่ขึ้นมาได้ โดยทั่วไปแล้วจะพบเนื้องอกชนิดนี้ประมาณ 10% ของเนื้องอกสมองทั้งหมด ซึ่งถ้าขนาดของเนื้องอกต่อมใต้สมองมีขนาดมากกว่า 1 ซม. ถือว่ามีขนาดใหญ่มาก เราจะเรียกว่า “แมคโครพิทูอิตารีอะดรีโนมา” (Macropituitary adenoma) แต่ถ้าน้อยกว่า 1 ซม. จะถูกเรียกว่า “ไมโครพิทูอิตารีอะดรีโนมา”
(Micropituitary adenoma) น่าสนใจที่ว่าเนื้องอกชนิดนี้ส่วนใหญ่ไม่ใช่เนื้อร้าย แต่เป็นเนื้อดีที่โตช้า
โดยเนื้องอกต่อมใต้สมองนั้นสามารถทำให้มีอาการได้ 2 แบบหลัก คือ
1. แบบที่เกี่ยวกับความผิดปกติของฮอร์โมน (functioning)
2. แบบที่ไม่เกี่ยวกับความผิดปกติของฮอร์โมน (non-functioning)
ซึ่งแบบแรกที่ทำให้มีฮอร์โมนผิดปกตินั้น จะมีอาการที่หลากหลาย ขึ้นกับว่าฮอร์โมนชนิดไหนที่สูงมากกว่าปกติ ก็จะทำให้เกิดกลุ่มอาการเฉพาะตัว ตรงนี้หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อโรค เช่น คุชชิ่ง (Cushing), อะโครเมกาลี (Acromegaly), โปรแลคตินโนมา(Prolactinoma) ซึ่งเป็นชื่อโรคเฉพาะในกลุ่มนี้
ส่วนอีกชนิดหนึ่งที่ไม่ได้ทำให้มีการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนแต่จะทำให้มีอาการของการที่ขนาดของเนื้องอกต่อมใต้สมองใหญ่มากจนไปกดเบียดอวัยวะสำคัญข้างเคียงโดยเฉพาะเส้นประสาทจอตา ทำให้คนไข้มีอาการและมาพบแพทย์ด้วยอาการตามองเห็นไม่ชัด โดยเฉพาะลานประสาทตาด้านนอกที่มีโอกาสเสียได้ก่อน ถ้าลานประสาทตาด้านนอกเสียจะทำให้คนไข้มองเห็นได้แคบลงมองชัดแต่มุมตรงกลางส่วนมุมด้านนอกนั้นจะมองไม่เห็น ที่คนไข้เจอบ่อยคือ เดินชนด้านข้างประจำ หรือถ้าขับรถก็จะชนรถข้างๆตลอดเวลา เพราะมองไม่เห็นด้านข้าง และนอกจากอาการหลักทั้งสองแบบ ก็จะมีอาการพิเศษที่พบได้ไม่บ่อยแต่รุนแรงกว่านั้นคือ อาการของภาวะเลือดออกของเนื้องอกต่อมใต้สมอง
ทำความรู้จัก เนื้องอกต่อมใต้สมอง… เนื้องอกที่เกิดตรงส่วนเล็กๆ ของสมอง แต่กลับต้องใช้แพทย์ทีมใหญ่ในการรักษา
ทำความรู้จัก เนื้องอกต่อมใต้สมอง… เนื้องอกที่เกิดตรงส่วนเล็กๆ ของสมอง แต่กลับต้องใช้แพทย์ทีมใหญ่ในการรักษา
หลายคนเคยมีอาการแบบนี้ ...
“ขณะนั่งทำงานอยู่ จู่ๆ ก็ปวดหัวจี๊ดขึ้นมา เคยปวดอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่หนักขนาดนี้ ลองทานยาแก้ปวดแบบทุกทีเวลาปวดแต่ทำไมคราวนี้ไม่หายปวด เลิกงานแล้วเลยตรงไปหาหมอได้รับการตรวจแล้ว ก็ไม่เจออะไรผิดปกติได้ยามาทานเพิ่มก็ไม่หายแล้วนี่เราอะไรกันแน่! หรือเป็นโรคประสาท..”
นพ. นภสินธุ์ เถกิงเดช ประสาทศัลยแพทย์ รพ.รามคำแหงอธิบายให้ฟังว่า...
อันนี้คือสิ่งที่คนไข้หลายๆคนเล่าให้ผมฟัง ซึ่งจากประวัติค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นการปวดศีรษะที่ไม่ธรรมดา เพราะทานยาแล้วก็ไม่หาย ไม่ดีขึ้น แต่ก็ไม่ง่ายนักในการที่จะบอกว่าสาเหตุของอาการปวดศีรษะนั้นเป็นจากเนื้องอกต่อมใต้สมองแตก
แต่ถ้าปวดศีรษะแบบรุนแรงทันทีทันใด คลื่นไส้อาเจียน ร่วมกับมีอาการตาพร่า ตามัวมองไม่ชัด เห็นภาพซ้อน อันนี้ค่อนข้างจะไม่ยากในการที่จะสงสัยว่าคนไข้มีภาวะเลือดออกที่เนื้องอกต่อมใต้สมอง หรือที่เรียกว่า พิทูอิตารี อะโพเพ็คซี (Pituitary apoplexy)
จริงๆ แล้วภาวะเลือดออกในเนื้องอกต่อมใต้สมองนั้นเป็นภาวะที่ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก คือเราพบภาวะนี้ได้แค่ประมาณ 1-10 % ขึ้นกับขนาดของเนื้องอก ถ้าขนาดใหญ่จะมีโอกาสเจอได้มากกว่า ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่อาการหลักที่พบบ่อยจากเนื้องงอกต่อมใต้สมอง แต่ก็เป็นภาวะที่ทำให้คนไข้ต้องทรมานจากการปวดศีรษะมาก และมีอันตรายถึงชีวิตได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
ต่อมใต้สมองอยู่ตรงไหน ?
ทางการแพทย์เราใช้คำว่า ต่อมพิทูอิตารี ซึ่งแปลไทยว่า ต่อมใต้สมอง โดยที่พิทูอิตารี มาจากละติน แปลว่าเมือก เพราะในสมัยนั้นเรานึกว่าต่อมนี้สร้างเมือกให้ไหลลงทางจมูก เมื่อถามถึงหน้าตาของต่อมนี้ ผมอยากให้ลองนึกภาพของเมล็ดถั่วแดง ที่วางอยู่ในแนวลึกสุดของจมูก ตรงกลางระหว่างลูกตา 2 ข้าง กลางของศีรษะ บริเวณฐานกระโหลกครับ และที่สำคัญในบริเวณเล็กๆ นั้นเอง จะมีอวัยวะที่สำคัญอยู่โดยรอบ เช่น เส้นประสาทจอตา เส้นเลือดแดงใหญ่ที่มาเลี้ยงสมอง เส้นประสาทสมองคู่ที่ 3,4,5,6 โดยอวัยวะเหล่านี้จะเป็นเหมือนเป็นกำแพงบ้าน ล้อมรอบต่อมใต้สมอง โดยที่ต่อมใต้สมองมีหน้าที่ในการผลิตฮอร์โมนหลายชนิด เช่น ACTH, Growth hormone, Thyroid hormone, sex hormone ซึ่งหน้าที่สำคัญของฮอร์โมนเหล่านี้คือ ปรับสมดุลในร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง และถ้าเกิดการขาดฮอร์โมนเหล่านี้ จะทำให้เกิดอาการ เช่น อ่อนเพลีย ไม่มีแรง คลื่นไส้อาเจียน ผอมหรืออ้วนผิดปกติปกติ รวมไปถึงปัญหาด้านการสืบพันธุ์ได้
เกิดอะไรขึ้นเมื่อต่อมใต้สมอง กลายร่างกลายเป็นเนื้องอกต่อมใต้สมอง?
เนื้องอกต่อมใต้สมอง ก็คือการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติของเซลล์ต่อมใต้สมองทำให้เกิดเป็นเนื้องอกมีขนาดใหญ่ขึ้นมาได้ โดยทั่วไปแล้วจะพบเนื้องอกชนิดนี้ประมาณ 10% ของเนื้องอกสมองทั้งหมด ซึ่งถ้าขนาดของเนื้องอกต่อมใต้สมองมีขนาดมากกว่า 1 ซม. ถือว่ามีขนาดใหญ่มาก เราจะเรียกว่า “แมคโครพิทูอิตารีอะดรีโนมา” (Macropituitary adenoma) แต่ถ้าน้อยกว่า 1 ซม. จะถูกเรียกว่า “ไมโครพิทูอิตารีอะดรีโนมา”
(Micropituitary adenoma) น่าสนใจที่ว่าเนื้องอกชนิดนี้ส่วนใหญ่ไม่ใช่เนื้อร้าย แต่เป็นเนื้อดีที่โตช้า
โดยเนื้องอกต่อมใต้สมองนั้นสามารถทำให้มีอาการได้ 2 แบบหลัก คือ
1. แบบที่เกี่ยวกับความผิดปกติของฮอร์โมน (functioning)
2. แบบที่ไม่เกี่ยวกับความผิดปกติของฮอร์โมน (non-functioning)
ซึ่งแบบแรกที่ทำให้มีฮอร์โมนผิดปกตินั้น จะมีอาการที่หลากหลาย ขึ้นกับว่าฮอร์โมนชนิดไหนที่สูงมากกว่าปกติ ก็จะทำให้เกิดกลุ่มอาการเฉพาะตัว ตรงนี้หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อโรค เช่น คุชชิ่ง (Cushing), อะโครเมกาลี (Acromegaly), โปรแลคตินโนมา(Prolactinoma) ซึ่งเป็นชื่อโรคเฉพาะในกลุ่มนี้
ส่วนอีกชนิดหนึ่งที่ไม่ได้ทำให้มีการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนแต่จะทำให้มีอาการของการที่ขนาดของเนื้องอกต่อมใต้สมองใหญ่มากจนไปกดเบียดอวัยวะสำคัญข้างเคียงโดยเฉพาะเส้นประสาทจอตา ทำให้คนไข้มีอาการและมาพบแพทย์ด้วยอาการตามองเห็นไม่ชัด โดยเฉพาะลานประสาทตาด้านนอกที่มีโอกาสเสียได้ก่อน ถ้าลานประสาทตาด้านนอกเสียจะทำให้คนไข้มองเห็นได้แคบลงมองชัดแต่มุมตรงกลางส่วนมุมด้านนอกนั้นจะมองไม่เห็น ที่คนไข้เจอบ่อยคือ เดินชนด้านข้างประจำ หรือถ้าขับรถก็จะชนรถข้างๆตลอดเวลา เพราะมองไม่เห็นด้านข้าง และนอกจากอาการหลักทั้งสองแบบ ก็จะมีอาการพิเศษที่พบได้ไม่บ่อยแต่รุนแรงกว่านั้นคือ อาการของภาวะเลือดออกของเนื้องอกต่อมใต้สมอง