สังเกตุง่ายๆ สังเกตุด้วยตัวเองได้ครับ สามารถป้องกันได้
ขอให้แข็งแรงๆกันครับ
ที่มา :-
https://mgronline.com/infographic/detail/9680000042253
เนื้อหา :-
หลายครั้งเราอาจหลงลืมดูแลสุขภาพตัวเอง เนื่องจากวิถีชีวิตที่เร่งรีบ การทานอาหารไม่มีประโยชน์ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์พักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลายอย่างและยังทำให้สุขภาพแย่ลง
สัญญาณเตือนของร่างกายสำคัญอย่างยิ่ง
การที่สุขภาพแย่ลงหรือสุขภาพไม่ดี ไม่ได้หมายความว่าเราอยู่ในสภาพที่เจ็บไข้ได้ป่วยเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพในหลายรูปแบบ ทำให้เราอาจคิดไม่ถึงว่าขณะนี้สุขภาพแย่แล้ว ดังนั้นเราจึงควรหันมาใส่ใจกับสัญญาณเตือนจากร่างกายสักหน่อย เพื่อที่จะได้เตือนให้เราแก้ไขได้ทันเวลา โดยอาการที่สามารถสังเกตได้ว่าสุขภาพของเราเริ่มแย่ลง เช่น
1. นอนหลับยากบ่อย
การนอนหลับยากบ่อยหรือนอนไม่หลับต่อเนื่องกันหลายคืน อาการเช่นนี้คล้ายคนเป็นเบาหวาน
2. ผิวพรรณไม่ดีมีริ้วรอย
ผิวหยาบกร้าน มักเป็นกระหรือจุดด่างดำง่าย เป็นผดผื่นบ่อย ผมร่วง เพราะร่างกายขาดสารอาหารจำพวกวิตามินอี ขาดไบโอติน
3. ปวดหัวบ่อย ๆ
การนอนไม่พอก็อาจส่งผลให้มีอาการปวดศีรษะได้ อย่าได้นิ่งนอนใจควรสังเกตตัวเองว่าปวดบ่อยหรือไม่ มีอาการข้างเคียงอื่นๆ หรือเปล่า เช่น หน้ามืด ตาลาย อาเจียน อาการปวดศีรษะนี้ อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคร้ายที่อันตรายถึงชีวิตได้หลายโรค เช่น โรคหลอดเลือดสมองโรคเนื้องอกในสมอง
4. มีอาการตาเหลือง
ตัวเหลือง อาจเป็นโรคตับอักเสบหรือดีซ่าน ต้องรู้จักสังเกตและรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาให้ทัน
5. ท้องเสียบ่อย
อาการท้องเสีย ท้องผูกบ่อย หรือท้องผูกสลับท้องเสียเป็นภาวะแปรปรวนของระบบขับถ่ายที่ทานอะไรนิดหน่อยก็ท้องไม่ดี ทานอาหารตามปกติแต่ตอนเช้าไม่ขับถ่าย ถ้ามีอาการอย่างนี้บ่อย ๆ อย่าคิดว่าธรรมดา เพราะคุณอาจป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับลำไส้หรือโรคไตได้
6. เบื่ออาหาร
อาการเบื่ออาหารอาจเป็นสัญญาณโรคตับ วัณโรค และอาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยไม่สบายได้ เพราะร่างกายอ่อนแอและไม่มีภูมิต้านทาน
7. ปวดหลัง ปวดเอว ปวดต้นคอ
อาการปวดหลัง ปวดเอวและปวดต้นคออาจมีสาเหตุมาจากการนั่งทำงานที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่ก็หักโหมกับการทำงานมากเกินไปจนกล้ามเนื้อล้า
8. น้ำหนักเพิ่มหรือลดลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ
การที่น้ำหนักเพิ่มหรือลดลงเร็วผิดปรกติอาจเป็นสัญญาณบอกโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคต่อมไทรอยด์ โรคเกี่ยวกับไต หรือโรคมะเร็ง
9. มีอาการเหน็บชาและเหนื่อยง่าย
เป็นเหน็บชาหรือตะคริวบ่อย ๆ อาจขาดวิตามินบี 1 จึงควรกินเต้าหู้ รำข้าว ตับ และข้าวซ้อมมือเป็นประจำ บางรายอาจมีอาการเหนื่อยง่ายร่วม ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการไม่เคยออกกำลังกายหรือออกกำลังกายน้อย
10. สีของปัสสาวะเป็นสีเหลืองจัด
สีของปัสสาวะที่เหลืองจัดเป็นไปได้ว่าดื่มน้ำน้อยเกินไป หรืออาจเป็นสัญญาณบอกอาการของโรคดีซ่าน แต่ถ้าสีเหลืองจัดเข้มข้นจนเป็นสีกาแฟแสดงว่ากินยาบางอย่างมากเกินไป หรืออาจเป็นวัณโรคได้
11. ระคายคอ
อาการระคายคอ เจ็บคอ หรือไอบ่อยๆ อาจมีปัญหาที่ระบบหายใจ อาจเป็นภูมิแพ้หรือกำลังเป็นหวัด
12. อ่อนเพลียง่าย ไม่มีกำลังวังชา
มือไม้สั่น อารมณ์แปรปรวนง่ายอาจเป็นไปได้ว่าต่อมไทรอยด์ผิดปกติ บางรายอาจมีอาการขี้หลง ขี้ลืม บ่อยๆ สมองและระบบประสาทไม่ดี อาจเพราะขาดสารอาหารบำรุงสมอง
สัญญาณเตือน!.. ว่าสุขภาพคุณเริ่มแย่แล้ว
ขอให้แข็งแรงๆกันครับ
ที่มา :-https://mgronline.com/infographic/detail/9680000042253
เนื้อหา :-
หลายครั้งเราอาจหลงลืมดูแลสุขภาพตัวเอง เนื่องจากวิถีชีวิตที่เร่งรีบ การทานอาหารไม่มีประโยชน์ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์พักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลายอย่างและยังทำให้สุขภาพแย่ลง
สัญญาณเตือนของร่างกายสำคัญอย่างยิ่ง
การที่สุขภาพแย่ลงหรือสุขภาพไม่ดี ไม่ได้หมายความว่าเราอยู่ในสภาพที่เจ็บไข้ได้ป่วยเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพในหลายรูปแบบ ทำให้เราอาจคิดไม่ถึงว่าขณะนี้สุขภาพแย่แล้ว ดังนั้นเราจึงควรหันมาใส่ใจกับสัญญาณเตือนจากร่างกายสักหน่อย เพื่อที่จะได้เตือนให้เราแก้ไขได้ทันเวลา โดยอาการที่สามารถสังเกตได้ว่าสุขภาพของเราเริ่มแย่ลง เช่น
1. นอนหลับยากบ่อย
การนอนหลับยากบ่อยหรือนอนไม่หลับต่อเนื่องกันหลายคืน อาการเช่นนี้คล้ายคนเป็นเบาหวาน
2. ผิวพรรณไม่ดีมีริ้วรอย
ผิวหยาบกร้าน มักเป็นกระหรือจุดด่างดำง่าย เป็นผดผื่นบ่อย ผมร่วง เพราะร่างกายขาดสารอาหารจำพวกวิตามินอี ขาดไบโอติน
3. ปวดหัวบ่อย ๆ
การนอนไม่พอก็อาจส่งผลให้มีอาการปวดศีรษะได้ อย่าได้นิ่งนอนใจควรสังเกตตัวเองว่าปวดบ่อยหรือไม่ มีอาการข้างเคียงอื่นๆ หรือเปล่า เช่น หน้ามืด ตาลาย อาเจียน อาการปวดศีรษะนี้ อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคร้ายที่อันตรายถึงชีวิตได้หลายโรค เช่น โรคหลอดเลือดสมองโรคเนื้องอกในสมอง
4. มีอาการตาเหลือง
ตัวเหลือง อาจเป็นโรคตับอักเสบหรือดีซ่าน ต้องรู้จักสังเกตและรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาให้ทัน
5. ท้องเสียบ่อย
อาการท้องเสีย ท้องผูกบ่อย หรือท้องผูกสลับท้องเสียเป็นภาวะแปรปรวนของระบบขับถ่ายที่ทานอะไรนิดหน่อยก็ท้องไม่ดี ทานอาหารตามปกติแต่ตอนเช้าไม่ขับถ่าย ถ้ามีอาการอย่างนี้บ่อย ๆ อย่าคิดว่าธรรมดา เพราะคุณอาจป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับลำไส้หรือโรคไตได้
6. เบื่ออาหาร
อาการเบื่ออาหารอาจเป็นสัญญาณโรคตับ วัณโรค และอาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยไม่สบายได้ เพราะร่างกายอ่อนแอและไม่มีภูมิต้านทาน
7. ปวดหลัง ปวดเอว ปวดต้นคอ
อาการปวดหลัง ปวดเอวและปวดต้นคออาจมีสาเหตุมาจากการนั่งทำงานที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่ก็หักโหมกับการทำงานมากเกินไปจนกล้ามเนื้อล้า
8. น้ำหนักเพิ่มหรือลดลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ
การที่น้ำหนักเพิ่มหรือลดลงเร็วผิดปรกติอาจเป็นสัญญาณบอกโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคต่อมไทรอยด์ โรคเกี่ยวกับไต หรือโรคมะเร็ง
9. มีอาการเหน็บชาและเหนื่อยง่าย
เป็นเหน็บชาหรือตะคริวบ่อย ๆ อาจขาดวิตามินบี 1 จึงควรกินเต้าหู้ รำข้าว ตับ และข้าวซ้อมมือเป็นประจำ บางรายอาจมีอาการเหนื่อยง่ายร่วม ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการไม่เคยออกกำลังกายหรือออกกำลังกายน้อย
10. สีของปัสสาวะเป็นสีเหลืองจัด
สีของปัสสาวะที่เหลืองจัดเป็นไปได้ว่าดื่มน้ำน้อยเกินไป หรืออาจเป็นสัญญาณบอกอาการของโรคดีซ่าน แต่ถ้าสีเหลืองจัดเข้มข้นจนเป็นสีกาแฟแสดงว่ากินยาบางอย่างมากเกินไป หรืออาจเป็นวัณโรคได้
11. ระคายคอ
อาการระคายคอ เจ็บคอ หรือไอบ่อยๆ อาจมีปัญหาที่ระบบหายใจ อาจเป็นภูมิแพ้หรือกำลังเป็นหวัด
12. อ่อนเพลียง่าย ไม่มีกำลังวังชา
มือไม้สั่น อารมณ์แปรปรวนง่ายอาจเป็นไปได้ว่าต่อมไทรอยด์ผิดปกติ บางรายอาจมีอาการขี้หลง ขี้ลืม บ่อยๆ สมองและระบบประสาทไม่ดี อาจเพราะขาดสารอาหารบำรุงสมอง