หลายคนมีอาการท้องเสียหลังรับประทานอาหารทะเล ซึ่งอาจเกิดจากการปนเปื้อนของแบคทีเรียบางชนิด แต่นอกจากแบคทีเรียแล้วยังสามารถเกิดจากโนโรไวรัส (Norovirus) เชื้อไวรัสที่มักเข้าสู่ร่างกายผ่านการรับประทานอาหาร น้ำดื่ม และภาชนะใส่อาหารที่ปนเปื้อนเชื้อดังกล่าว หรือเกิดจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ ทำให้มีอาการท้องเสีย ปวดท้อง คลื่นไส้ และมีไข้ต่ำ
ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการรุนแรง เช่น อุจจาระมีเลือดปน ถ่ายเหลวหรืออาเจียนติดต่อกันเกิน 2 – 3 วัน หากไม่รีบพบแพทย์อาจเสี่ยงภาวะขาดน้ำได้
สำหรับการรักษา แพทย์จะรักษาตามอาการ เช่น หากมีอาการอาเจียนจะให้รับประทานยาแก้อาเจียน หรือถ้าหากถ่ายมาก ขาดน้ำ ก็จะให้เกลือแร่หรือน้ำเกลือ เป็นต้น
โนโรไวรัสมีระยะฟักตัวสั้นและทนต่อสภาพแวดล้อมภายนอกร่างกายได้นาน จึงเป็นโรคติดต่อที่แพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว หลังจากได้รับเชื้อแม้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยก็อาจก่อให้เกิดอาการป่วยได้ ดังนั้น ควรเลือกรับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย เลือกใช้ภาชนะที่สะอาด และที่สำคัญหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการรับเชื้อไวรัสชนิดดังกล่าวได้
ข้อมูลโดย
นพ. สุขประเสริฐ จุฑากอเกียรติ อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร
โนโรไวรัส สาเหตุอาการท้องเสียหลังรับประทานอาหารทะเล
ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการรุนแรง เช่น อุจจาระมีเลือดปน ถ่ายเหลวหรืออาเจียนติดต่อกันเกิน 2 – 3 วัน หากไม่รีบพบแพทย์อาจเสี่ยงภาวะขาดน้ำได้
สำหรับการรักษา แพทย์จะรักษาตามอาการ เช่น หากมีอาการอาเจียนจะให้รับประทานยาแก้อาเจียน หรือถ้าหากถ่ายมาก ขาดน้ำ ก็จะให้เกลือแร่หรือน้ำเกลือ เป็นต้น
โนโรไวรัสมีระยะฟักตัวสั้นและทนต่อสภาพแวดล้อมภายนอกร่างกายได้นาน จึงเป็นโรคติดต่อที่แพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว หลังจากได้รับเชื้อแม้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยก็อาจก่อให้เกิดอาการป่วยได้ ดังนั้น ควรเลือกรับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย เลือกใช้ภาชนะที่สะอาด และที่สำคัญหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการรับเชื้อไวรัสชนิดดังกล่าวได้
ข้อมูลโดย นพ. สุขประเสริฐ จุฑากอเกียรติ อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร