สวัสดีคะทุกคน ไม่ได้มารีวิวนานมาก เพราะติดเที่ยว และช่วงนึงกระแสแรงมาก เลยไม่อยากให้มีดราม่าอะไร แต่ก่อนที่เราจะไปเที่ยวอีกในอาทิตย์หน้า เราเลยขอมารีวิวกับสิ่งที่เราได้เจอในการเที่ยวอัฟกานิสถาน 33 วันก่อน (29/4/21-1/5/21)  ....ย้ำว่าทุกสิ่งทุกอย่างและการพบเจอ เกิดจากประสบการณ์ของเราเอง เอามาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้นะ... ปะไปดูกัน  “`อัฟกานิสถานที่รัก”เป็นไง ในมุมนักท่องเที่ยว 

Afghanistan  อัฟกานิสถาน

เราตั้งใจจะไปหลายครั้ง แต่เวลาไม่ลงตัวสักที จนมาโควิด ทุกประเทศปิดหมด ยกเว้นอัฟกานิสถานที่เปิดช่วงโควิด (5/21) และทุกอย่างดูลงตัวหมดบวกกับเหตุผลนิดหน่อยที่เราอ้างว่าต้องไป ก็ตามนั้น
1 เราอยากไปดูดอกฝิ่นบาน ซึ่งต้องเป็นช่วงปลายเดือน 4-5 
2 เราอยากข้ามแดนมาจากอุสเบกิสถานเข้าอัฟกานิสถาน
3 เราแค่อยากมาเก็บประเทศในโลกให้ครบ   และอัฟกานิสถานก็เป็นประเทศ

ดูเหมือนว่าเหตุผลน้อย น่าจะใช้เวลาเที่ยวไม่เยอะ แต่ผิดคาดเพราะความเป็นจริงกับสิ่งที่เราเจอทำให้เราต้องยืดเวลาเที่ยวถึง 33 วัน
ไปดูสิทำไม  ขออนุญาตตัดแปะมาจากเฟสเรานะ 


รูปแรกช้าย เป็นชุดเบอก้าสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีเฉพาะของอัฟกานิสถานเลย เป็นหน้ากากยาวคลุมหน้าคลุมตัวลงมาครึ่งนึง เบอก้าแบบนี้นิยมใส่เวลาผู้หญิงออกจากบ้าน ตรงที่ตาเป็นผ้าตาข่ายทำให้มองเห็น ข้อดีในการใส่คือ กินสบาย และให้ความเครารพเจ้าของประเทศ แต่เราไม่ได้ใส่ตลอดหรอกนะ เพราะไม่เคยชิน แค่เราคลุมปิดผมและใส่ชุดอาบาย่า(ชุดคลุมตัวมุสลิมก็โอเคแล้ว)

 รุปขวาแรกบน เหตุผลหลักที่เราอยากมา คือดูฝิ่นบาน จากตอนแรกที่คิดว่าง่าย กลับกลายเป็นยาก เพราะฝิ่นเป็นของผิดกฎหมายต้องแอบดู เลยทำให้เราต้องยืดเวลาเผื่อหามัน 

รูปขวาสองกลาง Bamyan เป็นอีกนึงไฮไลทของประเทศเลย พระพุทธรูปที่ถูกตาลีบันถล่ม เป็นเมืองที่ต่างจากเราคิดไว้มาก

รูปขวาล่าง (กับคนพัชตุน หนึ่งในเผ่าหลักคนอัฟกานิสถาน ตาลีบันส่วนมาก มาจากเผ่านี้) คนอัฟกานิสถาน ก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้เรายืดเวลาเที่ยวออกไป คนส่วนมากน่ารัก เราประทับใจกับน้ำใจที่เค้ายื่นให้ มิตรภาพดีๆ ถึงแม้ว่าเค้าจะอยู่ในภาวะสงคราม