ทริปนี้เกิดจากความที่ซื้อ Voucher ของตรีชวา รีสอร์ทไว้เมื่อนานมาแล้วตั้งแต่ปี 20 แล้วไม่ได้ใช้  เพราะติดโควิทยาววว จนกระทั่งจะหมดอายุ  เลยต้องบังคับตัวเองเที่ยว  (ที่นี่เคยมาเที่ยวแล้วเมื่อปี 15 ติดใจเพราะที่พักสวย  จนอยากมาอีก  เจอโรงแรมมาขาย Voucher เลยซื้อ คืนละ 1950 รวมก็ 3900 บาท  มาช่วยโควิทเห็นในเพจขายแค่ 2 คืน 3500 บาทเอง  รู้สึกซื้อแพงไปเลย) เรียกได้ว่าเป็นการเที่ยวแบบไม่ได้ตั้งใจมาเท่าไหร่ เพราะเป็นช่วงอากาศร้อนมาก  ร้อนจนไม่อยากไปไหน  ทริปนี้เลยเน้นที่พักเป็นหลัก  เน้นความชิวขั้นสุด    
ออกเดินทางกันแบบชิวๆไม่รีบร้อน  ออกกันราวๆ 9.30-10 โมง  เรียกว่าออกสาย  ตั้งใจว่าตอนเที่ยงอยากมากินที่ครัวกรรณิการ์หัวหิน แต่เนื่องจากเจอรถติดช่วงใหญ่  ท้องไม่สามารถทนรอไปถึงร้านนั้นได้  เลยได้ไปร้านพวงเพชรที่เพชรบุรีแทน  ไปถึงก็บ่ายโมงได้  ร้านอาหารคนเยอะ  ตอนไปเจอคนเพียบ  แต่ด้วยจังหวะดีได้ที่นั่งเลยไม่ต้องรอ  เพราะมากัน 2 คนด้วย  ถ้าหลายคนต้องรอจัดโต๊ะ  สั่งกุ้งอบวุ้นเส้น หอยจ้อปู และหมึกผัดผงกะหรี่  อาหารรอไม่นานเมื่อเทียบกับปริมาณลูกค้าเต็มร้าน  รสชาติใช้ได้แถมราคาไม่แพง รวมมื้อนี่แค่ 530 บาทเอง  

กินเสร็จก็เดินทางต่อไปที่สถานีรถไฟหัวหิน  แลนด์มาร์คที่ต้องมาเมื่อมาที่หัวหิน  สถานีรถไฟคลาสสิกที่ไม่ว่าจะใส่ชุดอะไรก็ถ่ายรูปได้  เหมือนไม่มีอะไรแต่ก็เสียเวลาอยู่ที่นี่ไปเกินครึ่งชั่วโมง  อากาศร้อนแค่ไหนแต่เผื่อรูปสวยๆ....ยอม

จากนั้นไปกันต่อที่วัดห้วยมงคล  มาหัวหินทีไรต้องมาไหว้หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ทุกครั้ง  แต่จะบอกว่ารอบนี้มันร้อนมากจริงๆ  ร้อนแสบผิวแสบตัวไปหมด  ตอนถ่ายรูปไม่ร้อน  แต่พอไม่ถ่ายรูปร้อนทันที   มื้อเที่ยงที่กินมาละลายไปกับแดดหมดแล้ว 

จากนั้นด้วยความเหนื่อยเพลียแดดขั้นสุด  จึงขอไปยังที่พักเพื่อพักร่างยังที่พัก  กลับมาหนนี้พบว่าที่พักยังคงสวยงามเหมือนเดิม  ที่พักห่างไกลผู้คน  ห้องพักใหญ่สะอาด  มีสระว่ายน้ำ  มีความเก่าบ้างแต่ยังคงสะอาดอยู่  ข้อเสียคือติดทะเลแต่เล่นไม่ได้  มันเป็นแนวโขดหิน  ภายในห้องพักข้าวของครบ  ของในห้องน้ำมีทั้งสบู่  แชมพู  ไดร์เป่าผม  ที่ครอบผม แต่อยากแนะนำให้เพิ่มครีมทาผิวและแปรงสีฟัน ยาสีฟัน และคัดเติ้ลบัต  เพราะด้วยราคาที่พักขนาดนี้ควรจะมีของใช้ให้ครบ  เตียงนอนใหญ่นอนสบายดี  ไม่นุ่มเกินไป  ใครชอบนุ่มๆคงบอกไม่โอเค  ระเบียงกว้างขวาง  นั่งเล่นรับลมชิวๆได้เลย วิวไม่ค่อยมีอะไรน่ามอง  wifi ดีเริ่ด  ไปที่ไหนส่วนไหนของรีสอร์ตก็เล่นได้ไม่มีสะดุด  



พักพอควรก็ออกไปหาของกิน  เนื่องด้วยวันนี้มีตลาดถนนคนเดินที่สะพานสราญวิถี  ซึ่งจะมีแค่ทุกคืนศุกร์-เสาร์  ซึ่งของกินเยอะมากกกกกก  ขับจากที่พักไปไม่นาน  มีที่จอดรถให้  แต่ต้องซื้อกลับมากินนะ  เพราะไม่มีที่นั่งกิน  นอกจากจะนั่งกินตรงสะพาน  ซื้อยำมาม่าทะเล ร้านนี้ดีมากๆ  ให้เยอะมาก  แค่ 100 บาทเอง  เยอะจนต้องกลับมาซ้ำ  รสชาติก็ดี  ใส่ถ้วยพลาสติกมีฝาปิดมาให้กินสะดวก  กุ้ง+หมึกชุบแป้งทอด 50 บาท  และบาร์บีคิวไก่+เนื้อย่าง 80 บาท  จะบอกว่าที่นี่ขายของราคาไม่แรง  น่าซื้อไปทุกร้าน  แต่ท้องรับไม่ไหว  ก็ซื้อกลับมากินที่พัก  

กินเสร็จก็กะพักผ่อนนอน แต่ก่อนนอนก็ไปจัดเครื่องดื่มร้อนสักหน่อย  คือได้ฟรีมาพร้อมกับตอนซื้อ Voucher  จะมีชาร้อนและน้ำขิงร้อน  ธรรมดาๆแค่นั้นเลย  ไม่มีไรมาก  แค่มีอะไรอุ่นๆกินก่อนนอนจะได้นอนสบาย

วันถัดมาตื่นมาด้วยความสดใสและคาดหวังกับอาหารเช้า  อาหารเช้ารอบนี้เป็นแบบ Set ให้เลือก  แต่ไม่อั้น  ไม่อิ่มก็สั่งเพิ่มได้   เอาจริงๆก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจ  ก็ธรรมดาทั่วๆไป  แต่ที่ชอบเลยคือผัดซีอิ๋ว  รสชาติดีมาก  ดีจนวันถัดไปต้องมาซ้ำ  ที่เหลือก็กินได้  ก็กินกันแบบอิ่มยันเย็นไปเลยทีเดียว  มันเติมไม่อั่นนี่หน่า


กินข้าวเช้าเสร็จก็มานั่งชิวในห้อง  ชิวจนถึงเที่ยงก็เริ่มรู้สึกอยากออกมาข้างนอกละ  อยากไปหาร้านคาเฟ่นั่งสักหน่อย  เลยไปที่ร้านใบชากาแฟ  สั่งใบชากาแฟ 60 บาทโกโก้ปั่น 50 บาท เค้กกาแฟอัลมอนด์ 50 บาท และเค้กใบเตยมะพร้าวอ่อน 50 บาท  จะบอกว่าราคาดีมากๆ  ไม่แพงเลย  น้ำอร่อย  โกโก้ดี  เค้กดี  เค้กไม่ได้ไก่กานะ  เค้กกาแฟก็มีรสขมกาแฟเข้มข้น เค้กใบเตยก็หอมใบเตย  แนะนำจริงๆ


นั่งเล่นคาเฟ่อยู่พักใหญ่ก็ออกเดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำเขื่อนคลองบึง  เจ้าของร้านคาเฟ่แนะนำให้มา  เลยมาถ่ายรูปเล่นสักหน่อย  ใครสายถ่ายรูปมาได้เลยนะ  ได้ภาพฟ้าสวยฟ้าเป็นฟ้าเลย  ไม่มีคนด้วย  ถ่าบกลางถนนได้เลย  สวยจริง  แต่ต้องแลกกับแดดอันร้อนแรง  เหมือนซ้อมตกนรกกันเลยทีเดียว  สงสัยที่คนน้อยเพราะไม่มีใครบ้ามาถ่ายรูปกลางแดดแบบนี้แน่ๆ

เพลียแดดขั้นสุดก็กลับมานอนพัก  กะให้แดดร่มก่อนค่อยออกไปถ่ายรูปที่สะพารสราญวิถี  พร้อมหาของกินมื้อเย็น  ไปถึงสัก 5 โมง  แดดยังมีอยู่  แต่ไม่แรงมาก  พอซัก 6โมงเริ่มตะวันตก  จะได้ภาพแสงส้มละ  วันปกติก็มีของขายนะ  แต่ไม่เยอะเท่ากับวันที่มีถนนคนเดิน  และที่ดีคือร้านยำยังมีอยู่  เลยสั่งยำวุ้นเส้นทะเล  100 บาท กับซื้อไก่แดงข้าวเหนียว 35 บาท  มากิน  อร่อย  ถูก  ไม่ผิดหวัง  กินเสร็จก็มาว่ายน้ำเล่นเป็นการย่อย  ก่อนจะขึ้นห้องนอนพักยาวๆ

วันสุดท้ายเราได้ลองให้ที่พักพาไปดูโซนใหม่ของที่นี่  จะห่างจากที่พัก 400 เมตร  มีรถจากที่พักพาไป  หรือจะขับรถไปเองก็ได้  จะเป็นโซนใหม่ห้องนึงพักได้ 4 คนเลย  เป็นห้องใหญ่  ติดทะเล  จุดนี้จะสามารถเล่นทะเลได้  แต่ข้อเสียคือไม่มีสระ  และอาหารเช้าต้องมากินที่โซนเดิม  หรือถ้าจะสั่งมากินที่นี่ก็สั่งได้  แต่สั่งได้แค่หนเดียว  ดังนั้นต้องสั่งมาเผื่อๆไว้เลย

วันนี้ก่อนกลับแรกๆตั้งใจอยากจะไปดูถ้ำพระยานคร  แต่พอไปถึงเลยรู้ว่าถ้าจะเดินขึ้นไปเองก็ราวๆ 2 กิโล ใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะถึง  หรือจะนั่งเรือก็เหมาเรือ 400 บาท  เลยไม่ไปดีกว่า  ไม่ได้อยากขนาดนั้น  ตัดสินใจนั่งรถมุ่งหน้ากลับ กทม เลย  และมากินเย็นกันที่ร้าน นินจาบาร์บีคิว ตรงตลาดพลู  ร้านอยู่ตรงธนบุรีพลาซ่า  ชั้นล่างจะเป็นชาบู  ชั้นบนจะเป็นบาร์บีคิว  ราคา 199 บาท + น้ำรีฟิว 39 บาท + Vat 7 ตอนไปเพิ่งรู้ว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ราคานี้  ตั้งแต่ 1 กพ ไปจะปรับราคาจาก 199 เป็น 219 บาท  โชคดีแท้ๆ  ร้านนี้เคยกินทั้งชาบูและบาร์บีคิว  แต่ชอบบาร์บีคิวมากกว่าตรงที่มีของกองกลางให้ตัก  ทั้งพิซซ่า(ที่ขายดีมาก  ลงปุ๊บหมดปั๊บ) ของทอด เครื่องเคียงเกาหลี  และอื่นๆ  มันดีงามมากๆสำหรับราคานี้  กินน้อยก็ยังคุ้ม  เป็นมื้อจบทริปที่คุ้มค่าจริงๆ


จบทริปนี้ไปด้วยราคาไม่แพง  ค่าห้อง 3900 บาท ค่าน้ำมัน 1200 บาท ค่ากิน 1664 บาท รวม 6764 บาท  เอาจริงๆไปแพงที่ค่าที่พัก  อย่างอื่นไม่แพง  และเป็นทริปที่เที่ยวน้อย  เพราะไม่สู้แดดจริงๆ  ไว้ทริปหน้าค่อยว่ากันใหม่หลังหมดน่าร้อนแล้วกันนะ  บาย