วิวัฒนาการของปืนคู่นี้ เริ่มจาก เบเร็ตต้า โมเดล 950 ที่เริ่มผลิตในปี ค.ศ.1952 เป็นปืนพกกึ่งอัตโนมัติขนาดเล็กจิ๋ว ฝ่ามือปิดมิด คู่แข่งร่วมสมัยคือ เบรานิงก์ “Baby”
ปืนแนะนำของสัปดาห์นี้ เป็นพี่น้องร่วมตระกูล “แมวป่า” ของเบเร็ตต้า ตัวน้องคือ โมเดล 21A “Bobcat” ขนาด .22 LR และตัวพี่คือ โมเดล 3032 “Tomcat” ขนาด .32 ACP รูปทรงและมิติภายนอกเท่ากันแทบทุกประการ นอกจากขนาดลำกล้องแล้ว มีที่ต่างกันเพียงฐานซองกระสุนของรุ่น .32 ยื่นพ้นด้ามเล็กน้อย และน้ำหนักตัวปืนหนักกว่ารุ่น .22 อยู่ 75 กรัม
วิวัฒนาการของปืนคู่นี้ เริ่มจาก เบเร็ตต้า โมเดล 950 ที่เริ่มผลิตในปี ค.ศ.1952 เป็นปืนพกกึ่งอัตโนมัติขนาดเล็กจิ๋ว ฝ่ามือปิดมิด คู่แข่งร่วมสมัยคือ เบรานิงก์ “Baby” ใช้กระสุนชนวนกลางขนาด .25 ACP หรือชื่อเมตริกคือ 6.35 mm. Browning การทำงานของ เบเร็ตต้า 950 ใช้ระบบลำเลื่อนอัดสปริง ไม่ขัดกลอน ไกแบบซิงเกิล เนื่องจากตัวปืนเล็ก ลำเลื่อนเล็ก จึงมีมวลต้านแรงดันเมื่อกระสุนลั่นไม่มากนัก ต้องอาศัยแรงสปริงค่อนข้างแข็งช่วยดัน การดึงลำเลื่อนขึ้นลำค่อนข้างยาก เบเร็ตต้าจึงออกแบบให้ท้ายลำกล้องกระดกขึ้นได้เพื่อใส่ “ลูกล่อ” เข้าในรังเพลิงโดยตรง ไม่ต้องดึงลำเลื่อน เป็นปืนที่จัดว่าขายได้ต่อเนื่อง เริ่มจากผลิตในอิตาลีช่วงทศวรรษ 1950-1960 ย้ายไปบราซิลช่วง 1960-1970 และสุดท้ายเข้าไปตั้งโรงงานผลิตในสหรัฐในช่วงต้น 1980 จนเลิกผลิตในปี ค.ศ.2003 โดยตั้งชื่อสำหรับตลาดอเมริกันว่า “Jetfire”
แม้จะตัดความจำเป็นในการดึงลำเลื่อนเพื่อขึ้นลำ แต่เนื่องจากการทำงานของไกเป็นแบบซิงเกิล ต้องง้างนกก่อนไกจึงจะทำงาน ในการพกพาจะขึ้นลำไว้โดยไม่ง้างนก เมื่อต้องการยิงจึงค่อยง้าง ยังไม่ค่อยสะดวกเพราะนกสับเล็กตามส่วน แต่ก็มีข้อดีคือไม่จำเป็นต้องมีห้ามไก ต่อมาในรุ่น 950SB จึงเพิ่มห้ามไกตามข้อบังคับของสหรัฐ
จากโมเดล 950SB เบเร็ตต้าออกแบบระบบไกแบบดับเบิล เหนี่ยวไกยิงได้โดยไม่ต้องง้างนกก่อน เรียกชื่อว่า โมเดล 20 มีขนาดกระสุน .25 และ .22 สั้น เริ่มผลิตช่วงต้นทศวรรษ 1980 และต่อมาจึงขยายโครง
ด้ามให้ซองกระสุนรับลูกกรด .22 LR ที่ยาวกว่าได้ ใช้รหัสรุ่นเป็น โมเดล 21A พร้อมกับตั้งชื่อว่า “Bobcat” เริ่มผลิตในปี ค.ศ.1984 จากโรงงานในสหรัฐที่เดียว พร้อมกับเลิกการผลิตโมเดล 20 ไปเลย เพราะรุ่น 21A ก็มีขนาดกระสุน .25 ให้เลือกได้ ยกเว้นในแบบที่เป็นวัสดุสเตนเลส หรือรุ่น Inox (เดลินิวส์ 29 ธ.ค.12) มีเฉพาะ .22 LR
ด้วยวิวัฒนาการทางด้านโลหการ เบเร็ตต้าสามารถปรับแบบโมเดล 21A ตัวเล็กจิ๋วนี้ ให้ใช้กระสุนใหญ่ขึ้นคือ .32 ACP หรือ 7.65 mm. Browning ได้ เรียกว่า โมเดล 3032 ทอมแค็ท ซึ่งไว้วางใจได้มากกว่า .25 ในการใช้ป้องกันตัว โรงงานเพียงห้ามใช้กระสุนแรงสูงพิเศษที่ให้พลังงานเกิน 130 ฟุต-ปอนด์ ซึ่งเทียบได้กับกระสุนขนาด .22 LR แรงสูงยิงจากปืนยาว ซึ่งในปืนโมเดล 21A นั้น ลูกกรดแรงสูงทำความเร็วได้เพียงประมาณ 700 ฟุตต่อวินาที ให้พลังงาน 56 ฟุต-ปอนด์ เท่านั้น
โดยรวม เบเร็ตต้า ในตระกูลแมวป่าคู่นี้ ความเหมือนกันคือเป็นปืนเล็กจิ๋ว พกซ่อนง่าย ใช้สะดวกด้วยลำกล้องกระดกไม่ต้องดึงลำเลื่อน ไกดับเบิลเหนี่ยวยิงได้ทันทีหลังขึ้นลำแล้ว นัดแรกไกเหนี่ยวยาว นัดต่อ ๆ ไปเมื่อนกง้างแล้วไกเบาแบบซิงเกิล มีห้ามไกเพิ่มความปลอดภัย พร้อมทั้งร่องรับนกตก และเข็มแทงชนวนแบบแรงเฉื่อยเหมือนปืนรุ่นใหญ่ โมเดล 21A ใช้กระสุนลูกกรดราคาถูกหาซื้อง่าย แต่ความแรงต่ำ หวังผลได้ในระยะประชิดแบบจ่อยิง และไม่ควรใช้กระสุนเก่าเก็บ ส่วนโมเดล 3032 ใช้กระสุนชนวนกลางขนาด .32 ออโตฯ ไว้ใจได้เพิ่มขึ้นมาอีกระดับทั้งด้านความแรง และอายุการเก็บของกระสุน ทั้งสองแบบมีข้อควรระวังคือ การดีดปลอกไม่ออกข้างแต่จะมาด้านหลังตรง ๆ อาจเข้าหน้าคนยิงหรือหล่นลงในคอเสื้อ ซึ่งปลอกกระสุนจะร้อนพอให้สะดุ้งได้.
......................................................................
ข้อมูลสรุป Beretta 21A / 3032
ขนาดกระสุน .22 LR / .32 ACP
ความจุ 7+1 นัด
มิติ ยาวxสูงxหนา : 125x97x22 มิลลิเมตร
ลำกล้องยาว 61 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 335 กรัม / 410 กรัม
แรงเหนี่ยวไก ดับเบิล 5400 กรัม (12 ปอนด์), ซิงเกิล 2300 กรัม (5 ปอนด์)
วัสดุ โครงปืนอัลลอยด์, ลำกล้องและลำเลื่อนเหล็กรมดำ
อื่น ๆ ลำกล้องกระดก ใส่กระสุนเข้ารังเพลิงโดยตรงไม่ต้องดึงลำเลื่อน
ลักษณะใช้งาน พกซ่อน ใช้ยิงระยะประชิด
ตัวเลือกอื่น Taurus PT-22 (โครงเหล็ก)
https://d.dailynews.co.th/crime/232883/?fb_comment_id=221475704682998_625951
.................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 1214 แมวป่าซ่อนเล็บ เบเร็ตต้า 21A Bobcat / 3032 Tomcat
ปืนแนะนำของสัปดาห์นี้ เป็นพี่น้องร่วมตระกูล “แมวป่า” ของเบเร็ตต้า ตัวน้องคือ โมเดล 21A “Bobcat” ขนาด .22 LR และตัวพี่คือ โมเดล 3032 “Tomcat” ขนาด .32 ACP รูปทรงและมิติภายนอกเท่ากันแทบทุกประการ นอกจากขนาดลำกล้องแล้ว มีที่ต่างกันเพียงฐานซองกระสุนของรุ่น .32 ยื่นพ้นด้ามเล็กน้อย และน้ำหนักตัวปืนหนักกว่ารุ่น .22 อยู่ 75 กรัม
วิวัฒนาการของปืนคู่นี้ เริ่มจาก เบเร็ตต้า โมเดล 950 ที่เริ่มผลิตในปี ค.ศ.1952 เป็นปืนพกกึ่งอัตโนมัติขนาดเล็กจิ๋ว ฝ่ามือปิดมิด คู่แข่งร่วมสมัยคือ เบรานิงก์ “Baby” ใช้กระสุนชนวนกลางขนาด .25 ACP หรือชื่อเมตริกคือ 6.35 mm. Browning การทำงานของ เบเร็ตต้า 950 ใช้ระบบลำเลื่อนอัดสปริง ไม่ขัดกลอน ไกแบบซิงเกิล เนื่องจากตัวปืนเล็ก ลำเลื่อนเล็ก จึงมีมวลต้านแรงดันเมื่อกระสุนลั่นไม่มากนัก ต้องอาศัยแรงสปริงค่อนข้างแข็งช่วยดัน การดึงลำเลื่อนขึ้นลำค่อนข้างยาก เบเร็ตต้าจึงออกแบบให้ท้ายลำกล้องกระดกขึ้นได้เพื่อใส่ “ลูกล่อ” เข้าในรังเพลิงโดยตรง ไม่ต้องดึงลำเลื่อน เป็นปืนที่จัดว่าขายได้ต่อเนื่อง เริ่มจากผลิตในอิตาลีช่วงทศวรรษ 1950-1960 ย้ายไปบราซิลช่วง 1960-1970 และสุดท้ายเข้าไปตั้งโรงงานผลิตในสหรัฐในช่วงต้น 1980 จนเลิกผลิตในปี ค.ศ.2003 โดยตั้งชื่อสำหรับตลาดอเมริกันว่า “Jetfire”
แม้จะตัดความจำเป็นในการดึงลำเลื่อนเพื่อขึ้นลำ แต่เนื่องจากการทำงานของไกเป็นแบบซิงเกิล ต้องง้างนกก่อนไกจึงจะทำงาน ในการพกพาจะขึ้นลำไว้โดยไม่ง้างนก เมื่อต้องการยิงจึงค่อยง้าง ยังไม่ค่อยสะดวกเพราะนกสับเล็กตามส่วน แต่ก็มีข้อดีคือไม่จำเป็นต้องมีห้ามไก ต่อมาในรุ่น 950SB จึงเพิ่มห้ามไกตามข้อบังคับของสหรัฐ
จากโมเดล 950SB เบเร็ตต้าออกแบบระบบไกแบบดับเบิล เหนี่ยวไกยิงได้โดยไม่ต้องง้างนกก่อน เรียกชื่อว่า โมเดล 20 มีขนาดกระสุน .25 และ .22 สั้น เริ่มผลิตช่วงต้นทศวรรษ 1980 และต่อมาจึงขยายโครง
ด้ามให้ซองกระสุนรับลูกกรด .22 LR ที่ยาวกว่าได้ ใช้รหัสรุ่นเป็น โมเดล 21A พร้อมกับตั้งชื่อว่า “Bobcat” เริ่มผลิตในปี ค.ศ.1984 จากโรงงานในสหรัฐที่เดียว พร้อมกับเลิกการผลิตโมเดล 20 ไปเลย เพราะรุ่น 21A ก็มีขนาดกระสุน .25 ให้เลือกได้ ยกเว้นในแบบที่เป็นวัสดุสเตนเลส หรือรุ่น Inox (เดลินิวส์ 29 ธ.ค.12) มีเฉพาะ .22 LR
ด้วยวิวัฒนาการทางด้านโลหการ เบเร็ตต้าสามารถปรับแบบโมเดล 21A ตัวเล็กจิ๋วนี้ ให้ใช้กระสุนใหญ่ขึ้นคือ .32 ACP หรือ 7.65 mm. Browning ได้ เรียกว่า โมเดล 3032 ทอมแค็ท ซึ่งไว้วางใจได้มากกว่า .25 ในการใช้ป้องกันตัว โรงงานเพียงห้ามใช้กระสุนแรงสูงพิเศษที่ให้พลังงานเกิน 130 ฟุต-ปอนด์ ซึ่งเทียบได้กับกระสุนขนาด .22 LR แรงสูงยิงจากปืนยาว ซึ่งในปืนโมเดล 21A นั้น ลูกกรดแรงสูงทำความเร็วได้เพียงประมาณ 700 ฟุตต่อวินาที ให้พลังงาน 56 ฟุต-ปอนด์ เท่านั้น
โดยรวม เบเร็ตต้า ในตระกูลแมวป่าคู่นี้ ความเหมือนกันคือเป็นปืนเล็กจิ๋ว พกซ่อนง่าย ใช้สะดวกด้วยลำกล้องกระดกไม่ต้องดึงลำเลื่อน ไกดับเบิลเหนี่ยวยิงได้ทันทีหลังขึ้นลำแล้ว นัดแรกไกเหนี่ยวยาว นัดต่อ ๆ ไปเมื่อนกง้างแล้วไกเบาแบบซิงเกิล มีห้ามไกเพิ่มความปลอดภัย พร้อมทั้งร่องรับนกตก และเข็มแทงชนวนแบบแรงเฉื่อยเหมือนปืนรุ่นใหญ่ โมเดล 21A ใช้กระสุนลูกกรดราคาถูกหาซื้อง่าย แต่ความแรงต่ำ หวังผลได้ในระยะประชิดแบบจ่อยิง และไม่ควรใช้กระสุนเก่าเก็บ ส่วนโมเดล 3032 ใช้กระสุนชนวนกลางขนาด .32 ออโตฯ ไว้ใจได้เพิ่มขึ้นมาอีกระดับทั้งด้านความแรง และอายุการเก็บของกระสุน ทั้งสองแบบมีข้อควรระวังคือ การดีดปลอกไม่ออกข้างแต่จะมาด้านหลังตรง ๆ อาจเข้าหน้าคนยิงหรือหล่นลงในคอเสื้อ ซึ่งปลอกกระสุนจะร้อนพอให้สะดุ้งได้.
......................................................................
ข้อมูลสรุป Beretta 21A / 3032
ขนาดกระสุน .22 LR / .32 ACP
ความจุ 7+1 นัด
มิติ ยาวxสูงxหนา : 125x97x22 มิลลิเมตร
ลำกล้องยาว 61 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 335 กรัม / 410 กรัม
แรงเหนี่ยวไก ดับเบิล 5400 กรัม (12 ปอนด์), ซิงเกิล 2300 กรัม (5 ปอนด์)
วัสดุ โครงปืนอัลลอยด์, ลำกล้องและลำเลื่อนเหล็กรมดำ
อื่น ๆ ลำกล้องกระดก ใส่กระสุนเข้ารังเพลิงโดยตรงไม่ต้องดึงลำเลื่อน
ลักษณะใช้งาน พกซ่อน ใช้ยิงระยะประชิด
ตัวเลือกอื่น Taurus PT-22 (โครงเหล็ก)
https://d.dailynews.co.th/crime/232883/?fb_comment_id=221475704682998_625951
.................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช