น้อมกราบถวายมุทิตาสักการะ เนื่องในโอกาสเจริญอายุวิวัฒนมงคล ๗๖ ปี ๕๔ พรรษา
พระเดชพระคุณพระพรหมวชิรปัญญาจารย์ ( เดิม: พระโพธิวงศาจารย์ ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบัณฑิต )
เจ้าอาวาสวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร หัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ ๘ วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
และได้รับโปรดเกล้าฯพระราชทานสมณศักดิ์
เกล้ากระผมได้นำข้อคิดสะกิดใจบางส่วนจากหนังสือ "อันเหลือเชื่อ" มาลงไว้ที่พันทิปหลายตอน
นับว่า วันนี้รู้สึกปีติยินดียิ่ง น้อมกราบมาด้วยความเคารพยิ่ง
ที่มา FB : Uthit Siriwan พระดี พระนักปราชญ์ พระราชบัณฑิตที่น่ารู้จัก
พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ (ทองดี สุรเตโช)
สถิต ณ วัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร พระอารามหลวง ประจำรัชกาลที่ ๓
พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ นามเดิม ทองดี สุรเดช ฉายา สุรเตโช เป็นราชบัณฑิต
พระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร
หัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ ๘ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระพรหมวชิรปัญญาจารย์
(ทองดี สุรเตโช ป.ธ. ๙, ราชบัณฑิต)
เกิด ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๙ อายุ ๗๖
อุปสมบท ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๐ พรรษา ๕๔
วัด วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร จังหวัด กรุงเทพมหานคร
สังกัด มหานิกาย วุฒิ นักธรรมชั้นเอก เปรียญธรรม ๙ ประโยค
ประกาศนียบัตรประโยคครูพิเศษมัธยม (พ.ม.)
ตำแหน่งสำคัญ ราชบัณฑิต
สำนักศิลปกรรม ประเภทวิชา วรรณศิลป์ สาขาวิชาตันติภาษา
เจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร หัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ ๘
พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ มีนามเดิมว่า ทองดี สุรเดช เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๙
ที่อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร
เมื่ออายุ ๑๔ ปี และจบชั้นมัธยมต้นแล้วก็ได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเดิมคือวัดไตรภูมิ
อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร จากนั้นก็ได้ศึกษาธรรมที่สำนักเรียนวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ สอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕
ด้วยอายุ ๒๖ ปี ในทางโลกสอบได้ประกาศนียบัตรประโยควิชาครูพิเศษมัธยม (พ.ม.) ในปีถัดมา
ด้านการงสนองงานคณะสงฆ์
พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ ได้เป็นเลขานุการเจ้าคณะอำเภอพรานกระต่าย เลขานุการเจ้าคณะเขตบางขุนเทียน ต่อมาได้เป็นอาจารย์สอนวิชาแต่งฉันท์ภาษามคธ ชั้นประโยค ป.ธ. ๘ ที่โรงเรียนพระปริยัติธรรมส่วนกลางของคณะสงฆ์ ก่อนที่จะเป็นเจ้าคณะแขวงบางค้อ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม เคยเป็นเจ้าคณะภาค ๑๖ เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๓๕-พ.ศ. ๒๕๔๔
ด้านวิชาการ
พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ เคยเป็นรองประธานกรรมการตรวจสอบต้นฉบับพระไตรปิฎกฉบับสังคายนา ภาษาไทยและภาษาบาลี
เป็นรองประธานกรรมการตรวจสำนวนการแปลพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการศึกษาของคณะสงฆ์
เป็นกรรมการจัดทำแผนพัฒนาด้านการศึกษา กรมการศาสนา ประธานกรรมการจัดทำต้นฉบับพระไตรปิฎก ฉบับภาษาไทย
นอกจากนี้ยังเคยเป็นประธานกรรมการพิจารณาและดำเนินการจัดตั้งสำนักหุบผาสวรรค์เป็นสถานศึกษาทางพุทธศาสนาอีกด้วย
ตำแหน่งหน้าที่สำคัญ
หลังจากสอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค แล้ว พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ได้ปฏิบัติงานด้านการศาสนาในตำแหน่งต่างๆ มาเป็นลำดับ นอกจากตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดราชโอรสารามดังกล่าวแล้วก็ได้เป็นเจ้าคณะภาค ๑๖ เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นเจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม เจ้าสำนักเรียนวัดราชโอรสาราม เป็นหัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ ๘ เป็นผู้อำนวยการฝึกอบรมพระนักเทศน์ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลางและหนใต้ นอกจากนี้ ยังเป็นผู้อุปถัมภ์สร้างวัดพุทธวิหาร กรุงเบอร์ลิน และวัดธรรมวิหาร เมืองฮันโนเฟอร์ ประเทศเยอรมนีอีกด้วย
วันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นราชบัณฑิตในประเภทวรรณศิลป์ สาขาวิชาตันติภาษา
สมณศักดิ์
พระมหาโพธิวงศาจารย์ได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานสมณศักดิ์ตามลำดับดังนี้
๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๕ - ได้รับพระราชทานราชทินนาม เป็น พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ ปริยัติกิจวิธานปรีชา ศีลาจารวิมล
โสภณธรรมานุสิฐ ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
ด้านการเผยแผ่
พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ ได้เขียนหนังสือและแต่งตำราเพื่อเผยแผ่พระธรรมจำนวนมากดังรายการผลงานเขียนของท่านข้างล่างนี้
หนังสือที่เขียน
สมณศักดิ์: ยศช้าง ขุนนางพระ / หลักการแต่งฉันท์ภาษามคธ /
ธรรมสารทีปนี คู่มือการศึกษาบาลี เล่ม ๑-๔ /
ข้อคิด ข้อเขียน / พระในบ้าน / ภาษาธรรม คำวัด เล่ม ๑-๕ /คำพ่อคำแม่ /
ภาษิตนิทัศน์ / คนกินคน (หนังสือแปล) / หัวใจอมตะ (หนังสือแปล) / คลังธรรม เล่ม ๑-๓ /
ธรรมบทชีวิต / ศัพท์วิเคราะห์ / แนวปฏิบัติศาสนพิธี / พุทธธรรม ๕ นาที / ประกายความคิด /
กิร ดังได้สดับมา เล่ม ๑ - ๓, ฉบับรวมเล่ม / ไขข้อข้องใจ / ภาษาชาวบ้าน /
ชาดกในธรรมบท (พิมพ์ครั้งที่ ๑ : กันยายน ๒๕๕๔) /
การเรียนรู้พระพุทธพจน์ (พิมพ์ครั้งที่ ๑ : กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕)
อุปมาสาธกในเทศนา (พิมพ์ครั้งที่ ๑ : พฤษภาคม ๒๕๕๕)
เทศน์ : การเผยแผ่ที่สำคัญศักดิ์สิทธิ์ /
การตีความพุทธศาสนสุภาษิต /
สวัสดิมงคล เล่ม ๑, เล่ม ๒, เล่ม ๓, ฉบับรวมเล่ม
น้อมกราบมุทิตาจิตพระพรหมวชิรปัญญาจารย์ (ทองดี สุรเตโช) ทั้งเจริญอายุวัฒนมงคล-ได้รับโปรดเกล้าฯพระราชทานสมณศักดิ์
พระเดชพระคุณพระพรหมวชิรปัญญาจารย์ ( เดิม: พระโพธิวงศาจารย์ ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบัณฑิต )
เจ้าอาวาสวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร หัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ ๘ วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
และได้รับโปรดเกล้าฯพระราชทานสมณศักดิ์
เกล้ากระผมได้นำข้อคิดสะกิดใจบางส่วนจากหนังสือ "อันเหลือเชื่อ" มาลงไว้ที่พันทิปหลายตอน
นับว่า วันนี้รู้สึกปีติยินดียิ่ง น้อมกราบมาด้วยความเคารพยิ่ง
ที่มา FB : Uthit Siriwan พระดี พระนักปราชญ์ พระราชบัณฑิตที่น่ารู้จัก
พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ (ทองดี สุรเตโช)
สถิต ณ วัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร พระอารามหลวง ประจำรัชกาลที่ ๓
พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ นามเดิม ทองดี สุรเดช ฉายา สุรเตโช เป็นราชบัณฑิต
พระพรหมวชิรปัญญาจารย์
(ทองดี สุรเตโช ป.ธ. ๙, ราชบัณฑิต)
เกิด ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๙ อายุ ๗๖
อุปสมบท ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๐ พรรษา ๕๔
วัด วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร จังหวัด กรุงเทพมหานคร
สังกัด มหานิกาย วุฒิ นักธรรมชั้นเอก เปรียญธรรม ๙ ประโยค
ประกาศนียบัตรประโยคครูพิเศษมัธยม (พ.ม.)
สำนักศิลปกรรม ประเภทวิชา วรรณศิลป์ สาขาวิชาตันติภาษา
เจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร หัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ ๘
พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ มีนามเดิมว่า ทองดี สุรเดช เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๙
ที่อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร
เมื่ออายุ ๑๔ ปี และจบชั้นมัธยมต้นแล้วก็ได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเดิมคือวัดไตรภูมิ
อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร จากนั้นก็ได้ศึกษาธรรมที่สำนักเรียนวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ สอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕
ด้วยอายุ ๒๖ ปี ในทางโลกสอบได้ประกาศนียบัตรประโยควิชาครูพิเศษมัธยม (พ.ม.) ในปีถัดมา
ด้านการงสนองงานคณะสงฆ์
พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ ได้เป็นเลขานุการเจ้าคณะอำเภอพรานกระต่าย เลขานุการเจ้าคณะเขตบางขุนเทียน ต่อมาได้เป็นอาจารย์สอนวิชาแต่งฉันท์ภาษามคธ ชั้นประโยค ป.ธ. ๘ ที่โรงเรียนพระปริยัติธรรมส่วนกลางของคณะสงฆ์ ก่อนที่จะเป็นเจ้าคณะแขวงบางค้อ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม เคยเป็นเจ้าคณะภาค ๑๖ เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๓๕-พ.ศ. ๒๕๔๔
ด้านวิชาการ
พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ เคยเป็นรองประธานกรรมการตรวจสอบต้นฉบับพระไตรปิฎกฉบับสังคายนา ภาษาไทยและภาษาบาลี
เป็นรองประธานกรรมการตรวจสำนวนการแปลพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการศึกษาของคณะสงฆ์
เป็นกรรมการจัดทำแผนพัฒนาด้านการศึกษา กรมการศาสนา ประธานกรรมการจัดทำต้นฉบับพระไตรปิฎก ฉบับภาษาไทย
นอกจากนี้ยังเคยเป็นประธานกรรมการพิจารณาและดำเนินการจัดตั้งสำนักหุบผาสวรรค์เป็นสถานศึกษาทางพุทธศาสนาอีกด้วย
ตำแหน่งหน้าที่สำคัญ
หลังจากสอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค แล้ว พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ได้ปฏิบัติงานด้านการศาสนาในตำแหน่งต่างๆ มาเป็นลำดับ นอกจากตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดราชโอรสารามดังกล่าวแล้วก็ได้เป็นเจ้าคณะภาค ๑๖ เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นเจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม เจ้าสำนักเรียนวัดราชโอรสาราม เป็นหัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ ๘ เป็นผู้อำนวยการฝึกอบรมพระนักเทศน์ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลางและหนใต้ นอกจากนี้ ยังเป็นผู้อุปถัมภ์สร้างวัดพุทธวิหาร กรุงเบอร์ลิน และวัดธรรมวิหาร เมืองฮันโนเฟอร์ ประเทศเยอรมนีอีกด้วย
วันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นราชบัณฑิตในประเภทวรรณศิลป์ สาขาวิชาตันติภาษา
สมณศักดิ์
พระมหาโพธิวงศาจารย์ได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานสมณศักดิ์ตามลำดับดังนี้
๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๕ - ได้รับพระราชทานราชทินนาม เป็น พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ ปริยัติกิจวิธานปรีชา ศีลาจารวิมล
โสภณธรรมานุสิฐ ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
ด้านการเผยแผ่
พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ ได้เขียนหนังสือและแต่งตำราเพื่อเผยแผ่พระธรรมจำนวนมากดังรายการผลงานเขียนของท่านข้างล่างนี้
หนังสือที่เขียน
สมณศักดิ์: ยศช้าง ขุนนางพระ / หลักการแต่งฉันท์ภาษามคธ /
ธรรมสารทีปนี คู่มือการศึกษาบาลี เล่ม ๑-๔ /
ข้อคิด ข้อเขียน / พระในบ้าน / ภาษาธรรม คำวัด เล่ม ๑-๕ /คำพ่อคำแม่ /
ภาษิตนิทัศน์ / คนกินคน (หนังสือแปล) / หัวใจอมตะ (หนังสือแปล) / คลังธรรม เล่ม ๑-๓ /
ธรรมบทชีวิต / ศัพท์วิเคราะห์ / แนวปฏิบัติศาสนพิธี / พุทธธรรม ๕ นาที / ประกายความคิด /
กิร ดังได้สดับมา เล่ม ๑ - ๓, ฉบับรวมเล่ม / ไขข้อข้องใจ / ภาษาชาวบ้าน /
ชาดกในธรรมบท (พิมพ์ครั้งที่ ๑ : กันยายน ๒๕๕๔) /
การเรียนรู้พระพุทธพจน์ (พิมพ์ครั้งที่ ๑ : กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕)
อุปมาสาธกในเทศนา (พิมพ์ครั้งที่ ๑ : พฤษภาคม ๒๕๕๕)
เทศน์ : การเผยแผ่ที่สำคัญศักดิ์สิทธิ์ /
การตีความพุทธศาสนสุภาษิต /
สวัสดิมงคล เล่ม ๑, เล่ม ๒, เล่ม ๓, ฉบับรวมเล่ม