จริงๆ ขอออกตัวก่อนว่าไม่ได้เป็นคนที่รู้เรื่องนาฬิกาอะไรมากมายครับ รีวิวนี้เกิดจากการที่ผมอยากได้นาฬิกา Automatic ซักเรือน มาแทนน้อง Casio Edifice ระบบ Quartz ที่ใส่มาจะ 10 ปีแล้ว

แต่ในยุคที่นาฬิกามันฉลาดจนเทรดคริปโตได้แล้ว ผมคงเป็นคนหัวเก่าที่ยังอยากจะได้นาฬิกากลไกมาใช้อยู่ดี
และเดี๋ยวนี้ใน Pantip ก็แทบไม่เห็นรีวิวนาฬิกาข้อมือเลย เลยขอใช้พื้นที่ตรงนี้แลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ ที่ยังหลงไหลในกลิ่นอาย Analog แล้วกันนะครับ 

ซึ่งเรือนที่จะพูดถึงนี้คือเจ้า Orient Star Avant-Garde Skeleton ครับ

*** รูปทั้งหมดถ่ายด้วยกล้องมือถือครับ อาจมีบางส่วนที่ไม่ชัดบ้างต้องขออภัย ***



แนะนำแบรนด์กันก่อน

Orient Star เป็นแบรนด์ระดับบนของแบรนด์ Orient ครับ (เทียบกันก็คงคล้ายๆ กับ Seiko ที่มี Grand Seiko ยกขึ้นไปอีกระดับ) Orient ก็ถือเป็นแบรนด์ญี่ปุ่นที่ประวัติศาตร์ไม่ได้เก่าแก่มากแต่ก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควรครับ อายุประมาณ 71 ปี ปัจจุบันก็อยู่ภายใต้ความดูแลของ Epson (อยู่ในรั้วเดียวกับ Seiko แต่อยู่บ้านคนละหลัง) ภาพลักษณ์ของแบรนด์ในความรู้สึกผมก็จะนึกถึง คุณลุงที่มีอายุ แต่งตัวเรียบร้อยๆ แบบผู้ดีเก่าอ่ะครับ 5555 เพราะแบรนด์นี้ ภาพจำสำหรับผมคือนาฬิกาเดรสแนวคลาสสิคๆ หน่อยประมาณนี้


แต่กับเจ้า Avant-Garde (อะ-วอง-การ์ด) เรือนนี้คนละเรื่องเลยครับ เพราะหน้าตาของเรือนนี้นี่ฉีกขนบเดิมๆ สลัดคราบความสุภาพเรียบร้อย กลายเป็นหน้าตา Skeleton ที่ดูดุดันแบบในภาพเลยครับ 


สเปคคร่าวๆ
- เคสไซส์เรือนนี้ขนาดประมาณ 43 มม. / หนาประมาณ 13 มม. น้ำหนักไม่ทราบ (กะคร่าวๆ ผมว่าเกิน 1.5 ขีด) ถือว่าค่อนข้างใหญ่ หนา และหนักเอาเรื่องครับ
- กันนี้ได้ 10 bar (100 ม.)
- กระจกหน้าปัด Sapphire Crystal เคลือบ AR Coating ตัดแสงสะท้อน
- ใช้ระบบ 2 เข็มครึ่ง (เข็มวินาทีจะเป็นเข็มเล็ก อยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา)


ขอบ Bezel มีน๊อตสีดำ 6 จุด ตรงนี้ผมนึกถึง Design หน้าต่างเรือของ Hublot เลยครับ แต่ทาง Orient Star ก็พยายามจะทำให้ฉีกออกไปด้วยการเซาะร่อง และขัดเงาเพิ่มอีก 6 จุด ทำให้ Detail และการเล่นแสงเพิ่มขึ้นไปอีกระดับครับ

ตัวเรือนคุมโทนด้วยสี Steel ทั้งเรือน ถึงหน้าตาจะดูดิบๆ แบบ Monotone แต่ถ้าได้จับพลิกให้เล่นแสงดูสักนิด จะสัมผ้สได้ถึงความหรูหราเช่นกันครับ

(หน้าปัดเรือนนี้รายละเอียดค่อนข้างเยอะและถ่ายรูป "ยากมากกกกก" ครับ เพราะมันเป็นสีเงินสะท้อนแสงทั้งเรือน โดยตัวจริงจะเล่นแสงระยิบระยับตามเหลี่ยมมุมเยอะเลย แต่พอตอนถ่ายออกมารายละเอียดตรงนี้หายไปเยอะเลยครับ 5555)
  


บนหน้าปัดจะมี Power Reserve Indicator บอกระดับพลังงานที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาด้วย ซึ่งตรงนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่เลือกเลยครับ เพราะในงบไล่ๆ กันโดยเฉพาะฝั่งสวิสฯ หานาฬิกาที่มีฟังก์ชั่นนี้ยากมากครับ มีแล้วชีวิตดีเลยทีเดียว

นอกจากนี้ก็มีการเจาะช่อง Open Heart ให้เห็นกลไกส่วนที่ 9 นาฬิกา และมีโลโก้แบรนด์ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา
ตัวเข็มชั่วโมงและนาทีเป็นแบบบโปร่งที่มีพรายน้ำมาให้

และเนื่องจากสีจะเป็นแนว Steel ทั้งหมดซึ่งทำให้เข็มกลืนกับพื้นหลัง ดังนั้นทุกเข็มจะมีการขัดด้านครึ่งหนึ่งและขัดเงาครึ่งหนึ่งเสมอ เพื่อให้สะท้อนแสงและสามารถดูแวลาได้สะดวกขึ้น (ซึ่งแรกๆ ดูเวลายากจริงครับ  แต่พอเริ่มชินก็ OK )