เราควรทำยังไงกับผู้ชายคนนี้ดี ??

กระทู้คำถาม
เกริ่นเรื่องก่อนนะ ตอนนี้เราอายุ 27 ปี แต่งงานมีลูก 2 คน คนเเรกหญิง คนที่ 2 ชาย เราเป็นคนอีสานที่เกิดที่กรุงเทพตั้งเเต่เเรก เรียนที่กรุงเทพจนเข้ามหาลัยเเละได้เจอผู้ชายคนนึงซึ่งก็นเป็นสามีที่เราแต่งงานด้วยเนี่ยเเหละ เป็นคนภาคใต้ที่มาเรียนที่กรุงเทพ นามสมมติ ชื่อเอ ล่ะกัน ก็คบหาดูใจกันเเละตัดสินใจอยู่หอด้วยกัน แต่พ่อแม่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่รับรู้ คบๆ เลิกๆ มาก็หลายครั้ง จนเอต้องกลับไปอยู่ที่ใต้ถาวรเพราะไม่อยากผ่อนผันทหารแล้ว เตรียมเกณฑ์ทหารและไม่เรียนต่อ เราก็เข้าใจเอดีนะก็ให้กลับบ้าน ส่วนเราก็เรียนต่อให้จบ ป.ตรี เเรกๆ ก็โทรคุยกัน บอกทุกอย่างว่าทำไร แต่พอนานๆ ไป หาย ไม่ค่อยโทร เงียบตลอดทั้งวัน เราไม่ตามเพราะใกล้จะเรียนจบแล้ว จนมาจับได้ว่าเขามีคนอื่นและเขาก็เลือกผู้หญิงคนนั่นเพราะอยู่ใกล้กัน เราก็เคารพการตัดสินใจของเขา แต่พีคกว่านั่นคือ เรามารู้ว่าตัวเองท้องลูกคนเเรก เราก็ปรึกษาเพื่อนว่าจะเอาไงดี ไม่กล้าบอกพ่อเเม่เราเพราะแกทั้งสองเป็นคนหัวโบราณมาก เพื่อนบอกให้บอกเอ เราจึงตัดสินใจโทรไปบอกว่าเราท้องนะ ซึ่งเราก็เเน่ใจว่าคนนี้คือลูกของเขาเพราะเราไม่ได้คบใคร เขาก็บอกว่าท้องหรอ กี่เดือนแล้ว เราก็บอกเอไป แล้วเอบอกกับเราว่าเดียวค่อยคุยกันนะพอดีญาติมาเที่ยวที่บ้านพาเขามาร้านเหล้า ร้านเสียงดังไม่ค่อยได้ยิน เดียวถึงบ้านเอโทรกลับนะ เราก็ตกลงและวางสายเขาไป จนผ่านไปเกือบอาทิตย์เขาเงียบหายไปโทรมา เราโทรไปไม่รับสาย ช่วงนั่นเราเครียดมาก จนเพื่อนโทรหาแฟนเราให้ แต่ผู้หญิงรับสายบอกเอไม่อยู่ เพื่อนเราบอกให้เอโทรกลับด้วย มีเรื่องจะคุยด่วน ผลสุดท้ายก็เงียบตามเดิม เรารอไม่ไหวจึงตัดสินใจโทรหาพี่สาวเอ บอกเรื่องท้อง จนมันเรื่องใหญ่ พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ ก็คุยกันเรื่องแต่ง ส่วนเรื่องผู้หญิงของเอ เอตัดสินใจเลือกลูก ขอโอกาสเรา เราสงสารลูกเลยให้อภัย แต่ลึกๆ เราไม่เคยลืมนะเต่เลือกที่จะเงียบมากกว่า ก็คุยเรื่องถ้าลูกเกิดให้ฝ่ายไหนเลี้ยง ซึ่งตอนนั่นฝ่ายเราทำงานกันหมดไม่สามารถเลี้ยงได้ และเราท้องในวัยเรียนก็ต้องเรียนให้จบเพราะเหลือไม่กี่เทอมเเล้ว คุยกันตกลงว่าให้ฝ่ายเอเลี้ยงเพราะพ่อแม่เขาทำสวนซึ่งมีเวลามากกว่าพ่อแม่เรา เเละนั่นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดมากที่สุดในชีวิตของเราเลย ต่อมาเราเรียนจบเเต่งงานกัน เราก็ต้องย้ายมาอยู่ใต้บ้านของเอถาวร บ้านของเอของอยู่กับพ่อแม่เอเเละพี่สาว เเละก็เรา พ่อแม่พี่สาวเขาดีนะ แต่เเรกๆ ไม่มีอะไรที่เข้ากับเราได้เลย การอยู่ การกิน การใช้ชีวิต เปลี่ยนไปหมด โดนว่าบ้าง โดนบ่นบ้าง ร้องไห้ทุกวัน เราอยู่ที่บ้านเอเหมือนตัวคนเดียวซึ่งเอไม่เคยอยู่เคียงข้างเวลาที่เราต้องการ หรือปกป้องเราเลย ไม่เคยเป็นหัวหน้าครอบครัว ไม่เคยเป็นสามีที่ดี เเต่เราก็ทนมาตลอดนะเพราะเราสงสารลูก  เเละเราก็มีลูกชายเพิ่มอีก 1 คน จากใจเราไม่อยากมีเเล้วเพราะพ่อพันธ์ไม่ได้เรื่อง แต่คนที่ 2 ทะลุยาคุม ท้องก็ต้องเลี้ยง ซึ่งค่าใช้จ่ายเราหรือการซื้อของเราจะทำเองหมด ขับรถยนต์ไม่เป็น เป็นแตรถมอไซต์ก็ซื้อของหอบเข้าบ้าน เอเห็นก็ไม่สนใจ เคยพูด เคยขอความช่วยเหลือว่าช่วยเราสักนิด เเรกๆ ก็ทำให้ พอนานๆ ก็กลับมาเหมือนเดิม บอกแม่เขาให้ช่วยพูด แกก็ช่วยพูด ก็ทำแปปๆ ก็เหมือนเดิม เราพูดก็เหมือนเดิม จนเราทำเองหมด เงียบ เราต้องทำได้ เราต้องพึ่งตัวเอง บ้างครั้งเราเหนื่อยนะ ปัญหาทุกอย่าง การเงิน การใช้ชีวิตของลูกๆ มีเเต่เราที่ทำอยู่คนเดียว กลายเป็นเราที่เป็นหัวหน้าครอบครัวให้กับลูกๆ ไปแล้ว เอพึ่งอะไรไม่ได้เลย นอนตื่นก็สาย ชอบตะคอก ชอบทะเลาะ พอเราพูดหน่อยก็ชักสีหน้า รำคาญเราต่างๆนาๆ เราก็ทนเพราะสงสารลูก ล่าสุด พ่อเราป่วยหนัก เราอยากไปเยี่ยม ก่อนจะลงลากับทางบริษัท ก็ปรึกษาเอก่อน เขาก้บอกเราไปเลยเดียวดูลูกให้ ดูเหมือนเขาเข้าใจเรา แต่เปล่าเลย พอเรากลับมาจากเยี่ยมพ่อ ว่าเราว่าหยุดเเค่นี้ที่กับพ่อหยุดหลายวันได้ ทีกลับลูกไม่มาช่วยดู ซึ่งคำพูดเอมันรู้สึกเห็นแก่ตัวมาก บ้างครั้งก็อยากเลิกและกลับไปอยู่บ้านตัวเอง เเต่ก็สงสารลูก เพราะพ่อแม่เอรักหลานมาก ให้ทุกอย่างดีกับหลานทุกอย่าง เราควรทำไงดี ช่วยเราหน่อยค่ะ ปรึกษาใครก็บอกต้องทนนะสงสารลูก แต่พอมานึกหลายๆอย่าง เรารู้สึกสมเพศปนสงสารตัวเอง ทำไมยังจะต้องทน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่