สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เครื่องบินรบ และ เครื่องบินโดยสาร รวมถึงระบบอาวุธ จรวด ยานสำรวจอวกาศ
จะใช้ OS ประเภท Real-time operating system (RTOS) ครับ
RTOS เป็น OS ขนาดเล็กที่เขียนขึ้นมาเฉพาะเพื่อให้ทำงานกับ hardware ที่ต้องการใช้เท่านั้น
โดยรับคำสั่งจาก sensor หรือ input ที่ต้องการ RTOS จะมีจุดเด่นคือมันจะ real time มาก ๆ
มากขนาดว่าเมื่อ(นักบิน) กดปุ่มสั่งอะไรไป หรือ เมื่อ sensor ส่งค่าอะไรมาให้
มันจะทำงานสั่ง hardware ใน "ทันที" โดยไม่มีการรอคิวให้ process อื่น ๆ ทำเสร็จก่อน
ดังนั้น hardware จะทำงานทันทีแบบอิสระจาก hardware อื่นในเครื่องนั้น
RTOS จะมีแต่ Core , Kernal และมี user interface แค่ตัวอักษรบรรทัดเดียวเท่านั้น
(ปัจจุบัน อาจมี user interface เป็นสีสัน graphic ขึ้นมาบ้างในเครื่องบินพานิชย์)
เทียบกับ OS อย่าง Windows แล้ว หากเราสั่งอะไรที่เร็ว ๆ ไป
Windows อาจสั่ง hardware หลายตัวให้ทำงานพร้อมกันแบบอิสระไม่ทัน
เพราะ Windows จะต้องสั่ง HDD HDD จะต้องใช้เวลาในหน่วย ms เพื่อทำงานให้
แต่ RTOS จะต้องตอบสนองในหน่วย µs ได้สบาย ๆ เพราะมันจอง resource ไว้หมดแล้ว
และทำงานกับ RAM มันจึงเร็วสุด ๆ ครับ
เครื่องบินรบแบบ Fighter จะใช้ RTOS ของบริษัทผลิต RTOS ที่เขียนให้ทำงาน
กับอุปกรณ์ของ Fighter รุ่นนั้นโดยเฉพาะ ไม่มีการใช้ OS ครอบจักรวาลแบบ Windows ครับ
อย่างบริษัท Green Hills Software ก็ผลิต RTOS ให้ทาง Lockheed Martin มานานแล้ว
ติดตั้งใน Fighter หลายรุ่นครับ
ในภาพเป็นเครื่อง Mirage 2000D ใช้ Windows 7
เห็นภาพนี้ใน Internet เยอะครับ แต่ผมยังไม่ทราบรายละเอียด
จะใช้ OS ประเภท Real-time operating system (RTOS) ครับ
RTOS เป็น OS ขนาดเล็กที่เขียนขึ้นมาเฉพาะเพื่อให้ทำงานกับ hardware ที่ต้องการใช้เท่านั้น
โดยรับคำสั่งจาก sensor หรือ input ที่ต้องการ RTOS จะมีจุดเด่นคือมันจะ real time มาก ๆ
มากขนาดว่าเมื่อ(นักบิน) กดปุ่มสั่งอะไรไป หรือ เมื่อ sensor ส่งค่าอะไรมาให้
มันจะทำงานสั่ง hardware ใน "ทันที" โดยไม่มีการรอคิวให้ process อื่น ๆ ทำเสร็จก่อน
ดังนั้น hardware จะทำงานทันทีแบบอิสระจาก hardware อื่นในเครื่องนั้น
RTOS จะมีแต่ Core , Kernal และมี user interface แค่ตัวอักษรบรรทัดเดียวเท่านั้น
(ปัจจุบัน อาจมี user interface เป็นสีสัน graphic ขึ้นมาบ้างในเครื่องบินพานิชย์)
เทียบกับ OS อย่าง Windows แล้ว หากเราสั่งอะไรที่เร็ว ๆ ไป
Windows อาจสั่ง hardware หลายตัวให้ทำงานพร้อมกันแบบอิสระไม่ทัน
เพราะ Windows จะต้องสั่ง HDD HDD จะต้องใช้เวลาในหน่วย ms เพื่อทำงานให้
แต่ RTOS จะต้องตอบสนองในหน่วย µs ได้สบาย ๆ เพราะมันจอง resource ไว้หมดแล้ว
และทำงานกับ RAM มันจึงเร็วสุด ๆ ครับ
เครื่องบินรบแบบ Fighter จะใช้ RTOS ของบริษัทผลิต RTOS ที่เขียนให้ทำงาน
กับอุปกรณ์ของ Fighter รุ่นนั้นโดยเฉพาะ ไม่มีการใช้ OS ครอบจักรวาลแบบ Windows ครับ
อย่างบริษัท Green Hills Software ก็ผลิต RTOS ให้ทาง Lockheed Martin มานานแล้ว
ติดตั้งใน Fighter หลายรุ่นครับ
ในภาพเป็นเครื่อง Mirage 2000D ใช้ Windows 7
เห็นภาพนี้ใน Internet เยอะครับ แต่ผมยังไม่ทราบรายละเอียด
ความคิดเห็นที่ 11
ผมขอเพิ่มเติมอีกหน่อยเกี่ยวกับ Windows 10 ครับ
หากพูดถึง Windows 10 เราทุกคนต้องใช้อยู่แล้วครับ
เพราะเราไม่สะดวกจะใช้ OS อื่น ๆ ที่เสถียรกว่าแต่ support สิ่งอื่น ๆ น้อยกว่า Windows มาก
แต่จะมี Windows 10 อยู่ตัวหนึ่งที่ทาง Microsoft ผลิตออกมาสำหรับงานที่ใช้งานจริงจัง
ใช้งาน 24/7/365 ได้ดี มันคือ Windows 10 LTSC
Windows เวอร์ชั่นนี้สร้างบนพื้นฐานรุ่นแกร่ง Enterprise ของ Windows 10
แต่ตัด feature ที่เกินจำเป็นออก เช่น Cortana , Edge browser , Windows store
และเมื่อมันทำงาน มันจะ load service น้อยกว่า Windows 10 Home , Pro ถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
ดังนั้น มันคือ Windows 10 ที่ "เบา" มาก ๆ มี RAM 1GB ก็ทำงานได้สบาย ๆ
ผมใช้กับ Notebook RAM 4GB มันกิน RAM ไปเพียง 28 - 30% เมื่อเปิดเครื่องใหม่
ท่านใดซื้อ Notebook / PC มาใหม่ลองติดตั้งดูก่อนได้ครับ
https://www.microsoft.com/en-us/evalcenter/evaluate-windows-10-enterprise
ในเวบ Microsoft ระบุว่าทดลองใช้ได้ 90 วัน แต่จริง ๆ แล้วเราสามารถต่ออายุ
ให้ใช้ได้นาน 90 × 3 = 270 วัน ท่านทดลองใช้ก่อนจะซื้อ Windows 10 ลิขสิทธิ์มาใช้ได้ครับ
ผมเคยใช้มาตั้งแต่ยังเป็น Windows 10 LTSB มาตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น LTSC
LTSC คือ Long Term Servicing Channel
LTSB คือ Long Term Servicing Branch
ทั้ง 2 ตัวเหมือนกันคือเป็น Windows ที่ไม่ได้จำหน่ายให้บุคคลทั่วไป (Home use)
แต่จะใช้ในงาน และ เครื่องมือเฉพาะ เช่น ตู้ ATM อุปกรณ์ทางการแพทย์
Computer ที่ใช้คุมเครื่องจักร Windows ตัวนี้เหมาะสำหรับการใช้งานยาวนาน
โดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
หากพูดถึง Windows 10 เราทุกคนต้องใช้อยู่แล้วครับ
เพราะเราไม่สะดวกจะใช้ OS อื่น ๆ ที่เสถียรกว่าแต่ support สิ่งอื่น ๆ น้อยกว่า Windows มาก
แต่จะมี Windows 10 อยู่ตัวหนึ่งที่ทาง Microsoft ผลิตออกมาสำหรับงานที่ใช้งานจริงจัง
ใช้งาน 24/7/365 ได้ดี มันคือ Windows 10 LTSC
Windows เวอร์ชั่นนี้สร้างบนพื้นฐานรุ่นแกร่ง Enterprise ของ Windows 10
แต่ตัด feature ที่เกินจำเป็นออก เช่น Cortana , Edge browser , Windows store
และเมื่อมันทำงาน มันจะ load service น้อยกว่า Windows 10 Home , Pro ถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
ดังนั้น มันคือ Windows 10 ที่ "เบา" มาก ๆ มี RAM 1GB ก็ทำงานได้สบาย ๆ
ผมใช้กับ Notebook RAM 4GB มันกิน RAM ไปเพียง 28 - 30% เมื่อเปิดเครื่องใหม่
ท่านใดซื้อ Notebook / PC มาใหม่ลองติดตั้งดูก่อนได้ครับ
https://www.microsoft.com/en-us/evalcenter/evaluate-windows-10-enterprise
ในเวบ Microsoft ระบุว่าทดลองใช้ได้ 90 วัน แต่จริง ๆ แล้วเราสามารถต่ออายุ
ให้ใช้ได้นาน 90 × 3 = 270 วัน ท่านทดลองใช้ก่อนจะซื้อ Windows 10 ลิขสิทธิ์มาใช้ได้ครับ
ผมเคยใช้มาตั้งแต่ยังเป็น Windows 10 LTSB มาตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น LTSC
LTSC คือ Long Term Servicing Channel
LTSB คือ Long Term Servicing Branch
ทั้ง 2 ตัวเหมือนกันคือเป็น Windows ที่ไม่ได้จำหน่ายให้บุคคลทั่วไป (Home use)
แต่จะใช้ในงาน และ เครื่องมือเฉพาะ เช่น ตู้ ATM อุปกรณ์ทางการแพทย์
Computer ที่ใช้คุมเครื่องจักร Windows ตัวนี้เหมาะสำหรับการใช้งานยาวนาน
โดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
แสดงความคิดเห็น
เครื่องบินรบและเครื่องบินโดยสารใช้ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์อะไร