เนื่องจากผมอธิบายไม่เก่งจะขอเริ่มตามลำดับเหตุการณ์ไปเรื่อยๆนะครับ
17.30 โดยประมาณ วันนั้นผมเดินทางไปในหมู่บ้านนึงแถบชนบทและได้จอดรถหน้าบ้านนาง A(นามสมมุติ) ซึ่งตอนเข้าจอดถนนหน้าบ้านเป้นต่างระดับรอยปูนแตก ก็สะดุดเล็กน้อย และผมก็จอดแบบเผื่อทางเพราะเห็นรั้วแง้มอยู่แบบคนเดินผ่านได้แต่มอไซค์ผ่านไม่ได้ก็จึงเว้นระยะห่างไว้ และติดเครื่องไว้เพื่อแสดงเจตนาว่า ผมไม่ได้จอดแช่ แต่จอดครู่เดียว
เมื่อจอดรถเสร็จแล้วจึงดูรถหน้าหลังไม่มีรถสวนจึงเปิดประตูและเดินไปคุยธุระบ้านฝั่งตรงข้ามโดยติดเครื่องไว้ หลังจากนั้น 1นาทีกว่า ผมได้เดินกลับมาขึ้นรถ ระหว่างเดินมาก็สังเกตุว่าไม่มีอะไร ใต้รถก็ไม่มีขาคน หน้าหลังก็ไม่มี ฝั่งเราเดินมาก็โล่ง พอจะข้ามถนน ซ้ายขวาก็ไม่มีรถ จึงเดินข้ามไป เปิดประตูรถ กระจกฝั่งข้างคนขับก็ไม่มีใคร ถ้ามีต้องเอะใจแล้วเพราะมือถืออีกเครื่องอยู่ในรถ เมื่อขึ้นรถได้ก็ดูรถหน้า เพราะมีรั้วแง้มอยู่ ก็ไม่มีใคร ข้างรถไม่มี กระจกหลังก็ไม่มีรถสวนขึ้นมา เราก็ตีไฟขวาเข้าเกียร์ 1 ปล่อยครัชไหลไป ประมาณ 4 วิ รู้สึกรถสะดุด ผมก็เอะใจนินหน่อย เพราะตอนจอดพื้นไม่เรียบมันสะดุดเล็กน้อย แต่ขาออกมันสะดุดมากกว่าเดิม เราก็เข้าเกียร์ 2 เติมคันเร่งขี่ไปเรื่อย ขณะจอดอยู่ 4แยกในหมู่บ้าน ห่างจุดจอดประมาณ 70เมตร จะข้ามไปฝั่งตรงข้ามมีรถสวนจึงจอดรอข้าม เราก็ได้ยินเสียงคนโห่ร้อง เราก็นึกว่า เขาถูกห้วยมั้ง(เพราะปกติที่เคยเจอมา บางคนก็กลับมาจากนา ก็ถึ่งมาตรวจหวยจากเน็ทที่บ้าน) มองกระจกหลังเห็นคนออกันเยอะเราก็คิดว่าน่าจะรางวัลใหญ่ ถนนว่างเราก็ข้ามฟากไปและเลี้ยวซ้าย 4แยกถัดไป พอเลี้ยวเสร็จ สังเกตุเห็นมอไซค์ด้านหลัง แต่เมื่อมอไซค์บีบแตรค้างยาว เราก็เอะใจ ก็จอดลดกระจกลง
เขาตะโกนมา "เจ้าตำเด็กน้อยฮั่นน่ะ" ผมเอ้าในใจ แต่สังเกตุสีหน้าจริงจังของเขาคือ ไม่ใช่เรื่องเล่น ผมเลยถามเขาไปว่า "ตรงไหนพ่อ...พ่อนำทางไปหน่อย เดี๋ยวผมตามไป" พอเขานำทางไปแกจอดตรงหน้าบ้านนาง A ผมก็จอดร้านขายของเสร็จก็พยายามมองสังเกตุเห็นผู้หญิงคนนึงอุ้มเด็กด้วยท่าที่คนปกติจะไม่อุ้มกัน ก็คิดว่าน่าจะนี่หรือเปล่า ผมจึงจะวิ่งเข่าไปดู แต่ทันใดนั้น หนุ่มสักลายเต็มตัวรูปร่างผอมตะโกนด่า "ทำหลานกูเบาะ" สิ้นเสียงผมโดนต่อยผมหลบและล้มข้าวของกระจัดกระจาย คนเยอะผมเลยก้มดูของก่อน เพราะมือถือร่วงออกกระเป๋า แล้วตอนก้มกันของก็ไม่มีรู้โดนอะไรบ้างก็ได้แต่เอามือกัน ชาวบ้านก็บอก ฟังเขาก่อนๆ พอมีคนแยกพอลุกขึ้นมาได้ก็พยายามสังเกตุทุกอย่าง เจอรอยเลือดที่มีก้อนเนื้อสมองด้วย ตอนนั้นผมก็ขาอ่อน จึงพยายามตั้งสติ ถามคนแถวนั้นที่มุงว่ามีใครแจ้ง ตำรวจหรือยัง ปรกฏว่าไม่มี ผมก็โทร แต่ให้ขาวบ้านช่วยแจ้งพิกัดให้เพราะเราไม่ใช่คนพื้นที่ จากนั้นผมก็พยายามถามหาเด็ก และญาติ ก็มีผู้ใหญ่คนนึงมาช่วยแนะนำว่า โทรหาประกันหรือยัง ผมจึงได้โทร
พอโทรหาประกันเสร็จ ไม่นานตำรวจมาถึง เอากรวยตั้งกันคนออกและถามหาญาติ ถามหาเหตุการณ์ ซึ่งคนเห็นเหตุกการณ์ ก็บอกว่า ตอนแรกรถจอด พอเคลื่อนรถไป ล้อหลังฝั่งซ้ายเหยียบเด็ก ผมด้วยความที่ไม่รู้อะไรก็ฟังเขาพูดและมานั่งคิด ซึ่งน่าจะเป็นตอนสะดุดขาออก
(ตำแหน่งรอยเลือด) สักพักตำรวจก็กันผมไปโรงพักแล้วก็ยึดรถไว้เป็นของกลางในคดี จากกนั้นก็นั่งรอ มีตำรวจรายนึง บอกผมว่า ตอนแรกมีแม่อุ้มเด็กมาแจ้งความเลือดเต็มตัวว่าลูกถูกรถชน แจ้งเสร็จก็พาลูกไปโรงบาล
ผมรอจน 4ทุ่ม ร้อยเวรกลับมา ทำบันทึกผมไว้ผมก็พูดความจริงตามที่เห็นเฉพาะในมุมของผม จน เที่ยงคืนเสร็จ ตำรวจก็ให้กลับบ้านได้
วันรุ่งขึ้นผมไปแจ้งความข้อหาโดนทำร้ายร่างกาย และขอให้ตำรวจพาไปร่วมงานศพน้อง พอถึงงาน ผมก็กราบศพ กราบตักขอโทษ เขาก็ด่าผมว่า(ความจริงภาษาอิสาน แต่ขอแปลเป็นไทยให้เข้าใจง่ายนะครับ)
1.ฉันป้อนข้าวลูกได้คำเดียว คุณก็มาชน
2.ตอนแรกลูกฉันก็จะเข้าไปหารถ แต่ฉันก็บอกว่าไม่ใช่รถเรานะลูก ไม่ทันขาดคำ
สักพักยายมาปลอบใจก็พูดว่า
3.หลานมาพิงรถ
4.ขาลูกฉันยังอยู่ในรั้ว คนก็มาชน ร้องเรียกก็ไม่จอด วันแรกที่คุณชนแล้วหนี ฉันอยากจะเอามีดปาดคอคุณด้วยซ้ำ
5.ลูกฉันตอนเกิดมาก็จะตายอยู่แล้ว คุณยังมาทำให้เขาตายอีก พึ่งหัดเดินพูดคำว่าแม่ยังไม่ได้ คุณก็มาฆ่าลูกฉัน
6.ได้ข่าวว่าแจ้งความพี่ฉันหรือ
ผมฟังแล้วก็งงครับ ผมก็จับใจความได้เท่านี้ ผมก็มอบเงินเยียวยาให้แต่แฟนบอกมันไม่สุภาพลูกเขาตายไม่มีอะไรแทนได้ ให้เอาเงินไปใส่ขันหน้างานเป็นเงินช่วยงานศพที่ชาวบ้านลงชื่อกัน ผมก็เอาเงินที่ยืมเพื่อนมา 5,000 ช่วยงานน้อง
วันถัดมาผมก็ซื้อพวงหรีดไปส่งสการน้อง ตอนราดน้ำมะพร้าว ผมเห็นสภาพน้องคือแบบ กะโหลกแตก เบี้ยวแต่ไม่เละ ผมเห็นแล้วก็ทุกใจ บาปหนักหนาในครั้งนี้
จนเมื่อเสร็จพิธี ผมนั่งพาแฟนกินข้าวในงาน ชาวบ้านก็เข้าใจเราดี และขณะช้าวบ้านกำลังคุยกับแฟนผม พ่อเด็กก็เข้ามานั่ง แล้วแม่เด็กก็ตามมา แล้วก็เริ่มคุย เขาก็เกริ่นว่า สมัยก่อนพ่อเขาโดนชนตาย เอาความใครไม่ได้จนเกิดความเจ็บแค้น จนพี่ชายฉันได้สอบเป้นทนายได้
เขาบอกว่า "คุณง่ายฉันก็ง่าย แต่ถ้าคุณยาก ฉันเอาคุณให้ถึงที่สุด"
อยู่ๆป้าเขามาเรียกให้ไปคุยกันที่บ้านญาติผู้ใหญ่ผู้มีประสบการณ์ นามสมมุติ ลุง F
ลุง F ก็บอกให้ผมยอมรับผิดไป 100% เพื่อให้ประกันจ่าย เพราะแฟนลุงชนมาแล้ว 2ศพ ก็ทำแบบนี้ ยอมรับไป เขาได้เงินแล้วก็ให้เขาถอนแจ้งความให้
ผมฟังแล้วก็อึ้งๆอยู่ ก็เลยถามแม่เด็ก นาง A ว่า สรุปถ้าผมทำตามคำแนะนำของลุง F แล้วจะเป็นอย่างไร
นาง A ตอบว่า "มันก็แล้วแต่ว่า เงินที่ได้มามันตาบใจฉันได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็..."
ถึงตอนนี้ตำรวจยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา เพราะตำรวจยังไม่นัดไปคุยพร้อมกัน ซึ่งก็ในไม่กี่วันนี้ แต่เบื้องต้นตำรวจเกริ่นไว้แล้วว่าผมประมาท
ความจริงในใจผมกลับรู้สึกไม่เป็นธรรม ลองคิดในมุมเขาก็แล้ว คิดในมุมเราก็แล้ว ผมคิดทุกทางแล้ว มันก็ไม่เป็นธรรม
หากสุดท้ายผมติดคุกด้วยข้อหาประมาท ผมก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไร ต้องบอกญาติตัวเอง ต้องรู้สึกอย่างไร
***และผมควรทำอย่างไรดีครับ รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ
ขับรถเหยียบเด็ก 1ขวบเศษ ตาย ด้วยล้อหลัง ฝั่งซ้าย
17.30 โดยประมาณ วันนั้นผมเดินทางไปในหมู่บ้านนึงแถบชนบทและได้จอดรถหน้าบ้านนาง A(นามสมมุติ) ซึ่งตอนเข้าจอดถนนหน้าบ้านเป้นต่างระดับรอยปูนแตก ก็สะดุดเล็กน้อย และผมก็จอดแบบเผื่อทางเพราะเห็นรั้วแง้มอยู่แบบคนเดินผ่านได้แต่มอไซค์ผ่านไม่ได้ก็จึงเว้นระยะห่างไว้ และติดเครื่องไว้เพื่อแสดงเจตนาว่า ผมไม่ได้จอดแช่ แต่จอดครู่เดียว
เมื่อจอดรถเสร็จแล้วจึงดูรถหน้าหลังไม่มีรถสวนจึงเปิดประตูและเดินไปคุยธุระบ้านฝั่งตรงข้ามโดยติดเครื่องไว้ หลังจากนั้น 1นาทีกว่า ผมได้เดินกลับมาขึ้นรถ ระหว่างเดินมาก็สังเกตุว่าไม่มีอะไร ใต้รถก็ไม่มีขาคน หน้าหลังก็ไม่มี ฝั่งเราเดินมาก็โล่ง พอจะข้ามถนน ซ้ายขวาก็ไม่มีรถ จึงเดินข้ามไป เปิดประตูรถ กระจกฝั่งข้างคนขับก็ไม่มีใคร ถ้ามีต้องเอะใจแล้วเพราะมือถืออีกเครื่องอยู่ในรถ เมื่อขึ้นรถได้ก็ดูรถหน้า เพราะมีรั้วแง้มอยู่ ก็ไม่มีใคร ข้างรถไม่มี กระจกหลังก็ไม่มีรถสวนขึ้นมา เราก็ตีไฟขวาเข้าเกียร์ 1 ปล่อยครัชไหลไป ประมาณ 4 วิ รู้สึกรถสะดุด ผมก็เอะใจนินหน่อย เพราะตอนจอดพื้นไม่เรียบมันสะดุดเล็กน้อย แต่ขาออกมันสะดุดมากกว่าเดิม เราก็เข้าเกียร์ 2 เติมคันเร่งขี่ไปเรื่อย ขณะจอดอยู่ 4แยกในหมู่บ้าน ห่างจุดจอดประมาณ 70เมตร จะข้ามไปฝั่งตรงข้ามมีรถสวนจึงจอดรอข้าม เราก็ได้ยินเสียงคนโห่ร้อง เราก็นึกว่า เขาถูกห้วยมั้ง(เพราะปกติที่เคยเจอมา บางคนก็กลับมาจากนา ก็ถึ่งมาตรวจหวยจากเน็ทที่บ้าน) มองกระจกหลังเห็นคนออกันเยอะเราก็คิดว่าน่าจะรางวัลใหญ่ ถนนว่างเราก็ข้ามฟากไปและเลี้ยวซ้าย 4แยกถัดไป พอเลี้ยวเสร็จ สังเกตุเห็นมอไซค์ด้านหลัง แต่เมื่อมอไซค์บีบแตรค้างยาว เราก็เอะใจ ก็จอดลดกระจกลง
เขาตะโกนมา "เจ้าตำเด็กน้อยฮั่นน่ะ" ผมเอ้าในใจ แต่สังเกตุสีหน้าจริงจังของเขาคือ ไม่ใช่เรื่องเล่น ผมเลยถามเขาไปว่า "ตรงไหนพ่อ...พ่อนำทางไปหน่อย เดี๋ยวผมตามไป" พอเขานำทางไปแกจอดตรงหน้าบ้านนาง A ผมก็จอดร้านขายของเสร็จก็พยายามมองสังเกตุเห็นผู้หญิงคนนึงอุ้มเด็กด้วยท่าที่คนปกติจะไม่อุ้มกัน ก็คิดว่าน่าจะนี่หรือเปล่า ผมจึงจะวิ่งเข่าไปดู แต่ทันใดนั้น หนุ่มสักลายเต็มตัวรูปร่างผอมตะโกนด่า "ทำหลานกูเบาะ" สิ้นเสียงผมโดนต่อยผมหลบและล้มข้าวของกระจัดกระจาย คนเยอะผมเลยก้มดูของก่อน เพราะมือถือร่วงออกกระเป๋า แล้วตอนก้มกันของก็ไม่มีรู้โดนอะไรบ้างก็ได้แต่เอามือกัน ชาวบ้านก็บอก ฟังเขาก่อนๆ พอมีคนแยกพอลุกขึ้นมาได้ก็พยายามสังเกตุทุกอย่าง เจอรอยเลือดที่มีก้อนเนื้อสมองด้วย ตอนนั้นผมก็ขาอ่อน จึงพยายามตั้งสติ ถามคนแถวนั้นที่มุงว่ามีใครแจ้ง ตำรวจหรือยัง ปรกฏว่าไม่มี ผมก็โทร แต่ให้ขาวบ้านช่วยแจ้งพิกัดให้เพราะเราไม่ใช่คนพื้นที่ จากนั้นผมก็พยายามถามหาเด็ก และญาติ ก็มีผู้ใหญ่คนนึงมาช่วยแนะนำว่า โทรหาประกันหรือยัง ผมจึงได้โทร
พอโทรหาประกันเสร็จ ไม่นานตำรวจมาถึง เอากรวยตั้งกันคนออกและถามหาญาติ ถามหาเหตุการณ์ ซึ่งคนเห็นเหตุกการณ์ ก็บอกว่า ตอนแรกรถจอด พอเคลื่อนรถไป ล้อหลังฝั่งซ้ายเหยียบเด็ก ผมด้วยความที่ไม่รู้อะไรก็ฟังเขาพูดและมานั่งคิด ซึ่งน่าจะเป็นตอนสะดุดขาออก
(ตำแหน่งรอยเลือด) สักพักตำรวจก็กันผมไปโรงพักแล้วก็ยึดรถไว้เป็นของกลางในคดี จากกนั้นก็นั่งรอ มีตำรวจรายนึง บอกผมว่า ตอนแรกมีแม่อุ้มเด็กมาแจ้งความเลือดเต็มตัวว่าลูกถูกรถชน แจ้งเสร็จก็พาลูกไปโรงบาล
ผมรอจน 4ทุ่ม ร้อยเวรกลับมา ทำบันทึกผมไว้ผมก็พูดความจริงตามที่เห็นเฉพาะในมุมของผม จน เที่ยงคืนเสร็จ ตำรวจก็ให้กลับบ้านได้
วันรุ่งขึ้นผมไปแจ้งความข้อหาโดนทำร้ายร่างกาย และขอให้ตำรวจพาไปร่วมงานศพน้อง พอถึงงาน ผมก็กราบศพ กราบตักขอโทษ เขาก็ด่าผมว่า(ความจริงภาษาอิสาน แต่ขอแปลเป็นไทยให้เข้าใจง่ายนะครับ)
1.ฉันป้อนข้าวลูกได้คำเดียว คุณก็มาชน
2.ตอนแรกลูกฉันก็จะเข้าไปหารถ แต่ฉันก็บอกว่าไม่ใช่รถเรานะลูก ไม่ทันขาดคำ
สักพักยายมาปลอบใจก็พูดว่า
3.หลานมาพิงรถ
4.ขาลูกฉันยังอยู่ในรั้ว คนก็มาชน ร้องเรียกก็ไม่จอด วันแรกที่คุณชนแล้วหนี ฉันอยากจะเอามีดปาดคอคุณด้วยซ้ำ
5.ลูกฉันตอนเกิดมาก็จะตายอยู่แล้ว คุณยังมาทำให้เขาตายอีก พึ่งหัดเดินพูดคำว่าแม่ยังไม่ได้ คุณก็มาฆ่าลูกฉัน
6.ได้ข่าวว่าแจ้งความพี่ฉันหรือ
ผมฟังแล้วก็งงครับ ผมก็จับใจความได้เท่านี้ ผมก็มอบเงินเยียวยาให้แต่แฟนบอกมันไม่สุภาพลูกเขาตายไม่มีอะไรแทนได้ ให้เอาเงินไปใส่ขันหน้างานเป็นเงินช่วยงานศพที่ชาวบ้านลงชื่อกัน ผมก็เอาเงินที่ยืมเพื่อนมา 5,000 ช่วยงานน้อง
วันถัดมาผมก็ซื้อพวงหรีดไปส่งสการน้อง ตอนราดน้ำมะพร้าว ผมเห็นสภาพน้องคือแบบ กะโหลกแตก เบี้ยวแต่ไม่เละ ผมเห็นแล้วก็ทุกใจ บาปหนักหนาในครั้งนี้
จนเมื่อเสร็จพิธี ผมนั่งพาแฟนกินข้าวในงาน ชาวบ้านก็เข้าใจเราดี และขณะช้าวบ้านกำลังคุยกับแฟนผม พ่อเด็กก็เข้ามานั่ง แล้วแม่เด็กก็ตามมา แล้วก็เริ่มคุย เขาก็เกริ่นว่า สมัยก่อนพ่อเขาโดนชนตาย เอาความใครไม่ได้จนเกิดความเจ็บแค้น จนพี่ชายฉันได้สอบเป้นทนายได้
เขาบอกว่า "คุณง่ายฉันก็ง่าย แต่ถ้าคุณยาก ฉันเอาคุณให้ถึงที่สุด"
อยู่ๆป้าเขามาเรียกให้ไปคุยกันที่บ้านญาติผู้ใหญ่ผู้มีประสบการณ์ นามสมมุติ ลุง F
ลุง F ก็บอกให้ผมยอมรับผิดไป 100% เพื่อให้ประกันจ่าย เพราะแฟนลุงชนมาแล้ว 2ศพ ก็ทำแบบนี้ ยอมรับไป เขาได้เงินแล้วก็ให้เขาถอนแจ้งความให้
ผมฟังแล้วก็อึ้งๆอยู่ ก็เลยถามแม่เด็ก นาง A ว่า สรุปถ้าผมทำตามคำแนะนำของลุง F แล้วจะเป็นอย่างไร
นาง A ตอบว่า "มันก็แล้วแต่ว่า เงินที่ได้มามันตาบใจฉันได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็..."
ถึงตอนนี้ตำรวจยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา เพราะตำรวจยังไม่นัดไปคุยพร้อมกัน ซึ่งก็ในไม่กี่วันนี้ แต่เบื้องต้นตำรวจเกริ่นไว้แล้วว่าผมประมาท
ความจริงในใจผมกลับรู้สึกไม่เป็นธรรม ลองคิดในมุมเขาก็แล้ว คิดในมุมเราก็แล้ว ผมคิดทุกทางแล้ว มันก็ไม่เป็นธรรม
หากสุดท้ายผมติดคุกด้วยข้อหาประมาท ผมก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไร ต้องบอกญาติตัวเอง ต้องรู้สึกอย่างไร
***และผมควรทำอย่างไรดีครับ รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ