สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา เราอายุ 24 ย่าง 25 ค่ะ เรียนจบมาประมาณ 2 3 ปี มีแฟนคนแรกตอนจะจบ ปี 4 ที่ผ่านมามีคนเข้ามาบ้าง แต่เราไม่ค่อยโอเค เลยไม่คบ แต่แฟนคนนี้คือ เค้าไม่หล่อเลย แต่เราโอเค รู้สึกดี เลยตัดสินใจคบกัน ซึ่งเค้าเป็นคนใต้ เราเป็นคนภาคตะวันออก เราเป็นลูกคนเล็กสุด มีพี่สาวคนโต และพี่ชายคนกลาง ส่วนแฟนเราเป็นลูกชายคนเล็ก มีพี่ชายคนโต
💖mindset ของที่บ้านเราคือ อยากให้เราอยู่ดูแลเค้าในอนาคต ซึ่งเราเรียนจบมาก็คิดว่าจะได้ทำงานสักช่วงนึงของชีวิต ได้หาประสบการณ์ ใช้ชีวิตของตัวเองสักระยะแล้วกลับได้ดูแลเค้า แต่พอใกล้เรียนจบ เรามีแฟนเลยตัดสินใจบอกพ่อแม่ ไม่อยากปิดบังอะไร เพราะโตในระดับนึงแล้ว มันถึงเวลาเหมาะสมที่เราควรจะมี ในความคิดเห็นเรานะ แต่พอเราบอกที่บ้านไป เค้ากลับเครียด และเป็นกังวลมากว่าเราอยู่ที่ไหนทำอะไร แล้วก็ว่าเราด้วยการคิดไปก่อนล่วงหน้าทั้งหมด พอเราเรียนจบ เค้าไม่ให้เราทำงานเลย รับกลับมาอยู่บ้านทันที แต่เนื่องด้วยแม่เราเจ็บไหล่ ทำอะไรไม่ค่อยแข็งแรง ก็คือให้เราอยู่ช่วยงานบ้าน ซึ่งที่บ้านเราสามารถซับพอตเราได้ เราเข้าใจ แต่เราไม่ภูมิใจกับสิ่งที่เราได้เลย จนเราหารายได้จากการขายขนม แล้วเราก็แอบดื้อ ด้วยการหางานทำที่กทม อีกรอบ ที่บ้านก็ให้เรามาทำนะ แต่ก่อนจะมาก็บอกเราว่าจะให้ไปเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์(ประมาน 8 เดือน-1 ปี) ถ้าเราไม่ไปทำงาน แล้วก็พูดถึงเรื่องเงิน ถ้าเราอยู่ช่วยทางบ้าน เป็นแสนเค้าก็ให้ได้ กล่อมเราทุกอย่าง เพื่อไม่ให้เราไปทำงาน ไม่ให้ไปเจอแฟน แต่แล้วเราก็เลือกไปทำงาน ทำได้ประมาน 3 เดือน โควิดก็มา + พี่สาวเราคลอดหลานมา ต้องบอกก่อนว่า ทางบ้านเราไม่ชอบแฟนพี่สาวเลย รวมถึงเราด้วย แต่เราก็ต้องยอมรับและเลี้ยงหลานกับแม่ (พี่สาวเป็นครู) เราได้เงิน 1,000฿/เดือน นอกนั้นเราขายขนมเองบ้าง เพราะเราอยู่กับที่บ้านหรือเรียกว่าเกาะแม่กินนั่นเอง เราคิดอยากไปทำงานแถวบ้าน แต่พอเราพูดกับที่บ้านไป เค้าก็ว่าเรา หาว่าเราไม่อยากอยู่ช่วยเค้า ไม่คิดถึงเค้า จนเราไม่คิดอยากหางานทำแล้ว เพราะเราเบื่อกับคำพูดแบบนี้ และแม่ต้องเลี้ยงหลานคนเดียว ซึ่งเราก็คิดว่าไม่ไปดีกว่า เราว่าแม่เลี้ยงไม่ไหวแน่ แต่เค้าก็ยังคิดว่าเราไม่ไปเพราะโควิด เวลาที่เราเหนื่อยกับหลาน เราอึดอัดที่เหมือนโดนกักขัง ทำไมพี่สาวเราได้ออกไปทำงาน ได้ใช้ชีวิต ทำไมต้องเป็นเราที่ต้องทนอยู่ตรงนี้ แม่ยังคิดว่า เพราะโควิดด้วยที่ทำให้เราไม่ไป เวลาที่เราเหนื่อย ท้อ หรืออยากแสดงความคิด เราไม่เคยทำได้เลยค่ะ ทางบ้านจะหาว่าเราไม่คิดถึงเค้าตลอด ที่เค้าทำทุกวันนี้เพื่อเรา บ้านเราทำสวนค่ะ เค้าอยากให้เรามาบริหารต่อ เราเข้าใจค่ะ แต่เราคิดว่า เราควรมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง ได้เจอแฟนบ้าง ได้เจอเพื่อน ( เพื่อนเราต้องขับรถมารับเราค่ะประมาณครึ่งชม. เราถึงจะได้ไป แต่ล่าสุดเราเอารถที่บ้านและชวนหลานกับพี่สาวไปด้วย แม่เราตามเราไปด้วยค่ะ เพราะห่วงรถ ห่วงหลาน ห่วงเรา )
แฟนเราจับทหารได้ 1 ปี ที่สัตหีบ เราใกล้กันค่ะ แต่คนละจังหวัด แต่เราไม่ได้เจอกันเลยยย เนื่องด้วยโควิด และที่บ้านเราไม่พร้อมด้วย แฟนเคยมาหาเรา 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ครั้งแรกตอนที่เค้าฝึกงานอยู่บุรีรัมย์ เค้านั่งรถทัวมาหาเราค่ะ(9 ชม.) ถึงจังหวัดเราประมาณ 5ทุ่ม พ่อเราไม่ให้เค้ามานอนที่บ้าน เค้าต้องเดินไปหาที่พักเองค่ะ เพราะดึกๆแล้วต่างจังหวัดไม่มีรถโดยสารแล้วค่ะ แล้วตอนเช้าอีกวันพ่อให้พี่ชายเราไปส่งหาแฟนในเมืองค่ะ ขากลับวันนั้น เราต้องกลับบ้านประมาน 5 โมงเย็น แฟนเราได้คิวรถประมาน 3ทุ่ม เรารู้สึกแย่มากค่ะ แบบมากจริงๆ ที่บ้านเราไม่ต้อนรับเค้าเลย แต่เค้าก็เข้าใจค่ะ ครั้งสอง เค้ามากับพ่อแม่เค้าค่ะ มาทำธุระที่กทม ก็เลยแวะมาบ้านเราด้วย อารมณ์เหมือนมาดูท่าทีพ่อแม่เราค่ะ
จนถึงตอนนี้ เราไม่ได้เจอกับแฟนมา 1 ปี 2 เดือนแล้วค่ะ เค้าเข้าใจเรามากๆ ว่าที่บ้านเป็นยังไง เรารู้สึกว่าทำไมความรักกับแฟนเรา และชีวิตเรา ถึงยากขนาดนี้คะ เราท้อมากๆ เหมือนเราเป็นที่พึ่งของบ้านที่เป็นไปได้มากที่สุด ส่วนแฟนเราก็ต้องเป็นที่พึ่งให้ทางบ้านเค้ามากเหมือนกัน เราได้แต่คบกันไปก่อน โดยที่เรามองอนาคตไม่ออกเลยค่ะ(หมายถึงการอยู่ด้วยกัน) ล่าสุดแม่พึ่งพูดกับเรา ว่าถ้าเราแต่งงานกับคนนี้ พ่อคงไม่ให้เราไปอยู่บ้านเค้าค่ะ 😔
สุดท้าย เราขอบคุณคนที่อ่านจบนะคะ อาจจะงงๆบ้าง ขออภัยค่ะ เราอยากถามว่า นี่เป็นชีวิตของคนเราหรอคะ หรือมีบ้านไหนที่ยากกว่านี้มั้ยคะ เราคิดว่าเราอยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเองบ้างออกนอกกรอบบ้างก็เท่านั้นเองค่ะ😢😢😢😢
เราควรได้ใช้ชีวิตของตัวเองเมื่อไรคะ? อายุ 24 จะ 25 แล้ว
💖mindset ของที่บ้านเราคือ อยากให้เราอยู่ดูแลเค้าในอนาคต ซึ่งเราเรียนจบมาก็คิดว่าจะได้ทำงานสักช่วงนึงของชีวิต ได้หาประสบการณ์ ใช้ชีวิตของตัวเองสักระยะแล้วกลับได้ดูแลเค้า แต่พอใกล้เรียนจบ เรามีแฟนเลยตัดสินใจบอกพ่อแม่ ไม่อยากปิดบังอะไร เพราะโตในระดับนึงแล้ว มันถึงเวลาเหมาะสมที่เราควรจะมี ในความคิดเห็นเรานะ แต่พอเราบอกที่บ้านไป เค้ากลับเครียด และเป็นกังวลมากว่าเราอยู่ที่ไหนทำอะไร แล้วก็ว่าเราด้วยการคิดไปก่อนล่วงหน้าทั้งหมด พอเราเรียนจบ เค้าไม่ให้เราทำงานเลย รับกลับมาอยู่บ้านทันที แต่เนื่องด้วยแม่เราเจ็บไหล่ ทำอะไรไม่ค่อยแข็งแรง ก็คือให้เราอยู่ช่วยงานบ้าน ซึ่งที่บ้านเราสามารถซับพอตเราได้ เราเข้าใจ แต่เราไม่ภูมิใจกับสิ่งที่เราได้เลย จนเราหารายได้จากการขายขนม แล้วเราก็แอบดื้อ ด้วยการหางานทำที่กทม อีกรอบ ที่บ้านก็ให้เรามาทำนะ แต่ก่อนจะมาก็บอกเราว่าจะให้ไปเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์(ประมาน 8 เดือน-1 ปี) ถ้าเราไม่ไปทำงาน แล้วก็พูดถึงเรื่องเงิน ถ้าเราอยู่ช่วยทางบ้าน เป็นแสนเค้าก็ให้ได้ กล่อมเราทุกอย่าง เพื่อไม่ให้เราไปทำงาน ไม่ให้ไปเจอแฟน แต่แล้วเราก็เลือกไปทำงาน ทำได้ประมาน 3 เดือน โควิดก็มา + พี่สาวเราคลอดหลานมา ต้องบอกก่อนว่า ทางบ้านเราไม่ชอบแฟนพี่สาวเลย รวมถึงเราด้วย แต่เราก็ต้องยอมรับและเลี้ยงหลานกับแม่ (พี่สาวเป็นครู) เราได้เงิน 1,000฿/เดือน นอกนั้นเราขายขนมเองบ้าง เพราะเราอยู่กับที่บ้านหรือเรียกว่าเกาะแม่กินนั่นเอง เราคิดอยากไปทำงานแถวบ้าน แต่พอเราพูดกับที่บ้านไป เค้าก็ว่าเรา หาว่าเราไม่อยากอยู่ช่วยเค้า ไม่คิดถึงเค้า จนเราไม่คิดอยากหางานทำแล้ว เพราะเราเบื่อกับคำพูดแบบนี้ และแม่ต้องเลี้ยงหลานคนเดียว ซึ่งเราก็คิดว่าไม่ไปดีกว่า เราว่าแม่เลี้ยงไม่ไหวแน่ แต่เค้าก็ยังคิดว่าเราไม่ไปเพราะโควิด เวลาที่เราเหนื่อยกับหลาน เราอึดอัดที่เหมือนโดนกักขัง ทำไมพี่สาวเราได้ออกไปทำงาน ได้ใช้ชีวิต ทำไมต้องเป็นเราที่ต้องทนอยู่ตรงนี้ แม่ยังคิดว่า เพราะโควิดด้วยที่ทำให้เราไม่ไป เวลาที่เราเหนื่อย ท้อ หรืออยากแสดงความคิด เราไม่เคยทำได้เลยค่ะ ทางบ้านจะหาว่าเราไม่คิดถึงเค้าตลอด ที่เค้าทำทุกวันนี้เพื่อเรา บ้านเราทำสวนค่ะ เค้าอยากให้เรามาบริหารต่อ เราเข้าใจค่ะ แต่เราคิดว่า เราควรมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง ได้เจอแฟนบ้าง ได้เจอเพื่อน ( เพื่อนเราต้องขับรถมารับเราค่ะประมาณครึ่งชม. เราถึงจะได้ไป แต่ล่าสุดเราเอารถที่บ้านและชวนหลานกับพี่สาวไปด้วย แม่เราตามเราไปด้วยค่ะ เพราะห่วงรถ ห่วงหลาน ห่วงเรา )
แฟนเราจับทหารได้ 1 ปี ที่สัตหีบ เราใกล้กันค่ะ แต่คนละจังหวัด แต่เราไม่ได้เจอกันเลยยย เนื่องด้วยโควิด และที่บ้านเราไม่พร้อมด้วย แฟนเคยมาหาเรา 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ครั้งแรกตอนที่เค้าฝึกงานอยู่บุรีรัมย์ เค้านั่งรถทัวมาหาเราค่ะ(9 ชม.) ถึงจังหวัดเราประมาณ 5ทุ่ม พ่อเราไม่ให้เค้ามานอนที่บ้าน เค้าต้องเดินไปหาที่พักเองค่ะ เพราะดึกๆแล้วต่างจังหวัดไม่มีรถโดยสารแล้วค่ะ แล้วตอนเช้าอีกวันพ่อให้พี่ชายเราไปส่งหาแฟนในเมืองค่ะ ขากลับวันนั้น เราต้องกลับบ้านประมาน 5 โมงเย็น แฟนเราได้คิวรถประมาน 3ทุ่ม เรารู้สึกแย่มากค่ะ แบบมากจริงๆ ที่บ้านเราไม่ต้อนรับเค้าเลย แต่เค้าก็เข้าใจค่ะ ครั้งสอง เค้ามากับพ่อแม่เค้าค่ะ มาทำธุระที่กทม ก็เลยแวะมาบ้านเราด้วย อารมณ์เหมือนมาดูท่าทีพ่อแม่เราค่ะ
จนถึงตอนนี้ เราไม่ได้เจอกับแฟนมา 1 ปี 2 เดือนแล้วค่ะ เค้าเข้าใจเรามากๆ ว่าที่บ้านเป็นยังไง เรารู้สึกว่าทำไมความรักกับแฟนเรา และชีวิตเรา ถึงยากขนาดนี้คะ เราท้อมากๆ เหมือนเราเป็นที่พึ่งของบ้านที่เป็นไปได้มากที่สุด ส่วนแฟนเราก็ต้องเป็นที่พึ่งให้ทางบ้านเค้ามากเหมือนกัน เราได้แต่คบกันไปก่อน โดยที่เรามองอนาคตไม่ออกเลยค่ะ(หมายถึงการอยู่ด้วยกัน) ล่าสุดแม่พึ่งพูดกับเรา ว่าถ้าเราแต่งงานกับคนนี้ พ่อคงไม่ให้เราไปอยู่บ้านเค้าค่ะ 😔
สุดท้าย เราขอบคุณคนที่อ่านจบนะคะ อาจจะงงๆบ้าง ขออภัยค่ะ เราอยากถามว่า นี่เป็นชีวิตของคนเราหรอคะ หรือมีบ้านไหนที่ยากกว่านี้มั้ยคะ เราคิดว่าเราอยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเองบ้างออกนอกกรอบบ้างก็เท่านั้นเองค่ะ😢😢😢😢