มาลองอ่านประสบการณ์ผมดูนะครับ ไม่ได้เป็นตัวแทนขายหรือได้ค่าโฆษณาจากแบรนด์ใดๆนะครับ
เล่าจากประสบการณ์
คือสำหรับคนที่จะซื้อตู้เย็น รุ่นคิวน้อยๆประมาณ 6 คิวนะครับ เพราะผมใช้รุ่นแนวๆนี้ อยู่คอนโด
เคยใช้ทั้งแบบต้องกดละลายน้ำ และแบบกดละลายน้ำแข็งแล้วต้องยกถาดในตู้เย็นออกมาเท
และแบบน้ำไหลไปด้านหลังเครื่อง จะยกออกมาเทหรือรอให้ระเหยไปเองก็ได้
นึกภาพออกมั้ยครับ
เดี๋ยวผมแยกให้นะครับ
1. ตู้เย็นแบบต้องกดละลาย (ต้องกดเพราะน้ำแข็งจะเต็มช่องแข็ง ) ถ้าไม่กดมันก็จะแน่นและความเย็นจะทำได้ไม่ดี
แบบนี้ที่ 1 นี้ ต้องกดละลาย และหลังจากน้ำแข็งในช่องแข็งละลาย แล้ว มันจะไหลลงมาในถาดที่อยู่ในตู้เย็น ปกติจะน้ำจะไหลลงถาดช่องที่เอาไว้ใส่เนื้อสัตว์
ตู้เย็นแบบนี้ลำบากที่สุด และอันตรายต่อน้ำไหลออกมาเลอะพื้นมากสุด
คือที่ลำบากเพราะถ้าปล่อยให้น้ำแข็งในช่องแข็งเยอะ น้ำที่ไหลลงมาในถาดช่องแช่เนื้อ ก็จะเยอะ แล้วทีนี้พอเรายกออกมาเท มันก็จะหกได้ และบางทีก็ล้นออกลงมาช่องผักอีก
และถ้าน้ำแข็งเยอะจริงๆ ก็อาจจะไหลออกมานอกตู้เย็นเลย
สำหรับผมตู้เย็นรุ่นแบบนี้ ไม่ซื้อแล้วแน่นอนครับ
2.ตู้เย็นแบบต้องกดละลาย แต่พอน้ำแข็งละลายแล้ว มันจะไหลไปอยู่ที่ถาดรองพลาสติกที่ข้างหลังเครื่อง อันนี้ดีกว่าแบบที่ 1 เพราะ บางยี่ห้อไม่ต้องยกไปเทก็ได้เพราะพอน้ำไหลลงมาจากช่องแข็งแล้วก็ไปอยู่หลังเครื่อง แล้วโดนความร้อนระเหยไปเอง
แต่จริงๆกผมก็ยกไปเท ทุกครั้ง ที่กดละลาย ครับ และล้างถาดหรือกล่องน้ำทิ้งด้านหลังให้สะอาดด้วย
ข้อเสียคือ ถาดรองน้ำอยู่ด้านหลังตู้เย็น ตู้เย็นปกติเราก็วางติดกำแพง จึงทำให้หยิบถาดนี้ออกมายาก บางทีต้องขยับตู้เย็นอีก
แต่ผมว่ายังไงก็ยังดีกว่าตู้เย็นแบบที่ 1
3.ตู้เย็นแบบ No Forst ตู้เย็นแบบนี้ไม่ต้องกดละลายเลยครับ เพราะมันจะไม่มีน้ำแข็งเกาะในช่องแข็ง เราก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ใช้ได้ยาวๆ สบายๆ
ทีนี้ประเด็นคือเมื่อวานนี้ผม มาถ่ายคลิปรีวิวตู้เย็นลงยูทูป(ไม่ได้รับจ้างรีวิวจากแบรนด์นะครับ ถ่ายเอง) ผมก็ลองค้นราคาดูพบว่า
ตอนนี้ ตู้เย็น 2 ประตู No Forst 6.4 คิว ที่ผมใช้อยู่ ราคาไม่ถึง 6 พันบาท
แต่พอเช็คราคา ราคากับพอๆกับตู้เย็น ที่ผมใช้อยู่อีกเครื่องนึงคือแบบ ประตูเดียว และเป็นแบบไม่มี No Forst แต่เป็นแบบที่ 2 คือมีถาดน้ำอยู่ด้านหลังเครื่อง
คิดแล้วเสียดายแทนคนที่ไม่รู้แล้ว จะไปซื้อตู้เย็นแบบประตูเดียว ไม่ได้รุ่น No Forst ด้วย ทั้งๆที่ราคาเท่าๆกัน
เลยมาตั้งกระทู้เผื่อใครมาอ่านจะได้ลองตรวจสอบดีๆก่อนซื้อครับ
ใครจะซื้อตู้เย็นงบ 5,000-6,000 ลองอ่านดูครับเพื่อไม่ให้เสียใจทีหลัง เพราะอะไร? มาอ่านดูกันครับ
เล่าจากประสบการณ์
คือสำหรับคนที่จะซื้อตู้เย็น รุ่นคิวน้อยๆประมาณ 6 คิวนะครับ เพราะผมใช้รุ่นแนวๆนี้ อยู่คอนโด
เคยใช้ทั้งแบบต้องกดละลายน้ำ และแบบกดละลายน้ำแข็งแล้วต้องยกถาดในตู้เย็นออกมาเท
และแบบน้ำไหลไปด้านหลังเครื่อง จะยกออกมาเทหรือรอให้ระเหยไปเองก็ได้
นึกภาพออกมั้ยครับ
เดี๋ยวผมแยกให้นะครับ
1. ตู้เย็นแบบต้องกดละลาย (ต้องกดเพราะน้ำแข็งจะเต็มช่องแข็ง ) ถ้าไม่กดมันก็จะแน่นและความเย็นจะทำได้ไม่ดี
แบบนี้ที่ 1 นี้ ต้องกดละลาย และหลังจากน้ำแข็งในช่องแข็งละลาย แล้ว มันจะไหลลงมาในถาดที่อยู่ในตู้เย็น ปกติจะน้ำจะไหลลงถาดช่องที่เอาไว้ใส่เนื้อสัตว์
ตู้เย็นแบบนี้ลำบากที่สุด และอันตรายต่อน้ำไหลออกมาเลอะพื้นมากสุด
คือที่ลำบากเพราะถ้าปล่อยให้น้ำแข็งในช่องแข็งเยอะ น้ำที่ไหลลงมาในถาดช่องแช่เนื้อ ก็จะเยอะ แล้วทีนี้พอเรายกออกมาเท มันก็จะหกได้ และบางทีก็ล้นออกลงมาช่องผักอีก
และถ้าน้ำแข็งเยอะจริงๆ ก็อาจจะไหลออกมานอกตู้เย็นเลย
สำหรับผมตู้เย็นรุ่นแบบนี้ ไม่ซื้อแล้วแน่นอนครับ
2.ตู้เย็นแบบต้องกดละลาย แต่พอน้ำแข็งละลายแล้ว มันจะไหลไปอยู่ที่ถาดรองพลาสติกที่ข้างหลังเครื่อง อันนี้ดีกว่าแบบที่ 1 เพราะ บางยี่ห้อไม่ต้องยกไปเทก็ได้เพราะพอน้ำไหลลงมาจากช่องแข็งแล้วก็ไปอยู่หลังเครื่อง แล้วโดนความร้อนระเหยไปเอง
แต่จริงๆกผมก็ยกไปเท ทุกครั้ง ที่กดละลาย ครับ และล้างถาดหรือกล่องน้ำทิ้งด้านหลังให้สะอาดด้วย
ข้อเสียคือ ถาดรองน้ำอยู่ด้านหลังตู้เย็น ตู้เย็นปกติเราก็วางติดกำแพง จึงทำให้หยิบถาดนี้ออกมายาก บางทีต้องขยับตู้เย็นอีก
แต่ผมว่ายังไงก็ยังดีกว่าตู้เย็นแบบที่ 1
3.ตู้เย็นแบบ No Forst ตู้เย็นแบบนี้ไม่ต้องกดละลายเลยครับ เพราะมันจะไม่มีน้ำแข็งเกาะในช่องแข็ง เราก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ใช้ได้ยาวๆ สบายๆ
ทีนี้ประเด็นคือเมื่อวานนี้ผม มาถ่ายคลิปรีวิวตู้เย็นลงยูทูป(ไม่ได้รับจ้างรีวิวจากแบรนด์นะครับ ถ่ายเอง) ผมก็ลองค้นราคาดูพบว่า
ตอนนี้ ตู้เย็น 2 ประตู No Forst 6.4 คิว ที่ผมใช้อยู่ ราคาไม่ถึง 6 พันบาท
แต่พอเช็คราคา ราคากับพอๆกับตู้เย็น ที่ผมใช้อยู่อีกเครื่องนึงคือแบบ ประตูเดียว และเป็นแบบไม่มี No Forst แต่เป็นแบบที่ 2 คือมีถาดน้ำอยู่ด้านหลังเครื่อง
คิดแล้วเสียดายแทนคนที่ไม่รู้แล้ว จะไปซื้อตู้เย็นแบบประตูเดียว ไม่ได้รุ่น No Forst ด้วย ทั้งๆที่ราคาเท่าๆกัน
เลยมาตั้งกระทู้เผื่อใครมาอ่านจะได้ลองตรวจสอบดีๆก่อนซื้อครับ