ก่อนหน้านี้แฟนจะทำตัวแปลกๆไป อยากคุยก็คุย ไม่อยากคุยก็หายไปเฉยๆ
พูดจาก็ไม่ค่อยจะหวานชื่นเท่าไหร่ หงุดหงิด ฉุนเฉียวบ่อย เบื่อโลก
ชอบเก็บตัวเงียบ ไม่คุยกับใคร พอถามว่าเป็นอะไร ก็บ่นว่าเบื่อ บ่นอยากหายไปเฉยๆ
เคยถามว่าเป็นอะไร มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ก็บอกว่าไม่มี
ให้ช่วยอะไรไหม ก็บอกว่าไม่ต้อง
จนทะเลาะกันจนเกือบจะเลิกกัน เพราะเราไม่เข้าใจว่าสาเหตุเกิดจากอะไร
จนเราพยายามทำทุกอย่างให้เค้าอารมณ์ดีขึ้น กลับมาคุยกันเหมือนเดิม
จนวันที่ปรับความเข้าใจกันได้ แฟนสารภาพว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า ที่ไม่กล้าบอกเพราะอาย
กินยามาระยะนึงแล้ว แต่ก็ไม่ได้กินตลอด พยายามที่จะไม่กิน อยากหายด้วยตัวเอง
และตอนนี้ก็คิดได้แล้ว ว่าการที่เป็นแบบนั้น มันทำร้ายทุกคนที่อยู่รอบข้าง
จะพยายามไม่ทำแบบนั้นอีก และจะก้าวข้ามมันไปให้ได้
ตอนรู้ก็ตกใจ แต่ก็ทำใจไว้ระดับนึง เพราะคิดว่าแฟนก็น่าจะเป็นเพราะจากการแสดงออกที่ผ่านมา
แต่ปัญหา ก็เหมือนแฟนยังไม่เข้าใจ ว่าสาเหตุของโรคเกิดจากอะไร ไม่ยอมกินยาต่อ
เพราะคิดว่าทำใจให้สบายได้ ไม่จิตตก ไม่ฟุ้งซ่าน ก็จะหาย อยากหายได้ด้วยตัวเอง
เราก็พยายามให้เค้าทำความเข้าใจ ว่าโรคก็ส่วนโรค ใจก็ส่วนใจต้องแยกกันรักษา และต้องรักษาไปควบคู่กัน
จะไปหาหมอแบบจริงจังไหม จะไปเป็นเพื่อน และจะรักษาไปด้วยกัน แฟนก็บอกว่าไม่ ไม่กิน ไม่ไป
เราก็ไม่อยากจะบังคับ เพราะก็เหมือนลึกๆแล้วเค้าก็ยังคงอายอยู่ ยังไม่ได้เปิดใจกับเรา 100%
แต่สิ่งที่ตามมา คืออารมณ์เค้าจะแปรปรวนอยู่บ่อยครั้ง อยากคุยก็คุย ไม่อยากคุยก็เงียบหายไปอีก
อาการเดิมๆ อารมณ์แบบเดิมๆ มันก็กลับมาวนภาพเดิม
พยายามเข้าใจว่ามันเกิดจากโรค แต่บางครั้งก็อดน้อยใจ เสียใจ กับการกระทำของเค้าไม่ได้
เลยไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป เพราะตอนนี้เราเองเริ่มจิตตก กับสิ่งที่เป็นอยู่ เครียด หดหู่ เริ่มเหนื่อย
อยากช่วยเค้ารักษาให้หาย แต่เค้าก็ปิดกั้น แล้วแบบนี้ ชีวิตคู่จะดำเนินอย่างไรต่อไป
พยายามหาข้อมูลจากทุกๆที่ ทำทุกๆอย่างแล้ว แต่มันเหมือนไม่ได้ผลเลยสักอย่าง
ย้อนกลับมาทบทวนตัวเอง ที่เรารู้สึกแบบนี้ หรือเพราะเราคงรักเค้าน้อยไป
เพราะถ้าเรารักเค้ามากพอ เราคงไม่รู้สึกแย่ ไม่รู้สึกเหนื่อย กับเหตุการณ์ที่เป็นอยู่
แบบนี้ควรทำอย่างไรต่อไปดีคะ ...
แฟนเป็นโรคซึมเศร้า แต่ไม่ยอมเปิดใจ จนเราเหมือนจะป่วยตาม ต้องทำอย่างไรคะ
พูดจาก็ไม่ค่อยจะหวานชื่นเท่าไหร่ หงุดหงิด ฉุนเฉียวบ่อย เบื่อโลก
ชอบเก็บตัวเงียบ ไม่คุยกับใคร พอถามว่าเป็นอะไร ก็บ่นว่าเบื่อ บ่นอยากหายไปเฉยๆ
เคยถามว่าเป็นอะไร มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ก็บอกว่าไม่มี
ให้ช่วยอะไรไหม ก็บอกว่าไม่ต้อง
จนทะเลาะกันจนเกือบจะเลิกกัน เพราะเราไม่เข้าใจว่าสาเหตุเกิดจากอะไร
จนเราพยายามทำทุกอย่างให้เค้าอารมณ์ดีขึ้น กลับมาคุยกันเหมือนเดิม
จนวันที่ปรับความเข้าใจกันได้ แฟนสารภาพว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า ที่ไม่กล้าบอกเพราะอาย
กินยามาระยะนึงแล้ว แต่ก็ไม่ได้กินตลอด พยายามที่จะไม่กิน อยากหายด้วยตัวเอง
และตอนนี้ก็คิดได้แล้ว ว่าการที่เป็นแบบนั้น มันทำร้ายทุกคนที่อยู่รอบข้าง
จะพยายามไม่ทำแบบนั้นอีก และจะก้าวข้ามมันไปให้ได้
ตอนรู้ก็ตกใจ แต่ก็ทำใจไว้ระดับนึง เพราะคิดว่าแฟนก็น่าจะเป็นเพราะจากการแสดงออกที่ผ่านมา
แต่ปัญหา ก็เหมือนแฟนยังไม่เข้าใจ ว่าสาเหตุของโรคเกิดจากอะไร ไม่ยอมกินยาต่อ
เพราะคิดว่าทำใจให้สบายได้ ไม่จิตตก ไม่ฟุ้งซ่าน ก็จะหาย อยากหายได้ด้วยตัวเอง
เราก็พยายามให้เค้าทำความเข้าใจ ว่าโรคก็ส่วนโรค ใจก็ส่วนใจต้องแยกกันรักษา และต้องรักษาไปควบคู่กัน
จะไปหาหมอแบบจริงจังไหม จะไปเป็นเพื่อน และจะรักษาไปด้วยกัน แฟนก็บอกว่าไม่ ไม่กิน ไม่ไป
เราก็ไม่อยากจะบังคับ เพราะก็เหมือนลึกๆแล้วเค้าก็ยังคงอายอยู่ ยังไม่ได้เปิดใจกับเรา 100%
แต่สิ่งที่ตามมา คืออารมณ์เค้าจะแปรปรวนอยู่บ่อยครั้ง อยากคุยก็คุย ไม่อยากคุยก็เงียบหายไปอีก
อาการเดิมๆ อารมณ์แบบเดิมๆ มันก็กลับมาวนภาพเดิม
พยายามเข้าใจว่ามันเกิดจากโรค แต่บางครั้งก็อดน้อยใจ เสียใจ กับการกระทำของเค้าไม่ได้
เลยไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป เพราะตอนนี้เราเองเริ่มจิตตก กับสิ่งที่เป็นอยู่ เครียด หดหู่ เริ่มเหนื่อย
อยากช่วยเค้ารักษาให้หาย แต่เค้าก็ปิดกั้น แล้วแบบนี้ ชีวิตคู่จะดำเนินอย่างไรต่อไป
พยายามหาข้อมูลจากทุกๆที่ ทำทุกๆอย่างแล้ว แต่มันเหมือนไม่ได้ผลเลยสักอย่าง
ย้อนกลับมาทบทวนตัวเอง ที่เรารู้สึกแบบนี้ หรือเพราะเราคงรักเค้าน้อยไป
เพราะถ้าเรารักเค้ามากพอ เราคงไม่รู้สึกแย่ ไม่รู้สึกเหนื่อย กับเหตุการณ์ที่เป็นอยู่
แบบนี้ควรทำอย่างไรต่อไปดีคะ ...