เรื่องมีอยู่ว่าผมได้ไปทำธุระที่ภาคเหนือเมื่อปลายปีที่แล้ว แล้วทีนี้ผมได้ไปรู้จักกับต่างชาติคนหนึ่งเขาอายุห่างกับผม4-5ปีซึ่งผมอ่อนกว่าผมกับเขาเจอกันผ่านโซเชียล แล้วเขาก็ได้ทักผมมาก็คุยกันปกติทั่วไปครับ แล้วพอวันนั้นที่ได้คุยกันผมก็เลยขอไลน์เขาเพราะส่วนใหญ่คุยธุระเรื่องทั่วไปในนี้
แล้วรู้จักกันไม่ถึงวันเขาถามคำถามผมมากมายจนผมหัวร้อนว่าจะถามอะไรเยอะแยะไม่ได้สนิทอะไรขนาดนั้น
แล้วเขาก็บอกว่าเขาเห็นรูปผมที่ถ่ายในโปรไฟล์มันดูCoolมากและผมก็คุยกับเขามาแต่ก็คุยกันไม่บ่อยต่างคนต่างทำงานว่างตอนไหนก็ตอบประมาณนั้น
(แต่ผมไม่ได้ทำงานที่นั่นนะครับผมไปทำธุระแค่2วันแล้วก็เดินทางกลับมาบ้าน) หลังจากนั้น1เดือนเข้าสู่ธันวาเราก็ไม่ได้คุยกันอีกจนข้ามปีมาผมก็เจอข่าวร้ายผมติดโควิดและไปกักตัวจำไม่ได้ว่าเขารู้เรื่องได้ไงจนเขาก็ทักมาถามอาการผมว่าเป็นไงบ้างจนทำให้เราได้กลับมาคุยกันอีกแต่ทีนี้เขาก็คุยกับผมมากขึ้นมากถึงขึ้นโทรคุยกัน(เขาบอกไม่ชอบพิมพ์ผมก็..อ่าโอเค)ตอนแรกคิดว่าเขาอาจจะแค่ทักมาถามอาการแต่จนกระทั่งผมออกจากรพ.เขาก็โทรมาหามาคุยกับผมทุกคืนจนเราสนิทกันถึงขึ้นเล่าปัญหาส่วนตัวให้กันฟังเล่าเรื่องส่วนตัวให้กันฟังและเขาบอกเขาตกใจมากที่บริษัทที่ผมทำงานทำงานคล้ายกับบริษัทพี่ชายเขาแล้วเขาก็ไปเล่าเรื่องของผมให้ครอบครัวเขาฟัง(ใช่ครับเขาคุยกับพ่อแม่เขา) แล้วมาบอกผมว่าเขาไปเล่าอะไรมาบ้าง ผมก็ตกใจว่าทำไมเขาไปเล่าให้พ่อแม่ฟังแต่ไม่ได้ถามว่าไปเล่าทำไมแต่เขาก็บอกมาว่าทำไมถึงไปเล่าให้ฟังเขาบอกเขาชอบผมตรงที่เก่งเลยไปเล่าให้ฟัง(ผมก็ไม่รู้เก่งของเขาคือเก่งยังไงของผม555) แล้วเขาก็ส่งรูปผมที่เขาบอกว่าเห็นแล้วมันเท่มาให้ดู(อ่าวเซฟรูปผมไปอีก) ผมก็แซวเขาไปเขาก็หัวเราะ หลังๆเริ่มมีการแชร์ประสบการณ์ชีวิตมีความเป็นห่วงกันจากตอนแรกที่รู้จักกันกวนตีนมากกกกกก55 จนผมไม่รู้ว่าตอนนี้เขากับผมโทรจีบกันอยู่หรือป่าว555
มันทำให้รู้สึกว่าเรา2คนมันอยู่ในสถานะที่มากกว่านั้นมั้ยหรือแค่คุยแก้เหงา (มีอีกหลายเรื่องที่เขาทำแล้วทำให้รู้สึกดีและก็มีเรื่องที่ทำให้รู้สึกไม่ดีแต่น้อย5555) ผมมีแพลนจะไปเที่ยวเหนืออีกและเขาก็บอกมาเลยรอชนแก้วอยู่ ผมคิดว่าจะถามเขาหรือจะบอกเขาเรื่องนี้หรือว่าจะอยู่ในสถานะที่คุยกันแชร์ประสบการณ์กันต่อไป เพราะผมไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงกับผมและผมต้องทำตัวไงต่อไปหรือผมอาจจะรู้สึกดีไปคนเดียว55 ตอนนี้ก็เข้าเดือนที่5ที่รู้จักกันละ แต่ถ้าล่มก็คือต้องทำใจว่าเราจะเสียเพื่อนคนนี้ไปเลยก็เป็นได้
แนะนำว่าควรถามหรืออยู่เฉยๆดีครับ
ไม่ใช่เฟรนโซนแต่ก็ไม่ใช่แฟนกัน
แล้วรู้จักกันไม่ถึงวันเขาถามคำถามผมมากมายจนผมหัวร้อนว่าจะถามอะไรเยอะแยะไม่ได้สนิทอะไรขนาดนั้น
(แต่ผมไม่ได้ทำงานที่นั่นนะครับผมไปทำธุระแค่2วันแล้วก็เดินทางกลับมาบ้าน) หลังจากนั้น1เดือนเข้าสู่ธันวาเราก็ไม่ได้คุยกันอีกจนข้ามปีมาผมก็เจอข่าวร้ายผมติดโควิดและไปกักตัวจำไม่ได้ว่าเขารู้เรื่องได้ไงจนเขาก็ทักมาถามอาการผมว่าเป็นไงบ้างจนทำให้เราได้กลับมาคุยกันอีกแต่ทีนี้เขาก็คุยกับผมมากขึ้นมากถึงขึ้นโทรคุยกัน(เขาบอกไม่ชอบพิมพ์ผมก็..อ่าโอเค)ตอนแรกคิดว่าเขาอาจจะแค่ทักมาถามอาการแต่จนกระทั่งผมออกจากรพ.เขาก็โทรมาหามาคุยกับผมทุกคืนจนเราสนิทกันถึงขึ้นเล่าปัญหาส่วนตัวให้กันฟังเล่าเรื่องส่วนตัวให้กันฟังและเขาบอกเขาตกใจมากที่บริษัทที่ผมทำงานทำงานคล้ายกับบริษัทพี่ชายเขาแล้วเขาก็ไปเล่าเรื่องของผมให้ครอบครัวเขาฟัง(ใช่ครับเขาคุยกับพ่อแม่เขา) แล้วมาบอกผมว่าเขาไปเล่าอะไรมาบ้าง ผมก็ตกใจว่าทำไมเขาไปเล่าให้พ่อแม่ฟังแต่ไม่ได้ถามว่าไปเล่าทำไมแต่เขาก็บอกมาว่าทำไมถึงไปเล่าให้ฟังเขาบอกเขาชอบผมตรงที่เก่งเลยไปเล่าให้ฟัง(ผมก็ไม่รู้เก่งของเขาคือเก่งยังไงของผม555) แล้วเขาก็ส่งรูปผมที่เขาบอกว่าเห็นแล้วมันเท่มาให้ดู(อ่าวเซฟรูปผมไปอีก) ผมก็แซวเขาไปเขาก็หัวเราะ หลังๆเริ่มมีการแชร์ประสบการณ์ชีวิตมีความเป็นห่วงกันจากตอนแรกที่รู้จักกันกวนตีนมากกกกกก55 จนผมไม่รู้ว่าตอนนี้เขากับผมโทรจีบกันอยู่หรือป่าว555
แนะนำว่าควรถามหรืออยู่เฉยๆดีครับ