สวัสดีค่าทุกคน มิ้นกลับมาอีกแล้วววว กับการรีวิวแบบยาวๆ ในรูปแบบ Blog
ปกติก็จะมีรีวิวก๊อกๆแก๊กๆ ในทวิตเตอร์บ้างไรบ้าง แต่วันนี้พิเศษเพราะว่ามีไอเท็มดีๆมาแนะนำทุกคนถึง 2 ตัว
มิ้นเลยขยันมาเขียนยาวๆซักหน่อย
เป็นไอเท็มที่ค่อนข้างมีเสียงลือเล่าอ้างว่ามันปังมันจึ้งกันทั้งคู่
นั่นก็คืออออ
Eucerin Anti-acne mark และ Dr. Jart Cicapair นั่นเอง
Eucerin Pro Acne Solution Anti-Acne Mark
ตัวนี้เหมือนเค้าจะเป็นเซรั่มลดรอยสิวตัวใหม่ที่ Eucerin เพิ่งทำออกมา
เราก็ไม่พลาดที่จะเอามาลอง เพราะเริ่มรู้สึกว่าผิวหน้านิ่งมาก รอยสิวไม่ได้ดีขึ้นเลยยย
ตัวนี้เค้าจะอยู่ในไลน์ Pro Acne เหมือนกับตัว A.I. Matt Fluid ตัวดังนั่นเองค่ะทุกคน
แต่ตัวนี้จะเป็นสิ่งที่สร้างมาเพื่อลดรอยดำจากสิวโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าใครหาวิธีลดรอยสิวอยู่ ก็มามุงกันตรงเน้เลยย
ที่อ่านมาคือเค้าเคลมว่าตัวนี้เป็นไอเทมลดรอยสิวสำหรับผิวแพ้ง่าย สำหรับผิวเป็นสิวโดยเฉพาะ
แต่นอกจากคุณสมบัติเด่นๆเรื่องรอยสิวแล้วเนี่ย เค้าก็ยังมีคุณสมบัติอื่นที่สร้างมาเพื่อคนเป็นสิวจริงๆ เช่น
● ลดรอยสิวฝังลึก
● ลดการอุดตัน
● ควบคุมความมัน
● ลดการเกิดสิวซ้ำ
ซึ่งครีมลดรอยสิวตัวนี้ผ่านการทดสอบว่าไม่ทำให้อุดตันและไม่ทำให้เกิดสิว ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้น้า
แต่ว่าสรรพคุณก็ดูหลายสิ่งอยู่นะ ใครที่เป็นสายสกินแคร์แบบเจาะลึกส่วนผสมก็คงอดไม่ได้ที่จะไปพลิกกล่องดูใช่มะว่าเค้าใส่อะไรมา ถึงได้เคลมเบอร์นี้
มิ้นก็เป็นอีกคนที่เพิ่งเริ่มจะมาศึกษาส่วนผสมของสกินแคร์เหมือนกัน
ว่าละก็ไปดูกันเลยดีกว่า
มาเริ่มกันที่สารตัวแรก THIAMIDOL เป็นสารไวท์เทนนิ่งที่ทางยูเซอรินเนี่ยใส่มาไม่หยุด
ใส่มาในหลายๆผลิตภัณฑ์ของเค้าที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใสเลย รวมถึงตัว Anti-acne mark ตัวนี้ด้วย
เพราะสารตัวนี้เนี่ยเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะยูเซอริน ที่จะช่วยในการลดรอยสิวอย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งจากที่มิ้นได้ไปอ่านมาก็รู้สึกว้าวมาก เพราะกว่าจะได้สารตัวนี้มาใส่ในสกินแคร์ของยูเซอรินเนี่ย
เค้าต้องค้นคว้าและทดลองสารไวท์เทนนิ่งมากกว่า 50,000 สาร และใช้เวลาเป็น 10 ปีเลยอะ กว่าที่จะได้สารตัวนี้มา
ซึ่งสารตัวนี้สามารถลงลึกถึงชั้นผิวและยับยั้งเอนไซม์ที่เป็นต้นเหตุของจุดด่างดำกันเลยทีเดียว
อลังการมาก5555555 แต่เค้ายังมีสารอื่นๆอีกนะ เช่น
● Licochalcone - ลดอาการระคายเคือง ลดการอักเสบของสิว
● Salicylic acid - ลดการอุดตันซึ่งเป็นปัญหาของการเกิดสิว
● Decanediol - กำจัดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว
● Sebum Regulation Technology – เทคโนโลยีควบคุมความมัน
/
ก็จะเห็นเลยว่าส่วนผสมดีๆเยอะนะว่าไม่ได้ ก็ไม่แปลกที่เค้าจะเคลมแรงๆ
แบบว่าไม่ได้แค่ลดรอย แต่ยังช่วยลดสาเหตุของการเกิดสิวใหม่ๆได้ด้วย เหมาะกับคนเป็นสิวง่ายหรือคนที่เป็นสิวซ้ำๆ
ตอบโจทย์ทั้งรักษารอยและลดสิวกันไปเลยเด้อ
/
แพคเกจมาในรูปแบบหัวปั้มที่มีฝาปิด ซึ่งมิ้นว่าค่อนข้างสะดวกในการใช้เลยค่ะ
เล่าถึงยูเซอริน มาเยอะมากแล้ว ขอไปต่อกันที่ Dr.Jart เลยดีกว่า
/
Dr. Jart Cicapair Calming gel cream
ตัว Dr. Jart Cicapair เนี่ย หลายๆคนคงจะรู้จักกันอยู่แล้วเพราะเค้าค่อนข้างฮิตอยู่ช่วงนึงเลย
ส่วนตัวมิ้นก็ชอบเจลตัวนี้มาก นี่ก็ใช้เป็นหลอดที่ 2 แล้วว ถือเป็นอีกตัวที่เป็นสกินแคร์ที่ต้องมีติดบ้านไว้
เพราะว่าเคยเจอเหตุการณ์ที่ม้วนผมพลาดมาโดนแขน โปะตัวนี้เข้าไปก็คือแผลผุพองหายไวมากกก
/
แต่ขอสารภาพตรงนี้ว่าไม่เคยเจาะลึกส่วนผสมของเค้าเลยว่ามีอะไรบ้าง
ด้วยความที่ช่วงที่ซื้อมาเนี่ย ก็ตามกระแสอยู่ประมาณนึง555555 แล้วโชคดีว่าน้องเค้าเข้ากับมิ้นได้ เลยอยู่ต่อกันยาว
แต่วันนี้เราตั้งใจมารีวิวแล้ว เราก็ต้องมาดูส่วนผสมซักหน่อยว่าเค้ามีอะไรบ้างน้าาา
หลักๆเลยตัวนี้เค้าจะมีส่วนผสมของ Centella Asiatica นั่นก็คือบัวบกนั่นเอง
แล้วบัวบกช่วยอะไร?
จะบอกว่าครอบจักรวาลอยู่นะจากที่มิ้นไปอ่านมา55555
ใบบัวบกเนี่ยเค้าจะช่วยในเรื่องลดอาการอักเสบ ชะลอริ้วรอยด้วยการกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสติน
เพื่อให้ผิวที่แข็งแรงขึ้น ลดรอยแดง รวมไปถึงสามารถสมานแผลที่โดนความร้อนได้อีกด้วย
(ไม่น่าล่ะตอนนั้นมิ้นเอาไปทาที่แผลโดนความร้อน คือแผลหายไวม้าก เพิ่งจะรู้วันนี้ ;-;)
นอกจากนี้เค้ายังมีสารอื่นๆ เช่น
● Niacinamide - ช่วยลดอาการแดงและอาการระคายเคือง ช่วยกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ ซึ่งคือเกราะป้องกันผิวของเรา ทำให้ผิวเราแข็งแรงขึ้นนั่นเอง
ส่วนผสมต่างๆของเค้าก็ค่อนข้างสอดคล้องกับคุณสมบัติที่เค้าเคลมไว้เลยนั่นก็คือ
ช่วยปลอบประโลมผิวบอบบางให้มีสมดุลที่ดี ทำให้ผิวแข็งแรงและลดอาการแดง ไม่เกินจริงนะ
แพคเกจเค้าจะมาในรูปแบบหลอดบีบง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน บีบปุ๊บเจลออกปั๊บบบเท่านั้นเลย
ซึ่งอาจจะต้องระวังในตอนบีบเจลออกมาใช้นิดนุงงง
/
มาดู Texture ของทั้งคู่กันดีกว่าว่าจะเป็นยังไง
ตัวแรก Eucerin Anti-acne mark – เนื้อสัมผัสเซรั่มเข้มข้น ไม่หนักผิวหน้า กลิ่นแอบคล้าย Aloe vera gel นะ
มิ้นจะใช้ตัวนี้ก่อนเพราะเนื้อสัมผัสจะบางเบากว่า และใช้ทั้งเช้า – เย็นเลย
หลังทาเซรั่มลงไปที่ผิวซักพัก รู้สึกว่าผิวมีความเนียนๆขึ้นด้วย
ตัวที่ 2 Dr. Jart Cicapair - เนื้อเจลบางเบา แต่ยังมีความข้นอยู่นะ สังเกตได้ว่าจะข้นกว่าตัว Anti-acne mark
มีกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ ใช้ทั้งเช้า – เย็นค่ะ
/
อย่างที่บอกเราใช้ Dr.Jart Cicapair มาก่อน มันก็มีบางช่วงที่รู้สึกว่าสกินแคร์ยังมีชีวิตอยู่มั้ยนะ
เพราะผิวหน้านิ่งมาก ไม่ได้รู้สึกว่าผิวดีขึ้น
ก็แบบว่าด้วยความเข้ากันได้ดีกับเรา ใช้แล้วไม่แพ้ก็ทิ้งไม่ได้เด้อ แต่จะให้นอนนิ่งๆก็เสียดาย
เลยจับมาใช้คู่กับ Eucerin Anti-acne mark เรารู้สึกว่าผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างดีมากกกก
รอยสิวจางและลดลงอย่างเห็นได้ชัดและในระหว่างวันหน้ามันน้อยลงด้วยค่ะ
แปะภาพให้ดู 1 แมท
อันนี้เป็นภาพ Before – After ในระยะเวลา 7 วันนะคะ
ซึ่งจะเห็นเลยว่ารอยดำจากสิวตรงหน้าผากดูจางลง รอยแดงที่แก้มก็เบาลง แบบว่ารอยสิวจางลงจริงเด้อสู
เอาเป็นว่าชอบค่ะ555555 แนะนำให้ทุกคนไปซื้อตามมม เลือกตามสภาพผิวนะคะ
/
ปล. อันนี้มิ้นถ่ายตอนตื่นนอนทั้ง 2 ภาพ เลยจะแอบเห็นว่ามีความผิวเงาวาวเว่อโดยเฉพาะจมูก เพราะตอนกลางคืนก็โบกครีมหนักอยู่ค่ะ 😂
สรุปกันอีกครั้ง
Eucerin Pro Acne Solution Anti-Acne Mark - เซรั่มลดรอยสิว สำหรับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ
Dr. Jart Cicapair Calming gel cream – เจลใบบัวบก ปลอบประโลมผิว
/
ใครเคยใช้แล้วเป็นยังไงก็คอมเม้นคุยกันได้น้า วันนี้มิ้นขอตัวไปทาครีมต่อก่อนแล้วววว บัยค่า
[CR] บอกต่อ 2 ไอเท็มคู่หูสายเขียว ลดรอยสิวสุดปัง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้