ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี เอาเป็นว่าเข้าประเด็นตรงๆ เลยนะครับ แม่ผมแต่งงานกับผู้ชายใหม่แล้วมีน้อง ซึ่งอายุห่างกันประมาณ 25 ปี
ตอนนี้แม่ให้ผมกู้ร่วมซื้อบ้านใหม่อีกหลัง และให้พ่อเลี้ยง และน้องเข้ามาอยู่ด้วย ซึ่งตอนแรกผมกะว่าจะยื่นกู้ซื้อคอนโดฯ เผื่อไปอยู่คนเดียว เพราะตอนแรกอยู่บ้านทาวน์เฮ้าส์ คนเดียวหลังใหญ่ เนื้อที่กว่า 30 ตารางวา ผมว่ามันใหญ่โตเกินไปสำหรับการอยู่คนเดียวเลยปล่อยให้เช่า พอมาอยู่ได้สักพักปัญหาเกิด ไล่ไปทีละข้อเลยนะครับ
1. ผมรู้สึกอึดอัด เบื่อหน่าย ชินกับการอยู่คนเดียวมากกว่า
2. ผมมาอยู่ด้วยผมรู้สึกแม่ผมยอมพ่อเลี้ยงมากไป ไม่ว่าจะทำอะไร พูดอะไร ยอมไปหมด (พ่อกับเลี้ยงกับน้องนอนห้องนอนใหญ่ แม่ผมนอนห้องรับรอง
ส่วนผมมีห้องส่วนตัว เพราะผมบอกไว้แล้วตั้งแต่ตอนซื้อว่าขอไว้ 1 ห้อง แต่จะย้ายหรือไม่ย้ายมาขอดูอีกที) ที่สำคัญที่ผมย้ายเข้ามาอยู่ด้วย
ส่วนหนึ่งเพราะเป็นห่วงแม่ เพราะพ่อเลี้ยงกับน้อง ทำกับแม่เหมือนเป็นคนรับใช้ จะกินอะไร จะให้ทำอะไร สั่งอย่างเดียว แทบไม่กระดิกตัวทำอะไรเลย
ซึ่งแม่ผมก็ทำงานนอกบ้านเหมือนเหมือน แต่เหมือนภาระภายในบ้านแม่ผมก็ต้องมานั่งรับผิดชอบอีก และผมมองดูแล้วก็อดไม่ได้ที่จะไม่ช่วย
ไม่รู้เป็นเพราะเวรกรรม หรือเพราะอะไรกัน แทนที่จะสบายตอนแก่ กับต้องมาลำบากทั้งชีวิตแทน
3. เลี้ยงน้องเทิดทูนเหนือเกล้าเกินไป ผมว่าหรือตักเตือน ดุ สอน ไม่ได้ จะโดนว่ากลับมา
4. การที่ผมกู้ซื้อบ้านร่วมกับแม่ เมื่อแม่ผมเป็นอะไรไป บ้านถ้ายังส่งไม่หมดผมต้องรับผิดชอบตามกฎหมายต่อไปถูกไหมครับ
และบ้านครึ่งหนึ่งในสิทธิ์ของแม่จะถูกแบ่งออกให้น้องครึ่งหนึ่งถูกไหมครับ (แม่ผมไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับพ่อเลี้ยง)
5. แบบนี้รึเปล่าที่เรียกว่าน้ำย่อมข้นกว่าเลือด (แต่พ่อเลี้ยงเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะครับ แต่หลังๆ มา มีตะคอกเสียงใส่ผมบ้าง
ซึ่งบางครั้งก็ทำให้ผมไม่พอใจอันนี้ขอพูดตรงๆ เลยนะครับ และแม่ก็เลี้ยงที่จะบอกผมว่าให้ยอมๆ ไป อย่ามีปัญหา)
6. บางทีปรึกษา หรือพูดคุย กับแม่ เรื่องที่ต้องอาศัยอยู่ร่วมกัน แม่จะบอกว่าให้ผมยอมทั้งหมดเลย ซึ่งผมยอมและผ่อนให้เท่าที่ผมจะให้ได้ผมมีขอบเขต
เท่านี้แต่บางทีแม่ต้องการมากกว่านั้น ซึ่งผมให้ไม่ได้สายสัมพันธ์และความผูกพันธ์มันไม่เหมือนกัน (ความรู้สึกผมเองนะครับ ที่ผมคิดเอง)
7. แม่ และพ่อเลี้ยง ชอบเอาเอกสารส่วนตัวผมไปทำนิติกรรมต่างๆ โดยชอบอ้างบุญคุณ เหมือนบังคับทางอ้อม เหมือนเอาสิทธิ์ผมไปใช้เผื่อให้สิ่งที่
ตัวเองต้องการ พอได้แล้วก็เหมือนถีบหัวผมส่ง ตรงนี้ก็ทำให้ผมเซ็งมากๆ เลยครับ
ป.ล. ผมควรทำไงดีครับ ซื้อบ้านมา 2 ปี ผมเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ร่วมได้ไม่ถึง 1 เดือน อารมณ์ผมดาวน์ไปแล้ว 70% และถ้าเป็นอย่างงี้อยู่อารมณ์ผมต้องระเบิดสักวันแน่ๆ เลย แล้วก็ต้องอายเพื่อน และทุกคนก็ต้องมองว่าผมมันลูกทรพี อกตัญญู เนรคุณ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง จะไปทำอะไรก็คงไม่เจริญใช่ไหมครับ
ปรึกษาปัญหาครอบครัวหน่อยครับ
ตอนนี้แม่ให้ผมกู้ร่วมซื้อบ้านใหม่อีกหลัง และให้พ่อเลี้ยง และน้องเข้ามาอยู่ด้วย ซึ่งตอนแรกผมกะว่าจะยื่นกู้ซื้อคอนโดฯ เผื่อไปอยู่คนเดียว เพราะตอนแรกอยู่บ้านทาวน์เฮ้าส์ คนเดียวหลังใหญ่ เนื้อที่กว่า 30 ตารางวา ผมว่ามันใหญ่โตเกินไปสำหรับการอยู่คนเดียวเลยปล่อยให้เช่า พอมาอยู่ได้สักพักปัญหาเกิด ไล่ไปทีละข้อเลยนะครับ
1. ผมรู้สึกอึดอัด เบื่อหน่าย ชินกับการอยู่คนเดียวมากกว่า
2. ผมมาอยู่ด้วยผมรู้สึกแม่ผมยอมพ่อเลี้ยงมากไป ไม่ว่าจะทำอะไร พูดอะไร ยอมไปหมด (พ่อกับเลี้ยงกับน้องนอนห้องนอนใหญ่ แม่ผมนอนห้องรับรอง
ส่วนผมมีห้องส่วนตัว เพราะผมบอกไว้แล้วตั้งแต่ตอนซื้อว่าขอไว้ 1 ห้อง แต่จะย้ายหรือไม่ย้ายมาขอดูอีกที) ที่สำคัญที่ผมย้ายเข้ามาอยู่ด้วย
ส่วนหนึ่งเพราะเป็นห่วงแม่ เพราะพ่อเลี้ยงกับน้อง ทำกับแม่เหมือนเป็นคนรับใช้ จะกินอะไร จะให้ทำอะไร สั่งอย่างเดียว แทบไม่กระดิกตัวทำอะไรเลย
ซึ่งแม่ผมก็ทำงานนอกบ้านเหมือนเหมือน แต่เหมือนภาระภายในบ้านแม่ผมก็ต้องมานั่งรับผิดชอบอีก และผมมองดูแล้วก็อดไม่ได้ที่จะไม่ช่วย
ไม่รู้เป็นเพราะเวรกรรม หรือเพราะอะไรกัน แทนที่จะสบายตอนแก่ กับต้องมาลำบากทั้งชีวิตแทน
3. เลี้ยงน้องเทิดทูนเหนือเกล้าเกินไป ผมว่าหรือตักเตือน ดุ สอน ไม่ได้ จะโดนว่ากลับมา
4. การที่ผมกู้ซื้อบ้านร่วมกับแม่ เมื่อแม่ผมเป็นอะไรไป บ้านถ้ายังส่งไม่หมดผมต้องรับผิดชอบตามกฎหมายต่อไปถูกไหมครับ
และบ้านครึ่งหนึ่งในสิทธิ์ของแม่จะถูกแบ่งออกให้น้องครึ่งหนึ่งถูกไหมครับ (แม่ผมไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับพ่อเลี้ยง)
5. แบบนี้รึเปล่าที่เรียกว่าน้ำย่อมข้นกว่าเลือด (แต่พ่อเลี้ยงเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะครับ แต่หลังๆ มา มีตะคอกเสียงใส่ผมบ้าง
ซึ่งบางครั้งก็ทำให้ผมไม่พอใจอันนี้ขอพูดตรงๆ เลยนะครับ และแม่ก็เลี้ยงที่จะบอกผมว่าให้ยอมๆ ไป อย่ามีปัญหา)
6. บางทีปรึกษา หรือพูดคุย กับแม่ เรื่องที่ต้องอาศัยอยู่ร่วมกัน แม่จะบอกว่าให้ผมยอมทั้งหมดเลย ซึ่งผมยอมและผ่อนให้เท่าที่ผมจะให้ได้ผมมีขอบเขต
เท่านี้แต่บางทีแม่ต้องการมากกว่านั้น ซึ่งผมให้ไม่ได้สายสัมพันธ์และความผูกพันธ์มันไม่เหมือนกัน (ความรู้สึกผมเองนะครับ ที่ผมคิดเอง)
7. แม่ และพ่อเลี้ยง ชอบเอาเอกสารส่วนตัวผมไปทำนิติกรรมต่างๆ โดยชอบอ้างบุญคุณ เหมือนบังคับทางอ้อม เหมือนเอาสิทธิ์ผมไปใช้เผื่อให้สิ่งที่
ตัวเองต้องการ พอได้แล้วก็เหมือนถีบหัวผมส่ง ตรงนี้ก็ทำให้ผมเซ็งมากๆ เลยครับ
ป.ล. ผมควรทำไงดีครับ ซื้อบ้านมา 2 ปี ผมเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ร่วมได้ไม่ถึง 1 เดือน อารมณ์ผมดาวน์ไปแล้ว 70% และถ้าเป็นอย่างงี้อยู่อารมณ์ผมต้องระเบิดสักวันแน่ๆ เลย แล้วก็ต้องอายเพื่อน และทุกคนก็ต้องมองว่าผมมันลูกทรพี อกตัญญู เนรคุณ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง จะไปทำอะไรก็คงไม่เจริญใช่ไหมครับ