สวัสดีครับ เพื่อนๆพี่น้องชาวพันทิพย์ทั้งหลาย ผมมีเรื่องอัดอั้นตัวใจ อยากจะถามเพื่อนๆให้หายข้องใจ ปนกับที่อยากระบายเพราะผมไม่สามารถปรึกษาใครใด้เลย
..เริ่มเรื่องด้วยประวัติสั้นๆก่อนว่า วันที่พิมอยู่ผมอายุ 46 ปี 7เดือนทำงานเป็นนายหน้าที่ดิน กับเล้นหุ้น ก็พอมีใช้มีเที่ยวช่วงทำงานใหม่ๆ ซึ่งช่วงนึงผมหกหักจากแฟนที่นราธิวาท ทำใจอนู่นานจนตัดใด้ ละไปบวช 1 เดือน แต่หลังจากสึกออกมา เพื่อนกลุ่มนึงใด้พาผมไปเที่ยวร้านๆนึงซึ่งเป็นร้านนั่งดื่ม PR ด้วยความที่ตัดอะไรใด้หลายๆอย่าง อยากหาความสบายใจ เลยไปเที่ยวตามประสา ผมก็เที่ยวร้านนี้เป็นร้านประจำ ใด้รักแต่ถูกหลอกจากผญ.2-3คนกับเด็กร้านนี้ และยังมีเลี้ยงเด็กๆอีก 2-3คน คนละ3-4หมื่นต่อเดือน หมดเงินไปหลายล้าน ซึ่งหลังจากคนที่ 3 หลังจากบวช ผมก็เริ่มเบื่อหน่ายกับชิวิตตรงนี้ แต่..
..เรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่อราวๆเดือนธันวาคม 63 ผมใด้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง อายุ 26ปี ซึ่งทำงาน PR (นั่งกินดื่ม)ซึ่งเจอกันที่ร้าน เจอกันครั้งแรกผมก็บอกชอบเธอเลย ด้วยหลายๆอารม หลายๆความคิด และเห็นรอยยิ้มแล้ว มันดูจริงใจมากจากเธอ ละตกลงคบหากันในครั้งที่สองที่ใด้พูดคุย (ผมไปร้านนี้ประจำจนเป็นที่รู้จักและข้อมูลในร้านที่เด็กรู้จักผมกันในนามสายเปย์) ก็คงเพราะเด็กพูดๆต่อกันไป บวกกับปัญหาชีวิตของตัวเธอเองที่มีลูก2 ลูกคนที่สองพึ่งคลอดใด้3เดือน ละเคยติดคุกมา ผมใด้เจอเธอในจังหวะที่เธอคงต้องการที่พึ่งทางใจ เลยตกลงคบกันอย่างเรียบง่าย จนเรามีอะไรกันในวันที่ 31ธันวา 63 และผมก็ตกลงคุยกันกับเธอว่าจะดูแลกันแบบใหนยังไง(คุยกันว่าอยู่ด้วยกันอาทิตย์ละ 2ครั้ง กินข้าวกันบ้าง อาทิตย์ละ3-4ครั้งเป็นข้อตกลง) ช่วงนี้ผมเริ่มขัดสนในเรื่องเงินทอง เพราะเหลือเงินก้อนสุดท้ายในการทำงาน(เล้นหุ้น) ตอนนี้ผมตกลงกับเธอว่าให้อาทิตย์ละ 5000 ผ่อนค่ารถให้เดือนละ 7500 ค่าโปรโทรศัพท์รายเดือน Iphone 12 ที่ผมซื้อให้อีกเดือนละ 1400 พาไปซื้ของเข้าบ้าน นมแพมเพิสลูกก็เดือนละ 2 ครั้ง ค่าเทอมของลูกคนโตรึค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ออกปากช่วยไป ก็พูดคุยอย่างจริงจังกับเธอว่า ขอคบกันจนแก่เฒ่านะ ไม่เอาเป็นหนูๆเหมือนที่ผมเคยเลี้ยง ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ผมใช้ชีวิตเสพลตามทีเล่าไปข้างต้น ก็เล่าอดีตผมให้เธอฟังทุกเรื่องเพื่อจะใด้เข้าใจกันให้มากที่สุด เพราะที่ผ่านมา ผมใช้ชีวิตแย่มากในสายตาคนทั่วๆไป(แนวสายเปย์เลี้ยงหนูๆ) เธอขอเวลาผม 1 ปีจะพาไปพบพ่อแม่ และให้รู้จักบ้าน เปิดตัวต่อสังคมของเธอ ผมก็ตกลงเพราะเธอเล่าให้ฟังถึงเรื่องของสามีคนที่1 และ 2 ที่มาอาละวาดละทำให้พ่อแม่เธอกดดันจนเธอไม่กล้าพาใครไปบ้าน เธอว่างั้น
..ก็คบกันมา เอาเข้าจริงๆ เดือนนึงใด้มีเวลาให้กันแค่เจอกันข้างนอก2-3ครั้งอย่างมาก ไม่ใด้กินข้าวด้วยกันเป็นกิจจะลักษณะ นอกจากจะไปหาที่ร้านจะนัดกินข้าวก่อนละไปร้านพร้อมกัน อาทิตย์นึงก็ไปนั่งหาเธอที่ร้านบ้างครั้งสองครั้ง เพราะบอกเธอไปตั้งแต่เริ่มคบกันว่าผมต้องประหยัด เงินเริ่มหมดแล้ว จะเจอกันข้างนอกก็เฉพาะเวลานัดมีอะไรกัน เธอให้เวลาผมแค่นั้น บอกผมว่าเลี้ยงลูก ไม่มีเวลา จนมาถึงช่วงโตวิด 3 ราวๆสิงหาคม 64 ร้านที่เธอทำต้องปิด บวกกับจังหวะที่แม่เธอให้ลาออกเพราะวันสุดท้ายที่เธอทำ เมาหนักมากจนต้องหาม แม่เธอรับไม่ใด้ เลยบังคับให้ออก ซึ่งผมก็ดีใจ เพราะเคยคุยใว้นานแล้วว่าอยากให้ออก
..หลัวจากที่ออกจากงาน เราแทบไม่ใด้เจอกันเลย เธอบอกผมว่าเม็นมายังไม่หยุด ไม่ใด้ออกมากินข้าวด้วย แทบจะบอกใด้ว่า ตั้งแต่ออกจากงานจนถึงปัจจุบันนี้ เราใด้เจอกันเฉลี่ยเพื่อกินข้าว แค่เดือนละ2-3ครั้งอย่างมาก ไม่เคยมีอะไรกันเลย เธอบอกยังเม็นมาไม่หยุด เคยพาไปหาหมอ แต่ก็ไม่หาย จนวันที่ 31 ธันวา 64ที่ผ่านมา ผมคุยกับเธอ เรื่องที่ตกลงกันใว้ ที่จะให้พาไปพบพ่อแม่ พาไปรู้จักว่าบ้านอยู่ใหน...เธอตอบผมมาว่า ไม่พร้อม ผมขอเธอมานอนค้างกับผมบ้าง เพราะคบกันมาเป็นปีไม่เคยใด้ค้างคืนด้วยกันเลย เธอก็บอกว่าห่วงลูกพุ่งเดินใด้ (ลืมบอกว่าเธอพักอยู่บ้านกับ พ่อ แม่ ลูกสาวคนโตขอลเธอ7ขวบ กับลูกคนเล็กที่พึ่งเกิด ขวบกว่า) จนแล้วจนรอด ไม่ว่าจะคุยกันกี่ครั้ง ทะเลาะกันกี่ครั้ง เธอก็จะมีข้ออ้างเรื่อยมาว่าไม่พร้อม ไม่สะดวก ที่จะมานอนค้างด้วย ไม่พร้อมให้รู้จักบ้าน ไม่พร้อมให้พบพ่อแม่ จนผมสืบใด้ว่า เธอไม่ใด้อยู่บ้านตามที่เธอเคยบอกใว้ แต่อยู่อีกแห่งที่ไกลกัน
..เพื่อนๆคับ มันยังมีข้อมูลอีกมากมายที่ซับซ้อน และปลีกย่อย คงเล่าใด้ไม่ครบถ้วนนัก แต่ผมขอถามหน่อยเถอะว่า เธอรักผมจริงรึผมถูกหลอกกันแน่ แค่อยากให้แน่ชัด หลายๆอย่างเธอเหมือนจริงจังกับผม แต่ก็ยังมีอีกหลายๆที่ด฿ไม่ใช่ บางครั้งชวนไปกินข้าวกันมีเพื่อนเธอไปด้วย ถ่ายรูปคู่ด้วยมือถ์อเธอที่ผมซื้อให้ พอผมขอ เธอบอกว่าลบแล้ว ไปใหนก็จะเลี่ยงไม่ถ่ายรุปคู่ เฟส ไล ไม่แท็คไม่ให้ลงรูปคู่เลย เพื่อนสนิทเธอ 3 คนบล็อคเฟสผมหมด อะไรเหล่านี้พอจะบอกผมใด้มั้ยครับ ว่าผมควรตัดสินใจอย่างไร ยอมรับว่าผมก็มีประสบการและชวนให้คิดใด้บ้าง ว่าผมถูกหลอก แต่หลายๆอย่างเหมือนผมยังเชื่อมั่นว่าเธอก็รักผม แต่ก็อยากฟังความเห็นจากเพื่อนๆ หรือท่านใหนที่มีอะไรคล้ายๆผมบ้าง
..เหนื่อยจนหมดเรี่ยวแรงแล้วครับ
เธอรักผมจริงรึป่าว
..เริ่มเรื่องด้วยประวัติสั้นๆก่อนว่า วันที่พิมอยู่ผมอายุ 46 ปี 7เดือนทำงานเป็นนายหน้าที่ดิน กับเล้นหุ้น ก็พอมีใช้มีเที่ยวช่วงทำงานใหม่ๆ ซึ่งช่วงนึงผมหกหักจากแฟนที่นราธิวาท ทำใจอนู่นานจนตัดใด้ ละไปบวช 1 เดือน แต่หลังจากสึกออกมา เพื่อนกลุ่มนึงใด้พาผมไปเที่ยวร้านๆนึงซึ่งเป็นร้านนั่งดื่ม PR ด้วยความที่ตัดอะไรใด้หลายๆอย่าง อยากหาความสบายใจ เลยไปเที่ยวตามประสา ผมก็เที่ยวร้านนี้เป็นร้านประจำ ใด้รักแต่ถูกหลอกจากผญ.2-3คนกับเด็กร้านนี้ และยังมีเลี้ยงเด็กๆอีก 2-3คน คนละ3-4หมื่นต่อเดือน หมดเงินไปหลายล้าน ซึ่งหลังจากคนที่ 3 หลังจากบวช ผมก็เริ่มเบื่อหน่ายกับชิวิตตรงนี้ แต่..
..เรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่อราวๆเดือนธันวาคม 63 ผมใด้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง อายุ 26ปี ซึ่งทำงาน PR (นั่งกินดื่ม)ซึ่งเจอกันที่ร้าน เจอกันครั้งแรกผมก็บอกชอบเธอเลย ด้วยหลายๆอารม หลายๆความคิด และเห็นรอยยิ้มแล้ว มันดูจริงใจมากจากเธอ ละตกลงคบหากันในครั้งที่สองที่ใด้พูดคุย (ผมไปร้านนี้ประจำจนเป็นที่รู้จักและข้อมูลในร้านที่เด็กรู้จักผมกันในนามสายเปย์) ก็คงเพราะเด็กพูดๆต่อกันไป บวกกับปัญหาชีวิตของตัวเธอเองที่มีลูก2 ลูกคนที่สองพึ่งคลอดใด้3เดือน ละเคยติดคุกมา ผมใด้เจอเธอในจังหวะที่เธอคงต้องการที่พึ่งทางใจ เลยตกลงคบกันอย่างเรียบง่าย จนเรามีอะไรกันในวันที่ 31ธันวา 63 และผมก็ตกลงคุยกันกับเธอว่าจะดูแลกันแบบใหนยังไง(คุยกันว่าอยู่ด้วยกันอาทิตย์ละ 2ครั้ง กินข้าวกันบ้าง อาทิตย์ละ3-4ครั้งเป็นข้อตกลง) ช่วงนี้ผมเริ่มขัดสนในเรื่องเงินทอง เพราะเหลือเงินก้อนสุดท้ายในการทำงาน(เล้นหุ้น) ตอนนี้ผมตกลงกับเธอว่าให้อาทิตย์ละ 5000 ผ่อนค่ารถให้เดือนละ 7500 ค่าโปรโทรศัพท์รายเดือน Iphone 12 ที่ผมซื้อให้อีกเดือนละ 1400 พาไปซื้ของเข้าบ้าน นมแพมเพิสลูกก็เดือนละ 2 ครั้ง ค่าเทอมของลูกคนโตรึค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ออกปากช่วยไป ก็พูดคุยอย่างจริงจังกับเธอว่า ขอคบกันจนแก่เฒ่านะ ไม่เอาเป็นหนูๆเหมือนที่ผมเคยเลี้ยง ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ผมใช้ชีวิตเสพลตามทีเล่าไปข้างต้น ก็เล่าอดีตผมให้เธอฟังทุกเรื่องเพื่อจะใด้เข้าใจกันให้มากที่สุด เพราะที่ผ่านมา ผมใช้ชีวิตแย่มากในสายตาคนทั่วๆไป(แนวสายเปย์เลี้ยงหนูๆ) เธอขอเวลาผม 1 ปีจะพาไปพบพ่อแม่ และให้รู้จักบ้าน เปิดตัวต่อสังคมของเธอ ผมก็ตกลงเพราะเธอเล่าให้ฟังถึงเรื่องของสามีคนที่1 และ 2 ที่มาอาละวาดละทำให้พ่อแม่เธอกดดันจนเธอไม่กล้าพาใครไปบ้าน เธอว่างั้น
..ก็คบกันมา เอาเข้าจริงๆ เดือนนึงใด้มีเวลาให้กันแค่เจอกันข้างนอก2-3ครั้งอย่างมาก ไม่ใด้กินข้าวด้วยกันเป็นกิจจะลักษณะ นอกจากจะไปหาที่ร้านจะนัดกินข้าวก่อนละไปร้านพร้อมกัน อาทิตย์นึงก็ไปนั่งหาเธอที่ร้านบ้างครั้งสองครั้ง เพราะบอกเธอไปตั้งแต่เริ่มคบกันว่าผมต้องประหยัด เงินเริ่มหมดแล้ว จะเจอกันข้างนอกก็เฉพาะเวลานัดมีอะไรกัน เธอให้เวลาผมแค่นั้น บอกผมว่าเลี้ยงลูก ไม่มีเวลา จนมาถึงช่วงโตวิด 3 ราวๆสิงหาคม 64 ร้านที่เธอทำต้องปิด บวกกับจังหวะที่แม่เธอให้ลาออกเพราะวันสุดท้ายที่เธอทำ เมาหนักมากจนต้องหาม แม่เธอรับไม่ใด้ เลยบังคับให้ออก ซึ่งผมก็ดีใจ เพราะเคยคุยใว้นานแล้วว่าอยากให้ออก
..หลัวจากที่ออกจากงาน เราแทบไม่ใด้เจอกันเลย เธอบอกผมว่าเม็นมายังไม่หยุด ไม่ใด้ออกมากินข้าวด้วย แทบจะบอกใด้ว่า ตั้งแต่ออกจากงานจนถึงปัจจุบันนี้ เราใด้เจอกันเฉลี่ยเพื่อกินข้าว แค่เดือนละ2-3ครั้งอย่างมาก ไม่เคยมีอะไรกันเลย เธอบอกยังเม็นมาไม่หยุด เคยพาไปหาหมอ แต่ก็ไม่หาย จนวันที่ 31 ธันวา 64ที่ผ่านมา ผมคุยกับเธอ เรื่องที่ตกลงกันใว้ ที่จะให้พาไปพบพ่อแม่ พาไปรู้จักว่าบ้านอยู่ใหน...เธอตอบผมมาว่า ไม่พร้อม ผมขอเธอมานอนค้างกับผมบ้าง เพราะคบกันมาเป็นปีไม่เคยใด้ค้างคืนด้วยกันเลย เธอก็บอกว่าห่วงลูกพุ่งเดินใด้ (ลืมบอกว่าเธอพักอยู่บ้านกับ พ่อ แม่ ลูกสาวคนโตขอลเธอ7ขวบ กับลูกคนเล็กที่พึ่งเกิด ขวบกว่า) จนแล้วจนรอด ไม่ว่าจะคุยกันกี่ครั้ง ทะเลาะกันกี่ครั้ง เธอก็จะมีข้ออ้างเรื่อยมาว่าไม่พร้อม ไม่สะดวก ที่จะมานอนค้างด้วย ไม่พร้อมให้รู้จักบ้าน ไม่พร้อมให้พบพ่อแม่ จนผมสืบใด้ว่า เธอไม่ใด้อยู่บ้านตามที่เธอเคยบอกใว้ แต่อยู่อีกแห่งที่ไกลกัน
..เพื่อนๆคับ มันยังมีข้อมูลอีกมากมายที่ซับซ้อน และปลีกย่อย คงเล่าใด้ไม่ครบถ้วนนัก แต่ผมขอถามหน่อยเถอะว่า เธอรักผมจริงรึผมถูกหลอกกันแน่ แค่อยากให้แน่ชัด หลายๆอย่างเธอเหมือนจริงจังกับผม แต่ก็ยังมีอีกหลายๆที่ด฿ไม่ใช่ บางครั้งชวนไปกินข้าวกันมีเพื่อนเธอไปด้วย ถ่ายรูปคู่ด้วยมือถ์อเธอที่ผมซื้อให้ พอผมขอ เธอบอกว่าลบแล้ว ไปใหนก็จะเลี่ยงไม่ถ่ายรุปคู่ เฟส ไล ไม่แท็คไม่ให้ลงรูปคู่เลย เพื่อนสนิทเธอ 3 คนบล็อคเฟสผมหมด อะไรเหล่านี้พอจะบอกผมใด้มั้ยครับ ว่าผมควรตัดสินใจอย่างไร ยอมรับว่าผมก็มีประสบการและชวนให้คิดใด้บ้าง ว่าผมถูกหลอก แต่หลายๆอย่างเหมือนผมยังเชื่อมั่นว่าเธอก็รักผม แต่ก็อยากฟังความเห็นจากเพื่อนๆ หรือท่านใหนที่มีอะไรคล้ายๆผมบ้าง
..เหนื่อยจนหมดเรี่ยวแรงแล้วครับ