JJNY : ติดเชื้อ 8,444 เสียชีวิต12│ร้องแก้2ร่างกม.หวั่นทุบซ้ำ SMEs│ชวนจับตา"เลือกตั้งซ่อมหลักสี่"│ผอ.กกต.กทม.ตรวจหน่วยลต.

ยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ ติดเชื้อเพิ่ม 8,444 ราย เสียชีวิต 12 ราย
https://www.matichon.co.th/region/news_3157656
 
 
ยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ ติดเชื้อเพิ่ม 8,444 ราย เสียชีวิต 12 ราย

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2565 รวม 8,444 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 8,208 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 236 ราย ผู้ป่วยสะสม 209,099 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
  
หายป่วยกลับบ้าน 7,829 ราย หายป่วยสะสม 157,341 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 84,542 ราย และเสียชีวิต 12 ราย
 


ร้องแก้ 2 ร่าง กม.หวั่นทุบซ้ำ SMEs แสนราย
https://www.prachachat.net/economy/news-850588

สมาพันธ์ SME ร้อง กมธ.พาณิชย์แก้ 3 จุดโหว่ร่าง กม. “อาหาร-เครื่องสำอาง” ฉบับใหม่ รีดค่าธรรมเนียมสุดโหด แถมไม่ส่งเงินเข้าคลัง-ขาดแผนพัฒนาผู้ประกอบการ หวั่นทุบเอสเอ็มอีนับแสนรายเดี้ยงซ้ำจากโควิด
 
นายแสงชัย ธีระกุลวาณิชย์ ประธานสมาพันธ์ SME ไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้สมาพันธ์ได้เข้าให้ข้อมูลต่อคณะอนุกรรมาธิการ ภายใต้คณะกรรมาธิการการพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา ซึ่งมีนางอภิรดี ตันตราภรณ์ เป็นประธานว่า จากการยกร่างกฎหมาย พ.ร.บ.อาหาร (ฉบับที่…) พ.ศ. … และร่าง พ.ร.บ.เครื่องสำอาง (ฉบับที่…) พ.ศ. …
 
ซึ่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีหนังสือเสนอร่างกฎหมาย 2 ฉบับต่อสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 นั้น ทางสมาพันธ์ได้พิจารณารายละเอียดของปรับแก้ไขกฎหมายแล้วพบว่ายังมี 3 ประเด็นที่ต้องทบทวนและปรับแก้ไข เพื่อไม่ให้เป็นภาระ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องสำอาง ซึ่งมีจำนวนรวมมากกว่า 1.2 แสนราย และมีการจ้างแรงงาน 4.7-5.0 แสนคน
สำหรับข้อเสนอให้ทบทวน ประกอบด้วย
 
1) วัตถุประสงค์ของร่าง พ.ร.บ. ไม่มีข้อความให้การส่งเสริม สนับสนุนผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีให้ได้รับความรู้ โอกาส ช่องทางที่จะพัฒนาคุณภาพ มาตรฐานสากล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการพัฒนาของหน่วยงาน คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือภาครัฐ ไม่ใช่กำกับ ควบคุม และคุ้มครองผู้บริโภคเท่านั้น
 
2) อัตราค่าธรรมเนียมในการติดต่อ ขออนุญาตต่าง ๆ กับทาง อย. ได้มีการปรับอัตราค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียมเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัว ท่ามกลางภาวะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง รายได้ไม่พอรายจ่าย ต้นทุนวัตถุดิบ สินค้าราคาแพงขึ้น ค่าครองชีพสูง เข้าถึงแหล่งทุนในระบบยาก ยังจะต้องมาถูกซ้ำเติมจากอัตราค่าใช้จ่ายที่ อย.เรียกเก็บตามระบบที่สูงอีก ไม่นับรวมผู้ประกอบการบางรายต้องเผชิญค่าธรรมเนียมพิเศษนอกระบบอีก
 
3) การไม่นำเงินรายได้ส่งคลัง และไม่มีระบุประโยชน์ใด ๆ ที่จะเกิดกับผู้ประกอบการในการพัฒนาระบบนิเวศของอุตสาหกรรมอาหาร สมุนไพร และเครื่องสำอาง อีกทั้ง อย.ไม่ใช่องค์กรแสวงหาผลกำไร แต่ต้องเป็นกลไกขับเคลื่อนให้ผู้ประกอบการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ ด้านคุณภาพ มาตรฐาน การรับรองได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และต้นทุนต่ำที่สุดสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เปลี่ยนผ่านอยู่รอดท่ามกลางวิกฤตได้ รวมถึงจูงใจให้เข้าระบบมาตรฐานต่าง ๆ
 
อนึ่ง ร่าง พ.ร.บ.เครื่องสำอาง เป็นการแก้ไขจาก พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ใน 3 ประเด็น คือ เพิ่มบทนิยาม กระบวนการพิจารณาเครื่องสำอาง กำหนดให้ รมว.กระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการที่มีอำนาจกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายสูงสุด และอัตราค่าใช้จ่าย ที่จะจัดเก็บอัตราค่าขึ้นบัญชีสูงสุด และค่าขึ้นบัญชีที่จะจัดเก็บ
 
และหลักเกณฑ์ในการรับเงินและจ่ายเงิน และแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการพิจารณาเครื่องสำอาง และให้อำนาจ รมต.สาธารณสุข กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขค่าขึ้นบัญชี และค่าใช้จ่ายที่จะจัดเก็บ โดยให้เหตุผลว่าปัจจุบันการผลิตเครื่องสำอาง มีขั้นตอนการตรวจสอบประเมินต่าง ๆ ที่ซับซ้อนมากขึ้น จึงต้องปรับให้สอดคล้องกับความรู้และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
 
ส่วน พ.ร.บ.อาหารฯ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 มีทั้งหมด 14 ประเด็น เช่น บทนิยมอาหารควบคุมเฉพาะ, ตำรับอาหาร และโรงงาน และเพิ่มนิยามเรื่องวัตถุสัมผัสอาหาร เอกสารกำกับอาหาร ข้อความ โฆษณา สถานที่ กระบวนการพิจารณาอนุญาตอาหาร และเลขาธิการ
และการให้อำนาจ รมต.สาธารณสุข กำหนดกลุ่มอาหาร หลักเกณฑ์ต่าง ๆ, แก้ไขเรื่องการขอรับใบอนุญาตผลิตอาหาร, แก้ไขหลักเกณฑ์การเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการพิจารณาอนุญาตอาหาร และการติดตามตรวจสอบ, เรื่องเกี่ยวกับผู้รับอนุญาตผลิตอาหารเพื่อส่งออก, การควบคุมอาหารเสื่อมคุณภาพ, การควบคุมการโฆษณาอาหาร การยึดการอายัด การพักใบอนุญาต การอุทธรณ์, บทลงโทษ และการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม



สำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตยฯชวนจับตา "เลือกตั้งซ่อมหลักสี่"
https://www.komchadluek.net/news/503354

จับตา "เลือกตั้งซ่อมหลักสี่" สำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า ฯ เชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อาสาตรวจสอบการลงคะแนน
 
ดร. สติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า เชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เขตจตุจักร เขตหลักสี่ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ ด้วยการรายงานคะแนนแบบ Real Time! โดยการร่วมเป็นอาสาสมัครกับสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย  ด้วยการสแกน QR code หรือเข้าไปที่ https://docs.google.com/... /1FAIpQLSeOU4ngYat.../viewform...  แล้วกรอกแบบฟอร์ม และรายงานผล  
 
นอกจาก ร่วมรายงานคะแนนเลือกตั้ง หลังปิดหีบแล้วระหว่างการลงคะแนน  อาสาสมัคร ยังสามารถร่วมสังเกตการเลือกตั้ง ณ หน่วยเลือกตั้งใกล้บ้าน เพื่อแจ้งเหตุผิดปกติในการเลือกตั้งเพื่อส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการด้วย  หลังจากปิดหีบเลือกตั้งเย็นวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2565 จะมีการรายงานผลคะแนนจากอาสาสมัครแบบ Real Time LIVE!  ตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป
  
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล จัดกำลังตำรวจ 800 นาย ประจำหน่วยเลือกตั้ง 280 หน่วย จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยหน่วยละ 2 นาย และมีชุดเคลื่อนที่เร็วในกรณีที่อาจจะมีเหตุความรุนแรง พร้อมกับเตรียมตำรวจควบคุมฝูงชนไว้ 1 กองร้อย เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นการจัดเตรียมกำลังตามแผนปฏิบัติการตามปกติ
 
ภายหลังจากเปิดลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ในเวลา 08.00 น. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยแพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร และคณะ ตรวจความเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 9 (หลักสี่-จตุจักร เฉพาะแขวงลาดยาว จันทรเกษม และเสนานิคม) แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยมีคณะผู้บริหารเขตจตุจักร ให้การต้อนรับและร่วมตรวจความเรียบร้อย ณ ที่เลือกตั้งของหน่วยเลือกตั้งที่ 35-37 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร บริเวณโรงเรียนวัดเสมียนนารี
  
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล จัดกำลังตำรวจ 800 นาย ประจำหน่วยเลือกตั้ง 280 หน่วย จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยหน่วยละ 2 นาย และมีชุดเคลื่อนที่เร็วในกรณีที่อาจจะมีเหตุความรุนแรง พร้อมกับเตรียมตำรวจควบคุมฝูงชนไว้ 1 กองร้อย เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นการจัดเตรียมกำลังตามแผนปฏิบัติการตามปกติ
 
ภายหลังจากเปิดลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ในเวลา 08.00 น. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยแพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร และคณะ ตรวจความเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 9 (หลักสี่-จตุจักร เฉพาะแขวงลาดยาว จันทรเกษม และเสนานิคม) แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยมีคณะผู้บริหารเขตจตุจักร ให้การต้อนรับและร่วมตรวจความเรียบร้อย ณ ที่เลือกตั้งของหน่วยเลือกตั้งที่ 35-37 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร บริเวณโรงเรียนวัดเสมียนนารี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่