เราคบแฟนมา 2 ปีกว่า ซึ่งบอกตรงๆ ว่าตอนแรกที่เราคบเขา เพราะเขาเป็นคนดี พี่ๆ ที่ทำงานก็เอ็นดู
แต่แม่เราก็ไม่โอเค เพราะว่าที่บ้านเขาพ่อแม่ไม่ได้ทำงาน ไม่มีรายได้ อาศัยเพิ่งลูก บ้านอยู่สลัม บ้านผุพัง ก็ไม่ซ่อมอยู่แบบเดิมๆ
พี่น้องเขา ก็ทำงานเป็นแม่บ้าน ค้าขาย (ไม่มั่นคง) มีลูกก็ให้จบไม่สูง
ที่บ้านเขา หวังพึ่งแฟนเรา อย่างเช่นเวลาโรงเรียนเปิดก็พี่สาวให้แฟนเราไปเอาหนังสือให้หลาน ทั้งๆที่สามีเขาก็มี ลูกชายอีกคนก็มี
หรือให้พาไปนั่นนี่ (แฟนเรามีรถยนต์ เรื่องจากเราให้เขาซื้อ เวลาไปไหนจะได้สะดวก) ทั้งที่ไม่คิดจะซื้อ สามีก็ไม่มีรถ เวลาไปไหนก็จะไปกับแฟนเรา
แฟนเราก็ดีเกิน ครอบครัวให้ทำอะไรก็ทำ โดยที่พึ่งแฟนเราอยู่นั่น แล้วแฟนเราก็วิ่งแกร๊ปด้วย ดิ้นรนหาเงินต่อไป อยากไปนั่นนี่ ก็พาไปโดยที่ฝั่งนั้นไม่พยายามเลย เราเข้าใจว่าเป็นพี่น้องกัน คือควรให้เขาดิ้นหาหน่อยมั้ย
ที่บ้านแฟนมีพี่ 4-5 คน บางคนก็ออกไปอยู่ข้างนอก บางคนยังอยู่บ้าน ก็อยู่กัน แบบนั้นรวมพ่อแม่ พี่ แฟน เขย หลาน 8 คน
ที่บ้านสอนให้เป็นคนดี คนขยัน แค่เท่านี้
ตัดมาที่บ้านเรา พ่อแม่เป็นราชการบำนาญ หวังสร้างลูกไม่คิดขอเงินลูก กลัวลูกไม่พอใช้ ซื้อคอนโด(ผ่อน) มีรถ
พาลูกไปนั่นนี้ เปิดหูเปิดตา พยายามแนะแนวให้ลูกหาความมั่นคงในชีวิต ที่บ้านมีมรดกให้ลูก พ่อแม่อายุ 60 ปี พยายามหาลู่ทางปลูกสวนยางให้ลูก ไม่อยากลำบาก
แฟนเราพักกับเราวันจัน-พฤหัส คืออยู่ไปเรื่อยๆ เราก็ซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกให้ตัวเอง เช่นเครื่องซักผ้า ไม่ต้องเสียแรง เวลาซัก
เราก็ซักให้แฟนเราด้วย แต่นานไปเรื่อยๆ เหมือนเขาจะสบายไป อยู่ห้องเรา เวลาเราพักร้อนเรากลับบ้าน เขาก็ไม่ยอมผ้าที่บ้าน
เรากลับมาค่อยมาซักเครื่องกับเรา
หรือเวลาไปกินบุฟเฟ่ สมมติรู้ว่าร้านนี้ 299+ กินจนเสร็จแล้วบอกเงินไม่พอ ยืมเรา แต่ก็คืน เป็นแบบนี้หลายครั้ง แต่เราไม่โอที่รู้ว่าราคามัน 299+ ทำไมไม่เตรียมให้พร้อมล่ะ
สิ่งที่เราคิดคือสมมติเราแต่งงานกันไป เรากลัวเราต้องไปซัพพอร์ตทางบ้านแฟน เพราะทางนั้นไม่มีอะไรเลย รถยนต์ก็ไม่มี อะไรก็ไม่มี
สอนให้แต่ทำดีอยู่นั่นแหละ ควรอยู่กับความเป็นจริง แฟนเราก็บอกว่า เขาเป็นคนดี ไม่เข้าชู้ ใครๆก็ชมผม แต่เราบอกว่า ดีแต่กินไม่ได้ อยู่คนเดียวสบายใจกว่าอีก แล้วเราจะพยายามเรียนหนังสือทำไมถ้างั้น ไปทำดี เข้าวัด จะไม่ดีกว่าหรอ ถ้ายึดแต่สิ่งนี้ เงินมันต้องใช้ มันต้องทำงาน
อยากเลิกกับแฟน?
แต่แม่เราก็ไม่โอเค เพราะว่าที่บ้านเขาพ่อแม่ไม่ได้ทำงาน ไม่มีรายได้ อาศัยเพิ่งลูก บ้านอยู่สลัม บ้านผุพัง ก็ไม่ซ่อมอยู่แบบเดิมๆ
พี่น้องเขา ก็ทำงานเป็นแม่บ้าน ค้าขาย (ไม่มั่นคง) มีลูกก็ให้จบไม่สูง
ที่บ้านเขา หวังพึ่งแฟนเรา อย่างเช่นเวลาโรงเรียนเปิดก็พี่สาวให้แฟนเราไปเอาหนังสือให้หลาน ทั้งๆที่สามีเขาก็มี ลูกชายอีกคนก็มี
หรือให้พาไปนั่นนี่ (แฟนเรามีรถยนต์ เรื่องจากเราให้เขาซื้อ เวลาไปไหนจะได้สะดวก) ทั้งที่ไม่คิดจะซื้อ สามีก็ไม่มีรถ เวลาไปไหนก็จะไปกับแฟนเรา
แฟนเราก็ดีเกิน ครอบครัวให้ทำอะไรก็ทำ โดยที่พึ่งแฟนเราอยู่นั่น แล้วแฟนเราก็วิ่งแกร๊ปด้วย ดิ้นรนหาเงินต่อไป อยากไปนั่นนี่ ก็พาไปโดยที่ฝั่งนั้นไม่พยายามเลย เราเข้าใจว่าเป็นพี่น้องกัน คือควรให้เขาดิ้นหาหน่อยมั้ย
ที่บ้านแฟนมีพี่ 4-5 คน บางคนก็ออกไปอยู่ข้างนอก บางคนยังอยู่บ้าน ก็อยู่กัน แบบนั้นรวมพ่อแม่ พี่ แฟน เขย หลาน 8 คน
ที่บ้านสอนให้เป็นคนดี คนขยัน แค่เท่านี้
ตัดมาที่บ้านเรา พ่อแม่เป็นราชการบำนาญ หวังสร้างลูกไม่คิดขอเงินลูก กลัวลูกไม่พอใช้ ซื้อคอนโด(ผ่อน) มีรถ
พาลูกไปนั่นนี้ เปิดหูเปิดตา พยายามแนะแนวให้ลูกหาความมั่นคงในชีวิต ที่บ้านมีมรดกให้ลูก พ่อแม่อายุ 60 ปี พยายามหาลู่ทางปลูกสวนยางให้ลูก ไม่อยากลำบาก
แฟนเราพักกับเราวันจัน-พฤหัส คืออยู่ไปเรื่อยๆ เราก็ซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกให้ตัวเอง เช่นเครื่องซักผ้า ไม่ต้องเสียแรง เวลาซัก
เราก็ซักให้แฟนเราด้วย แต่นานไปเรื่อยๆ เหมือนเขาจะสบายไป อยู่ห้องเรา เวลาเราพักร้อนเรากลับบ้าน เขาก็ไม่ยอมผ้าที่บ้าน
เรากลับมาค่อยมาซักเครื่องกับเรา
หรือเวลาไปกินบุฟเฟ่ สมมติรู้ว่าร้านนี้ 299+ กินจนเสร็จแล้วบอกเงินไม่พอ ยืมเรา แต่ก็คืน เป็นแบบนี้หลายครั้ง แต่เราไม่โอที่รู้ว่าราคามัน 299+ ทำไมไม่เตรียมให้พร้อมล่ะ
สิ่งที่เราคิดคือสมมติเราแต่งงานกันไป เรากลัวเราต้องไปซัพพอร์ตทางบ้านแฟน เพราะทางนั้นไม่มีอะไรเลย รถยนต์ก็ไม่มี อะไรก็ไม่มี
สอนให้แต่ทำดีอยู่นั่นแหละ ควรอยู่กับความเป็นจริง แฟนเราก็บอกว่า เขาเป็นคนดี ไม่เข้าชู้ ใครๆก็ชมผม แต่เราบอกว่า ดีแต่กินไม่ได้ อยู่คนเดียวสบายใจกว่าอีก แล้วเราจะพยายามเรียนหนังสือทำไมถ้างั้น ไปทำดี เข้าวัด จะไม่ดีกว่าหรอ ถ้ายึดแต่สิ่งนี้ เงินมันต้องใช้ มันต้องทำงาน