สวัสดีนะคะ เราชื่อมี่ เรื่องที่มี่จะเล่า เป็นเรื่องที่มี่เจอกับตัวเองและเพื่อนค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการไปจังหวัดกรุงเทพมหานครค่ะ
เรื่องนี้เกิดขึ้นมาประมาณ2-3ปีแล้วค่ะ คือตอนนั้นมี่กับเพื่อนกับธุรกิจเสื้อผ้าร่วมกัน วันนั้นเราตกลงกันว่าจะไปประตูน้ำเพื่อไปรับเสื้อผ้ามาขาย
เพื่อนมี่เสนอว่าเราไปเที่ยวที่อื่นกันก่อนหนึ่งวันแล้วค่อยไปประตูน้ำเพื่อซื้อของ ทุกคนก็โอเคตกลง เราก็หาโรงแรมนอนกัน มี่กับเพื่อนหาที่พักผ่านเว็บไซต์ เว็บหนึ่งค่ะ ก็หากันไปตอนแรกมี่กับเพื่อนอยากพักโรงแรมที่เป็นห้องพอโทรไปจองกับทางโรงแรม พนักงานแจ้งว่า ห้องพักสามารถพักได้2คน หากต้องการพัก3คนต้องบวกเงินเพิ่มซึ่งมี่กับเพื่อนก็ขี้งกพอๆกันค่ะไม่ยอมเสียเลยลองหาที่อื่นดูก่อน ประกฏว่าเป็นแบบนั้นอยู่ประมาน2-3ที่ เพื่อนมี่เลยเสนอว่านอนเป็นHostelดีไหมถูกดีนะเราก็ตกลงหากันค่ะ มี่ขออธิบายก่อนว่าHostelคืออะไรสำหรับคนที่ไม่รู้นะคะ (hostel คือที่พักที่มีลักษณะเปิดให้แขกนอนพักรวมกับแขกท่านอื่น คิดตังต่อคนตกคนละร้อยกว่าบาทค่ะ เตียงส่วนใหญ่ของโฮสเทลจะเป็นเตียงสองชั้นประมาณนี้ค่ะ) เราก็หากันผ่านเว็บจนไปเจอที่นึง มี่กับเพื่อนก็โอเค เพราะเราต้องไปรถทัวร์และที่นี่อยู่ไม่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้ามากสะดวกต่อการเดินทางไปนู่นไปนี่ค่ะ มี่ขอไม่เอ่ยชื่อของโฮสเทลนะคะ พอถึงวันเดินทางเราสามคนก็ขึ้นรถไปลงหมอชิตค่ะขึ้นรถไฟฟ้าไปไม่นานก็ถึงค่ะเราลงจากรถไฟฟ้าแล้วเดินมาก็ถึงโฮสเทลที่เราจองกันไว้ค่ะ ไม่ไกลมากนะคะเดินได้แบบไม่เหนื่อยเท่าไหร่ พอเราไปถึงก็เข้าไปบรรยากาศชั้นล่างถือว่าโอเคค่ะ มีโซฟามีเกมนู่นนี่ให้เล่น ลุงที่มาต้อนรับก็พูดดีค่ะ เราก็โอเคจ่ายเงินแล้วเดินตามลุงขึ้นไปบนห้องพัก แต่พอมี่เดินขึ้นไปกับเพื่อนกับรู้สึกว่าบรรยากาศไม่น่าอยู่เท่าข้างล่าง บรรยากาศดูอึมครึมไม่ค่อยสว่างอากาศดูไม่ค่อยถ่ายเท พอเราเข้าไปก็เจอกับพี่ผู้หญิงสองคนกำลังเก็บของเพื่อออกจากที่นี่ค่ะ ห้องของพวกเราเป็นห้องที่มีประมาณ4เตียง นอนได้8คนค่ะเพราะเป็นเตียง2ชั้น ในห้องดูไม่ค่อยเหมือนในรูปเท่าไหร่ฝ้าเป็นรูผนังเป็นคราบ และลุงก็บอกกับพวกเราว่าขาดเหลืออะไรก็บอก มี่เลยบอกว่ามี่กับเพื่อนจะออกไปเที่ยวตอนกลางคืนสักหน่อยมี่เลยถามว่าตรงประตูตรงเคาน์เตอร์ข้างหน้าต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านไหมคะ ลุงตอบแค่ว่าถ้ากลับมาก็โทรหาลุงละกันแล้วลุงก็เดินออกไปค่ะมี่กับเพื่อนก็เริ่มแปลกใจแล้วค่ะ แต่เพื่อนมี่มันปากไวมากมันเลยพูดว่า โฮสเทลเขาจะไปไหนต้องบอกกับทางเจ้าของด้วยหรอวะว่าจะกลับตอนไหน หรือเขาจะล็อคเราทั้งสามก็ต่างพากันเลิ่กลั่กค่ะเพราะงงเหมือนกัน เราเลยจัดแจงเก็บของแล้วตกลงกันว่าจะอาบน้ำแล้วออกไปหาร้านนั่งชิลดื่มกันสักกน่อยพอเดินออกมาห้องน้ำคือห้องน้ำจะอยู่แยกกับห้องนอนต้องใช้รวมกับแขกท่านอื่นห้องอื่นด้วยชั้นละ1ห้องค่ะ สภาพห้องน้ำที่มี่กับเพื่อนเห็นคือช็อกกว่าเดิมค่ะสกปรกมากและโทรมมากค่ะมองออกไปตรงระเบียงมีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนึงนั่งสูบบุหรี่อยู่มี่กับเพื่อนเลยตกลงกันว่าก็นอนกันไปก่อนละกันคืนนี้เพราะเสียตังไปแล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ เราก็อาบน้ำแต่งตัวออกไปเที่ยวกันค่ะ กลับมาประมาณตี1กว่าๆเพื่อนมี่ก็มีคนนึงที่ค่อนข้างเมา พอมาถึงประตูตรงเคาน์เตอร์มันล็อกอยู่ค่ะมี่ไม่แน่ใจว่าโฮสเทลที่อื่นปิดล็อกแบบนี้หรือเปล่าทั้งๆที่เขาเขียนตรงป้ายว่า24ชั่วโมง เพื่อนมี่ก็จัดการโทรหาลุงค่ะลุงแกก็ลงมามี่เลยบอกว่าคุณลุงเปิดรอมี่แปปนึงได้ไหมคะมี่จะไปซื้ออะไรร้อนๆมาให้เพื่อนกินค่ะเพื่อนเมา ลุงบอกว่าลุงจะปิดประตูแล้วทำไมไม่ซื้อเข้ามาทีเดียวมี่ก็เลยอ้าวทำไมพอจ่ายตังแล้วพูดงี้วะ แต่เพื่อนก็บอกว่าช่างเหอะๆพวกเราก็พากันขึ้นมานั่งคุยกันเปิดเพลงฟังไปด้วยเพื่อนมี่คนที่เมามันบอกว่าจะอ้วกมี่เลยพามันไปเข้าห้องน้ำพอทำอะไรเสร็จกำลังจะเดินออกมาคือระเบียงมันอยู่ทางซ้ายมือค่ะ อยู่ๆเพื่อนเรามันก็พูดว่า อีมี่ว่าผู้ชายตรงนั้นยุงไม่กัดเขาหรอวะ นั่งอยู่คนเดียวผีหลอกตายห่า ด้วยคนเมาอะค่ะพูดจาไปทั่วมี่เลยถามว่าตรงไหนอย่าหาพูดไปทั่ว เพราะมี่ไม่เห็นคนตรงระเบียงจริงๆค่ะ เพื่อนมี่มันเลยบอกว่าก็เสื้อแดงๆหน่ะนั่งก้มหน้าสูบบุหรี่อยู่ มี่เลยตบปากมันไปทีนึงค่ะตอนนั้นกลัวแล้วค่ะเลยรีบพามันเดินเข้าห้องด้วยบรรยากาศข้างนอกก็น่ากลัวอยู่แล้ว เราเลยบอกกับเพื่อนอีกคนที่อยู่ในห้องว่าเพื่อนที่เมาพูดอะไร มันเลยบอกอย่าคิดมากอีนี่มันเมา เราก็เลยตกลงกันว่าจะนอนละ แต่เรานอนไม่หลับเลยค่ะรู้สึกกลัวแบบบอกไม่ถูก สักพักมี่ได้ยินเสียงเคาะกำแพงจากห้องข้างๆ ประมาน2-3ครั้งค่ะ มี่ก็ไม่ได้อะไรคิดว่าอาจจะมีคนอยู่ สักพักก็ดังขึ้นอีก แต่มี่มองเพื่อนก็คือหลับกันไปหมดแล้วมี่ก็พลิกตัวไปมา เพื่อนมี่ที่เมาอยู่ๆมันก็โวยวายขึ้น โอ้ะพวกกูเม้นกลิ่นบุหรี่ว่ะใครดูดวะ มี่กับเพื่อนอีกคนที่มันเพิ่งตื่นมาทำหน้างงเลยค่ะเพราะเราสองคนไม่ได้กลิ่นอะไรเลย เพื่อนเราอีกคนมันใส่พระมันก็เลยถอดไปให้เพื่อนที่เมาเราสองคนเลยตกลงกันว่าจะมานอนเตียงเดียวกันคือเบียดกันไปเลยค่ะเพราะกลัว เราก็เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ตื่นเช้ามาพอเก็บของออกจากที่พัก เพื่อนเราคนที่ไม่เมามันเล่าว่าเมื่อคืนโดนผีอำอะ ตอนก่อนจะนอนมันบอกว่ามันได้กลิ่นเหมือนสาบในห้องและรู้สึกเหมือนมีคนมองผ่านออกมาจากตรงรูที่ฝ้ามันแตก พอสักพักมันก็เผลอรับไปมันก็ได้ยินเสียงเหมือนคนมาหายใจแรงมากข้างๆหูละก็เปลี่ยนเป็นเสียงไอมันพยายามจะลุกก็ลุกไม่ขึ้นแปปนึงมันเล่าว่ามันเหม็นมากจนรู้สึกสึกแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกพยายามจะเรียกมี่แต่มี่ก็ไม่ได้ยินค่ะแล้วได้ยินเสียงกระซิบแหบๆข้างหูว่าอีกแปปนึงก็จะไม่แน่นแล้วจะไม่ทรมานแล้ว มันเล่าว่าเป็นแบบนั้นอยู่แปปนึงก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นจากนั้นมันก็ไม่หลับอีกเลย จากนั้นก็ไม่มีอะไรมี่กับเพื่อนก็ไปทำบุญให้เขา ไปทำธุระเสร็จก็กลับต่างจังหวัด เรื่องของมี่ก็มีเท่านี้ค่ะ
ประสบการณ์จริง การนอนHostelครั้งแรก
เรื่องนี้เกิดขึ้นมาประมาณ2-3ปีแล้วค่ะ คือตอนนั้นมี่กับเพื่อนกับธุรกิจเสื้อผ้าร่วมกัน วันนั้นเราตกลงกันว่าจะไปประตูน้ำเพื่อไปรับเสื้อผ้ามาขาย
เพื่อนมี่เสนอว่าเราไปเที่ยวที่อื่นกันก่อนหนึ่งวันแล้วค่อยไปประตูน้ำเพื่อซื้อของ ทุกคนก็โอเคตกลง เราก็หาโรงแรมนอนกัน มี่กับเพื่อนหาที่พักผ่านเว็บไซต์ เว็บหนึ่งค่ะ ก็หากันไปตอนแรกมี่กับเพื่อนอยากพักโรงแรมที่เป็นห้องพอโทรไปจองกับทางโรงแรม พนักงานแจ้งว่า ห้องพักสามารถพักได้2คน หากต้องการพัก3คนต้องบวกเงินเพิ่มซึ่งมี่กับเพื่อนก็ขี้งกพอๆกันค่ะไม่ยอมเสียเลยลองหาที่อื่นดูก่อน ประกฏว่าเป็นแบบนั้นอยู่ประมาน2-3ที่ เพื่อนมี่เลยเสนอว่านอนเป็นHostelดีไหมถูกดีนะเราก็ตกลงหากันค่ะ มี่ขออธิบายก่อนว่าHostelคืออะไรสำหรับคนที่ไม่รู้นะคะ (hostel คือที่พักที่มีลักษณะเปิดให้แขกนอนพักรวมกับแขกท่านอื่น คิดตังต่อคนตกคนละร้อยกว่าบาทค่ะ เตียงส่วนใหญ่ของโฮสเทลจะเป็นเตียงสองชั้นประมาณนี้ค่ะ) เราก็หากันผ่านเว็บจนไปเจอที่นึง มี่กับเพื่อนก็โอเค เพราะเราต้องไปรถทัวร์และที่นี่อยู่ไม่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้ามากสะดวกต่อการเดินทางไปนู่นไปนี่ค่ะ มี่ขอไม่เอ่ยชื่อของโฮสเทลนะคะ พอถึงวันเดินทางเราสามคนก็ขึ้นรถไปลงหมอชิตค่ะขึ้นรถไฟฟ้าไปไม่นานก็ถึงค่ะเราลงจากรถไฟฟ้าแล้วเดินมาก็ถึงโฮสเทลที่เราจองกันไว้ค่ะ ไม่ไกลมากนะคะเดินได้แบบไม่เหนื่อยเท่าไหร่ พอเราไปถึงก็เข้าไปบรรยากาศชั้นล่างถือว่าโอเคค่ะ มีโซฟามีเกมนู่นนี่ให้เล่น ลุงที่มาต้อนรับก็พูดดีค่ะ เราก็โอเคจ่ายเงินแล้วเดินตามลุงขึ้นไปบนห้องพัก แต่พอมี่เดินขึ้นไปกับเพื่อนกับรู้สึกว่าบรรยากาศไม่น่าอยู่เท่าข้างล่าง บรรยากาศดูอึมครึมไม่ค่อยสว่างอากาศดูไม่ค่อยถ่ายเท พอเราเข้าไปก็เจอกับพี่ผู้หญิงสองคนกำลังเก็บของเพื่อออกจากที่นี่ค่ะ ห้องของพวกเราเป็นห้องที่มีประมาณ4เตียง นอนได้8คนค่ะเพราะเป็นเตียง2ชั้น ในห้องดูไม่ค่อยเหมือนในรูปเท่าไหร่ฝ้าเป็นรูผนังเป็นคราบ และลุงก็บอกกับพวกเราว่าขาดเหลืออะไรก็บอก มี่เลยบอกว่ามี่กับเพื่อนจะออกไปเที่ยวตอนกลางคืนสักหน่อยมี่เลยถามว่าตรงประตูตรงเคาน์เตอร์ข้างหน้าต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านไหมคะ ลุงตอบแค่ว่าถ้ากลับมาก็โทรหาลุงละกันแล้วลุงก็เดินออกไปค่ะมี่กับเพื่อนก็เริ่มแปลกใจแล้วค่ะ แต่เพื่อนมี่มันปากไวมากมันเลยพูดว่า โฮสเทลเขาจะไปไหนต้องบอกกับทางเจ้าของด้วยหรอวะว่าจะกลับตอนไหน หรือเขาจะล็อคเราทั้งสามก็ต่างพากันเลิ่กลั่กค่ะเพราะงงเหมือนกัน เราเลยจัดแจงเก็บของแล้วตกลงกันว่าจะอาบน้ำแล้วออกไปหาร้านนั่งชิลดื่มกันสักกน่อยพอเดินออกมาห้องน้ำคือห้องน้ำจะอยู่แยกกับห้องนอนต้องใช้รวมกับแขกท่านอื่นห้องอื่นด้วยชั้นละ1ห้องค่ะ สภาพห้องน้ำที่มี่กับเพื่อนเห็นคือช็อกกว่าเดิมค่ะสกปรกมากและโทรมมากค่ะมองออกไปตรงระเบียงมีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนึงนั่งสูบบุหรี่อยู่มี่กับเพื่อนเลยตกลงกันว่าก็นอนกันไปก่อนละกันคืนนี้เพราะเสียตังไปแล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ เราก็อาบน้ำแต่งตัวออกไปเที่ยวกันค่ะ กลับมาประมาณตี1กว่าๆเพื่อนมี่ก็มีคนนึงที่ค่อนข้างเมา พอมาถึงประตูตรงเคาน์เตอร์มันล็อกอยู่ค่ะมี่ไม่แน่ใจว่าโฮสเทลที่อื่นปิดล็อกแบบนี้หรือเปล่าทั้งๆที่เขาเขียนตรงป้ายว่า24ชั่วโมง เพื่อนมี่ก็จัดการโทรหาลุงค่ะลุงแกก็ลงมามี่เลยบอกว่าคุณลุงเปิดรอมี่แปปนึงได้ไหมคะมี่จะไปซื้ออะไรร้อนๆมาให้เพื่อนกินค่ะเพื่อนเมา ลุงบอกว่าลุงจะปิดประตูแล้วทำไมไม่ซื้อเข้ามาทีเดียวมี่ก็เลยอ้าวทำไมพอจ่ายตังแล้วพูดงี้วะ แต่เพื่อนก็บอกว่าช่างเหอะๆพวกเราก็พากันขึ้นมานั่งคุยกันเปิดเพลงฟังไปด้วยเพื่อนมี่คนที่เมามันบอกว่าจะอ้วกมี่เลยพามันไปเข้าห้องน้ำพอทำอะไรเสร็จกำลังจะเดินออกมาคือระเบียงมันอยู่ทางซ้ายมือค่ะ อยู่ๆเพื่อนเรามันก็พูดว่า อีมี่ว่าผู้ชายตรงนั้นยุงไม่กัดเขาหรอวะ นั่งอยู่คนเดียวผีหลอกตายห่า ด้วยคนเมาอะค่ะพูดจาไปทั่วมี่เลยถามว่าตรงไหนอย่าหาพูดไปทั่ว เพราะมี่ไม่เห็นคนตรงระเบียงจริงๆค่ะ เพื่อนมี่มันเลยบอกว่าก็เสื้อแดงๆหน่ะนั่งก้มหน้าสูบบุหรี่อยู่ มี่เลยตบปากมันไปทีนึงค่ะตอนนั้นกลัวแล้วค่ะเลยรีบพามันเดินเข้าห้องด้วยบรรยากาศข้างนอกก็น่ากลัวอยู่แล้ว เราเลยบอกกับเพื่อนอีกคนที่อยู่ในห้องว่าเพื่อนที่เมาพูดอะไร มันเลยบอกอย่าคิดมากอีนี่มันเมา เราก็เลยตกลงกันว่าจะนอนละ แต่เรานอนไม่หลับเลยค่ะรู้สึกกลัวแบบบอกไม่ถูก สักพักมี่ได้ยินเสียงเคาะกำแพงจากห้องข้างๆ ประมาน2-3ครั้งค่ะ มี่ก็ไม่ได้อะไรคิดว่าอาจจะมีคนอยู่ สักพักก็ดังขึ้นอีก แต่มี่มองเพื่อนก็คือหลับกันไปหมดแล้วมี่ก็พลิกตัวไปมา เพื่อนมี่ที่เมาอยู่ๆมันก็โวยวายขึ้น โอ้ะพวกกูเม้นกลิ่นบุหรี่ว่ะใครดูดวะ มี่กับเพื่อนอีกคนที่มันเพิ่งตื่นมาทำหน้างงเลยค่ะเพราะเราสองคนไม่ได้กลิ่นอะไรเลย เพื่อนเราอีกคนมันใส่พระมันก็เลยถอดไปให้เพื่อนที่เมาเราสองคนเลยตกลงกันว่าจะมานอนเตียงเดียวกันคือเบียดกันไปเลยค่ะเพราะกลัว เราก็เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ตื่นเช้ามาพอเก็บของออกจากที่พัก เพื่อนเราคนที่ไม่เมามันเล่าว่าเมื่อคืนโดนผีอำอะ ตอนก่อนจะนอนมันบอกว่ามันได้กลิ่นเหมือนสาบในห้องและรู้สึกเหมือนมีคนมองผ่านออกมาจากตรงรูที่ฝ้ามันแตก พอสักพักมันก็เผลอรับไปมันก็ได้ยินเสียงเหมือนคนมาหายใจแรงมากข้างๆหูละก็เปลี่ยนเป็นเสียงไอมันพยายามจะลุกก็ลุกไม่ขึ้นแปปนึงมันเล่าว่ามันเหม็นมากจนรู้สึกสึกแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกพยายามจะเรียกมี่แต่มี่ก็ไม่ได้ยินค่ะแล้วได้ยินเสียงกระซิบแหบๆข้างหูว่าอีกแปปนึงก็จะไม่แน่นแล้วจะไม่ทรมานแล้ว มันเล่าว่าเป็นแบบนั้นอยู่แปปนึงก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นจากนั้นมันก็ไม่หลับอีกเลย จากนั้นก็ไม่มีอะไรมี่กับเพื่อนก็ไปทำบุญให้เขา ไปทำธุระเสร็จก็กลับต่างจังหวัด เรื่องของมี่ก็มีเท่านี้ค่ะ