ตัวผมเองมีความสนใจที่จะออกรถคันนึงซึ่งที่สนใจก็คือรถ Eco Car และก็ไปแฝงตัวอยู่ในกลุ่มรถทุกยี่ห้อที่สนใจ ในหลายๆกลุ่ม เก็บทุกข้อดี-ข้อเสีย ของทุกยี่ห้อนำมาเปรียบเทียบกัน สุดท้ายเมื่อคำนวนข้อดึข้อเสียแล้วจบที่เจ้าตลาดอย่าง Toyota Yaris Sport ราคา 609,000 บาท ที่นี้ก็ไล่หาเซลไป ได้ข้อเสนอตามที่ต้องการ ดอก 0% ส่วนลดของแถมครบ ผ่อนตกราวๆเดือนละ 5250 บาท ก็คิดว่าจะผ่อนสบายๆเพราะเงินที่จะผ่อนคันนี้ตั้งไว้ประมาณ 8พัน ต่อเดือน แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว ไม่พอเลยครับ พอได้รถมาก็มานั่งคำนวนค่าใช้จ่ายต่างๆที่ต้องใช้กับรถคันนี้ต่อเดือน แยกเป็นย่อยๆได้ประมาณนี้
1. ค่าผ่อน 5,250 ต่อเดือน
2. ค่าภาษี ทะเบียนประจำปี 1,900 ต่อปี หรือ เดือนละ 160 บาท
3. ค่าน้ำมันแบบใช้รถน้อย 1,000 ต่อเดือน
4. ค่าล้างรถเดือนละครั้ง 200 ต่อเดือน
5. ประกันชั้นหนึ่ง 20,000 ต่อปี หรือเดือนละ 1,670 บาท
6. ค่ายางรถยนต์ 12,000 4เส้น 3ปีครั้ง หรือเดือนละ 340 บาท
7. ค่าเช็คระยะเฉลี่ยระยะละ 1,800 ทุกๆ 6เดือน หรือ 3,600 ต่อปี ช่วงฟรีค่าแรง หรือเดือนละ 300 บาท
8. ค่าจุกจิก จิปาถะ เช่นยางเปลี่ยนน้ำฝน ถ่านรีโมต ค่าแบตเตอรี่ ปีละ 1,200 บาท เฉลี่ยเดือนละ 100 บาท
9. ถ้าเดือนไหนมีกลับบ้านหรือไปเที่ยวก็เพิ่มไปอีกอย่างน้อยๆ 2,000 บาท
*ค่าทางด่วนรวมอยู่ในข้อ9แล้ว เพราะชีวิตประจำวันผมไม่ขึ้นทางด่วนครับ เพราะอยู่ใกล้ที่ทำงาน
นำทุกอย่างมาคิดคำนวนแล้วโดยไม่รวมข้อ 9 จะออกมาเป็น (5,250+160+1,000+200+1,670+340+300+100)= 9,020 โดยประมาณ ถ้ารวมข้อ 9 นี่ ทะลุหลักหมื่นทันที นี่ขนาดรถ Eco car คันนึงนะครับ ค่าใช้จ่ายยังขนาดนี้ ถ้าขยับไปเป็นรุ่นสูงกว่านี้ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นมาอีก
เห็นกระทู้บางท่านตั้งว่าเงินเดือนเท่านี้จะผ่อนรถราคาเท่านี้ไหวไหม ขอให้กระทู้นี้เป็นแนวทางสำหรับท่านที่คิดจะผ่อนรถสักคันโดยดูแต่ค่าผ่อนว่าเดือนละเท่านี้ไหวแต่ลืมคำนวนค่าใช้จ่ายแฝงหลังได้รถมาแล้ว ถ้ามาคิดดูจะพบว่ามันเยอะกว่าที่คิดจริงๆ
ป.ล. บางท่านอาจจะประหยัดกว่าผมเช่นต่อประกันชั้น 2 เอา หรือเปลี่ยนยางราคาถูกกว่า หรือล้างรถเอง ค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็จะถูกลงกว่าหน่อยนะครับ
***แก้ไขเพิ่มเติม ตกใจมากก ไม่นึกว่ากระทู้นี้จะได้ความสนใจมากขนาดนี้เลยครับ
ขออนุญาตชี้แจงเพิ่มเติมครับ ใจจริงของผมที่อยากจะสื่อคืออยากให้คนที่คิดจะซื้อรถสักคัน ก่อนที่จะไปมองว่าผ่อนเดือนล่ะเท่านี้ไหวแน่ อยากให้ลองคำนวนค่าใช้จ่ายแฝงที่จะตามมาหลังรถคันนี้ดูดีๆ โอเคยางคุณอาจจะเปลี่ยนถูกได้ ประกันก็ต่อชั้นสองสิ หรือล้างรถเองก็ได้ ค่าใช้จ่ายเดือนแรกๆน่ะ โอเคมันมีแค่ค่างวดกับค่าน้ำมัน แต่หลังจากครบหนึ่งปีล่ะ รายจ่ายเป็นก้อนมันวิ่งโถมมาหาคุณทันทีเลย ทั้งค่าประกัน ทะเบียน พรบ. ซึ่งรวมๆแล้วมันก็หลายพันจนถึงหลักหมื่น คุณพร้อมสำหรับตรงนี้หรือยัง บางคนโอเคมีโบนัสสิ้นปีมาช่วยตรงนี้ แต่ถ้าคุณไม่มีเดือนนั้นคุณได้กระเป๋าแห้งเลย หรือถ้าเลื่อนต่อประกันไปก่อน แล้วดวงซวยเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ซึ่งประกันขาดทีไรดวงซวยทุกที ผ่อนลมเลยนะครับ ซึ่งค่าใช้จ่ายด้านบนที่ผมเขียนนั้นก็คือการยกตัวอย่างคร่าวๆของผมให้ดูครับ ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องใช้จ่ายเท่าผมจริงๆ เพราะแต่ล่ะคนก็มีปัจจัยต่างๆที่แตกต่างกันไป เพียงแต่อยากแนะนำคนที่คิดจะซื้อรถคันสักนึงว่าคุณจะต้องเจอค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และคุณพร้อมรับมือกับมันหรือยังถ้าคิดจะมีรถสักคัน
ขอบคุณครับ
ป.ล.2 รถคันนี้เป็นรถคันแรกครับ ส่วนเรื่องราคายางก็พึ่งทราบเนี่ยแหละครับว่ามีเกรดต่างๆกันไป เห็นคนรู้จักแนะนำมาว่ายางต้องใช้ยี่ห้อดีๆไปเลย รถจะได้ขับดีๆเกาะถนนเยี่ยมๆ ก็เลยตีงบยางแพงไปหน่อยครับ
แชร์ประสบการณ์ ผ่อนรถป้ายแดงเดือนละ5250 แต่ค่าใช้จ่ายแฝงนั้นเกือบเท่าราคาผ่อนรถ!
1. ค่าผ่อน 5,250 ต่อเดือน
2. ค่าภาษี ทะเบียนประจำปี 1,900 ต่อปี หรือ เดือนละ 160 บาท
3. ค่าน้ำมันแบบใช้รถน้อย 1,000 ต่อเดือน
4. ค่าล้างรถเดือนละครั้ง 200 ต่อเดือน
5. ประกันชั้นหนึ่ง 20,000 ต่อปี หรือเดือนละ 1,670 บาท
6. ค่ายางรถยนต์ 12,000 4เส้น 3ปีครั้ง หรือเดือนละ 340 บาท
7. ค่าเช็คระยะเฉลี่ยระยะละ 1,800 ทุกๆ 6เดือน หรือ 3,600 ต่อปี ช่วงฟรีค่าแรง หรือเดือนละ 300 บาท
8. ค่าจุกจิก จิปาถะ เช่นยางเปลี่ยนน้ำฝน ถ่านรีโมต ค่าแบตเตอรี่ ปีละ 1,200 บาท เฉลี่ยเดือนละ 100 บาท
9. ถ้าเดือนไหนมีกลับบ้านหรือไปเที่ยวก็เพิ่มไปอีกอย่างน้อยๆ 2,000 บาท
*ค่าทางด่วนรวมอยู่ในข้อ9แล้ว เพราะชีวิตประจำวันผมไม่ขึ้นทางด่วนครับ เพราะอยู่ใกล้ที่ทำงาน
นำทุกอย่างมาคิดคำนวนแล้วโดยไม่รวมข้อ 9 จะออกมาเป็น (5,250+160+1,000+200+1,670+340+300+100)= 9,020 โดยประมาณ ถ้ารวมข้อ 9 นี่ ทะลุหลักหมื่นทันที นี่ขนาดรถ Eco car คันนึงนะครับ ค่าใช้จ่ายยังขนาดนี้ ถ้าขยับไปเป็นรุ่นสูงกว่านี้ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นมาอีก
เห็นกระทู้บางท่านตั้งว่าเงินเดือนเท่านี้จะผ่อนรถราคาเท่านี้ไหวไหม ขอให้กระทู้นี้เป็นแนวทางสำหรับท่านที่คิดจะผ่อนรถสักคันโดยดูแต่ค่าผ่อนว่าเดือนละเท่านี้ไหวแต่ลืมคำนวนค่าใช้จ่ายแฝงหลังได้รถมาแล้ว ถ้ามาคิดดูจะพบว่ามันเยอะกว่าที่คิดจริงๆ
ป.ล. บางท่านอาจจะประหยัดกว่าผมเช่นต่อประกันชั้น 2 เอา หรือเปลี่ยนยางราคาถูกกว่า หรือล้างรถเอง ค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็จะถูกลงกว่าหน่อยนะครับ
***แก้ไขเพิ่มเติม ตกใจมากก ไม่นึกว่ากระทู้นี้จะได้ความสนใจมากขนาดนี้เลยครับ
ขออนุญาตชี้แจงเพิ่มเติมครับ ใจจริงของผมที่อยากจะสื่อคืออยากให้คนที่คิดจะซื้อรถสักคัน ก่อนที่จะไปมองว่าผ่อนเดือนล่ะเท่านี้ไหวแน่ อยากให้ลองคำนวนค่าใช้จ่ายแฝงที่จะตามมาหลังรถคันนี้ดูดีๆ โอเคยางคุณอาจจะเปลี่ยนถูกได้ ประกันก็ต่อชั้นสองสิ หรือล้างรถเองก็ได้ ค่าใช้จ่ายเดือนแรกๆน่ะ โอเคมันมีแค่ค่างวดกับค่าน้ำมัน แต่หลังจากครบหนึ่งปีล่ะ รายจ่ายเป็นก้อนมันวิ่งโถมมาหาคุณทันทีเลย ทั้งค่าประกัน ทะเบียน พรบ. ซึ่งรวมๆแล้วมันก็หลายพันจนถึงหลักหมื่น คุณพร้อมสำหรับตรงนี้หรือยัง บางคนโอเคมีโบนัสสิ้นปีมาช่วยตรงนี้ แต่ถ้าคุณไม่มีเดือนนั้นคุณได้กระเป๋าแห้งเลย หรือถ้าเลื่อนต่อประกันไปก่อน แล้วดวงซวยเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ซึ่งประกันขาดทีไรดวงซวยทุกที ผ่อนลมเลยนะครับ ซึ่งค่าใช้จ่ายด้านบนที่ผมเขียนนั้นก็คือการยกตัวอย่างคร่าวๆของผมให้ดูครับ ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องใช้จ่ายเท่าผมจริงๆ เพราะแต่ล่ะคนก็มีปัจจัยต่างๆที่แตกต่างกันไป เพียงแต่อยากแนะนำคนที่คิดจะซื้อรถคันสักนึงว่าคุณจะต้องเจอค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และคุณพร้อมรับมือกับมันหรือยังถ้าคิดจะมีรถสักคัน
ขอบคุณครับ
ป.ล.2 รถคันนี้เป็นรถคันแรกครับ ส่วนเรื่องราคายางก็พึ่งทราบเนี่ยแหละครับว่ามีเกรดต่างๆกันไป เห็นคนรู้จักแนะนำมาว่ายางต้องใช้ยี่ห้อดีๆไปเลย รถจะได้ขับดีๆเกาะถนนเยี่ยมๆ ก็เลยตีงบยางแพงไปหน่อยครับ