ขนมวันวาน

กระทู้สนทนา
ขนมถั่วเหลืองกวน  เผือกกวน
อัดขึ้นแม่พิมพ์ แบบโบราณ
ไม่ได้กินมานานละ

เคยมั้ย  ที่ได้ลองขนมที่เคยกินตั้งแต่เด็ก
แล้วแฟลชแบ๊คเป็นฉากๆขึ้นมาในหัว
บางทีแสบจมูกเบ้าตาร้าวขึ้นมาเลย

ขนมถั่วเหลืองกวนสีสดใสแบบนี้
รวมถึงแบบอื่นๆด้วย แลดูละลานตระการตาในร้านขายขนมของเล่นสำหรับเด็กในซอยหลังบ้าน

ผมชอบกินมาก ก็มีเด็กที่ไหนจะไม่ชอบบ้างล่ะ  แต่ไม่ค่อยกล้าซื้อกินหรอก
จริงๆแล้วไม่ใช่ไม่กล้าหรอก
แต่เอาตังค์ค่าขนมไปซื้อชัยพฤกษ์วิทยาศาสตร์ กะ การ์ตูน ยี่ปุ่นซะหมด

เมื่อผมเริ่มต้นธุรกิจแรกในชีวิตด้วยวัยสิบสอง  สาเหตุหลักเพราะอยากกินขนมนั่นเอง
ตลาดมหานาค เป็นตลาดค้าส่งขนมที่ผมเคยเดินตามอาแปะเจ้าของร้านไปช่วยหิ้วของ
เพื่อจะได้ค่าจ้างเป็นเงินหนึ่งบาทบ้าง ขนมบ้าง ตามแต่แปะแกจะให้
โดยที่แกไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลังเลี้ยงเสือเพาะเภทภัยให้แก่ร้านตัวเอง

แผงจับสลาก รางวัลเป็นตุ๊กตาทหาร ของเล่น ฯลฯแปดบาท มีสลาก ร้อยอัน ขายได้สามสิบสองอันเท่าทุน ที่เหลือคือกำไร  แต่ขายได้ไม่หมดหรอก  เพราะถ้าของเหลือน้อยก็จะไม่มีใครซื้อแล้ว
แปะแกบอกว่าขายได้เจ็ดสิบสลากก็เก่งละ
ขนมถั่วกวนแบบนี้  ขายเป็นถุง ถุงละสี่บาท  มีห้าสิบชิ้น ขายขิ้นละสลึง จะได้สิบสองบาทห้าสิบ
แต่ต้องขายให้หมดภายในสามวัน  ไม่งั้นอาจจะขึ้นรา หรือขนมจะแข็งเกินไป  ไม่มีใครซื้อแล้ว

และมีขนมของเล่นอื่นๆอีกมากมาย
แปะแกไม่ได้มีความลับอะไรกะผม  ด้วยเห็นว่าผมเป็นเด็กอายุสิบสอง  
แกซื้ออะไร  เอามาขายยังไง ผมก็เห็นหมด

อดใจไม่ซื้อหนังสือ ไม่กินขนมอาทิตย์นึง  รวมกับสี่บาทที่ได้จากแปะ กำเหรียญบาท  สิบห้าเหรียญวิ่งตึ้กๆ ไปตลาดมหานาค ด้วยสีหน้ามุ่งมั่นกับการตัดสินใจลงทุนครั้งแรกในชีวิต

ผมเดินวนหลายรอบเพื่อพิจารณาแผงจับสลากที่มีของเล่นที่คิดว่าบรรดาเด็กๆในซอยหลังบ้านอยากได้
ไม่เหมือนแปะแกที่เลือกซื้อสุ่มๆเอาเพราะแกซื้อเยอะ

คนขายขายให้ผมในราคาเดียวกับแปะเพราะเห็นผมมากับแกหลายครั้งอยู่
ผมเห็นคนขายแกขายให้รายอื่นในราคาแผงละเก้าบาทบ้างสิบบาทบ้าง ตามออร่าความรอบรู้ของแต่ละราย
แต่ผมอยากได้สองแผง  เพราะวิ่งมาไกลเป็นกิโล  แผงเดียวคงไม่คุ้มเหนื่อย
พร้อมๆกะอ้อนคนขายว่าผมมีสิบห้าบาทเอง
ลดให้หน่อยได้ป่ะ  ถ้าลดไม่ได้  ผมติดไว้บาทนึงก่อน  เดี๋ยวขายได้จะเอามาคืนให้
คนขายก้มหน้ามองผมแปลกๆ
ซวยแหงเลยตรู
แล้วเขาก้อหลุด พรืดๆๆๆ หัวเราะออกมา
เอามือตีหัวผมทีนึง  แล้วบอกว่า
เออ เอาไปเหอะ  ไม่ต้องเอามาคืนหรอก  ครั้งนี้ลดให้
แต่ขายหมดแล้วมาซื้อที่นี่อีกนะ  อย่าไปร้านอื่นล่ะ

เนื่องจากผมเลือกของตามสายตาของผู้ซื้ออยากได้
เพียงสองวันสลากก้อขายได้หมด  แผงแรกขายหมดเมื่อผมขายสลากได้ เจ็ดสิบกว่าอัน  แผงที่สองขายได้ถึงเก้าสิบ  โชคดีจัง
สองวันผมมีเงินสี่สิบบาทแล้ว

ทีนี้บวกกีบเงินค่าขนมอีกสามวัน
ผมกำแบงค์สิบสองใบ แบงค์ห้าหนึ่งใบ กับเหรียญบาทอีกยี่สิบกว่าเหรียญ วิ่งกลับไปที่ร้านเดิมในมหานาค
ด้วยมาดแห่งผู้ประสพความสำเร็จ
ผมกวาดมาอีกสี่แผง พร้อมขนมถั่วเหลืองกวนแบบนี้มาอีกสองถุง
แน่นอน  ผมขอราคาเดิมจากเฮียเจ้าของร้านคือแผงละเจ็ดบาทห้าสิบ
เฮียแกกระซิบบอกตอนทนผมอ้อนวอนไม่ไหว  เพราะเอาเวลาไปรับลูกค้ารายอื่นท่าจะเสียเวลาน้อยกว่า  ว่าอย่าไปบอกแปะนะ  ถ้าบอกอั๊วโกรธลื้อจริงๆด้วย

กว่าแปะจะรู้ตัวว่าโดนเด็กทรยศ ก็ปาไปเดือนกว่าๆ
ซึ่งผมพัฒนาธุรกิจผมจากการเดินเร่ขาย
ไปหาลังไม้เก่าๆที่โรงช่างของโรงหนังเฉลิมเขตต์ มาประกอบเป็นแผงลอยเล็กๆเรียบร้อยแล้ว

ถึงจำนวนแผงและขนมจะมีน้อยกว่าร้านแปะ
แต่ของจะเป็นที่ถูกใจของเด็กๆมากกว่า
แถมใครจับไม่ได้บ่อยๆ
ผมจะแถมขนมถั่วกวนสีเหลืองให้เป็นประจำ
ซึ่งเป็นสิ่งที่ร้านแปะไม่มี  
และแน่นอน  
ขนมที่ว่าก็จะเป็นขนมที่ขายเหลือและกำลังจะหมดอายุพรุ่งนี้

ผมได้แบงค์ร้อยใบแรกในชีวิตด้วยเหตุฉะนี้
เรียกน้ำตาจากแม่ผมได้จี๊ดนึงในวันที่ยื่นเงินให้ เพราะผู้ใหญ่สมัยนั้นมักจะเก็บอาการ นัยว่าการแสดงออกทางอารมณ์เป็นเรื่องต้องห้ามทางวัฒนธรรมนั่นเทียว

ผมซื้อหนังสือได้เยอะขึ้นเพราะหักเงินกำไรไว้ส่วนนึงสำหรับซื้อโดยเฉพาะ
ผมทำไปโดยมารู้เอาตอนโตว่าเค้าสอนหลักการตลาดกันแบบนี้ด้วย
ผมทำเพราะขนม  ไม่ได้เรียนหรอก

และรสชาติของขนมถั่วกวนที่ไม่ต้องซื้อ มันช่างหวานหอมมากกว่าที่เคยซื้อมากินอย่างสิ้นเชิง
และแน่นอน  
ขนมนั่นจะหมดอายุพรุ่งนี้

กัดถั่วเหลืองกวนคำเดียว  พรั่งพรูได้ขนาดนี้เลย
เคยกันมั้ย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่