เราเรียน ป.ตรี สายครู สาขาดนตรีศึกษา(เอกดนตรีไทย) อยู่ที่สถานศึกษาแห่งหนึ่ง แถวๆ ต.ศาลายา ชีวิตเรา ตอนเรียน ม.ต้น เราเรียนวิชาเลือกเสรีเกี่ยวกับ ดนตรีไทยและดนตรีพื้นบ้าน ,เราเรียนแผนการเรียนที่เกี่ยวกับดนตรีไทยโดยตรง แบบจริงๆจังๆมาตั้งแต่ สมัยอยู่ ม.ปลาย จนตอนนี้เราเรียน ป.ตรี ซึ่งเราเลือกเรียนสายครูดนตรี จากประสบการณ์ที่เราใช้ชีวิตอยู่กับดนตรีไทยมา เราคิดว่าการสร้างคนให้ฟังดนตรีไทยแบบพอฟังรู้เรื่องนี่ว่ายากแล้ว แต่การสร้างนักดนตรีไทยนี่เป็นสิ่งที่ยากและท้าทายมาก สำหรับเรา บางคนเท่าที่เราเจอถึงกลับหลอนกลัวดนตรีไทยเอาไปโยงกับเรื่องภูตผีปีศาจโน้นนี่นั่นจนทำให้ดนตรีไทยดูน่ากลัวไปเลย
.
ส่วนการไหว้ครูดนตรีไทยนั้น เราคิดเห็นโดยส่วนตัวว่า เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่ง เพื่อแสดงความระลึกถึงครูอาจารย์ ถึงครูอาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้ว และยังมีชีวิตอยู่ รวมถึงครูอาจารย์ตามคติความเชื่อโบราณ และเป็นกุศโลบายเพื่อให้ลูกศิษย์พี่น้องที่ร่วมสำนักร่วมครูเดียวกันเคยต่อเพลงต่อทางด้วยกันมาฯลฯ ได้มาพร้อมหน้ากัน(อารมณ์เหมือนวันรวมญาติกับตรุษจีน)และนักดนตรีไทยได้มาแลกเปลี่ยนกัน ส่วนการครอบครูนั้นเรามองว่าเหมือนเป็นการให้ขวัญกำลังใจและเหมือนเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าคุณสามารถศึกษาหรือว่าสามารถเรียนต่อยอดขึ้นไปในศิลปะวิทยาซึ่งมีความยากขึ้นและสูงขึ้นโดยมีกฏเกณฑ์ข้อปฏิบัติ เพราะให้เหมาะสมแก่ความเป็นนักดนตรี
.
ซึ่งจากที่ไหว้ครูมาทุกปีก็ไม่เห็นมีใครครูเข้ารึว่ากล้าของขึ้นซักคน เราคิดว่าความคิดของคนนี่แหละที่ทำให้ดนตรีไทยดูน่ากลัว ดูกลายเป็นสิ่งลี้ลับที่จับต้องได้ยากหรือว่าจับต้องไม่ได้
.
เราอยากรู้ว่า แต่ละท่านมีทัศนคติและความคิดเห็นเกี่ยวกับดนตรีไทยกันยังไงบ้าง
อยากรู้ทัศนคติกับข้อคิดเห็นต่อ "ดนตรีไทยและที่เกี่ยวกับดนตรีไทย" ว่าคิดเห็นยังไงกันบ้างครับ
.
ส่วนการไหว้ครูดนตรีไทยนั้น เราคิดเห็นโดยส่วนตัวว่า เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่ง เพื่อแสดงความระลึกถึงครูอาจารย์ ถึงครูอาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้ว และยังมีชีวิตอยู่ รวมถึงครูอาจารย์ตามคติความเชื่อโบราณ และเป็นกุศโลบายเพื่อให้ลูกศิษย์พี่น้องที่ร่วมสำนักร่วมครูเดียวกันเคยต่อเพลงต่อทางด้วยกันมาฯลฯ ได้มาพร้อมหน้ากัน(อารมณ์เหมือนวันรวมญาติกับตรุษจีน)และนักดนตรีไทยได้มาแลกเปลี่ยนกัน ส่วนการครอบครูนั้นเรามองว่าเหมือนเป็นการให้ขวัญกำลังใจและเหมือนเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าคุณสามารถศึกษาหรือว่าสามารถเรียนต่อยอดขึ้นไปในศิลปะวิทยาซึ่งมีความยากขึ้นและสูงขึ้นโดยมีกฏเกณฑ์ข้อปฏิบัติ เพราะให้เหมาะสมแก่ความเป็นนักดนตรี
.
ซึ่งจากที่ไหว้ครูมาทุกปีก็ไม่เห็นมีใครครูเข้ารึว่ากล้าของขึ้นซักคน เราคิดว่าความคิดของคนนี่แหละที่ทำให้ดนตรีไทยดูน่ากลัว ดูกลายเป็นสิ่งลี้ลับที่จับต้องได้ยากหรือว่าจับต้องไม่ได้
.
เราอยากรู้ว่า แต่ละท่านมีทัศนคติและความคิดเห็นเกี่ยวกับดนตรีไทยกันยังไงบ้าง