หนัง, เกม, การ์ตูน, ซีรีส์, นิยาย >>ภาพรวมของแฟรนไชส์ Resident Evil ก่อน Welcome to Raccoon City (by Filmaneo)

-
จุดเริ่มต้นของเรซิเดนท์อีวิล (Resident Evil) หรือที่ชาวญี่ปุ่นรู้จักกันในชื่อ "ไบโอฮาซาร์ด" (Biohazard) 
คือผลงานเกมโดยผู้รังสรรค์หลักสองคน อย่าง 'ชินจิ มิคามิ' กับ 'โทคุโระ ฟูจิวาระ' ซึ่งภาคแรกวางขายบนเครื่องเล่น PlayStation เมื่อค.ศ. 1996 
มันได้รับความนิยมจนกลายเป็นซีรีส์วิดีโอเกม ที่ออกภาคใหม่ประจำ ของบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแคปคอม (Capcom) 

ไบโอฮาซาร์ด (สำหรับคนในประเทศต้นกำเนิด) คือเกมแนวสยองขวัญเอาชีวิตรอด อันขายดีที่สุดของ Capcom
เกมยิงผีดิบ/ซอมบี้ ขยี้สัตว์ประหลาดด้วยปืนผาหน้าไม้ และคอยค้นหากับจัดสรรทรัพยากร (เช่น ปืน, กระสุน, ยา)
มีทั้งที่ใช้มุมกล้องแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่ง, บุคคลที่สาม และมุมมองแบบกล้องวงจรปิด 
แฟรนไชส์ขยายอิทธิพลสู่ตลาดภาพยนตร์คนแสดง, ภาพยนตร์อนิเมชั่น, ซีรีส์คนแสดง (อยู่ระหว่างการพัฒนา), หนังสือการ์ตูน, นวนิยาย และสินค้าอื่นๆ (เช่น พวกของเล่น) ภายหลัง
-
-
-
***และเช่นเคย ขอความกรุณาเลื่อนลงไปมองเนื้อหาให้ครบ ก่อนใครจะถือวิสาสะมาลบแท็ก***
-
-
-
วิดีโอเกม
-
การพัฒนาไบโอฮาซาร์ดภาคแรก เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 1993 เมื่อโทคุโระ ฟูจิวาระ ชวนชินจิ มิคามิกับเหล่าผู้ร่วมงาน ให้สรรค์สร้างเกมใหม่ด้วยกัน 
โดยใช้องค์ประกอบจากผลงานเก่าที่วางขายปี 1989 ของโทคุโระ (เกม RPG สยองขวัญเอาชีวิตรอดชื่อ Sweet Home) เป็นพื้นฐาน

ต่อมาในปี 1994 ขณะผู้บริหารด้านการตลาดของแค็ปคอม เตรียมแผนจัดจำหน่ายไบโอฯ ในสหรัฐฯ
การณ์ดันปรากฏว่าชื่อไบโอฮาซาร์ด ไม่เหมาะใช้จดทะเบียนการค้า
เนื่องจากที่อเมริกามีเกมบนระบบปฏิบัติการเก่า (DOS) และนิวยอร์คมีวงดนตรีแนวพังค์ฮาร์ดคอร์ ในชื่อเดียวกัน, อยู่ก่อนแล้ว
หัวหน้าฝ่ายการตลาดจึงจัดประกวดชื่อ (สำหรับจำหน่าย ณ เมกา) ในหมู่พนักงาน 
ชื่อที่ชนะเลิศคือ Resident Evil (ปีศาจสถิต) เพราะมันติดหู และเกมภาคแรกดำเนินเรื่อง ในสถานที่ปิดขังแบบคฤหาสน์
 
-
Resident Evil ภาค 1 ใช้มุมมองแบบกล้องวงจรปิด (กล้องไม่ขยับตามตัวละคร)
และปลุกกระแสความนิยมงานแนวสยองขวัญเอาตัวรอด กับซอมบี้อาละวาด ให้เกิดขึ้นในช่วงเวลาของตัวเอง

หลังออกภาคต่อโดยตรง, ภาคแยก, เกมภาค 1 รีเมค (2002) และภาคศูนย์ 
จุดเปลี่ยนใหญ่ครั้งแรกของวิดีโอเกมซีรีส์นี้ คือ Resident Evil 4 (2005) ที่มีความบู๊ล้างผลาญกว่าเก่า, ใช้มุมกล้องข้ามไหล่ตัวละคร (มุมมองบุคคลที่ 3) และไล่ส่องกบาลศัตรูสะดวกขึ้น
Resident Evil 4 ผลตอบรับดีจนวิถีนำเสนอใหม่นั่น มีอิทธิพลต่อเกมแนวเดียวกันอีกเป็นพรวน ที่ออกตามหลัง
ส่วนจุดเปลี่ยนใหญ่ครั้งถัดมา คือ Resident Evil 7: Biohazard (2017) ที่หันไปใช้มุมกล้องบุคคลที่หนึ่ง เสมือนผู้เล่นได้อยู่ในเหตุการณ์
-
-
-
นวนิยาย
-
นิยาย Resident Evil เรื่องแรกสุดคือ Biohazard: The Beginning ของฮิโรยูกิ อาริงะ
มันคือส่วนหนึ่งในหนังสือรวมข้อมูลเบื้องหลังการผลิตเกม ที่จำหน่ายปี 1997 ชื่อ The True Story of Biohazard
หนังสือเป็นของแถมที่แฟนๆ จะได้จากการจองซื้อเกม (pre-order) เวอร์ชั่นแปลงลงเครื่องเล่น Sega Saturn เท่านั้น, โดยเนื้อหาของนิยายสั้น คือบทนำร่อง (prelude) เกมภาคแรก
อันว่าด้วยการสืบคดีของคริส เรดฟิลด์ เกี่ยวกับกรณีหายตัวปริศนาของสหายเขา--บิลลี่ แรบบิทสัน

ส่วนนิยายขนาดยาว มามีก็ตอนนักเขียนหญิงชื่อ สเตฟานี แดเนล เพอร์รี (Stephani Danelle Perry) หรือเอส.ดี. เพอร์รี (S. D. Perry)
ดัดแปลงเกม 5 ภาคแรก (Resident Evil, Resident Evil 2, Nemesis, Code: Veronica, Zero) เป็นหนังสือ และแต่งเนื้อหาขึ้นเองเลย (ไม่อิงเกมภาคไหน) อีก 2 เล่ม
นิยาย 7 เล่มของเอส.ดี. เพอร์รีเผยแพร่เมื่อค.ศ. 1998-2004 และเคยมีฉบับแปลไทยจำหน่ายครบทั้งหมด โดยแพรวสำนักพิมพ์
นอกจากนี้ เธอยังมีส่วนร่วมในการผลิตหนังสือ ให้แฟรนไชส์ Star Trek, Aliens, Predator 
 
-
มีนิยาย Biohazard ของญี่ปุ่นโดยเฉพาะ (ไม่มีกระทั่งฉบับแปลภาษาอังกฤษขาย) อีก 3 เล่ม เนื้อหาไม่ได้อิงเกมภาคไหน
และก็ไม่น่าสลักสำคัญอะไรนัก... เช่นเดียวกับนิยายภาษาญี่ปุ่น ที่เนื้อหาเหมือนเกมภาค The Umbrella Chronicles
รวมถึงนิยาย Resident Evil อื่นๆ ที่ดัดแปลงบทภาพยนตร์ภาคต่างๆ เป็นหนังสือ ออกมาตามกระแส 
-
-
-
การ์ตูน
-
งานประพันธ์อันใช้ลายเส้นนำเสนอของ Resident Evil มีการ์ตูนฝรั่ง (comic) ค.ศ. 1996 ของสำนักพิมพ์มาร์เวล อันเป็นบทนำร่องสั้นๆ ของเกมภาคแรก
งานของสำนักพิมพ์ WildStorm ซึ่งมีทั้งรวมเรื่องสั้น (สำรวจเหตุการณ์ยิบย่อยนอกจอของเกม) และที่ใช้เนื้อเรื่องแต่งเอง อยู่หลายเล่ม
[แต่เช่นเดียวกับนิยายของเอส.ดี. เพอร์รี, คือบางเหตุการณ์ขัดกับเกมภาคหลังๆ จนต้องถูกตัดทิ้ง จากสารบบเนื้อหาหลักภายหลัง]

Resident Evil ฉบับการ์ตูนจีน (manhua) ดัดแปลงจากเกม มีขายหลายเล่ม, แต่ไม่ขอพิมพ์ถึงยาว เพราะเบี่ยงเบนจากเนื้อหาดั้งเดิมเยอะ
ฉบับการ์ตูนญี่ปุ่น (manga) มีที่จัดเป็นภาคเสริมสำหรับจักรวาลเกมได้จริง (และเคยมีฉบับภาษาไทย) อยู่ 2 เรื่องหลัก
นั่นคือ Resident Evil: The Marhawa Desire (2012-2013) ที่เปิดตัว 'เพียร์ส นิแวนส์' คู่หูใหม่ของคริส เรดฟิลด์ ในเกม Resident Evil 6 
กับ BIOHAZARD heavenly island (2015-2017) ที่แคลร์ เรดฟิลด์ต้องไปสำรวจเหตุซอมบี้ระบาด บนเกาะที่มีทีมงานรายการโทรทัศน์ (ซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร) อยู่ด้วยพอดี

-
-
ภาพยนตร์คนแสดง
-
หนังชุด Resident Evil ที่พอล ดับบลิว. เอส. แอนเดอร์สัน อำนวยการผลิตและเขียนบทให้ทุกภาค เผยแพร่ตั้งแต่ค.ศ. 2002-2016
ภาพยนตร์ทั้ง 6 เรื่องไม่ได้ใช้เนื้อหาจากเกม และมีตัวเอกหญิงของตัวเองชื่อ "อลิซ" (มิลลา โยโววิช) รับบทนำเสมอ
อย่างไรก็ตาม ตัวละครสมทบหลายคน คือมาจากเกมต้นฉบับ
แม้คำวิจารณ์ต่ำตมตลอด แต่หนังทุกภาคทำรายรับทั่วโลก รวมกันเกิน 1 พันล้านดอลลาร์

ภาพยนตร์ชุดเก่าถือว่าเป็นหนังจากเกม ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในโลก ณ ปัจจุบัน... แต่ก็จบบริบูรณ์เรียบร้อย
ส่วนภาคยกเครื่องใหม่ 'Resident Evil: Welcome to Raccoon City' นั้นซื่อสัตย์ต่อเกมมากขึ้น
ผู้กำกับและเขียนบทคือโยฮันเนส โรเบิร์ต (Johannes Roberts) ที่เคยทำ 'ดิ่งลึกเฉียดนรก' (47 Meters Down) ทั้งสองภาค
หนังฉลามทุนต่ำสองเรื่อง ใช้งบสร้างบวกกันได้ไม่ถึง 20 ล้าน แต่รายรับทั่วโลกรวมกันประมาณ 100 ล้านดอลลาร์
-
-
-
ภาพยนตร์อนิเมชั่น
-
หลังจากมีหนังคนแสดงฉบับฝรั่งผลิต แต่ไม่คิดสนเนื้อเรื่องเกมออกมาสักพัก
ทาง Capcom ก็จับมือเป็นพันธมิตรกับโซนี่ (Sony Pictures Entertainment Japan) ผลิตภาพยนตร์อนิเมชั่นด้วยคอมพิวเตอร์เรื่องแรก ในปี 2008 
ก่อนผลิตตอนใหม่เพิ่มอีก 2 หนในปี 2012 กับ 2017 
ชื่อภาคคือ Resident Evil: Degeneration, Resident Evil: Damnation, Resident Evil: Vendetta ตามลำดับ
 
-
ภาพยนตร์อนิเมชั่นทั้ง 3 เรื่อง วางตัวว่าเป็นเนื้อเรื่องย่อยจากจักรวาลหลัก (จักรวาลเกม) ชัดเจนยิ่งกว่าคอนเทนท์เสริมอื่น ๆ ของแฟรนไชส์
แต่ละภาคเนื้อหาเป็นเอกเทศ ดูแยกกันได้
ตัวละครที่มีบทเด่นได้แก่ ลีออน เคนเนดี้, คริส เรดฟิลด์, แคลร์ เรดฟิลด์, เอด้า หว่อง, รีเบคก้า แชมเบอร์ส
-
-
-
ซีรีส์
-
นอกจากฉบับภาพยนตร์อนิเมชั่น ยังมีอนิเมชั่นขนาดยาวไม่มาก จนเหมือนแค่หนัง 1 เรื่อง 
แต่ถูกหั่นเป็นตอนๆ แล้วส่งลงฉายช่องสตรีมมิ่ง Netflix โดยเฉพาะอยู่
อนิเมฯ ซีรีส์ 'Resident Evil: Infinite Darkness' สตรีมเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2021, ตัวละครชูโรงคือลีออน เอส. เคนเนดี้ กับแคลร์ เรดฟิลด์
 
-
ส่วนทางซีรีส์คนแสดง Netflix ประกาศว่ากำลังพัฒนา เมื่อเดือนสิงหาฯ 2020
รายการจะมีความยาวของเนื้อหาทั้งซีซั่นราว 8 ชั่วโมง, อำนวยการผลิตโดยคอนสแตนตินฟิล์ม (Constantin Film) ที่เคยดูแลหนังชุด Resident Evil ของพอล แอนเดอร์สัน

เรื่องราวจะถูกนำเสนอจาก 2 ช่วงเวลา, ผ่านสตรีนามเจด เวสเกอร์ ในวัย 14 ปี กับตอนที่เธออายุราว 30 
ช่วงเวลาแรก คือตอนคู่พี่สาว-น้องสาว (เจดกับบิลลี่ เวสเกอร์) เดินทางสู่นิวแรคคูนซิตี้ และพบว่าบิดาของพวกหล่อน เก็บงำความลับดำมืดซึ่งอาจทำลายโลกได้อยู่
ช่วงเวลาสอง คืออนาคตอีก 10 กว่าปีข้างหน้า ที่เหลือประชากรมนุษย์เพียง 15 ล้าน, แต่คนกับสัตว์รวมกันกว่า 6 พันล้านชีวิต ติดเชื้อที-ไวรัสเสียแล้ว
-
-
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่