เป็นหอบหืดตอนเด็ก ผ่านมา 10 กว่าปี ไม่มีอาการแล้ว แต่อยากรอดทหาร?

ขอเกริ่นก่อนว่า ผมไปทำเป่าปอดไม่ได้ เพราะมันมีโควิดพอดีเมื่อต้นปี 64 จึงได้แค่ใบแพทย์โง่ๆมาใบนึงที่ได้จากหน้า รพ.พระมงกุฏ เพื่อไปเกณฑ์ทหาร แต่ก่อนไปเกณฑ์ ผมไปไหว้ย่านาคก่อนนะให้ท่านช่วย (แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล)

เริ่มเลย คือผมน่ะไม่ได้เป็นหอบมาเป็น 10 กว่าปีแล้ว แต่ตอนเด็กเวลาไม่สบาย จะไอจนหอบหืดขึ้น จนต้องเข้า รพ.บ่อยๆ แต่พอเริ่มโตอาการกลับหาย แถมไม่ป่วยด้วย (ใครจะอยากป่วย) ซึ่งปีก่อนผมคิดว่า จะรอดเพียงเพราะแค่มีประวัติการรักษาตอนเด็กที่ไปเอาจาก รพ.ราชวิถี  + กับใบแพทย์ที่ไปเอามาจากหน้า รพ.พระมงกุฏ  เพราะเข้าไม่ได้มีโควิด   แต่สุดท้ายไปเกณฑ์จริง หมอทหารเค้าจะถามว่าเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่นานหรือยัง (เอาจริงๆจำไม่ได้  เพราะนานมากแล้ว) ได้เอายามามั้ย พ่นยาตลอดมั้ย เอาจริงๆเราไม่มีอะไรเลย มีแต่ประวัติการรักษาตอนเด็ก

ตอนแรกก็พยายามบอกว่า แต่ผมเป็นนะ  ประวัติการรักษาก็มี แต่หมอทหารก็จะบอกกลับมาเลยว่า แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าคุณเป็นจริงๆ ตอนเด็กเป็นหอบหืด ตอนนี้โตมาอาจจะหายแล้วก็ได้ นี่ก็เลยเถียงไปว่า (ขอใช้คำว่าเถียง) แล้วต้องป่วยเหรอครับ ถึงจะได้รู้ ผมต้องทำให้ตัวเองป่วย แล้วเข้า รพ.ใช่มั้ย? เถียงวนไปมา แบบนี้ประมาณ ครึ่งชม. ไม่มีใครนานเท่านี้ เพราะนี่อยู่ๆก็เกิดอารมณ์อยากสู้สุดๆ ไม่อยากจับใบดำใบแดง ก็พูดวนไป ผมต้องป่วยเหรอ ผมก็ไม่ได้อยากป่วยมั้ย หอบหืดจะเป็นตอนไอหรือเหนื่อยจัดๆ วันๆอยู่แต่หน้าคอมทำงาน เอาอะไรไปออกแรงให้เหนื่อย (บอกตรงๆ ต้องสู้ให้สุด) แต่หมอทหารเขาทำตามกฏและหน้าที่ นี่เข้าใจทุกอย่างนะครับ  แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้เถียงสู้ เพราะปรกติเป็นคนขี้เกรงใจไม่กล้าพูด ไม่กล้าไรแบบนี้เลย งงมาก

จนหมอทหารพูดคำนึงบอกว่า เอาล่ะ ผมจะให้คุณไปจับใบดำใบแดงนะ อันนี้คือทำเราสตั้นนิ่งไป 5 วิ แต่ไม่ยอม ก็บอกไปเลย ก็ผมเป็นหอบจริงๆ จะโกหกทำไม โกหกแล้วได้อะไร (อาจจะไม่เหมาะสมที่พูดแนวนี้ เพราะไม่มีหลักฐานที่ยืนยันได้ แต่ทำไงได้คนไม่อยากจับใบดำใบแดง)  ตอนนั้นเริ่มไม่ไหวแล้ว จนหมอทหารเค้าบอกงั้นมานี่ มากับผม จนได้ไปหาคนที่มียศใหญ่สุดในนั้น (ผมไม่รู้เรียกว่าไรนะ) ท่านดูใจดี แถมจะช่วยผมสุดๆอีกต่างหาก พยายามหารอยแผลเป็น หาอาการต่างๆที่จะช่วยได้ให้รอดไป แต่หมอทหารที่มาอยู่ข้างๆก็บอกไม่เข้าข่าย จนสุดท้ายได้บทสรุปคือ ให้เวลาอีก 1 ปี ไปทำเรื่องหอบหืดมา ที่ไปเป่าปอดนั่นละ

เวลาผ่านไป จนล่าสุดไป รพ.พระมงกุฎ  อยากทำเรื่องเป่าปอดต้องยังไงบ้าง สรุปคือ ต้องนัดวันมาตรวจ PCR โควิดก่อน ค่าตรวจรวมๆ 1,550 รายละเอียดว่าชั้นไหนยังไง ให้ไปถาม เจ้าหน้าที่หน้า รพ.เลย แต่ตอนแรก เจ้าหน้าที่บอกว่า เสียค่าใช้จ่ายรวมๆ 4,000 นะ นี่ก็แบบ ห๊ะ อะไรจะเยอะขนาดนั้น ไม่สนไปก่อน เงินยังไงค่อยว่ากัน (ไม่ค่อยมีเงินด้วยเอาจริงๆ เตรียมไว้แค่ 2,000) สรุปนัดนู้นนี่  คิวเยอะมาก เว้นไปอีกอาทิตย์กว่าๆเลย ได้ตรวจโควิดวันที่ 17 ม.ค.

พอ 18 ม.ค. รอผล ไม่ต้องมา รพ. นะ สรุปไม่ติดโควิด 19 ม.ค.มาเป่าปอดเลย

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.มาถึง วันชี้ชะตาชีวิตมาถึงแล้ว เพราะเป่าเสร็จจะรู้ผลเลย ขอแนะนำให้นัดคิวเช้าไปเลย นี่นัดเช้าสุดคือ 9 โมง ถ้าสายไม่อยากจะคิดว่าจะเป็นยังไงเพราะหมอต้องทำเวลาแน่ๆ คงไม่โชคดีแบบนี้ ที่บอกโชคดีก็เพราะว่า..

ตอนเขาเรียกชื่อให้เข้าไปก็ ชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูงปรกติ และเดินตาม พยาบาลไปอีกห้องหนึ่ง ซึ่งเค้าจะถามว่า ไปดูการเป่าปอดยูทูปมาหรือยัง ถ้ายังให้ดูก่อน สรุปเค้าก็สอนนู้นนี่ เห็นแวบๆว่าคนนึงเป่าได้ 8 ครั้ง ต้องผ่าน 3/8 นี่ไม่รู้เท็จจริงแค่ไหน ก่อนเป่าเรานึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะ นึกถึงย่านาค (ถ้ารอดลูกจะไปหาอีกครั้ง) และนึกถึงทุกๆพระองค์ที่กราบไหว้ ให้ช่วยลูกด้วย (แล้วแต่ความเชื่อนะ ไม่ว่ากัน)

ประเด็นคือเราเป่าไปแล้วกว่า 20 ครั้งไม่ได้สักครั้ง เพราะอะไรรู้มั้ย เข้าใจผิดไปหมด สติก็เบลอ งงมาก เป่าต้องเป่าให้ตามจังหวะที่เค้าพูด แถมต้องทำให้สุดแรงเกิดด้วย ต้องเป่าลากยาวให้ครบ 6 วิบลาๆๆ ถ้าได้เป่าแล้วจะเข้าใจ บางคนอาจทำได้ แต่นี่ทำไม่ได้ไง จนหมอผู้หญิงเค้าก็แบบ บอกนี่ช่วยสุดๆแล้วนะคะ ถ้าทำไม่ได้ก็อยู่ที่ตัวคุณแล้ว ปรกติไม่ช่วยแบบนี้ เป่าไป 20 กว่ารอบยังไม่ได้ สุดท้ายพอฮึดสู้ทำไป เริ่มดีขึ้น จนสุดท้ายทำได้ในที่สุด รวมๆเป่าไป 30 กว่ารอบ ไม่รู้ใครได้เยอะแบบนี้ไหม แต่หมอเค้าช่วยสุดๆแล้ว นี่ไหว้แล้วไหว้อีก เพราะทำพลาดบ่อย (ต้องเข้าใจคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจง่าย บางคนอาจยาก)  ต้องขอบคุณจริงๆที่ช่วยจนผมเป่าจนสำเร็จผ่านที่เขาต้องการ

หมอให้ใบตรวจมาพร้อมกับบอกให้ไปจ่ายเงิน 450 บาท แล้วไปพบหมออีกคน เพื่อให้หมอดูว่าเป็นหรือไม่เป็นนั่งรอไปพักหนึ่ง เข้าไปหาหมอปุ๊ป

หมอดูๆไรไป สัก 10 วิ หมอบอก "คุณเข้าข่ายเป็นโรคหอบหืดนะ" ตอนนั้นคืออยากตะโกนร้อง แต่ทำไม่ได้ 55+ คิดว่าเอ๊ะไมเร็วจัง เพราะคิวก่อนหน้าคือ นานมาก และต้องรอให้หมอเซ็นให้ครบ รอไป 1 เดือน (จุดนี้เพิ่งรู้เพราะงั้นรีบไปทำเถอะ) และห้ามตาย เบอร์ห้ามหาย เพราะเขาจะขอเบอร์ไว้ 2 เบอร์ ติดต่อให้มารับใบไปเกณฑ์ อ่ออีกเรื่อง ตาซ้ายกระตุกตั้งแต่เช้าเลย นี่คิดแล้วกูต้องรอดแล้วแหละสุดท้ายรอดจริงๆ (ใครว่างมงายแล้วแต่นะ แต่พอตาขวากระตุกทะเลาะกับที่บ้านทันที งง)

สรุปคือต่อให้เป็นมาเป็น 10 ปี ถ้าเป่าถึงตามที่เค้าต้องการ ยังไงก็รอด ยังไงก็เจอ  (หรืออยู่ที่ดวงคนด้วยหรือเปล่า?) แต่ไปตรวจไปทำเถอะ ถ้าไม่อยากติดทหาร อ่อ อีกเรื่องคือผมเป็นเกย์ ก่อนเกณฑ์ครั้งนู้นไปขอให้เพศสภาพไม่ตรงกับกำเนิด บอกเลยอย่ามา รพ.พระมงกุฎ เสียเวลา หมอดูรีบๆเห็นหัวโปกก็คือ บายพักไม่ผ่าน สาวสองผมยาวเท่านั้นที่ได้

และอยากจะขอบคุณ ร.อ.หญิง คนที่ช่วยให้ผมเป่าปอดจนสำเร็จจริงๆ ทำให้ผมรอดชีวิตมาได้ ไม่รู้นะ การเป็นทหาร มันน่ากลัวมากสำหรับผมจริงๆ

จบ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่