ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมเจ้าของกระทู้จากใจเลยค่ะ ว่า เป็นคนที่มีความ " ใฝ่รู้ " สนใจในเหตุและผล ไม่เชื่อ และ เชื่อ โดยอคติหรือ ความลำเอียง แสดงให้เห็นว่า น่าจะเป็นผู้มีปัญญาคนหนึ่ง อ่านกันยาวๆไปค่ะ

เท่าที่ทราบคือ หมอที่ตรวจก็ไม่ใช่ว่าจะเดินเข้าไปบอกได้เฉยๆนะคะ ว่าเป็นโรคนั้น โรคนี้ ในเงื่อนไขเค้าก็ระบุชัดเจนอยู่แล้วว่า โรคที่ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตา ต้องมีประวัติการรักษาด้วยว่า เป็นขั้นไหน หรือความรุนแรงแค่ไหน เคยเข้าโรงพยาบาล หรือ ต้องใช้ยามาตลอดมั๊ย ถ้าต้องใช้ยามาตั้งแต่เด็ก เค้าก็ไม่อยากรับหรอกค่ะ มันเป็นภาระที่จะต้องคอยดูแลกัน  และเมื่อได้รับใบรับรองแพทย์มาแล้ว เมื่อมาถึงวันก็ต้องตรวจร่างกายอีกรอบนะคะ ไม่ใช่ถือมาแสดงแล้วผ่านเลยเหมือนกัน

ส่วนคนที่เป็นแต่เค้ารับเข้าเป็นทหาร ก็ต้องพิจารณานะคะ ว่า ได้รวบรวมหลักฐานตามกฏ กติกา ที่เค้ากำหนดไว้หรือเปล่า

ลองมาอ่านจากคุณหมอกันค่ะ

อันนี้จากเพจ คุณหมอขอเม้าท์ค่ะ คัดมาบางตอนนะคะ ตามไปอ่านข้อความเต็มได้ที่นี่ค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/doctorkuma/posts/449720351827292

........ ต้องขออธิบายขยายความกันสักนิดถึงว่า นอกจากโรคยอดฮิตอย่างหอบหืด(Asthma)แล้ว ยังมีโรคอีกหลายชนิดที่เข้าข่ายได้รับการยกเว้นไม่ให้รับการเกณฑ์ทหาร อาทิ เช่น ต่อมธัยรอยด์ทำงานมากผิดปกติ(Hyperthyroidism) , โรคหยุดการหายใจขณะนอนหลับ(Obstructive Sleep Apnea) , โรคทางจิตเวช , โรคตับอักเสบเรื้อรัง (Chronic Hepatitis) ,โรคข้ออักเสบเรื้อรัง(Chronic Arthritis) ฯลฯ

แต่ แต่ แต่ ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ที่มีโรคประจำตัวเหล่านี้ การขอใบรับรองแพทย์เพื่อขอละเว้นการเกณฑ์ทหารจะต้องขอจากโรงพยาบาลทหารในสังกัดกองทัพบก 1 ใน 19 แห่ง (ดังต่อไปนี้ 1.รพ.พระมงกุฎเกล้า กทม. 2.รพ.อานันทมหิดล จ.ลพบุรี 3.รพ.ค่ายธนะรัชต์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 4.รพ.โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ จ.นครนายก 5.รพ.ค่ายจักรพงษ์ จ.ปราจีนบุรี 6.รพ.ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี 7.รพ.ค่ายอดิศร จ.สระบุรี 8.รพ.ค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี 9.รพ.ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา 10.รพ.ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี 11.รพ.ค่ายวีรวัฒน์โยธิน จ.สุรินทร์ 12.รพ.ค่ายกฤษณ์สีวะรา จ.สกลนคร 13.รพ.ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี 14.รพ. ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก 15.รพ.ค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ 16.รพ.ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง 17.รพ.ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ 18.รพ.ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช 19.รพ.ค่ายเสนาณรงค์ จ.สงขลา) เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกายและตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษต่างๆ ตามชนิดของโรค เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคที่เข้าข่ายการได้รับการละเว้นจริง โดยโรงพยาบาลทั้ง 19 แห่งนี้ จะเปิดให้ทำการขอใบรับรองแพทย์โรคที่เข้าข่ายการละเว้นการเกณฑ์ทหารในช่วงเดือน ธันวาคม - กุมภาพันธ์

เมื่อได้ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบกว่าป่วยเป็นโรคที่ได้รับการละเว้นไม่ต้องเกณฑ์ทหารจริง ต้องนำใบรับรองแพทย์นั้นไปยื่นในวันตรวจเลือก ซึ่งในวันนั้นจะมีแพทย์(ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแพทย์ทหาร)ประจำที่กองคัดเลือก หากแพทย์ประจำกองไม่มีความเห็นขัดแย้งกับใบรับรองแพทย์ที่เรามี ก็แสดงว่าเราได้รับการยกเว้นไม่ต้องเกณฑ์ทหาร แต่คนส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่า โรคไหนบ้างที่เข้าข่ายได้รับการละเว้น แล้วจะต้องไปขอใบรับรองแพทย์ได้ที่ไหนบ้าง และขอในช่วงไหน ทำให้หลายคนมีโรคประจำตัวที่เข้าข่ายแต่ไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัย จึงทำให้ต้องไปเสี่ยงจับใบดำใบแดง

และจะมีบุคคลอีกจำพวกหนึ่งก็คือพวกที่ไม่อยากเกณฑ์ทหารและรู้มาคร่าวๆ ว่า ถ้าเป็นหอบหืดแล้วจะได้รับการยกเว้น บุคคลจำพวกนี้จะมาขอใบรับรองแพทย์ตามโรงพยาบาลใกล้บ้านในช่วงก่อนการเกณฑ์ทหารเพียง 1- 2 วัน แล้วแจ้งความประสงค์ว่า อยากให้หมอออกใบรับรองแพทย์ว่าเป็นหอบหืดจริง เพื่อนำไปยื่นในวันคัดเลือก ทั้งๆที่บางคนแทบไม่เคยมีประวัติรักษาอาการหอบหืดเลย หรืออาจจะเคยหอบตอนเด็กๆ แต่จะอ้างว่าหอบบ่อยมาก ต้องพ่นยาเป็นประจำแต่ซื้อยามาพ่นเอง เลยไม่เคยมาโรงพยาบาล(ถ้าเป็นหอบหืดจริง แบบนี้ถือว่าโคตรเก่ง เพราะขนาดคนที่เค้าเป็นจริงๆ มารับยาแทบทุกเดือนบางคนยังคุมอาการหอบไม่ได้เลย)

หมอเองก็จะต้องนั่งอธิบายว่า หอบหืดเป็นอาการแบบไหน เกณฑ์การวินิจฉัยเป็นยังไง แล้วต้องไปตรวจที่ไหนจึงจะสามารถไปยื่นเพื่อขอละเว้นได้ ซึ่ง 90% ของคนที่มาขอใบรับรองแพทย์ที่หมอเจอมานั้น ไม่เข้าใจสิ่งที่หมอพยายามอธิบาย และพยายามดึงดันจะขอให้บอกเขียนว่าเป็นหอบหืดให้ได้ บางรายไม่เข้าใจมาก ถึงขนาดที่ผมเองต้องบอกว่า

"ใบรับรองแพทย์ที่เขียนว่าเป็นหอบหืดออกให้ได้ แต่จะเขียนต่อท้ายว่าสามารถรับราชการทหารได้ปกติ ยังจะเอาอยู่มั้ย"


............................................................................

โรคที่ถ้าใครเป็นแล้วไม่ต้องเกณฑ์ทหาร อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 41 และมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว ้ดังต่อไปนี้

เนื่องจากยาวมาก ขอคัดมาบางตอนที่เกี่ยวกับเรื่องที่ จขกท.อยากทราบนะคะ  จะได้ไม่ต้องอ่านเยอะ หากไม่ต้องการ ตามไปอ่านเต็มๆได้ที่นี่ค่ะ กองการสัสดี

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.sussadee.com/PR/index_t.htm

ซึ่งโรคเหล่านี้ ส่วนหนึ่ง เป็นโรคที่มองไม่เห็นด้วยตา ดังนั้นก็จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขกันอย่างละเอียดนะคะ

ในแต่ละข้อ ก็จะลงรายละเอียดไปอีก ว่า ได้แก่โรคอะไรบ้าง

อยากให้ตามลิ้งค์ไปอ่านค่ะ จะได้ชัดเจน และเก็บเป็นข้อมูล เพื่อคนรอบตัวได้ค่ะ

ข้อ 2 โรคหรือสภาพร่างกายหรือสภาพจิตใจ ซึ่งจะไม่สามารถจะรับราชการทหารได้ตามมาตรา 41 คือ

(1) โรคหรือความผิดปกติของตา

(2) โรคหรือความผิดปกติของหู

(3) โรคของหัวใจและหลอดเลือด

(4) โรคเลือดและอวัยวะสร้างเลือด

(5) โรคของระบบหายใจ

(ก) โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Diseases)

(ข) โรคหลอดลมพอง (Bronchiectasis)

(ค) โรคหืด (Asthma)

(ง) โรคของระบบหายใจที่ทำให้สมรรถภาพปอดลดลงอย่างถาวร Forced Expiratory Volume in One Second ต่ำกว่า 2 ลิตร หรือ Forced Vital Capacity ต่ำกว่าร้อยละ 60 ของค่าปกติ

(6) โรคของระบบปัสสาวะ

(7) โรคหรือความผิดปกติของกระดูก ข้อ และกล้ามเนื้อ

(8) โรคของต่อมไร้ท่อและภาวะผิดปกติของเมตะบอลิสัม

(9) โรคติดเชื้อ

(10) โรคทางประสาทวิทยา

(11) โรคทางจิตเวช

(12) โรคอื่นๆ

แถมด้วย ภาพให้เข้าใจง่ายๆค่ะ แต่อย่าลืมตามไปอ่านรายละเอียดด้วยนะคะ