[CR] จากเจ้าพระยาสู่อิรวดี ละครที่งดงามทั้งภาพและศิลป์กับวรรณคดีเรื่อง "อิเหนา"

อันอิเหนาเอามาทำเป็นคำร้อง   สำหรับงานการฉลองกองกุศล
ครั้งกรุงเก่าเจ้าสตรีเธอนิพนธ์    แต่เรื่องต้นตกหายพลัดพรายไปฯ

ข้อความสั้น ๆ ที่นางปิ่น (อดีต) / นุชนาฏ (ปัจจุบัน) ได้พูดถึงในตอนที่ ๔ ของละครเรื่อง "จากเจ้าพระยาสู่อิรวดี"  แต่ตรึงใจมาก เป็นช่วงหม่องสะ(เดาง์) ทูลขอให้ปิ่นไปเป็นนางรำที่โรงละครหลวง และขอแปลบทละครอิเหนาเป็นภาษาพม่าเจ้าฟ้ากุณฑลพ็ญพักตร์ ศิริกุล) อนุญาตเพียงให้ปิ่นไปร่วมคณะละครแต่ไม่ยอมให้แปลอิเหนา แต่สุดท้ายเจ้าฟ้ามงกุฎ(ดวงใจ หิรัญศรี )ก็แอบให้บทละครอิเหนากับหม่องสะไป 

จุดเล็ก ๆ ทำให้เราไปหาข้อมูลเรื่องอิเหนามา ซึ่งทั้งหมดเป็นข้อมูลจาก GOOGLE   ก่อนอื่นเรามาเล่าถึงละครเรื่องนี้สั้น ๆ กันก่อนค่ะ
วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕ เป็นวันที่ละครเรื่อง จากเจ้าพระยาสู่อิรวดี ออกอากาศตอนแรก โดยมีเค้าโครงเรื่อง-กำกับการแสดง โดย แนท ชาติชาย เกษนัส ออกอากาศทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา เวลา 20.15 น. ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3  นำแสดงโดย จิรายุ ตันตระกูล, นัฐรุจี วิศวนารถ, เดาง์, นีน ตเว ยู ออง, เพ็ญพักตร์ ศิริกุล


จากเจ้าพระยาสู่อิรวดี ละครรักย้อนประวัติศาสตร์ หลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 มีการกล่าวถึง เจ้าฟ้ากุณฑลและเจ้าฟ้ามงกุฎ พระราชธิดาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ที่ทรงพระนิพนธ์เรื่อง "อิเหนา" ไว้

ในแผ่นดินกรุงศรีอยุธยานั้น สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีเจ้าฟ้าที่เป็นยอดกวีของกรุงศรีอยุธยา ได้แก่ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ รวมทั้ง เจ้าฟ้าหญิงกุณฑลและเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎด้วย เจ้าฟ้าหญิงกุณฑลและเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎเป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศและเจ้าฟ้าสังวาลย์ วันหนึ่งมีนางข้าหลวงจากปัตตานีมาเป็นพระพี่เลี้ยงของเจ้าฟ้าทั้งสองชื่อว่ายายยะโว ยายยะโวนั้นชอบเล่านิทานปรัมปราต่างๆ ให้เจ้าฟ้าทั้งสองฟัง วันหนึ่งยายยะโวเล่าเรื่องอิเหนาให้ฟังแต่เล่าไม่จบเพราะยายยะโวต้องไปธุระ เจ้าฟ้าทั้งสองจึงแอบออกจากพระตำหนักมาหอสมุดเพื่อหาอ่านกัน แต่ไปเจอเจ้าฟ้ากุ้งเสียก่อน เจ้าฟ้ากุ้งจึงเล่าเรื่องอิเหนาให้ฟังจนจบ เจ้าฟ้าทั้งสองชอบเรื่องอิเหนาเป็นอย่างมากจึงเอาไปแสดงเล่นกับเหล่าเจ้าฟ้าบ่อยครั้ง อีกทั้งได้ให้เจ้าฟ้ากุ้งสอนกวีนิพนธ์ต่างๆด้วย หลายปีต่อมาคนฝึกซ้อมละครในไม่มีพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเห็นว่าเจ้าฟ้ากุณฑลและเจ้าฟ้ามงกุฎนั้นได้เก่งด้านนี้จึงให้เจ้าฟ้าทั้งสองเป็นคนฝึกซ้อมละครในแทน เมื่อฝึกซ้อมแล้วเอาไปแสดง นานเข้าคนดูเริ่มเบื่อ เจ้าฟ้าทั้งสองจึงคิดที่จะแต่งบทละครกันเองโดยได้ปรึกษากันว่าจะแต่งเรื่องอิเหนา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาตอนไหนมาแต่งดีอีกทั้งความคิดของเจ้าฟ้าทั้งสองไม่ตรงกันจึงไปปรึกษาพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงให้แต่งกันคนละเรื่อง เจ้าฟ้าทั้งสองใช้เวลานานกว่าเดือนกว่าจะแต่งเสร็จ เมื่อแต่งเสร็จก็ไปให้พระเจ้าอยู่หัวพรมโกศทอดพระเนตร พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงให้เจ้าฟ้าทั้งสองนำไปแสดงเป็นละคร โดยเจ้าฟ้ากุณฑลพระราชนิพนธ์เรื่องดาหลัง (อิเหนาใหญ่)   ส่วนเจ้าฟ้ามงกุฎพระราชนิพนธ์เรื่องอิเหนา (อิเหนาเล็ก)พอเอาไปแสดงละครแล้วปรากฏว่าคนดูชอบของเจ้าฟ้ามงกุฎมากกว่า พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงอนุญาตให้นำบทละครทั้งสองมาแสดงสืบต่อมา แต่ครั้นเสียกรุงครั้งที่ 2 ต้นฉบับทั้ง 2 ก็ได้หายสาบสูญไป จนสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นใหม่เป็นบทละครสำหรับใช้แสดงละครรำ ในตอนท้ายของบทพระราชนิพนธ์ได้อ้างถึงเรื่องอิเหนาในสมัยอยุธยาตามปรากฎในเรื่อง ประโยคที่นางเอกพูดนั่นเอง
 
ที่มาข้อมูล เว็บวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลาย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


จนกระทั่งมาถึงตอนที่ ๗ เจ้าฟ้ากุณฑล อนุญาตให้ หม่องสะ ทำการแสดงอิเหนาเพื่อต้อนรับทัพหลวงหลังจากได้ดูการซ้อมของปิ่น ในวันงานปิ่นแสดงได้เป็นที่ประทับใจจนเจ้าชายชเวต่าวมินชื่นชมคณะละครหลวงเป็นอย่างมาก

ถือเป็นหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเรื่อง ภาพปิ่นและหม่องสะร่ายรำ ไม่เพียงประทับใจแค่ในจอเท่านั้น ยังติดตราตรึงใจคนดูอย่างมาก



สำหรับฉากนี้มาจาก อิเหนา ตอน “บุษบาเสี่ยงเทียน” เป็นตอนที่มะเดหวีและบุษบาไปไหว้พระในวิหารบนเขาแล้วจึงเสี่ยงเทียนทำนายดวงชะตาเนื้อคู่ จากเทียน 3 เล่ม ฝั่งซ้ายแทนจรกา ฝั่งขวาแทนอิเหนา ส่วนตรงกลางแทนตัวของบุษบาเอง ขณะที่นางกำลังอธิษฐานอยู่นั้นก็มีเสียงตอบจากพระปฏิมา นางจึงแปลกใจและอิเหนาผู้หลบอยู่ด้านหลังพระปฏิมาก็ทำให้เทียนของจรกาดับลง และดับเทียนที่เหลือจนมืดมิดทั้งวิหาร จากนั้นก็มากอดบุษบา นางจึงตกใจร้องขอให้คนช่วย มะเดหวีได้สั่งให้พี่เลี้ยงไปจุดไฟ จึงพบว่าชายผู้นั้นคืออิเหนานั้นเอง...


ข้อมูลจากเพจ ละคร ไทยพีบีเอส


#อิเหนาพม่า จากละครเรื่อง #จากเจ้าพระยาสู่อิรวดี จับตอนบุษบาไหว้พระในถ้ำอิเหนาทำอุบายแอบหลังพระแล้วทำเทียนดับ ลอบเข้าโลมนางบุษบา ได้ภาพงดงามตรึงตาแฟน ๆ เมื่อคืนนี้
... สำหรับบทละครอิเหนาพม่าฉบับเมียวดีมิงจีอูซะ ตอนบุษบาไหว้พระ นั้นอยู่องก์ที่ 11 มีชื่อว่า "อิเหนากับความพยายามที่จะได้ใกล้ชิดกับบุษบา" (အီေနာင္ ပြတ္စပါးႏွင့္ရင္းႏွီးခြင္႔ရရန္ ႀကိဳးစားျခင္း။) มีการดับไฟไปมาติด ๆ ดับ ๆ ตั้ง 3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายเลยใช้ตะเกียงแก้วซะเลย มีเรื่องย่อดังนี้
...
จับตอนเมื่อเจ้าเมืองดาหาพร้อมเจ้าชายทั้งสี่เมืองร่วมเดินทางไปบูชาพระมเหศวรในถ้ำ ณ เขาวิลิสสมาหรา (ဝလိစၥမာရာ) ระหว่างเดินทางอิเหนาซึ่งรักนางบุษบาอยู่แล้วก็พยายามหาทางพูดคุยใกล้ชิดมาตลอดทาง จนมาถึงเชิงเขาวิลิสสมาหรา อิเหนาพร้อมพี่เลี้ยงก็คิดอุบายสารภาพรักกับบุษบาด้วยการเขียนจดหมายรักบนกลีบดอกไม้ "เขียนหนังสือเมตตาส่ามาด้วยเจตนารักใคร่" ด้วยบาลีภาษาว่า "ปิยารํ อุมฺมตฺตา มาลา ปนฺเนสู อกฺขรํ" [อักษรอันงดงามในกลีบดอกไม้ที่มัวเมาไปด้วยความรัก: อ.ธีรัททมาน์ เจียมจวนขาว,ผู้แปล]
...
สรุปใจความคือจีบว่า "ทั้งวันอยากเห็นแต่เจ้าหน้าทอง อย่าได้อายหายหน้าเชิญมารักกันจ้ะน้องจ๋า" พรรณาเสร็จแล้วก็ให้สังขมรตาน้องชายกับพระพี่เลี้ยงเอาไปเข้าช่อมาลาลอยน้ำไปให้ถึงที่นางบุษบาสรงน้ำอยู่ บุษบาเก็บได้เรื่องไปถึงนางมะเทวี ก็รู้ว่าอิเหนารักลูกสาวนางก็ดีใจอยู่ เพราะไม่ชอบจรกา ด้วยรูปชั่วและมิใช่วงศ์เทวัญ
...
พอถึงวันกำหนดบูชาพระมเหศวรในถ้ำบนเขาวิลิสสมาหรา นางมะเทวีกับบุษบาพร้อมพระพี่เลี้ยงก็พากันถือเครื่องบูชาเข้าไปในถ้ำ อิเหนาทำอุบายไปแอบอยู่หลังเทวรูป เมื่อมะเทวีทำการบูชาและอธิษฐานต่อหน้าเทวรูปอ้างถึงวงศ์ตนเองกับบุตรสาวว่ามีเชื้อพระอินทร์ขอสิ่งใดให้สำเร็จสมปรารถนา เมื่ออิเหนาได้ยินก็แกล้งเป็นเสียงเทวรูปตอบไปว่า ถ้าอยากให้ราชวงศ์รุ่งเรืองสมบูรณ์ก็ต้องให้ราชธิดาอภิเษกกับอิเหนาซึ่งเป็นวงศ์เทวัญด้วยกัน จากนั้นก็ร่วมกับสังขมรตาไล่ค้างคาวออกมาให้ดับไฟ อิเหนาก็อาศัยความมืดเข้าประชิดนางบุษบาเอามือดึงชายผ้าสะพักนางไว้ นางบุษบาตกใจกลัวก็ตัดพ้อ ว่าโอ้แม่เจ้าขา ใครกันเล่าที่ทำเช่นนี้จะเป็นคนหรือเทวดาทำให้ข้าอับอาย ถ้าตายได้ก็จะขอตาย เสียบัดนี้
...
ฝ่ายนางมะเทวีมารดาก็ปลอบใจว่า อย่าตกใจจงเจริญอนุสติสิบ ยึดถือพระสรณคมน์เป็นที่ตั้งเถิดลูกรัก แล้วทรงสั่งบาหยันให้จุดไฟอีกครั้ง อิเหนาก็ปล่อยผ้าสะพักแล้วหลบเข้าหลังเทวรูปไป จากนั้นมะเทวีมีใจเกรงเทวรูปก็กล่าวขมาว่าที่ท้าวดาหาจะให้บุษบาอภิอเษกกับจรกาซึ่งเป็นคนนอกวงศ์เทวัญนั้นจงโปรดอภัย ด้วยอุบัติรักที่อิเหนาเขาไม่สน ก็ต้องทนยกให้จรกาไป
...
มะเทวีกล่าวจบอิเหนากับสังขมรตาก็ช่วยกันไล่ค้างคาวให้ออกมามากขึ้นอีก ทำให้ไฟดับอิเหนาก็ลอบเข้าโลมบุษบาจับชายผ้าสะพักอีกครั้ง นางบุษบาตกใจก็พ้อว่า โอ้กะไร เทวดาทรงแกล้งหรือไร ทำให้ตกใจแสนอับอายหากตายได้ก็อยากจะตายเสีย จากนั้นมะเทวีก็สั่งบาหยันจุดไฟขึ้นอีก อิเหนาก็หลบไปอีก
...
มะเทวีเห็นดังนั้นก็คิดว่าเทวรูปกริ้วจึงตรัสว่า "พระผู้ทรงเดชจะให้ข้าน้อยแก้ไขอย่างไร ทรงชี้แนะทางแก้ไขด้วยเถิด" อิเหนาก็ส่งเสียงหลังเทวรูปว่า "จงให้บุษบาิภิเษกกับอิเหนาเสีย บ้านเมืองจะรุ่งเรืองสืบราชวงศ์ต่อไป" ว่าแล้วก็ไล่ค้างคาวให้บินไปดับไฟอีก แล้วออกไปคว้าผ้าสะพักนางบุษบาอีกครั้ง คราวนี้มะเทวีสั่งให้บาหยันเอาตะเกียงแก้วมาจุดไฟให้สว่าง อิเหนาไม่ทันหลบความก็แตก อิเหนาก็ขู่มะเทวีว่า ฉันจะลักนางบุษบาไปเดี๋ยวนี้นะถ้า แม่นายไม่ช่วยแก้ไขเรื่องจรกา
...
มะเทวีมีใจชอบอิเหนาด้วยเห็นเป็นผู้มีวาสนาในวงศ์เทวัญ ดีกว่าจรกาหน้าดำเป็นไหน ๆ ก็บอกอิเหนาไปว่าอย่าทำเรื่องผิดธรรมเลยพ่อ แม่นายนี้จะช่วยรักษานางบุษบาไว้ไม่ให้จรกามากร้ำกรายเอง จนกว่าพ่อจะพร้อมนะ จากนั้นก็จบฉาก ก่อนจะเข้าตอน เผางานอภิเษกจรกาลักนางบุษบาต่อไป
........
อ้างอิง:อูสะ,เมียวดีมีงจี,(1971) อิเหนาฉบับบทละครในวังหลวง.หงสาสดี
ธีรัททมาน์ เจียมจวนขาว (2565)
...........
บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ หรือดัดแปลงบทความ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความ และภาพประกอบบทความไปเพื่อการค้า หรืออื่นใดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนอย่างเป็นทางการเสียก่อน
#อูโต

บทความได้รับจากอนุญาตเผยแพร่จากคุณ Sittiporn Netniyom



ภาพ แสง งดงามลงตัว โดยเฉพาะช่วงไฟดับแล้วพระนางร่ายรำในความมืด ทำให้ติดตราตรึงใจมาก ขอบคุณละครดีดีจากไทยพีบีเอสค่ะ 








ชื่อสินค้า:   ละคร จากเจ้าพระยาสู่อิรวดี
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่