เชียงใหม่และซากุระเมืองไทย(ทริป17-19/1/65) ตอน 2 อ่างขางใต้หมอกและนางพญาเสือโคร่งที่ไร่ชา

อ่างขาง (ขึ้นทางไชยปราการ)

ไม่ได้ขึ้นไปกางเต็นท์นะครับ เพราะคิดว่านอนเตียงนุ่มๆ ที่ฝางแล้วตื่นเช้าหน่อย ค่อยขับรถขึ้นไปตอนเช้าก็พอ เราขับขึ้นไปทางไชยปราการ ทางชันๆ ที่เขาแนะนำให้ใช้เป็นทางลงและควรขับด้วยคนขับที่ชำนาญสักหน่อย คืนนั้นอากาศครึ้มๆ ที่ฝางก็มีฝนลงเม็ดเล็กน้อย และตามพยากรณ์อากาศที่บอกว่ามีความชื้นค่อนข้างมาก ยอดดอยจึงเต็มไปด้วยหมอกเมื่อตอนเราขึ้นไปถึงโดยไม่มีโอกาสได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น ... พร้อมนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่มีทั้งเพิ่งขึ้นไปเช้านี้และที่พักเต็นท์ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

จุดกางเต็นท์ที่อยู่ตรงฐานของกองร้อยทหารม้าฯ และมีจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ตรงนั้น 


มุมด้านนี้แหล่ะครับ มีจุดให้เข้าไปถ่ายรูป มีห้องน้ำ มีนักท่องเที่ยว .. แต่วันนี้ดันมีเมฆก้อนใหญ่อยู่ทางทิศตะวันออกเพิ่มเติมมาให้ด้วย ซึ่งสักพักเมฆก้อนใหญ่นั้นก็พัดเข้ามาหาจุดที่พวกเรายืน ทำให้พื้นที่ทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยเมฆ .. หมอก

จริงๆ การขึ้นดอยอ่างขางคราวนี้เพื่อจุดหมายคือสวนซากุระ ทั้งที่ปลูกเป็นแปลงใหญ่ในสวน 80 ตรงข้ามสโมสรอ่างขาง และยังมีทิวต้นซากุระอีกหลายบริเวณ และนอกจากตรงสโมสรหรือภายในโครงการหลวง ยังมีลายแทงให้ไปที่ไร่ชาอินทรีย์ (แปลง 2000) อีกด้วย แต่ขับรถบนดอยอ่างขางต้องระวังเรื่องการเข้าใกล้ชายแดนเมียนม่า (อันนี้เจ้าหน้าที่ท่านบอกมา) เพราะบางจุด ถนนที่เราใช้สัญจรอยู่ติดกับเส้นเขตแดนโดยถ้าเราไม่ทราบแล้วทำอะไรไม่เหมาะสม (โดยเฉพาะการถ่ายรูปเข้าไปในพื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้าน) อาจมีปัญหาได้ง่ายๆ เหมือนกัน


ไร่ชาอินทรีย์ แปลง 2000

ที่ไร่ชาก็มีหมอกลงจัดไม่แพ้กัน นักท่องเที่ยวประปราย ส่วนทางเดินที่ขนาบไปด้วยต้นนางพญาเสือโคร่ง ส่วนใหญ่ดอกจะร่วงโรยไปจนเกือบหมดแล้ว ทั้งดอกสีชมพูเข้มหรือดอกสีขาว น้ำค้างลงจัดทำให้การบุกเข้าไปถ่ายรูปในแถวของต้นชาเป็นเรื่องที่ไม่สนุกนัก ... หมอกลงจัดจนกลั่นตัวเป็นหยดน้ำประพรมไปทั่วบริเวณ ไม่ต่างจากฝนตก แต่มันก็ทำให้เราได้สัมผัสบรรยากาศที่หาได้ยากที่พื้นราบ


แถวข้างๆ อาคารผลิตของไร่ถัดจากลานจอดรถจะมีทิวของต้นหอมหมื่นลี้อยู่หลายต้น (บางคนก็เรียกสารภีฝรั่ง สารภีอ่างกา ฯลฯ) เป็นไม้ที่มีดอกเล็กๆ สีขาว หอมขจรกระจาย ชื่อวิทยาศาสตร์ของเขาคือ Osmanthus fragrans ที่ประเทศจีนทางภาคกลางถึงภาคใต้ก็มีต้นหอมหมื่นลี้นี้เหมือนกัน ที่เขียนถึงเพราะนึกไปถึงของหวานขึ้นชื่อของเมืองอู่ฮั่น (ที่ชาวโลกเชื่อว่าเป็นเมืองต้นกำเนิดของโรคระบาดใหญ่ โควิด-19 ในปัจจุบันที่เรากำลังเผชิญกันอยู่) ภาษาจีนเขียนว่า 米酒 อ่านว่าหมี่จิ่ว หมี่คือข้าว จิ่วหมายถึงเหล้าหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมหรือเกิดจากการหมักจนมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม "หมี่จิ่ว" ถือเป็นของหวานขึ้นชื่อของอู่ฮั่นครับ 

และเจ้าต้นหอมหมื่นลี้ที่อู่ฮั่นมันถูกโปรโมทให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเมื่อถึงเดือน 9 ของทุกปี ต้นหอมหมื่นลี้ที่มีชื่อเสียงและถูกกล่าวว่าดอกจะบานสะพรั่งพร้อมกันจนกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วอยู่ในมหาวิทยาลัย Central China Normal university (华中师范大学) ที่เขาบอกว่าเป็นอันดับหนึ่งในอู่ฮั่น "每年9月桂花会开满校园” ส่วนถ้าเป็นดอกซากุระ (樱花)ต้องเป็นเทศกาลชมซากุระเดือน 5 ที่มหาวิทยาลัยอู่ฮั่น (武大)ที่เขาบอกว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของเมืองจีน “其影响不亚于武大的 5 月樱花节”


หมี่จิ่วคือข้าวที่ผ่านการหมัก ปรุงรสให้เป็นของหวานและโรยหน้าด้วยดอกหอมหมื่นลี้

(米酒 รูปจากอินเตอร์เน็ต https://www.lyishu.com/knowledge/60138.html)

米酒 ที่เราเคยไปทานเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน

ต้นหอมหมื่นลี้ที่ไร่ชาฯ บนยอดดอยอ่างขาง กำลังออกดอกครับ แต่ไม่มากเท่าไหร่ กลิ่นหอมอ่อนๆ
------------
คุณหมูยอ
เดินทาง 17-19 มกราคม 2565
บันทึก 24 มกราคม 2565
------------
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่