***ชี้แจง : เราในตอนนั้น อายุ 19 (ตอนนี้ 20) เป็นคนที่สังคมแคบ แม่ไม่ค่อยให้ออกไปพบเพื่อนหรือใครที่ไหน เราเองค่อนข้างซื่อบื้อ ไม่ทันคน เชื่อใจคนง่าย หลอกง่าย ในตอนนั้น
ภรรยาพี่เขยเป็นลูกพี่ลูกน้องเรา ทั้งสองมีลูก 2 คน คนโตตอนนั้นอยู่ ป.4 (เราปี 2 เทอม 1) คนเล็กอายุราวสามขวบ บุคลิคพี่เขยน่าเชื่อถือเป็นคนดี คือเป็นคนดีมากๆ ใครๆ ก็ชอบ แต่ตอนนี้เราที่โดนลวนลามไม่คิดแบบนั้นแล้ว ทั้งสองเพิ่งจะสร้างบ้านใหม่ เริ่มแยกครอบครัว ครอบครัวพี่แกกำลังไปได้ดีเลยล่ะ เท่านี้ก่อน***
*+*เข้าเรื่อง*+*
ก่อนวันเกิดเหตุราวสองสามวันภรรยาพี่เขยที่เป็นลูกพี่ลูกน้องเรามาขอให้เราไปดูน้องให้หน่อย น้องไปเรียนออนไลน์ที่บ้านพักกับพี่เขยไม่มีคนอยู่เป็นเพื่อน เราที่ก็เคยไปอยู่แล้วก็ตอบตกลงไปง่ายๆ น้องคนโตนี่เป็นหลานรักเราเลย คือเราไปอยู่เป็นเพื่อนเพราะน้องกลัวผี อยู่คนเดียวไม่ได้ และต้องไปคอยดูให้น้องเรียนออนไลน์ตามตารางด้วย
วันเกิดเหตุณ์สั่งกับข้าวอะไรมากิน กินเสร็จขึ้นไปนอนเล่นบนห้อง(พี่เคยบอกเองว่านอนเล่นได้ อีนี่ซื่อ บอกนอนได้ก็นอนจริงๆ ตอนนั้นไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร แก่นแก้ว ไม่รู้ความ) วันนั้นพี่เขยมาช้ากว่าปกติ ปกติมาช่วงสิบเอ็ดโมง ไม่เกินเที่ยงครึ่ง วันนั้นมาบ่ายโมงจะบ่ายสองนี่แหละ ปกติแกไม่นอน เอาสำนวนมาแล้วนั่งทำงานอยู่โต๊ะชั้นล่างบ้านพัก แต่วันนั้นก็มานอนข้างบน แอร์ 20 องศา เราหนาว คือมันหนาวมากสำหรับเรา ด้วยความที่บ้านนอกไม่ค่อยเจอแอร์มาก่อน ก็นอนขดห่มผ้าอยู่บนเตียงอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งปกติก็เป็นแบบนั้น พอพี่แกมานอนบนเตียง เราก็ไม่รู้จริงๆ ตอนนั้นว่าไม่ควรนอนเตียงเดียวกันกับผู้ชาย อ่ะ เราก็ขยับมานอนปลายเตียง แกก็นอนหัวเตียงไป เราอ่านการ์ตูนไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แกก็บอกก่อนหน้านั้นว่า เออ พี่(ชื่อ)นอนดิ้นนะ หรือนอนละเมอนะนี่แหละ เราก็จ้าไป ทีนี้แกก็นอนอิท่าไหนไม่รู้เราไม่ได้มอง นิ้วแกมาเขี่ยขาอ่อนเราแบ่บ เหมือนไม่ได้ตั้งใจ เหมือนแค่ละเมอนิ้วกระตุก เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก อ่านการ์ตูนต่อ แกก็กระตุกอยู่แบบนั้น ลากนิ้วบนขาอ่อนเราขึ้นลงช้าๆ อ่ะ ตอนนั้นก็ยังนิ่งอยู่ ไม่กล้าพูดอะไรน้องก็อยู่ในห้อง น้องยังเด็กกลัวน้องจะรับไม่ได้ เราก็พยายามข่มใจอ่านการ์ตูนต่อ ทีนี้มือทั้งมือเริ่มลูบ อ่ะก็ยังนิ่ง และเชื่อใจอยู่(แกเป็นคนที่เราเชื่อใจมาก เคารพมากด้วย) ยังเถียงในใจ ไม่คิดหลงตัวเอง ไม่คิดว่าเขาจะลวนลามคนอย่างเรา คือเขามีลูกมีเมีย มีหน้าที่การงานที่ดี มีเกียรติ์(เขาเป็นผู้พิพากษา) เราก็คิดเถียงในใจ ไม่หรอก ละเมอแหละ จนแกลูบล้วงมาแก้มก้นทีเดียวเราหันขวับไปมอง เห็นแกนั่งทำคือตั้งใจนั่งทำเลยอะ ตอนเราอันไปแกสะดุ้งนิ่ง หลบตาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนั้นเหมือนเราไม่รู้จักแกเลยจริงๆ แต่เราคิดว่าเมื่อเราเห็นแล้วเขาคงจะหยุด แต่ไม่หยุดจับเท้าเราไปถูน้องชายแกที่คือ...แข็งตัวอยู่ มีแค่ผ้าบางๆ กั้นไว้ เราอึ้งพยายามดึงเท้ากลับแต่ไม่หลุด เราเลยหยุดดึง แป๊ปๆ แกแหกขาเราออก เราอึ้งมาก สตั้น คาดไม่ถึง เอาเท้าเราไปถูว่าน่าขยะแขยงแล้วยังตั้งท่าจะเอาเราอีก เราเลยรีบลุกออกมานั่งข้างน้องที่อยู่ข้างล่างเตียง น้องเล่นเกมส์ในคอมอยู่ น้องก็มองงงๆ พี่ฟ้าลงมาทำไร เราก็พยายามทำตัวปกติ เฮ้ย โชว์สกิลดิ้โหดแค่ไหน (ปกติชอบทำตัวห้าวๆ กับเด็กน้อย) เล่าข้าม ก่อนหน้านั้นเราก็ลงมาครั้งนึงแล้ว ตอนที่โดนลูบแก้มก้น แต่น้องแค่มองงงๆ อ่ะ ถึงตอนที่แกพยายามให้เราขึ้นเตียงไปอีก เราก็แค่หัวเราะไปไม่พูดอะไร แกบอกว่าแอร์มันหนาวนะ ขึ้นมานอนบนนี้สิ(ตอนนั้นคือลงมาครั้งแรกตอนที่โดนแกลูบล้วงแก้มก้นจะโกนกีเราแล้ว) พอครั้งที่สองที่ลงมาหลอกล่อด้วยหนังสือ กับขอให้เราบีบสิว บลาๆ ไม่ขึ้นแล้วค่ะ แล้วมันจะมีช่วงนึงเราก็จำไม่ได้ว่าก่อนหรือหลังตอนโดนแหกขา คือตอนนั้นเราด่าตัวเองในใจว่าโง่มาก เราลงมาข้างล่าง ชั้นล่างบ้านชั้นที่หนึ่ง นั่งสงบสติอารมณ์อยู่โซฟา พี่แกตามมา จังหวะนั้นสั่นกลัวจากที่นอนอยู่รีบลุกขึ้นนั่งเอาหมอนปิดขาไว้(ใส่ขาสั้นมั้งเลยโดนแบบนี้ ทุกวันก็ใส่ขาสั้นเพราะคล่องตัว ชอบใส่ แต่วันนั้นโดนลวนลาม) คือ เราลงมาแบบนี้เหมือนเราอ่อยเขาให้เขาลงมา นี่คิดในใจได้ก็รีบขึ้นไป แกพูดอะไรไม่รู้เราไม่ได้ฟัง เรานั่งข้างหลานตลอด สักพักแกก็พากลับจากบ้านพักผู้พิพากษา จอดปั้ม ปตท. ก่อนจะจอดเราคาสายกับน้องสาวแล้ว คุยกันตลอดทาง ตอนนั้นฝนยังไม่ตกแกก็บอกว่าเออ กลับบ้านค่อยไปคุยกันกับน้องก็ได้ อยู่บนรถอะไรนี่แหละ แล้วพอจอดปั้มฝนก็ตกปรอยๆ แกบอกให้เราวาง เราก็ทำท่าวางไปเข้าห้องน้ำ กลับขึ้นรถเราก็โทรเหมือนเดิมแกก็พูดอะไรนี่แหละแต่เราก็โทรกับน้องเหมือนเดิม ทีนี้อยู่ๆแกก็พูดกล่อมให้น้องซึ่งเป็นลูกคนโตของแกน่ะ กลับไปอาบน้ำที่บ้านพัก เรานี่สั่นเลย พิมพ์แชทบอกน้องว่างั้นงี้ สุดท้ายลูกก็ต้องยอมพ่อ ตีรถกลับบ้านพักทั้งๆ ที่ก็มาถึงครึ่งทางแล้ว น้องก็เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ในใจเราอยากอาบให้น้องมาก คือไม่อยากอยู่กับพี่เขยสองต่อสอง ตอนนั้นแกเหมือนคนที่เราไม่รู้จัก แกเป็นใครก็ไม่รู้ แกเรียกเราไปนั่งคุย แกนั่งบนเตียงแต่เราไม่นั่งเตียงแล้ว เราขยาด เราก็นั่งพื้นไปแกก็ถามว่าจะมาอีกไหม เราตอบ บ่(ไม่) แกถามอีกว่า ทำไม พี่(ชื่อ)ยังสิถามอีกยุติ แกก็เงียบไป แต่ไม่มีความสำนึกผิดหรือคำขอโทษอะไรใดๆ ออกมาจากปากแกเลย หน้าตาไม่รู้สำนึก ดูไม่ได้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำ วันนั้นพอกลับมาถึงบ้านเราอ่อนแอมาเราต้องการใครสักคนมาฟังเรื่องบ้าๆ เรื่องคาดไม่ถึงที่เราได้เจอมา เราต้องทำยังไง ตลอดทางเราคิดมาตลอดว่าจะบอกภรรยาแกดีไหม แต่ครอบครัวแกตอนนี้กำลังไปได้ดี มีบ้านหลังใหญ่ มีลูกสองคน คือกำลังสร้างครอบครัวที่มั่นคง ใจเราก็สงสารลูกพี่ลูกน้องเราด้วย ถ้าจะบอกแล้วแกจะเจ็บปวดแค่ไหน เราเลยตัดสินใจไม่บอก กลับบ้านมาเคาะประตูห้องพี่สาว พี่สาวดันอาบน้ำอยู่เราเคว้งมาก เราก็เข้าไลน์โทรหาน้องสาวภรรยาของพี่เขย แต่คือตอนแรกแกยังไม่ได้รับ เราเลยแชทไปบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา แกก็บอกว่ามา คือแกทำงานที่ศาลเยาวชนเราก็คิดว่าแกน่าจะเจอคดีแบบนี้มาเยอะแหละ แกน่าจะเข้าใจเราและช่วยเราแก้ปัญหาได้ และอีกอย่างเราก็สนิทกับแกเชื่อใจแกเหมือนกัน ก็พี่สาวเราตอนนี้ยังไม่ว่าง แต่เรารอไม่ได้ เราไม่ไหว เราก็อัดคลิปเสียงเล่าเป็นฉากๆไป(ละเอียดกว่าในกระทู้ เพราะเล่าสดๆ ในขณะที่เหตุการณ์เกิดขึ้นไม่นาน ทุกอย่างมันชัดเจน) เราบอกเล่า ตอนแรกแกก็คงจะไม่เชื่อเราเหมือนกันว่าเราจะโดนพี่เขยคนนี้ลวนลาม เพราะแกเป็นคนดี ใครๆก็เห็นว่าแกเป็นคนดี พอเราเล่าเป็นฉากๆ ทั้งเสียงสั่น น้ำหูน้ำตาก็ไหลห้ามไม่อยู่ แกก็โทรมาถามว่าใส่สั้นหรือเปล่า ทำไมไปนอนเตียงเดียวกับเขา เราก็เพิ่งรู้ว่าเรานอนเตียงเดียวกันกับผู้ชายมันเสี่ยง และไม่สมควร เพิ่งจะรู้ตอนนั้น และเพิ่งรู้ว่าใส่ขาสั้นก็ไม่ควรเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเราเถียงว่าเราใส่ขาสั้นแต่เราห่มผ้าตลอด เขาจะเกิดอารมณ์กับเราได้ยังไง เราเห็นเขาเป็นพี่ เคารพและเชื่อใจ แกก็บอกความเชื่อใจพังทลายเลยใช่มั้ยแล้วแกก็สอนหลายๆ อย่าง ดีแล้วที่ยังไม่ได้กันเพราะถ้าได้แกก็จะเอาเรื่องพี่เขย ทีนี้พี่สาวเราก็ขึ้นมายืนฟังอยู่นานแล้วแต่ก็ยังไม่รู้เรื่องราวจริงๆ แกกับพี่ที่เราบอกก็สนิทกันอยู่แล้ว เลยยื่นโทรศัพท์ให้ไปคียกัน พี่สาวเรายังไม่อยากจะเชื่อเลย ถ้าเราไม่เล่าเป็นฉากๆ ก็ไม่มีใครเชื่อ พี่เขยดูเป็นคนดี น่าเชื่อถือ ดูไม่ใช่ที่จะมาทำแบบนี้ได้เลยจริงๆ เราทั้งสามพี่สาวเราและน้องสาวภรรยาพี่เขยก็ตกลงว่าจะยังไม่บอกแม่เรา(แม่เราค่อนข้างหัวใจอ่อนแอ รับเรื่องร้ายๆแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ) และไม่บอกภรรยาพี่เขยเพราะเราก็รู้กันอยู่ว่าใครเป็นแบบไหน ในกรณีภรรยาพี่เขยแกน่าสงสารคือครอบครัวกำลังไปได้ดี อยู่ๆ เราจะไปพังมันเราก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เรานอนร้องไห้ทั้งคืน ถ้าภาษาอีกสานคือ เหลือใจ เฮ็ดได้จั่งได๋ หรือก็คือไม่อยากจะเชื่อ
เหตุการณ์นั้นผ่านไป ยิ่งเห็นหน้าพี่เขยบ่อยขึ้น เราและพวกพี่สาวทั้งสองก็พยายามหลีกเลี่ยงแก เราเองพยายามทำตัวปกติ วันไหนพี่แกมาเราก็จะไม่ไปบ้านนั้น พี่สาวซื้อขายาวให้ใส่ ตอนนั้นไม่ใส่สั้นเลย ใส่ยาวตลอด แต่พี่เขยเหมือนยังไม่ยอมแพ้ เหมือนจะเอาให้ได้ แกเทียวมาวนเวียนรอบๆตัวเรา พอรู้ว่าเราจะเข้าหอก็บอกให้พี่ขนไปให้สิไปต้องไปลำบากพ่อหรอก(คือจะเข้าหอก็หนีพี่แกนั่นแหละ) เราก็บอกบ่จ้า แล้วก็รีบไปเล่นกับเด็กน้อยต่อ คือแกพยายามให้ลูกแกมาขอ ลูกคนโตของแก ซึ่งเป็นหลานรักของเรา แกรู้ว่าเราใจอ่อนใจหลานคนนี้มากที่สุด แต่เราก็ไม่ไป หลีกเลี่ยงตลอด แต่ก็เล่นกับหลานนะปกติ แค่ตอนนี้เกลียดพ่อน้อง เกลียดพี่เขย ทั้งเกลียดทั้งขยะแขยงไม่อยากใกล้ แต่ด้วยความที่เป็นครอบครัวญาติสนิท แม่เราเองก็ไม่รู้เรื่อง ก็เที่ยวใช้เราไปเอาของนู่นนี่อยู่บ้านพี่แกบ่อยมาก ซึ่งปกติก็ใช้ไปแต่ตอนนั้นมันไม่ปกติแล้ว เราพยายามทำตัวปกติให้แม่สบายใจ แต่เรามองหน้าพี่เขยไม่ได้จริงๆ ตอนนั้นมันขยะแขยงและกลัว แต่ตอนนี้เกลียดมาก นั่นแหละ ในที่สุดก็เข้าหอทั้งที่เรียนออนไลน์ พอใจเริ่มเข้มแข็งก็กลับมา วันนั้นพี่เขยแกก็ถาม กลับมาอยู่บ้านแล้วแม่นบ่ เรากับน้องก็ขนลุกสิคะ วันนั้นเราไม่อยากให้แม่ใช้เราไปหาของบ้านพี่แกอีกแล้ว เราก็บอกแม่ไปตรงๆ แม่ก็อึ้ง แต่เราก็ไม่อยากเจอแบบนั้นอีกจริงๆ เราไม่ไหวถ้าจะต้องไปเจอหน้าคนที่เกลียดอีก แกก็ร้องไห้ เพราะเรื่องโดนลวนลามไม่ใช่แค่เรา น้องเราก็โดนแต่ไม่ใช่กับพี่เคย เป็นลูกชายหมอคนที่แม่กับพ่อเคยสนิท(พาน้องเราเข้าโรงแรม น้องเรา 18 แต่ดีที่มันไม่โดน ช่วงเวลานั้น คือช่วงเดียวกันกับที่เราโดน เป็นกรรมเราสองพี่น้องมั้ง)
สรุป เราโดนพี่เขยซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงผู้พิพากษาศาลจังหวัดแห่งหนึ่งลวนลามต่อหน้าลูกชายของเขา และเขาไม่สำนึกผิดหรือขอโทษเราหลังจากลวนลามเราแล้ว ยังพยายามที่จะให้เราไปบ้านพักผู้พิพากษาหลังนั้นให้ได้ เราอยากแจ้งความ เราอยากเอาผิด เราอยากให้เขาถูกปลดจากตำแหน่ง ในเมื่อเขากล้าทำเขาก็ต้องกล้ารับ แต่แล้วยังไง ในเมื่อเราไม่มีหลักฐาน บ้านพักผู้พิพากษาห้องนอนไม่มีกล้องวงจรปิด และเราซึ่งเป็นเด็กทรงเด๋อๆ ด๋าๆ กับผู้พิพากษาท่าทางน่าเชื่อถือใจดี ใครจะเชื่อเรา ขนาดญาติที่เราบอกตอนแรกก็ไม่เชื่อ จนเราเล่าเป็นฉากๆ เขาถึงเชื่อ ถ้าเรื่องแดงขึ้นมา ไม่วายหาว่าเรายั่วยวนเขาอีก เอาง่ายๆ คือทำอะไรก็ไม่ได้
แต่เราไม่อยากปิดแล้ว เราอยากบอกให้ครอบครัวนั้นรู้ไปเลยว่าลูกเขยคนดีของพวกคุณนั้นแท้จริงแล้ววิปริตขนาดไหน และเราต้องการคำขอโทษ เพราะมันเอาผิดอะไรไม่ได้ไม่มีหลักฐาน แต่จะให้เด็กอย่างเราไปบอกอะไรล่ะ ดูจากทรงคนยังไงเขาก็เชื่อฝั่งพี่เขย และเราก็ไม่รู้ว่าพี่เขยได้ไปพูดไปเป่าหูเรื่องนี้กับญาติและภรรยาแกแล้วหรือยัง เพราะเมียแกมองเราแปลกไป เราอยากบอกพ่อให้พ่อมาเอาเรื่อง แต่มันติดที่ไม่มีหลักฐาน ตอนนี้เราก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่เจอผู้คนอยู่แต่บ้านไม่ออกไปไหน คือออกไปก็จะเจอพี่แกอีก
เป็นถึงผู้พิพากษาแต่กลับทำตัวแบบนี้ ถ้าในห้องนั้นมีกล้องก็คงจะดี อย่างไรก็ตามมันไม่สมควรมาทำกับหลานแบบเรา ถ้าหิวก็ซื้อกินก็ได้ ทำไมต้องมาทำตัวน่าขยะแขยงแบบนี้ ไม่สมกับคนที่เป็นถึงผู้พิพากษา ถ้าผู้พิพากษาหลายท่านมาอ่านอยู่ ท่านก็อย่าทำแบบผู้พิพากษาท่านนี้เลย อาชีพที่มีเกียรติ์ ทำตัวมีเกียรติ์ก็ดีแล้ว แต่ใครที่ทำอยู่ท่านคงมีความวิปริตเบาๆ ในจิตใจ
//**//เราอยากทราบว่า เราไม่มีหลักฐานแบบนี้แล้วเราจะเอาผิดอะไรเขาไม่ได้เลยใช่ไหม เรื่องมันเกิดช่วงปี 2 เทอม 1 ช่วงปิดเทอม ตอนนี้เรา ปี 2 เรียนเทอม 2 มาครึ่งเทอมแล้ว แต่ใจลึกๆ กลัวว่าเขาจะมาวนเวียน และอยากให้เขาขอโทษ แต่ก็อยากเอาผิดให้มากกว่าคำขอโทษด้วย มีทางที่เราจะเอาผิดเขาได้ไหม คือแค้นมากเอาจริงๆ เขายังคงใช้ชีวิตสุขสบายดีแบบนี้ ไร้ซึ่งความรู้สึกผิด//**//
โดนพี่เขยลวนลาม ทำยังไงดี ระบายด้วย เราบอกใครไม่ได้ มันอึดอัด และแค้นมาก
ภรรยาพี่เขยเป็นลูกพี่ลูกน้องเรา ทั้งสองมีลูก 2 คน คนโตตอนนั้นอยู่ ป.4 (เราปี 2 เทอม 1) คนเล็กอายุราวสามขวบ บุคลิคพี่เขยน่าเชื่อถือเป็นคนดี คือเป็นคนดีมากๆ ใครๆ ก็ชอบ แต่ตอนนี้เราที่โดนลวนลามไม่คิดแบบนั้นแล้ว ทั้งสองเพิ่งจะสร้างบ้านใหม่ เริ่มแยกครอบครัว ครอบครัวพี่แกกำลังไปได้ดีเลยล่ะ เท่านี้ก่อน***
*+*เข้าเรื่อง*+*
ก่อนวันเกิดเหตุราวสองสามวันภรรยาพี่เขยที่เป็นลูกพี่ลูกน้องเรามาขอให้เราไปดูน้องให้หน่อย น้องไปเรียนออนไลน์ที่บ้านพักกับพี่เขยไม่มีคนอยู่เป็นเพื่อน เราที่ก็เคยไปอยู่แล้วก็ตอบตกลงไปง่ายๆ น้องคนโตนี่เป็นหลานรักเราเลย คือเราไปอยู่เป็นเพื่อนเพราะน้องกลัวผี อยู่คนเดียวไม่ได้ และต้องไปคอยดูให้น้องเรียนออนไลน์ตามตารางด้วย
วันเกิดเหตุณ์สั่งกับข้าวอะไรมากิน กินเสร็จขึ้นไปนอนเล่นบนห้อง(พี่เคยบอกเองว่านอนเล่นได้ อีนี่ซื่อ บอกนอนได้ก็นอนจริงๆ ตอนนั้นไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร แก่นแก้ว ไม่รู้ความ) วันนั้นพี่เขยมาช้ากว่าปกติ ปกติมาช่วงสิบเอ็ดโมง ไม่เกินเที่ยงครึ่ง วันนั้นมาบ่ายโมงจะบ่ายสองนี่แหละ ปกติแกไม่นอน เอาสำนวนมาแล้วนั่งทำงานอยู่โต๊ะชั้นล่างบ้านพัก แต่วันนั้นก็มานอนข้างบน แอร์ 20 องศา เราหนาว คือมันหนาวมากสำหรับเรา ด้วยความที่บ้านนอกไม่ค่อยเจอแอร์มาก่อน ก็นอนขดห่มผ้าอยู่บนเตียงอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งปกติก็เป็นแบบนั้น พอพี่แกมานอนบนเตียง เราก็ไม่รู้จริงๆ ตอนนั้นว่าไม่ควรนอนเตียงเดียวกันกับผู้ชาย อ่ะ เราก็ขยับมานอนปลายเตียง แกก็นอนหัวเตียงไป เราอ่านการ์ตูนไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แกก็บอกก่อนหน้านั้นว่า เออ พี่(ชื่อ)นอนดิ้นนะ หรือนอนละเมอนะนี่แหละ เราก็จ้าไป ทีนี้แกก็นอนอิท่าไหนไม่รู้เราไม่ได้มอง นิ้วแกมาเขี่ยขาอ่อนเราแบ่บ เหมือนไม่ได้ตั้งใจ เหมือนแค่ละเมอนิ้วกระตุก เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก อ่านการ์ตูนต่อ แกก็กระตุกอยู่แบบนั้น ลากนิ้วบนขาอ่อนเราขึ้นลงช้าๆ อ่ะ ตอนนั้นก็ยังนิ่งอยู่ ไม่กล้าพูดอะไรน้องก็อยู่ในห้อง น้องยังเด็กกลัวน้องจะรับไม่ได้ เราก็พยายามข่มใจอ่านการ์ตูนต่อ ทีนี้มือทั้งมือเริ่มลูบ อ่ะก็ยังนิ่ง และเชื่อใจอยู่(แกเป็นคนที่เราเชื่อใจมาก เคารพมากด้วย) ยังเถียงในใจ ไม่คิดหลงตัวเอง ไม่คิดว่าเขาจะลวนลามคนอย่างเรา คือเขามีลูกมีเมีย มีหน้าที่การงานที่ดี มีเกียรติ์(เขาเป็นผู้พิพากษา) เราก็คิดเถียงในใจ ไม่หรอก ละเมอแหละ จนแกลูบล้วงมาแก้มก้นทีเดียวเราหันขวับไปมอง เห็นแกนั่งทำคือตั้งใจนั่งทำเลยอะ ตอนเราอันไปแกสะดุ้งนิ่ง หลบตาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนั้นเหมือนเราไม่รู้จักแกเลยจริงๆ แต่เราคิดว่าเมื่อเราเห็นแล้วเขาคงจะหยุด แต่ไม่หยุดจับเท้าเราไปถูน้องชายแกที่คือ...แข็งตัวอยู่ มีแค่ผ้าบางๆ กั้นไว้ เราอึ้งพยายามดึงเท้ากลับแต่ไม่หลุด เราเลยหยุดดึง แป๊ปๆ แกแหกขาเราออก เราอึ้งมาก สตั้น คาดไม่ถึง เอาเท้าเราไปถูว่าน่าขยะแขยงแล้วยังตั้งท่าจะเอาเราอีก เราเลยรีบลุกออกมานั่งข้างน้องที่อยู่ข้างล่างเตียง น้องเล่นเกมส์ในคอมอยู่ น้องก็มองงงๆ พี่ฟ้าลงมาทำไร เราก็พยายามทำตัวปกติ เฮ้ย โชว์สกิลดิ้โหดแค่ไหน (ปกติชอบทำตัวห้าวๆ กับเด็กน้อย) เล่าข้าม ก่อนหน้านั้นเราก็ลงมาครั้งนึงแล้ว ตอนที่โดนลูบแก้มก้น แต่น้องแค่มองงงๆ อ่ะ ถึงตอนที่แกพยายามให้เราขึ้นเตียงไปอีก เราก็แค่หัวเราะไปไม่พูดอะไร แกบอกว่าแอร์มันหนาวนะ ขึ้นมานอนบนนี้สิ(ตอนนั้นคือลงมาครั้งแรกตอนที่โดนแกลูบล้วงแก้มก้นจะโกนกีเราแล้ว) พอครั้งที่สองที่ลงมาหลอกล่อด้วยหนังสือ กับขอให้เราบีบสิว บลาๆ ไม่ขึ้นแล้วค่ะ แล้วมันจะมีช่วงนึงเราก็จำไม่ได้ว่าก่อนหรือหลังตอนโดนแหกขา คือตอนนั้นเราด่าตัวเองในใจว่าโง่มาก เราลงมาข้างล่าง ชั้นล่างบ้านชั้นที่หนึ่ง นั่งสงบสติอารมณ์อยู่โซฟา พี่แกตามมา จังหวะนั้นสั่นกลัวจากที่นอนอยู่รีบลุกขึ้นนั่งเอาหมอนปิดขาไว้(ใส่ขาสั้นมั้งเลยโดนแบบนี้ ทุกวันก็ใส่ขาสั้นเพราะคล่องตัว ชอบใส่ แต่วันนั้นโดนลวนลาม) คือ เราลงมาแบบนี้เหมือนเราอ่อยเขาให้เขาลงมา นี่คิดในใจได้ก็รีบขึ้นไป แกพูดอะไรไม่รู้เราไม่ได้ฟัง เรานั่งข้างหลานตลอด สักพักแกก็พากลับจากบ้านพักผู้พิพากษา จอดปั้ม ปตท. ก่อนจะจอดเราคาสายกับน้องสาวแล้ว คุยกันตลอดทาง ตอนนั้นฝนยังไม่ตกแกก็บอกว่าเออ กลับบ้านค่อยไปคุยกันกับน้องก็ได้ อยู่บนรถอะไรนี่แหละ แล้วพอจอดปั้มฝนก็ตกปรอยๆ แกบอกให้เราวาง เราก็ทำท่าวางไปเข้าห้องน้ำ กลับขึ้นรถเราก็โทรเหมือนเดิมแกก็พูดอะไรนี่แหละแต่เราก็โทรกับน้องเหมือนเดิม ทีนี้อยู่ๆแกก็พูดกล่อมให้น้องซึ่งเป็นลูกคนโตของแกน่ะ กลับไปอาบน้ำที่บ้านพัก เรานี่สั่นเลย พิมพ์แชทบอกน้องว่างั้นงี้ สุดท้ายลูกก็ต้องยอมพ่อ ตีรถกลับบ้านพักทั้งๆ ที่ก็มาถึงครึ่งทางแล้ว น้องก็เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ในใจเราอยากอาบให้น้องมาก คือไม่อยากอยู่กับพี่เขยสองต่อสอง ตอนนั้นแกเหมือนคนที่เราไม่รู้จัก แกเป็นใครก็ไม่รู้ แกเรียกเราไปนั่งคุย แกนั่งบนเตียงแต่เราไม่นั่งเตียงแล้ว เราขยาด เราก็นั่งพื้นไปแกก็ถามว่าจะมาอีกไหม เราตอบ บ่(ไม่) แกถามอีกว่า ทำไม พี่(ชื่อ)ยังสิถามอีกยุติ แกก็เงียบไป แต่ไม่มีความสำนึกผิดหรือคำขอโทษอะไรใดๆ ออกมาจากปากแกเลย หน้าตาไม่รู้สำนึก ดูไม่ได้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำ วันนั้นพอกลับมาถึงบ้านเราอ่อนแอมาเราต้องการใครสักคนมาฟังเรื่องบ้าๆ เรื่องคาดไม่ถึงที่เราได้เจอมา เราต้องทำยังไง ตลอดทางเราคิดมาตลอดว่าจะบอกภรรยาแกดีไหม แต่ครอบครัวแกตอนนี้กำลังไปได้ดี มีบ้านหลังใหญ่ มีลูกสองคน คือกำลังสร้างครอบครัวที่มั่นคง ใจเราก็สงสารลูกพี่ลูกน้องเราด้วย ถ้าจะบอกแล้วแกจะเจ็บปวดแค่ไหน เราเลยตัดสินใจไม่บอก กลับบ้านมาเคาะประตูห้องพี่สาว พี่สาวดันอาบน้ำอยู่เราเคว้งมาก เราก็เข้าไลน์โทรหาน้องสาวภรรยาของพี่เขย แต่คือตอนแรกแกยังไม่ได้รับ เราเลยแชทไปบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา แกก็บอกว่ามา คือแกทำงานที่ศาลเยาวชนเราก็คิดว่าแกน่าจะเจอคดีแบบนี้มาเยอะแหละ แกน่าจะเข้าใจเราและช่วยเราแก้ปัญหาได้ และอีกอย่างเราก็สนิทกับแกเชื่อใจแกเหมือนกัน ก็พี่สาวเราตอนนี้ยังไม่ว่าง แต่เรารอไม่ได้ เราไม่ไหว เราก็อัดคลิปเสียงเล่าเป็นฉากๆไป(ละเอียดกว่าในกระทู้ เพราะเล่าสดๆ ในขณะที่เหตุการณ์เกิดขึ้นไม่นาน ทุกอย่างมันชัดเจน) เราบอกเล่า ตอนแรกแกก็คงจะไม่เชื่อเราเหมือนกันว่าเราจะโดนพี่เขยคนนี้ลวนลาม เพราะแกเป็นคนดี ใครๆก็เห็นว่าแกเป็นคนดี พอเราเล่าเป็นฉากๆ ทั้งเสียงสั่น น้ำหูน้ำตาก็ไหลห้ามไม่อยู่ แกก็โทรมาถามว่าใส่สั้นหรือเปล่า ทำไมไปนอนเตียงเดียวกับเขา เราก็เพิ่งรู้ว่าเรานอนเตียงเดียวกันกับผู้ชายมันเสี่ยง และไม่สมควร เพิ่งจะรู้ตอนนั้น และเพิ่งรู้ว่าใส่ขาสั้นก็ไม่ควรเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเราเถียงว่าเราใส่ขาสั้นแต่เราห่มผ้าตลอด เขาจะเกิดอารมณ์กับเราได้ยังไง เราเห็นเขาเป็นพี่ เคารพและเชื่อใจ แกก็บอกความเชื่อใจพังทลายเลยใช่มั้ยแล้วแกก็สอนหลายๆ อย่าง ดีแล้วที่ยังไม่ได้กันเพราะถ้าได้แกก็จะเอาเรื่องพี่เขย ทีนี้พี่สาวเราก็ขึ้นมายืนฟังอยู่นานแล้วแต่ก็ยังไม่รู้เรื่องราวจริงๆ แกกับพี่ที่เราบอกก็สนิทกันอยู่แล้ว เลยยื่นโทรศัพท์ให้ไปคียกัน พี่สาวเรายังไม่อยากจะเชื่อเลย ถ้าเราไม่เล่าเป็นฉากๆ ก็ไม่มีใครเชื่อ พี่เขยดูเป็นคนดี น่าเชื่อถือ ดูไม่ใช่ที่จะมาทำแบบนี้ได้เลยจริงๆ เราทั้งสามพี่สาวเราและน้องสาวภรรยาพี่เขยก็ตกลงว่าจะยังไม่บอกแม่เรา(แม่เราค่อนข้างหัวใจอ่อนแอ รับเรื่องร้ายๆแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ) และไม่บอกภรรยาพี่เขยเพราะเราก็รู้กันอยู่ว่าใครเป็นแบบไหน ในกรณีภรรยาพี่เขยแกน่าสงสารคือครอบครัวกำลังไปได้ดี อยู่ๆ เราจะไปพังมันเราก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เรานอนร้องไห้ทั้งคืน ถ้าภาษาอีกสานคือ เหลือใจ เฮ็ดได้จั่งได๋ หรือก็คือไม่อยากจะเชื่อ
เหตุการณ์นั้นผ่านไป ยิ่งเห็นหน้าพี่เขยบ่อยขึ้น เราและพวกพี่สาวทั้งสองก็พยายามหลีกเลี่ยงแก เราเองพยายามทำตัวปกติ วันไหนพี่แกมาเราก็จะไม่ไปบ้านนั้น พี่สาวซื้อขายาวให้ใส่ ตอนนั้นไม่ใส่สั้นเลย ใส่ยาวตลอด แต่พี่เขยเหมือนยังไม่ยอมแพ้ เหมือนจะเอาให้ได้ แกเทียวมาวนเวียนรอบๆตัวเรา พอรู้ว่าเราจะเข้าหอก็บอกให้พี่ขนไปให้สิไปต้องไปลำบากพ่อหรอก(คือจะเข้าหอก็หนีพี่แกนั่นแหละ) เราก็บอกบ่จ้า แล้วก็รีบไปเล่นกับเด็กน้อยต่อ คือแกพยายามให้ลูกแกมาขอ ลูกคนโตของแก ซึ่งเป็นหลานรักของเรา แกรู้ว่าเราใจอ่อนใจหลานคนนี้มากที่สุด แต่เราก็ไม่ไป หลีกเลี่ยงตลอด แต่ก็เล่นกับหลานนะปกติ แค่ตอนนี้เกลียดพ่อน้อง เกลียดพี่เขย ทั้งเกลียดทั้งขยะแขยงไม่อยากใกล้ แต่ด้วยความที่เป็นครอบครัวญาติสนิท แม่เราเองก็ไม่รู้เรื่อง ก็เที่ยวใช้เราไปเอาของนู่นนี่อยู่บ้านพี่แกบ่อยมาก ซึ่งปกติก็ใช้ไปแต่ตอนนั้นมันไม่ปกติแล้ว เราพยายามทำตัวปกติให้แม่สบายใจ แต่เรามองหน้าพี่เขยไม่ได้จริงๆ ตอนนั้นมันขยะแขยงและกลัว แต่ตอนนี้เกลียดมาก นั่นแหละ ในที่สุดก็เข้าหอทั้งที่เรียนออนไลน์ พอใจเริ่มเข้มแข็งก็กลับมา วันนั้นพี่เขยแกก็ถาม กลับมาอยู่บ้านแล้วแม่นบ่ เรากับน้องก็ขนลุกสิคะ วันนั้นเราไม่อยากให้แม่ใช้เราไปหาของบ้านพี่แกอีกแล้ว เราก็บอกแม่ไปตรงๆ แม่ก็อึ้ง แต่เราก็ไม่อยากเจอแบบนั้นอีกจริงๆ เราไม่ไหวถ้าจะต้องไปเจอหน้าคนที่เกลียดอีก แกก็ร้องไห้ เพราะเรื่องโดนลวนลามไม่ใช่แค่เรา น้องเราก็โดนแต่ไม่ใช่กับพี่เคย เป็นลูกชายหมอคนที่แม่กับพ่อเคยสนิท(พาน้องเราเข้าโรงแรม น้องเรา 18 แต่ดีที่มันไม่โดน ช่วงเวลานั้น คือช่วงเดียวกันกับที่เราโดน เป็นกรรมเราสองพี่น้องมั้ง)
สรุป เราโดนพี่เขยซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงผู้พิพากษาศาลจังหวัดแห่งหนึ่งลวนลามต่อหน้าลูกชายของเขา และเขาไม่สำนึกผิดหรือขอโทษเราหลังจากลวนลามเราแล้ว ยังพยายามที่จะให้เราไปบ้านพักผู้พิพากษาหลังนั้นให้ได้ เราอยากแจ้งความ เราอยากเอาผิด เราอยากให้เขาถูกปลดจากตำแหน่ง ในเมื่อเขากล้าทำเขาก็ต้องกล้ารับ แต่แล้วยังไง ในเมื่อเราไม่มีหลักฐาน บ้านพักผู้พิพากษาห้องนอนไม่มีกล้องวงจรปิด และเราซึ่งเป็นเด็กทรงเด๋อๆ ด๋าๆ กับผู้พิพากษาท่าทางน่าเชื่อถือใจดี ใครจะเชื่อเรา ขนาดญาติที่เราบอกตอนแรกก็ไม่เชื่อ จนเราเล่าเป็นฉากๆ เขาถึงเชื่อ ถ้าเรื่องแดงขึ้นมา ไม่วายหาว่าเรายั่วยวนเขาอีก เอาง่ายๆ คือทำอะไรก็ไม่ได้
แต่เราไม่อยากปิดแล้ว เราอยากบอกให้ครอบครัวนั้นรู้ไปเลยว่าลูกเขยคนดีของพวกคุณนั้นแท้จริงแล้ววิปริตขนาดไหน และเราต้องการคำขอโทษ เพราะมันเอาผิดอะไรไม่ได้ไม่มีหลักฐาน แต่จะให้เด็กอย่างเราไปบอกอะไรล่ะ ดูจากทรงคนยังไงเขาก็เชื่อฝั่งพี่เขย และเราก็ไม่รู้ว่าพี่เขยได้ไปพูดไปเป่าหูเรื่องนี้กับญาติและภรรยาแกแล้วหรือยัง เพราะเมียแกมองเราแปลกไป เราอยากบอกพ่อให้พ่อมาเอาเรื่อง แต่มันติดที่ไม่มีหลักฐาน ตอนนี้เราก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่เจอผู้คนอยู่แต่บ้านไม่ออกไปไหน คือออกไปก็จะเจอพี่แกอีก
เป็นถึงผู้พิพากษาแต่กลับทำตัวแบบนี้ ถ้าในห้องนั้นมีกล้องก็คงจะดี อย่างไรก็ตามมันไม่สมควรมาทำกับหลานแบบเรา ถ้าหิวก็ซื้อกินก็ได้ ทำไมต้องมาทำตัวน่าขยะแขยงแบบนี้ ไม่สมกับคนที่เป็นถึงผู้พิพากษา ถ้าผู้พิพากษาหลายท่านมาอ่านอยู่ ท่านก็อย่าทำแบบผู้พิพากษาท่านนี้เลย อาชีพที่มีเกียรติ์ ทำตัวมีเกียรติ์ก็ดีแล้ว แต่ใครที่ทำอยู่ท่านคงมีความวิปริตเบาๆ ในจิตใจ
//**//เราอยากทราบว่า เราไม่มีหลักฐานแบบนี้แล้วเราจะเอาผิดอะไรเขาไม่ได้เลยใช่ไหม เรื่องมันเกิดช่วงปี 2 เทอม 1 ช่วงปิดเทอม ตอนนี้เรา ปี 2 เรียนเทอม 2 มาครึ่งเทอมแล้ว แต่ใจลึกๆ กลัวว่าเขาจะมาวนเวียน และอยากให้เขาขอโทษ แต่ก็อยากเอาผิดให้มากกว่าคำขอโทษด้วย มีทางที่เราจะเอาผิดเขาได้ไหม คือแค้นมากเอาจริงๆ เขายังคงใช้ชีวิตสุขสบายดีแบบนี้ ไร้ซึ่งความรู้สึกผิด//**//