SCREAM (2022) เล่าเก่าในขวดใหม่ ไม่สปอยล์



สาเหตุที่ทำให้ Scream ภาคแรกมันเด็ดดวงกว่าหนังสยองขวัญทั่วไปในตลาด ณ ตอนนั้น คือมันเล่นกับการคาดเดาของคนดูได้แบบถึงพริกถึงขิง แต่ภาคนี้ส่วนตัวกลับรู้สึกว่าชั้นเชิงตรงนั้นมันหายไป เหลือแต่การยั่วล้อโดยยัดบทพูดแซะหนังเรื่องอื่นแทนที่จะล้อด้วยสถานการณ์ ทำให้ฉากไล่เชือดของฆาตกร ดูไม่น่าจดจำและไม่สมเหตุสมผล 



นั่นอาจจะด้วยเพราะว่า ประเด็นการแซะที่เห็นในภาคนี้ ถูกหนังภาค 4 ทั้งกัดทั้งจิกตัวมันเองไว้ได้ดีมาก ๆ อยู่แล้ว มันเลยเหมือนเป็นการแซะซ้ำ แซะซ้อน แซะบางเรื่องที่แซะไปแล้ว อารมณ์ร่วมเลยหดลงไปส่วนนึง ไม่ได้ติดแรงจูงใจของคนร้าย แต่ติดที่วิธีการเฉลยนิดหน่อย ในภาคก่อน ๆ มันเล่นโยนผู้ต้องสงสัยไปมา พอจุดที่ต้องเฉลยมันยิ่งสร้างความตื่นเต้นความลุ้นระทึกมากกว่า แต่ภาคนี้เล่นตัดผู้ต้องสงสัยซะเกลี้ยง พอจะเฉลยจริง ๆ ก็เดาไม่ยากแล้ว



ใจนึงก็อยากดูต่ออยากให้มีมาอีก แต่ใจนึงก็กลัวว่ามันจะยิ่งทำร้ายหนังและตัวละคร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไม่จัดว่าแย่ ยังดูสนุก กวนตีน บรรเทิงและโหด (มาก) ในยุคที่หนัง Slasher หาดูได้ยากในยุคนี้ 



ลำดับความชอบตอนนี้ 1>4>5>2>3 

ถ้าภาคแรกมันคือการล้อขนบหนังสยองขวัญ
ภาค 2 ล้อขนบหนังภาคต่อ
ภาค 3 ล้อขนบหนัง ไตรภาค
ภาค 4 ล้อขนบหนัง รีเมค & รีบูต
ภาคนี้ ก็เป็นการล้อหนัง ที่เป็นนิยามใหม่อย่างพวก หนังที่เส้นเวลาขนาน พวกการเอาใจแฟนเซอร์วิสอย่างไงอย่างั้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่