คิดเล่นๆattack on titan(สปอยlost in the cruel worldและเนื้อเรื่องหลัก)

เพิ่งมีโอกาสได้ดูattack on titan lost in the cruel world

เนื้อเรื่องกล่าวถึงเหตุการณ์ในS1ตอนที่7  ที่มิคาสะใช้พลังของpathเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ในตอนที่กำลังสิ้นหวัง

แต่พอย้อนไปกลับพบว่า แม้จะยุบทีมสำรวจ ปิดตายกำแพง เอเรนก็ไม่รอดอยู่ดี แถมตายเร็วกว่าเดิมอีกต่างหาก

จบด้วยการที่ใช้พลังมาถึงจุดเดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้เปลี่ยนตัวเลือกเป็นตัดสินใจสู้ต่อในโลกใบเดิม(ไม่แน่ใจว่าเสียงที่มิคาสะได้ยินในหัวในS1ตอนที่7 มาจากการใช้พลังโน้มน้าวของเอเรน แบบที่เอเรนทำกับพ่อตัวเองด้วยหรือเปล่า เพราะเอเรนในpathนี้มีพลังของไททัน)

ถ้าตั้งสมมุติฐานว่าเหตุการณ์ในlost in the cruel world เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่องจริงๆ(ไม่ใช่what if) เพราะคอนเซปของพลังมันตรงกับที่เอเรนพูดกับอามินตอนสุดท้ายในภาคหลักพอดี

เท่ากับว่าเอเรนผ่านการตายมาแล้วหลายครั้ง มิคาสะเปลี่ยนpathทีก็ตายที ดึงมาpathใหม่ก็ตายใหม่(นี่ มิคาสะ หรือ โอคาเบะ รินทาโร่) แต่เอเรน มันไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ตัวก็pathสุดท้าย ที่ได้มีโอกาสสื่อสารกับยูมีร์ แล้วเอามาเล่าให้อามินฟังตามที่เห็นในมังงะ 

พลังของมิคาสะนี่... ขอเรียกว่าเป็นคำสาปดีกว่า

pathใช้เปลี่ยนแปลงได้เกือบทุกอย่าง ยกเว้นการรักษาสิ่งที่รักที่สุด และหลีกเลี่ยงที่จะสูญเสียสิ่งนั้นไปไม่ได้ในทุกๆpath

นี่อาจเป็นสาเหตุที่เอเรนซึ่งเป็นเจ้าของพลังattack on titanมองไม่เห็นทางรอดดีๆในอนาคตของตัวเองเลย เพราะติดคำสาปชะตากรรมอยู่

pathที่เอเรนอยู่ได้นานที่สุด น่าจะเป็นพาร์ทที่ได้เข้าทีมสำรวจ รับพลังไททัน ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ(ซึ่งระหว่างนั้นคงมีการเลือกพาร์ทอีกหลายครั้ง) และจบด้วยการหนีไปอยู่ในหมู่บ้านที่ห่างไกลจนหมดอายุขัย(โดยทิ้งให้เพื่อนและชาวเอลเดียที่เหลือในกำแพงตาย)

แต่ด้วยพลังของคำสาป พอเอเรนตาย ก็จะเกิดpathใหม่จากความปรารถนาของมิคาสะ(ที่อยากจะอยู่กับเอเรนอีกครั้ง)ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

จากคำบอกเล่าของอามินในตอนจบ ตัวเลือกของมิคาสะในpathสุดท้ายนำไปสู่เส้นทางของการลบพลังไททันออกจากโลก(เลือกที่จะไม่ชวนเอเรนหนีไปกันสองคน) 

แสดงว่าเป้าหมายในpathสุดท้ายของมิคาสะไม่ใช่การรักษาชีวิตของเอเรนให้ยืนยาวเหมือนpathที่ผ่านๆมา แต่น่าจะเป็น การยอมปลดปล่อยให้เอเรนเป็นอิสระมากกว่า(ไม่มี"แล้วเจอกันใหม่นะ"อีกต่อไป)
 

ผลลัพธ์ที่ได้

หนอนเรืองแสงต้นกำเนิดของพลังมาโป้งแปะกับเอเรนไม่ทัน ไปนอนนับหนึ่งใหม่ที่ใต้ต้นไม้  คำสาปถูกล้างโดยอัตโนมัติ ยูมีร์ถูกปลดปล่อย

มิคาสะสร้างpathใหม่ไม่ได้อีก เพราะต้นตอของพลังหายไปแล้ว คำสาปถูกล้าง ใช้ชีวิตตามอายุขัยที่เหลือ

เอเรนไม่ถูกดึงกลับมารับความตายในpathใดๆอีก(ตัวตนของเอเรนตายไปอย่างแท้จริง)

สรุป มิคาสะ(เหยื่อคำสาป) 
  
เอเรน(เครื่องบูชายัญ)    
 
ยูมีร์(เด็กสาวหัวอ่อนสุดอาภัพที่บังเอิญไปรับของเข้าตัว จนกลายเป็นแม่มดที่ติดอยู่ในคำสาปที่แก้เองไม่ได้ต้องไปสาปคนอื่นมาแก้ให้)

เจ๊เล่นให้พลังเปลี่ยนpathมาพร้อมกับคำสาปเสียของรักทุกชาติไป ซักวันคนถูกสาปก็ต้องเลือกจบทางนี้แหละ อยู่ที่จะช้าจะเร็วแค่นั้น  ตัวเองก็ปั้นทรายเล่นวนไป รอให้เป้าหมายตัดสินใจลงมือเด็ดขาดซักที พอเป้าหมายส่งเครื่องบูชายัญมา ดีใจจนร้องไห้เลย อิอิ

แบบนี้เท่ากับว่าชีวิตของเอเรน เต้นอยู่บนมือของมิคาสะหรือเปล่า?

ไม่คิดว่าอย่างนั้นนะ

เอเรนแต่ละpathมีเจตจำนงค์เป็นของตัวเอง โดยหลักๆคือโหยหาอิสระ 

อย่างpathในlost in the cruel world เจ้าตัวไม่ได้มีความแค้นอะไรกับไททัน ความต้องการก็เลยแค่อยากออกจากกำแพงไปเห็นโลกกว้าง แต่ทำไม่สำเร็จ(แต่ถึงสำเร็จก็มียังเป้าหมายใหม่อยู่ดี)

pathในเนื้อเรื่องหลัก ได้เข้าหน่วยสำรวจ ได้เห็นโลกหลังกำแพง เคลียร์ไททันบนเกาะออกหมด เป้าหมายต่อไป คือการช่วยมิคาสะ อามินและเพื่อนคนอื่นๆให้อยู่รอดจากการบุกของคนนอกเกาะ  ซึ่งpathนี้เอเรนบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ(ด้วยวิธีที่....มาก)

กลับกันต้องพูดว่ามิคาสะ จะเป็นฝ่ายไล่ตามมากกว่า  ทั้งพยายามเปลี่ยนแปลงชะตากรรมด้วยการบังคับ(จะเข้าหน่วยสำรวจไปเสี่ยงอันตรายเหรอ งั้นเรายุบ  จะออกจากกำแพงให้ได้ใช่มั้ย งั้นเราปิด)  ทั้งคอยพยายามประคับประคองเอเรนที่ชอบไล่ตามเป้าหมายใหม่ๆ ให้อยู่รอดปลอดภัย แต่ก็ล้มเหลวให้กับการหาเรื่องตายของเอเรนทุกครั้ง

ไม่รู้มิคาสะได้ลองpathกระซวกอามินแต่เนิ่นๆยัง เพราะจากสองpathที่เห็น หมอนี่แหละ ตัวจุดชนวนที่ทำเอเรนใจแตก

ถ้าพูดให้ถูกคือชะตาชีวิตของเอเรนเหมือนเต้นอยู่บนคำสาปของยูมีร์ที่อยู่ในตัวมิคาสะมากกว่า  แต่ในที่สุดก็หลุดพ้นได้ในpathสุดท้าย ถ้าเรื่องนี้มีภพชาติ จากนี้เจ้าตัวคงไปเกิดเป็นอย่างอื่นนอกจาก ด.ช.เอเรน รักอิสระ ได้ซักที

สรุปในpathสุดท้าย

เอเรนช่วยมิคาสะและผองเพื่อน(อันนี้รู้กันหมดผ่านความทรงจำ) 

มิคาสะช่วยปลดปล่อยเอเรน(อันนี้ไม่มีใครรู้ นอกจากยูมีร์)

คิดยังไงมาแชร์กันได้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่